บทที่ 399 พ่ายแพ้ราบคาบ

บทที่ 399 พ่ายแพ้ราบคาบ

บ่ายวันรุ่งขึ้น…

“ว่าไง? นายน้อยหลี่ นายกลัวจนไม่กล้ามาหรือไง?”

หลี่จิงเทียนยังอยู่ที่ทำงานตอนที่ได้รับสายโทรมาถากถางจากเหอเส้า

“ฮึ่ม! ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!”

เมื่อได้ยินถ้อยคำเสียดสีของอีกฝ่าย เขาก็ตอกกลับไปอย่างก้าวร้าว

“ดี เมื่อวานฉันปล่อยข่าวไปแล้วว่านายท้าแข่งกับฉัน มีแต่คนอยากเห็นฝีมือนายกันทั้งนั้นเลยล่ะ”

“นายแข่งกับพี่เขยฉันไปสิ ครั้งนี้ฉัน…ฉันจะแค่ไปดูลาดเลาเฉย ๆ”

เคราะห์ดีที่หลี่จิงเทียนยังไม่เสียสติ เขารู้ตัวว่าตนเองสู้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ฉันว่าเราอุ่นเครื่องกันก่อนก็ได้ แข่งกันแบบไม่ต้องลงพนัน ให้ฉันฝึกซ้อมให้นายยังไงล่ะ?”

“อุ่น…อุ่นเครื่องเหรอ?”

“ใช่ ถึงจะน่าเบื่อแต่ว่าฉันจะยอมไปเล่นกับนายแล้วกัน นายไม่อยากลองความแรงของรถใหม่หน่อยเหรอ?”

เหอเส้าพูดยั่วยุอีกฝ่าย

“ก็ได้!”

หลี่จิงเทียนครุ่นคิดครู่หนึ่งหลังได้ฟังคำเขา ก่อนตอบตกลงพร้อมจังหวะหัวใจเต้นระรัว

หลี่จิงเทียนรู้สึกว่าหากไม่มีการลงพนัน ต่อให้ตนแพ้คงไม่ใช่เรื่องใหญ่โต

เขาตัดสายทันที

เวลาล่วงเลยมาถึง 6 โมงครึ่งในช่วงเย็น

เบื้องหน้าสนามแข่งรถในเมืองฮ่วยอันคลาคล่ำไปด้วยหนุ่มสาวซึ่งมารวมตัวกันในคืนนี้

ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นนักแข่งรถมืออาชีพ หากแต่เป็นเหล่าทายาทเศรษฐีต่างหาก

ถึงอย่างไรคนธรรมดาก็ไม่มีปัญญาซื้อรถสปอร์ตแบบนี้กันแน่ ๆ

“ฮ่า ๆ นายคิดว่าไอ้หลี่จิงเทียนมันจะกลัวจนตัวสั่นไหม? ตอนนั้นเราไม่ได้เห็นโชว์เด็ด ๆ น้ำหน้าอย่างมันจะเอาชนะนายได้ยังไง?”

ชายหนุ่มหลายคนยืนพิงกระโปรงรถสปอร์ตสีดำที่จอดโดดเด่นสะดุดตา

“ฮึ ถ้ามันสำเหนียกตัวเองได้ มันคงคุกเข่าขอโทษฉันตั้งแต่ครั้งก่อนไปแล้วล่ะ”

เหอเส้ามองแทร็กยาวที่อยู่ห่างออกไปด้วยสีหน้าฉายแววเหยียดหยาม

“คอยดูไปแล้วกัน เดี๋ยวไอ้เด็กนั่นจะมาคืนนี้กับพี่เขยมัน จังหวะที่รถแข่งกันคงขำกลิ้งน่าดูเลย”

“มันกล้ามาแข่งกับเรา รนหาที่ชัด ๆ”

ขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน รถสปอร์ตสีแดงค่อย ๆ แล่นเข้าพื้นที่เตรียมตัวแข่ง

สีแดงสดพร้อมรูปลักษณ์ปราดเปรียวดึงดูดสายตาคนส่วนมากในทันที

“ดูสิ! นั่นรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดนี่? ได้ยินว่าราคาไม่ใช่ถูก ๆ เลย เป็นสิบล้านหยวนเลยนะนั่น”

“ใครอยู่ข้างในล่ะ? ทำไมฉันรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นหลี่จิงเทียนเลย?”

“ไม่หรอกน่า ซื้อรถแรง ๆ ขนาดนี้ให้คนอย่างนั้นไม่สิ้นเปลืองแย่เหรอ? น่าเสียดายออก”

เมื่อเห็นรถสปอร์ตและคนที่อยู่ภายในรถ หลายคนก็อดพูดถึงมันไม่ได้

ในแวดวงนี้ ส่วนใหญ่รู้จักมักคุ้นกันดี ย่อมรู้ว่าฝีมือการขับรถของทายาทเศรษฐีคนนี้แย่เพียงไหน

ตอนนี้กลับมาถึงสนามแข่ง

หลายหน้าจอถูกติดตั้ง ฝูงชนมากมายท่ามกลางแสงไฟสว่างโร่ ดูไม่เหมือนค่ำคืนแต่อย่างใด

“ดูดิ ไอ้ทายาทเศรษฐีนั่นมาแล้วว่ะ”

เหอเส้าและพรรคพวกเห็นอีกฝ่ายกำลังก้าวมาหา

“เฮอะ รถสวยดีนี่ แต่ว่าถ้าพี่เขยมันแพ้ก็จะตกเป็นของพวกเราแล้ว”

เหอเส้าเลิกคิ้วมองฝ่ายตรงข้ามด้วยสายตาส่อแววดูถูก คนประเภทนี้ไม่คณามือเขาแม้แต่น้อย หากแต่ใครใช้ให้มีเรื่องไม่ดูตาม้าตาเรือกันเล่า?

คนอย่างนั้นขับฮอนด้าเก่า ๆ ก็หรูแล้วไม่ใช่เหรอ? กล้าดีอย่างไรมาขับรถแรงกว่าเขา!

“ว่าไง? มาถึงสักทีนะ ฉันคิดว่านายน้อยหลี่จะกลัวหัวหดซะอีก”

เหอเส้าเห็นอีกฝ่ายเดินตรงมาหา เขาก็ว่าถากถางทันที

หลี่จิงเทียนไม่ได้มาตามลำพัง ลูกหลานเศรษฐีเหล่านี้มีใครไม่มีคนติดตามคอยลูบหนวดตบก้นม้า*[1]กันบ้าง

ทันทีที่เขามาถึง ผู้คนซึ่งมีส่วนได้เสียกับตระกูลหลี่ก็เข้ามารายล้อมเขา

“ไอ้เวรนี่! แกนี่มันอวดดี! นายน้อยหลี่ของเราซื้อรถได้สองสามคันด้วยซ้ำ!”

“ใช่ แกกล้าดียังไงมาตะโกนใส่หน้านายน้อยหลี่?”

“…”

เมื่อเห็นท่าทีอีกฝ่ายก้าวร้าว ทำเอาพวกเขานึกไม่สบอารมณ์

“ฮึ แค่ไอ้ขยะคนหนึ่ง มีรถแรง ๆ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?”

เหอเส้าไม่แยแสคนเหล่านี้ เขาแค่นเสียงเหยียดหยาม

แม้หลี่จิงเทียบจะไม่ได้ตอกกลับ หากแต่เขารู้ตัวดีว่าฝีมือการขับรถของตนเป็นรองฝ่ายตรงข้าม

เขาถูกหยามหน้าด้วยเรื่องนี้มาตลอด

หากแต่ตอนนี้ขึ้นหลังเสือแล้ว ไม่มีทางที่จะล้มเลิกได้ เหอเส้าเห็นเช่นนี้จึงยิ่งเผยท่าทีดูแคลน

“เอาสิ มาอุ่นเครื่องกันก่อน ฉันเอาก็อยากจะเห็นว่าขยะตระกูลหลี่ขับรถใหม่แล้วจะมีฝีมือสักแค่ไหน”

บรรยากาศคึกครื้นขึ้น ฝูงชนต่างฮือฮากัน

“หนึ่งนัด! หนึ่งนัด! ไม่ได้เห็นเหอเส้าออกโรงเองมานานแล้วนะเนี่ย!”

“มาเซราติรุ่นใหม่ วู้ว…! ได้เห็นรถแพงขนาดนี้คืนนี้ก็คุ้มแล้ว เริ่มกันเลยไหม!”

“ใช่ ให้รู้กันไปเลย!”

ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของทุกคน หลี่จิงเทียนตวัดสายตามองค้อน ก่อนเปิดประตูขึ้นรถ

ว่ากันตามตรงแล้วเขาชอบขับรถสปอร์ตในสนามแข่ง น่าเสียดายที่ฝีมือของตัวเองนั้นย่ำแย่เกินไป

รถทั้งสองคันจอดเทียบกัน และแล่นมายังจุดเริ่มต้นก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ

“บรื้น!”

“บรื้น!”

เสียงเครื่องยนต์รถสปอร์ตดังก้องไปทั่วบริเวณ! ดึงดูดความสนใจของทุกคนมาอยู่ที่เดียว

“คู่อุ่นเครื่องได้แก่…เหอเส้าแห่งตระกูลเหอและหลี่จิงเทียนจากตระกูลหลี่ นัดอุ่นเครื่องนี้ระหว่างพวกเขาได้ยินมาว่า…”

พิธีกรบนแท่นพูดเกริ่นนำถึงตัวตนของพวกเขา

ฝ่ามือหลี่จิงเทียนชื้นเหงื่อ เขาไม่เคยเห็นฝีมือของฝ่ายตรงข้ามสักครั้ง

ครั้งนี้เขามีรถรุ่นใหม่และรู้สึกว่าคงได้เปรียบเรื่องกำลังและแรงม้า บางทีอาจโชคดีเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้

เสียงเร่งเครื่องยนต์ดังสนั่น การแข่งขันระหว่างพวกเขาเริ่มขึ้นหลังสิ้นเสียงประกาศของกรรมการ

รถสปอร์ตสีดำพุ่งออกไปราวเงามืดในทันที แซงนำหน้ารถสปอร์ตสีแดงในช่วงแรก

“ฮึ่ม แกไม่รู้จักฝีมือฉันซะแล้ว ยังจะกล้ามาวัดกับฉันอีก? น่าขำสิ้นดี!”

เหอเส้าเห็นเช่นนั้นจึงอดเยาะเย้ยไม่ได้

หากเป็นในสถานการณ์ปกติ ด้วยราคารถที่ต่างกัน ระยะห่างระหว่างทั้งสองคันควรทิ้งห่างตั้งแต่ในช่วงออกตัว

ทว่าเวลานี้เหตุการณ์กลับพลิกผัน!

รถสปอร์ตสีแดงของหลี่จิงเทียนถูกแซงแบบไม่เห็นฝุ่น

ไม่ทันได้ครึ่งทางดี เขาเริ่มตามทันได้ยาก

น่าเสียดายที่หัวโค้งแรกใกล้เข้ามาแล้ว ทักษะการขับรถของเหอเส้าคล่องแคล่ว เขาชะลอความเร็วเล็กน้อย ก่อนดริฟท์ผ่านหัวโค้งไปได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ

ภาพนี้ฉายขึ้นบนหน้าจอใหญ่ ฝูงชนตะโกนด้วยความตื่นตาตื่นใจกันเกรียวกราวทันที

“สมกับเป็นเหอเส้า! เทคนิคแพรวพราวสุด ๆ! ทิ้งห่างกับเจ้าคนตระกูลหลี่ไปหลายขุมเลย”

“ฮ่า ๆ ดูไอ้หลี่จิงเทียนสิ สู้พวกเราไม่ได้ด้วยซ้ำมั้ง เหอเส้าก็ไม่ปรานีเลยจริง ๆ ”

“สวยมาก! ดริฟท์เมื่อกี้นี้น่ะ!”

“…”

เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย พวกเขาต่างดูถูกหลี่จิงเทียนซึ่งตามหลังอยู่

[1] ลูบหนวดตบก้นม้า = ประจบสอพลอ