“เธอช่วยฉันคิดหาวิธีไหนก็ได้ ฉันจะต้องได้ฮ่อหยุนเฉิงมา!”สวีหว่านเอ๋อร์หน้านิ่งขรึม แววตาที่จะต้องได้มา
“เอ่อ…..”ไป๋หลานอ้ำอึ้ง จากนั้นก็พูดอย่างระมัดระวัง “ฉันมีอยู่วิธีหนึ่ง เพียงแต่ว่าอาจจะส่งผลกระทบกับชื่อเสียงของเธอหว่านเอ๋อร์…….”
“รีบพูดมา!”สวีหว่านเอ๋อร์พูดเร่ง
“ชิงสุกก่อนห่าม “ไป๋หลานกระซิบพูดเสียงเบาข้างๆ หูของสวีหว่านเอ๋อร์
“เธอจะบอกว่า? “สวีหว่านเอ๋อร์คิ้วขมวด
ไป๋หลานพยักหน้า “หว่านเอ๋อร์ ขอแต่เธอกับประธานฮ่อมีความสัมพันธ์อย่างนั้นกัน เธอยังจะกลัวผู้หญิงแพศยาทั้งสองคนนั้นอย่างซูฉิงกับถังรั่วอิงหรอ”
“แต่ว่า หยุนเฉิงทำตัวเย็นชากับฉันอย่างนั้น จะมีความสัมพันธ์กับฉันได้ยังไง “สวีหว่านเอ๋อร์ได้ยินอย่างนั้น ด้วยสีหน้านิ่ง
ไป๋หลานยกยิ้ม “แน่นอนว่าต้องใช้วิธี”
สวีหว่านเอ๋อร์หรี่ตาลง เหมือนจะคิดตาม
ที่จริงแล้ว วิธีนี้ไม่ใช่ว่าสวีหว่านเอ๋อร์ไม่เคยคิดมาก่อน แต่เมื่อก่อนเธอกล้า
สวีหว่านเอ๋อร์มักคิดว่าฮ่อหยุนเฉิงจะแค่หลงซูฉิงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เขาก็แค่เห็นว่าซูฉิงเป็นของเล่นชิ้นใหม่ก็เท่านั้น
เธอ สวีหว่านเอ๋อร์ ที่เป็นคุณหนูตระกูลสวีที่เพรียกพร้อม มีทั้งอำนาจ หน้าตาสวย มีตรงไหนที่เทียบกับซูฉิงไม่ได้บ้าง
สักวันหนึ่ง ฮ่อหยุนเฉิงจะต้องเห็นในความดีของเธอ และรักเธอ
แต่สวีหว่านเอ๋อร์ไม่อาจทนรอถึงวันนั้นได้ อีกทั้งตอนนี้สถานการณ์ตอนนี้ยิ่งไม่ดีต่อเธอ
หลังจากผ่านมาหลายเหตุการณ์ เธอยุแยงทั้งเซี่ยซิงซิง แอนนี่ อู๋ชิงหร่าน ลงมือกับซูฉิง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนสำเร็จเลย
เธอรอไม่ได้อีกแล้ว!
“ตามที่เธอบอกมา ฉันควรจะทำยังไง”สวีหว่านเอ๋อร์ก้มลงหมุนแหวนที่อยู่บนนิ้วไปมา แล้วถามเสียงเอื่อย
ไป๋หลานก็ตอบว่า”อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันครบรอบของบริษัทตระกูลสวีกรุ๊ปแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นประธานฮ่อจะต้องมาร่วมงานแน่ สว่านเอ๋อร์ นี่เป็นโอกาสที่ดีนะ”
“เธอพูดได้ไม่เลว “สวีหว่านเอ๋อร์พูดเห็นด้วย
“เมื่อถึงตอนนั้น พวกเราก็ทำให้มันเนียนๆ จะต้องไม่ให้ประธานฮ่อจับได้ “สวีหว่านเอ๋อร์เห็นด้วยกับวิธีของเธอ ไป๋หลานก็ถอนหายใจโล่ง แล้วเล่าแผนการต่อ
“พวกเราจะต้องแจ้งนักข่าวด้วย เมื่อถึงตอนนั้นสำนักข่าวทั้งหลายก็จะต้องเขียนข่าวเธอกับประธานฮ่อ ว่าชิงสุกก่อนห่าม ประธานฮ่อจะต้องแต่งงานกับเธอแน่”
“ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมละ “สวีหว่านเอ๋อร์ยังรู้สึกกังวลอยู่บ้าง
“จะเป็นไปได้ยังไง “ไปหลานที่ส่งสายตาล่อกแล่ก “พวกเธอมีความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อกัน เขาจะต้องตกลงแน่ ตระกูลฮ่อก็เป็นตระกูลที่สูงส่ง จะขายหน้าได้หรอ”
“อืม “สวีหว่านเอ๋อร์พยักหน้าเบาๆ “ถ้าหากเขาไม่ยินยอม ปู่ขอฉันก็ไม่ตอบตกลง! แม้พวกเราตระกูลสวีจะเทียบกับตระกูลฮ่อไม่ได้ แต่ก็เป็นตระกูลดังอันดับต้น ๆ ของเมื่อ A ถ้าหากว่าเขาไม่ยอมรับผิดชอบฉันจริงๆ เมื่อถึงตอนนั้นไม่ใครก็ใครที่ไม่รอด!”
“วางใจเถอะ หว่านเอ๋อร์ เธอจะต้องทำสำเร็จแน่”ไป๋หลานพูดประจบไม่หยุด “ยินดีด้วยนะหว่านเอ๋อร์ คุณนายฮ่อในอนาคต”
คำพูดนี้พอสวีหว่านเอ๋อร์ได้ยินก็พอใจ ตบเข้าที่มือของไป๋หลาน “เธอวางใจ รอให้ฉันได้ทุกอย่างที่อยากได้แล้ว ฉันจะต้องตอบแทนเธออย่างงามเลย”
“ของคุณเธอนะ หว่านเอ๋อร์ “ไป๋หลานยิ้มพูด
พอนึกถึงวันงานเลี้ยงครบรอบของบริษัท สวีหว่านเอ๋อร์ก็ยิ้มอย่างอารมณ์ดี
สวีหว่านเอ๋อร์เธอคิดแล้วว่า
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เธอจะต้องเป็นผู้หญิงของฮ่อหยุนเฉิงให้ได้และเป็นคุณนายตระกูลฮ่อ
ฮ่อหยุนเฉิงที่เป็นผู้ชายที่เย่อหยิ่ง จะต้องเป็นของเธอสวีหว่านเอ๋อร์เท่านั้น!
แม้จะต้องใช้วิธีสกปรก ก็ไม่สนใจ!
และยิ่งไปกว่านั้น เธอก็วางแผนดีแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเธอจะวางยาให้ตัวเอง แม้หลังจากนั้นฮ่อหยุนเฉิงจะโกรธ งั้นเธอก็จะบอกได้ว่าเธอเป็นผู้ถูกกระทำ พวกเขาทั้งสองก็ถูกคนทำร้าย
แม้แต่ตัวตายตัวแทน สวีหว่านเอ๋อร์ก็หาเอาไว้แล้ว
คราวนี้ทั้งหมดก็รอให้ถึงวันงานเลี้ยงครบรอบบริษัท
………..
บริษัทตระกูลฮ่อกรุ๊ป ห้องท่านประธานใหญ่
หลินเหยียนเฟิงหยิบเอกสารมาแล้วเคาะประตู
“เข้ามา “ฮ่อหยุนเฉิงส่งเสียงดัง
หลินเหยียนเฟิงผลักประตูเข้ามา”ท่านประธาน เอกสารนี้ต้องการให้คุณเซ็นครับ”
“อืม “ฮ่อหยุนเฉิงตอบรับคำ แล้วรับเอกสารมาเปิดอ่านดู จากนั้นก็เซ็นลายเซ็นชื่อตวัด
“นี่คือการ์ดเชิญของตระกูลสวีครับ”หลินเหยียนเฟิงยื่นซองการ์ดเชิญสีแดงขอบทองให้กับฮ่อหยุนเฉิง”วันมะรืนเป็นงานเลี้ยงครบรอบห้าสิบปีของบริษัทตระกูลสวีกรุ๊ปครับ”
“วางเอาไว้เถอะ ช่วยฉันเตรียมของขวัญด้วย “ฮ่อหยุนเฉิงพูดเสียงเรียบ
ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องไว้หน้าตระกูลสวี
“ครับ ท่านประธาน “หลินเหยียนเฟิงโค้งคำนับตอบ “หากไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
หลินเหยียนเฟิงเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงน่าดึงดูดของฮ่อหยุนตามหลังมา”ซูฉิงมาทำงานรึยัง”
หลินเหยียนเฟิงหยุดเดิน แล้วกันมาตอบ”คุณซู เธอลางานครับ”
“ฉันรู้แล้ว นายออกไปเถอะ”ฮ่อหยุนเฉิงเลิกคิ้วเป็นปม
ซูฉิงเธอยังอยู่เป็นเพื่อนยวี๋น่าอีกหรอ
ฮ่อหยุนเฉิงคิดอยู่สักพักก็หยิบเอาโทรศัพท์ออกมาแล้วต่อสายหาซูฉิง
ซูฉิงกับยวี๋น่ากำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่ร้านชาใกล้ๆ โรงแรม เสียงโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
ซูฉิงหยิบมาดูก็เห็นว่าเป็นฮ่อหยุนเฉิงโทรมา
“โทรหาฉันมีธุระอะไรหรอ”พอซูฉิงกดรับสายก็ถามเสียงเรียบทันที
ผู้ชายคนนี้นี่ โทรหาเธอทำไมแต่เช้ากัน
“ไม่มีอะไรก็โทรหาเธอไม่ได้หรอ”ฮ่อหยุนเฉิงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ซูฉิง เธอไม่คิดถึงฉันหรอ”
ผู้หญิงคนนี้ เหมือนไม่อยากจะรับสายเขา เหมือนเธอไม่คิดถึงเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
ซูฉิงลูบหน้าผาก “กำลังทำงานอยู่ไง”
ยวี๋นาที่อกหัก ที่ตอนนี้อารมณ์เศร้ามากๆ เธอที่พยายามปลอมยวี๋น่าตั้งแต่เช้าแล้วแต่ก็ไม่ช่วยอะไร
ฮ่อหยุนเฉิงโทรมาหาตอนนี้ แล้วมาแสดงความรักกับเธอ ก็ไม่เท่ากับว่าซ้ำเติมเพื่อนหรอ
พอได้ยินซูฉิงพูดอย่างขอไปที ฮ่อหยุนเฉิงก็เหลือบมองการ์ดเชิญที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วพูดเสียงเรียบ”วันมะรืนเป็นงานเลี้ยงครบรอบของบริษัทตระกูลสวีกรุ๊ป เธอจะไปร่วมงานกับฉันมั้ย”
“ฉันไปคงจะไม่ดีมั้ง!”ซูฉิงตอบปฏิเสธอย่างไม่ลังเล
พอคิดถึงสวีหว่านเอ๋อร์ ซูฉิงก็เบะปาก เธอไม่อยากจะเปิดโอกาสให้สวีหว่านเอ๋อร์ทำร้ายเธออีก
“ไม่อยากไปเป็นเพื่อนฉันหรอ”น้ำเสียงของฮ่อหยุนเแิงเคร่งขึ้น
ซูฉิงสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงของเขาที่ไม่สบอารมณ์ แล้วรีบพูดอธิบายว่า”นายลืมแล้วหรอ ว่าตอนนี้พวกเราทะเลาะกันอยู่ ถ้าหากฉันไปงานเลี้ยงกับนาย แล้วเรื่องที่ทำมาก่อนหน้านี้ก็เสียแรงเปล่านะสิ”
ซูฉิงหยุดพูด แล้วเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “อ้อ ตอนบ่ายฉันจะไปโรงพยาบาลไปตรวจดูอาหารของคุณปู่ฮ่อสักหน่อย ถ้าหากว่าไม่มีอะไรแล้ว ท่านก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ เมื่อถึงตอนนั้นนายอย่าลืมมารับคุณปู่ฮ่อกลับบ้านด้วยนะ จะได้แสดงละครสักหน่อย”
“แสดงละครงั้นหรอ”ฮ่อหยุนเฉิงคิ้วขมวด
ซูฉิงยิ้มแล้วพูด”นายรู้น่า”