[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 386 : หลิงหยุนผู้แข็งแกร่ง!

ขณะที่หลิงหยุนกำลังจะเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-5นั้น ตู้กู่โม่ที่ยืนดูอยู่ห่างๆ ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความแปรปรวนที่รุนแรงระหว่างสวรรค์กับพื้นโลก และสายลมที่อยู่รอบๆก็ถูกดูดเข้าหาบริเวณที่หลิงหยุนอยู่!

เวลานี้.. หลิงหยุนได้กลายเป็นจุดศูนย์กลางของกระแสพลังชีวิตที่หมุนวนอยู่รอบตัวเขา พลังชีวิตที่อยู่ในบริเวณบ้านทั้งหมด ต่างก็ถูกดูดไปรวมกันจนกลายเป็นพลังชีวิตลูกมหึมาหมุนวนอยู่รอบตัวหลิงหยุน

และภายในเวลาเพียงแค่ห้านาที พลังชีวิตภายในบ้านที่ถูกดูดมารวมไว้ในหลุมพลัง และเก็บสะสมมานานถึงเจ็ดวัน ก็ถูกร่างกายของหลิงหยุนดูดเข้าไปจนหมดไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว!

ตู้กู่โม่เอาแต่ครุ่นคิดเรื่องของหลิงหยุนจนลืมสิ่งที่อยู่รอบๆตัว และได้แต่พึมพำออกมาเบาๆ

“อย่าบอกนะว่า.. กำลังภายในของหมอนี่ก้าวหน้าอีกแล้ว? เมื่อครู่เขาเพิ่งจะสูญเสียกำลังภายในไปมากมายจนยากที่จะฟื้นตัวได้ภายในคืนเดียว.. แต่นี่กลับสามารถพัฒนาขึ้นสู่ขั้นต่อไปได้แล้วงั้นเหรอ?!”

หลิงหยุนที่ยังคงนั่งอยู่หน้าต้นสมุนไพรชีฉียู่รู้สึกพอใจอย่างมาก เพราะน้ำลายมังกรที่เขาดื่มเข้าไปนั้น ไม่เพียงช่วยให้เขาสามารถทะลวงเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-5 ได้เท่านั้น แต่กลับเป็นแรงส่งให้เขาพัฒนาขึ้นไปจนถึงระดับกลางของขั้นปรับร่างกาย-5 เลยทีเดียว!

แต่น่าเสียดายที่พลังชีวิตภายในบ้านของเขามีน้อยเกินไป ไม่เช่นนั้นจุดตันเถียนและเส้นลมปราณของเขาคงจะขยายขึ้นอีกเป็นสองเท่า..

หลิงหยุนได้แต่ขมวดคิ้ว แม้เขาจะดูดซับเอาพลังชีวิตภายในบ้านไปจนหมด แต่กลับไม่ถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่ร่างกายของเขาสามารถรองรับได้ และนี่คือปัญหาที่ค่อนข้างใหญ่สำหรับเขา

เมื่อเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-5 นั้น อัตราการความเร็วในการดูดซับพลังชีวิตของร่างกายหลิงหยุนก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว พลังชีวิตจำนวนมหาศาล แต่ร่างกายของเขากลับใช้เวลาในการดูดซับได้หมดภายในเวลาเพียงแค่ห้านาที..

แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่หลิงหยุนจะมานั่งครุ่นคิดเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นเวลาสองทุ่มตรงแล้ว พระจันทร์และดวงดาวน้อยใหญ่ต่างก็เริ่มทอแสงระยิบระยับอยู่บนท้องฟ้า แสงจันทร์สาดส่องลงมาราวกับสายน้ำ และดวงดาวนับไม่ถ้วนก็กำลังทอประกายเจิดจ้าอยู่บนร่างกายของหลิงหยุน!

ตู้กู่โม่ถึงกับตกใจเมื่อเห็นร่างกายของหลิงหยุนเปล่งประกายสว่างไสว!

วิชาดารกะดายัน!

แม้ว่าหลิงหยุนจะสามารถเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-5แล้ว แต่ก็ไม่มีผลกับดารกะดายันแต่อย่างใด!

หลิงหยุนเรียกน้ำเต้าวิเศษออกมาอีกครั้ง และจัดการยกน้ำลายมังกรขึ้นดื่มอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ว่าจะดื่มไปมากเท่าไหร่ เขาก็ไม่รู้สึกอะไร..

พลังชีวิตจากน้ำลายมังกรได้หลั่งไหลเข้าสู่จุดตันเถียนของหลิงหยุน และเส้นโค้งรูปมังกรทองซึ่งเกิดจากการรวมตัวของพลังอมตะกับปราณมังกรจากหว่างคิ้วของหลิงหยุน ก็เริ่มเปล่งประกายไปทั่วทั้งจุดตันเถียนทันที!

เส้นโค้งรูปมังกรทองนั้นสั่นเบาๆคล้ายกับมีชีวิต หากเปรียบจุดตันเถียนของหลิงหยุนเป็นจักรวาล เส้นโค้งรูปมังกรทองนี้ ก็คงจะเป็นมังกรทองที่กำลังโบยบินอยู่บนฟากฟ้า!

แสงจันทร์ที่ส่องลงมาเป็นทางราวกับสายน้ำ และดวงดาวที่กำลังทอประกายระยิบระยังอยู่ในเวลานี้ ดูเหมือนจะตั้งใจสาดส่องไปที่หลิงหยุนเพียงผู้เดียว!

น้ำลายมังกรที่หลิงหยุนดื่มเข้าไปนั้น ให้พลังชีวิตโดยที่ร่างกายของเขาไม่จำเป็นต้องดูดซับอีก หลิงหยุนจึงจดจ่ออยู่กับการโคจรดารกะดายัน และเพียงแค่หนึ่งชั่วโมง ดารกะดายันของหลิงหยุนก็สามารถพัฒนาขึ้นมาได้อีกหนึ่งระดับย่อยแล้ว!

ตอนนี้.. วิชาดารกะดายันของหลิงหยุนก็พัฒนาเข้าสู่ระดับ-12 เรียบร้อยแล้ว!

“โอ้ว..! ร่างกายหลิงหยุนสว่างไสวกว่าเดิมอีก? สว่างจนสามารถใช้แทนโคมไฟในเวลากลางคืนได้เลย นี่มันวิชาอะไรกัน?!”

ตู้กู่โม่ถึงกับอึ้งไปและพึมพำออกมาอย่างงุนนงง เขามัวแต่สนใจหลิงหยุนจนไม่รู้ตัวว่าตอนนี้ถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋ต่างก็เข้ามายืนอยู่ที่ลานบ้านแล้วเช่นกัน

แต่ดูเหมือนหลิงหยุนจะยังไม่พอใจ เขายังคงยืนดูดซับพลังจันทราและพลังดวงดาวต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งดารกะดายันของเขาใกล้จุดสูงสุดของระดับย่อย12 เขาจึงหยุดการฝึกฝนไว้เพียงเท่านั้น!

หลิงหยุนค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ภายในดวงตาคู่งามของเขานั้น ลูกตาทั้งสองข้างเป็นสีขาวและสีดำ อีกทั้งยังเปล่งประกายสว่างไสว! แต่เพียงวูบเดียวก็กลับสู่สภาพปกติที่ไม่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป

แต่เพราะร่างกายของหลิงหยุนถูกปกคลุมด้วยแสงจันทร์ ตู้กู่โม่จึงไม่ทันสังเกตุเห็นความผิดปกตินี้ อีกทั้งเขาเองยังจดจ่ออยู่เพียงแค่การสังเกตและวิเคราะห์ระดับขั้นกำลังภายในของหลิงหยุนเท่านั้น

ในระหว่างที่หลิงหยุนยังอยู่ในขั้นปรับร่างกาย-4 นั้น ตู้กู่โม่ยังไม่สามารถบอกได้ว่ากำลังภายในของเขาอยู่ในระดับใหน จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงเมื่อหลิงหยุนเข้าสู่ขั้นปรับร่างกาย-5 แล้ว

“เอาล่ะ.. รับฝ่ามือของฉันให้ได้ล่ะ!”

พูดจบ.. ทั้งไหล่และขาของหลิงหยุนแทบไม่ได้เคลื่อนไหว แต่ร่างใหญ่โตของเขากลับลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าที่มืดมิดหลายเมตรไม่ต่างจากเหยี่ยวราตรี จากนั้นก็ซัดฝ่ามือทั้งสองข้างเข้าใส่ตู้กู่โม่ทันที!

ระหว่างที่ร่างของหลิงหยุนพุ่งเข้าหาตู้กู่โม่นั้น ฝ่ามือของเขาก็ลอยอยู่กลางอากาศ สร้างความสับสนงุนงงให้ผู้พบเห็นอย่างมาก และมันก็คือวิชาฝ่ามือสวรรค์!

หลิงหยุนเกรงว่าตู้กู่โม่จะไม่สามารถรับฝ่ามือของเขาได้ จึงใช้กำลังไปเพียงแค่หกสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น!

“นี่มันวิชาอะไร!” ตู้กู่โม่ถึงกับตกใจสุดขีด เพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังทำลายล้างที่สูงมาก!

ฝ่ามือของหลิงหยุนทั้งสองข้างนั้น คล้ายกับว่าเกิดจากการรวมตัวของพลังชี่ แต่ตู้กู่โม่รู้ดีว่านั่นไม่ใช่พลังชี่ที่แท้จริง!

และมันก็คือพลังหยินหยางในขั้นปรับร่างกาย-5!

ตู้กู่โม่ไม่มีเวลาที่จะพูดอะไรออกมา เพราะยังไม่ทันที่เขาจะอ้าปาก ฝ่ามือของหลิงหยุนก็หล่นลงจากฟากฟ้า และเหนือฝ่ามือทั้งสองข้างของหลิงหยุนนั้นก็ปกคลุมด้วยแสงจันทร์ที่สว่างไสวอีกชั้นหนึ่ง!

‘พลังของมันร้ายกาจมาก!’

ตู้กู่โม่รีบเดินกำลังขั้นสุด ขาหน้างอเข่าเล็กน้อย ขาหลังยืดตรง ฝ่ามือทั้งสองข้างยกขึ้น อยู่ในท่าเตรียมพร้อมรอรับฝ่ามือทั้งสองข้างของหลิงหยุน

ปัง!

เสียงฝ่ามือทั้งสี่ปะทะกันจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว แต่ไม่ใช่เสียงฝ่ามือปะทะกันโดยตรง แต่เป็นเสียงของพลังชี่จากฝ่ามือปะทะกัน!

‘แย่แล้ว.. พลังรุนแรงมาก!’

ตู้กู่โม่สัมผัสได้ถึงพลังรุนแรงและอันตรายจากฝ่ามือของหลิงหยุนที่พุ่งตรงเข้าสู่ร่างกายของเขา ฝ่ามือหนึ่งร้อน แต่อีกฝ่ามือหนึ่งกลับเย็น!

ฝ่ามือที่ร้อนก็ร้อนจนน่ากลัว แต่ที่เย็นก็เย็นจนแข็ง!

ตู้กู่โม่เริ่มรู้สึกตัวว่าเขาไม่สามารถทนรับพลังรุนแรงของหลิงหยุนได้ และตอนนี้ร่างของเขาก็ไถลถอยหลังออกไปไกลถึงสิบห้าเมตร และไปหยุดอยู่ที่ขอบสระน้ำพอดี!

หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และมือขวาของเขาก็เปลี่ยนเป็นกำปั้น ก่อนจะปล่อยหมัดปีศาจเถียนกังตรงเข้าใส่ใบหน้าของตู้กู่โม่!

“หยุด! ฉันยอมแพ้แล้ว!”

ตู้กู่โม่เห็นพละกำลังที่มหาศาลของหลิงหยุนก็ได้แต่ชูมือขึ้นทั้งสองข้างเป็นสัญลักษณ์ของการยอมแพ้ และยังคงยกค้างไว้อย่างนั้น

“นี่ฉันยังไม่ได้เอาจริงเลยนะ..”

หลิงหยุนพูดยิ้มๆ พร้อมกับวางฝ่ามือของเขาลงบนฝ่ามือของตู้กู่โม่ เพื่อถอนพลังหยินหยางจากฝ่ามือของตนเองออกจากร่างของตู้กู่โม่ทันที

ตอนนี้หลิงหยุนที่อยู่ในระดับกลางของขั้นปรับร่างกาย-5 และดารกะดายันอยู่ในระดับ-12 เขาใช้กำลังภายในไปเพียงแค่หกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่กลับสามารถทำให้ยอดฝีมือเซียงเทียนระดับเริ่มต้นยอมแพ้ได้ภายในสองกระบวนท่า หลิงหยุนจึงรู้สึกพอใจและภูมิอกภูมิใจอย่างมาก!

อย่าลืมว่าตู้กู่โม่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะในการฝึกวรยุทธแห่งตระกูลตู้กู่ที่เก่าแก่ แม้เขาจะอยู่ในระดับเริ่มต้นของขั้นเซียงเทียน แต่ก็สามารถรับมือกับยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-1 ได้

ถังเมิ่งมองตู้กู่โม่ที่ไถลออกไปไกลถึงสิบห้าเมตร และตอนนี้เท้าของตู้กู่โม่ก็เต็มไปด้วยโคลน เขาจึงได้แต่พึมพำเบาๆว่า

“ดินเป็นร่องลึกขนาดนี้ เอาเมล็ดดอกไม้มาโปรยปลูกได้เลย!”

ตี้เสี่ยวอู๋ถึงกับตกตะลึงจนพูดอะไรไม่ออก ฝ่ามือของหลิงหยุนช่างน่ากลัว เขาได้แต่ยืนตื่นเต้นพร้อมกับคิดในใจว่า!

‘เฮ้อ.. เมื่อไหร่จะเก่งได้แบบนี้บ้าง!?’

ผ่านไปสองนาที ตู้กู่โม่ที่ทั้งตกใจและตกตะลึงก็พูดขึ้นมาว่า

“หลิงหยุน.. วันนี้เจ้าต้องบอกข้ามาว่าเจ้าอยู่ขั้นใหนกันแน่? ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว! เจ้านี่ชอบแกล้งคนชะมัด! ข้าฝึกอยู่ตลอดทั้งบ่าย ส่วนเจ้ามาฝึกเพียงแค่ครึ่งชั่วโมง กลับก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก!”

หลิงหยุนเห็นอาการของตู้กู่โม่แล้วก็นึกรำคาญ แต่ก็ตอบกลับไปยิ้มๆ

“ฉันน่ะเหรอ..? เอาเป็นว่าถ้านายเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-1 ก็ต้องใช้ดาบสู้กับฉันที่ใช้เพียงแค่มือเปล่า แล้วนายก็ต้องลงมือกับฉันแบบเต็มที่ ส่วนฉันก็แค่ใช้กำลังในระดับปกติ แต่แค่นี้นายก็แทบจะทำอะไรฉันไม่ได้แล้ว..”

ตู้กู่โม่ถึงกับร้องออกมาอย่างตกใจ “อะไรนะ?! ถ้าข้าอยู่ในขั้นเซียงเทียน-1 ยังต้องใช้ดาบสู้กับเจ้าที่ใช้มือเปล่า? แต่ก็ยังแทบเอาชนะเจ้าไม่ได้..”

หลิงหยุนย้ำต่อว่า “ใช่.. และต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ว่านายต้องโจมตีฉันอย่างสุดกำลังด้วย แต่ฉันแค่ลงมือปกติ..”

ตู้กู่โม่ได้ยินก็ได้แต่โกรธและหงุดหงิดพร้อมกับพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ

“เป็นไปไม่ได้.. ยังไงก็เป็นไปไม่ได้.. ถ้าอย่างนั้น กำลังภายในของเจ้าไม่เทียบเท่ายอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-2 หรือยังไง?”

หลิงหยุนยิ้มอย่างสบายอกสบายใจ และไม่ตอบปฏิเสธ อีกเพียงแค่สามชั่วโมง เขาก็จะบุกไปถล่มตระกูลซันแล้ว และตอนนี้เขาก็มั่นใจอย่างมาก!

ต่อให้ศัตรูของเขาเป็นยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-2 ก็เถอะ! ตอนนี้หลิงหยุนมีกระบี่โลหิตแดนใต้อยู่ในมือ เขามั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะทุกคนได้อย่างแน่นอน

นี่ยังไม่พูดถึงร่างกายที่แข็งแกร่งของเขา ต่อให้เป็นยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-2 ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลิงหยุน!

ตู้กู่โม่ร้องออกมาเสียงดัง “ถ้างั้น.. คืนนี้ตอนลงมือ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะสังหารคนพวกนั้นยังไง?”

หลิงหยุนเดินตรงเข้าไปหาตู้กู่โม่พร้อมกับพูดขึ้นว่า “คืนนี้ถ้านายต้องได้รับบาดเจ็บ.. ไม่ว่าจะเป็นบาดเจ็บภายใน หรือบาดแผลภายนอก ฉันก็สามารถรักษานายให้หายได้ทันที นายสบายใจได้..”

“ข้าจะไปกับเจ้า..” ตู้กู่โม่ตอบพร้อมกับนั่งยองๆลงที่พื้น เขาจ้องมองหลิงหยุนและแอบคิดอย่างสงสัยว่า หลิงหยุนเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของสำนักหมอสวรรค์หรือยังไง?

‘แต่เดี๋ยวก่อน.. หมอนี่เพิ่งจะดื่มน้ำลายมังกรไปถึงสองรอบ ดื่มของเย็นเข้าไปมากมายแบบนั้น แต่ทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลย?!’

ตู้กู่โม่มองหลิงหยุนที่อยู่ใต้แสงจันทร์ด้วยแววตาที่ทั้งสงสัยและตกใจไปพร้อมๆกัน

จากนั้นหลิงหยุนก็เดินเข้าไปหาถังเมิ่งและตี้เสี่ยวอู๋แล้วถามขึ้นว่า “เสื้อผ้าที่ให้ไปซื้อมาเรียบร้อยหรือยัง?”

ถังเมิ่งพยักหน้า “เรียบร้อย.. ฉันมาให้คนละสองชุด ส่วนของพี่มีทั้งหมดเจ็ดแปดชุด รองเท้าก็อยู่ตรงนั้น พี่หยุนพี่น่าจะใส่ได้..”

“โอ้โห.. ทำไมมากมายขนาดนี้ นี่นายไปซื้อมาจากที่ใหน?” หลิงหยุนถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

 ตี้เสี่ยวอู๋จึงอธิบายว่า “พี่หยุน.. ในจิงฉูมีร้านตัดเสื้อสไตล์นี้ส่งให้กับพวกที่ทำหนังทำละครย้อนยุค มันก็จะมีเสื้อผ้าพวกนี้อยู่พอดี แต่ครั้งนี้เร่งรีบไปหน่อย ไม่มีเวลาตัด ก็ต้องเอาที่ตัดไว้แล้วมา อาจจะไม่พอดีนัก..”

หลิงหยุนพยักหน้า “ถ้างั้นคราวหน้า นายก็ไปหาซื้อผ้า และส่งให้เขาตัดตามขนาดตัวของพวกเราสามคน ครั้งนี้ก็ใส่ไปก่อน!”

หลิงหยุนพูดจบก็ถามตี้เสี่ยวอู๋ต่อว่า ฉันให้นายไปท่องจำเรื่องจุดฝังเข็มบนร่างกายคน นายจำได้หมดหรือยัง?

ทันทีที่ตี้เสี่ยวอู๋ได้ยิน และนึกถึงว่าหลิงหยุนเคยบอกไว้ว่าจะสอนเขาจี้จุด เขาจึงตอบกลับไปอย่างตื่นเต้น “ฉันจำได้หมดแล้ว!”

หลิงหยุนจึงชี้ไปตามจุดต่างๆบนตัวของตี้เสี่ยวอู๋ และเขาก็สามารถตอบได้ทันที ทำให้หลิงหยุนพอใจอย่างมาก

“รอให้ฉันสะสางเรื่องในคืนนี้ก่อน แล้วฉันจะเริ่มสอนวรยุทธให้กับนาย!” หลิงหยุนบอกตี้เสี่ยวอู๋ยิ้มๆ

“ขอบคุณพี่หยุน!” ตี้เสี่ยวอู๋ตอบกลับอย่างตื่นเต้น

หลิงหยุนใช้วิชาตัวเบากระโดดเหาะไปไกลหลายสิบเมตรราวกับนกนางแอ่น และพุ่งตรงเข้าไปในบ้าน จากนั้นจึงเดินเข้าไปในห้องเหล่ากุ่ยทันที

เหล่ากุ่ยเพิ่งจะผ่านพ้นวิกฤตจากการต้องกลายเป็นมาร หลิงหยุนเข้าไปดึงเข็มทองทั้งเก้าออกจากร่างกาย จากนั้นจึงยิ้มให้พร้อมกับถามขึ้นว่า

“เหล่ากุ่ย เป็นยังไงบ้างครับ?”