ตอนที่ 145 กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง

เกิดใหม่เป็นสาวน้อยชนบท [特工狂妃:农妇山权有点田

ตอนที่ 145 กรรมใดใครก่อกรรมนั้นย่อมคืนสนอง

เมื่อดูจากท่าทางของหวังเซียนซูแล้ว ดูเหมือนหญิงวัยกลางต้องการทำลายนาง!

ซูหวานหว่านยืนอยู่ที่เดิมอย่างนิ่งเฉย แม่เจิ้นก็วิ่งมากระซิบข้างหูของนางว่า “หวานเอ๋อร์ เมื่อคืนแม่ได้ยินเสียงบางอย่าง แต่คิดว่ามันเป็นงูจึงไม่กล้าออกไป เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีคนปีนกำแพงเข้ามา เพื่อวางของไว้ในห้องของลูก”

ซูต้าเฉียงขมวดคิ้วมองออกไป “ดูเหมือนว่าสิ่งที่แม่เจ้าพูดออกมาจะเป็นเรื่องจริง! ห้องนอนสองทิศตะวันตกเอาไว้ใช้สำหรับเก็บของกระจุกกระจิกในบ้านของเรา เมื่อเช้านี้พ่อได้กินแปลก ๆ พอมาตอนนี้พ่อรู้สึกว่าต้องมีใครสักคนปีนกำแพงเข้ามาเพื่อทำอะไรบางอย่างกับครอบครัวของเราแน่!”

ดูจากสิ่งที่เถ้าแก่หูพูดออกมาแล้วก็เป็นไปได้…

ความตื่นตระหนกฉายชัดในแววตาของซูหวานหว่าน จากนั้นก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่งของเถ้าแก่หู “ซูหวานหว่าน! เจ้าเป็นคนบอกเองว่าครอบครัวของเจ้าไม่ได้เป็นคนทำ? แล้วเจ้าจะกลัวอันใดกัน”

“เป็นเจ้าต่างหาก!” แม่เจิ้นมองไปที่เถ้าแก่หู นางอยากจะถอดรองเท้าของตัวเองแล้วใช้มันตบหน้าเขา ทว่าหัวหน้าหมู่บ้านที่ยืนรออยู่ได้เดินไปพร้อมกับเหล่าชาวบ้านแล้ว

ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเค่อ หวังเซียนซูก็วิ่งกลับมาพร้อมกับไหในอ้อมแขน นางวางมันลงและตะโกนใส่หน้าซูหวานหว่าน “ซูหวานหว่าน! เจ้าดูเสียว่านี่มันคืออะไร! ข้างในนี้เป็นสิ่งที่พวกเจ้าขาย และข้าก็ได้กินมันด้วย!”

กล่าวเสร็จนางก็เตรียมเปิดฝา ทว่าเด็กสาวก็รีบดึงมือหญิงวัยกลางคนเอาไว้และพูดว่า “ช้าก่อน! ข้าจะเปิดมันเอง”

“เป็นอะไรไป? เจ้างั้นรึ! เหตุใดถึงไม่อยากให้ข้าเปิดมันล่ะ?” หวังเซียนซูหัวเราะออกมา ชาวบ้านตัดสินแล้วว่าซูหวานหว่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง ชาวบ้านเริ่มส่งเสียงประณามการกระทำของนาง บางคนถึงขั้นจะปาข้าวของใส่เด็กสาว แต่ถูกหัวหน้าหมู่บ้านห้ามเอาไว้

“หากเจ้าอยากจะเปิดมัน ก็ย่อมได้!” หลังจากนั้นซูหวานหว่านจับมือของหวังเซียนชู วางมันลงบนไหและพูดว่า “งั้นเจ้าก็เปิดมันสิ ข้าไม่ห้ามเจ้าแล้ว!”

เหตุใดจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนใจ? หวังเซียนซูเกิดความสงสัยและอยากเปิดมันแต่ก็ยังไม่กล้า ซึ่งซูหวานหว่านเร่งเร้านางให้เปิดมันออก “เจ้าก็เปิดมันสิ! มันเป็นงูที่พ่อของข้าจะเอามาหมักเหล้า ตามที่คนเฒ่าคนแก่บอกไว้ งูจะมีชีวิตอยู่อีกปีหรือสองปีเท่านั้น แต่พ่อของข้าได้งูพิษนี้มาจากในป่าตอนไปหาฟืน ท่านระวังหน่อยนะ หากถูกกัดอาจจะตายเอาได้!”

งูรึ? หวังเซียนซูรู้สึกตื่นตระหนกเมื่อนึกถึงเกล็ดงูอันมันแผล็บและเขี้ยวของมัน หลังจากเขย่าไหดูแล้วนางก็ยกมือออกจากไหและรีบเดินออกมา

เถ้าแก่หูคลี่ยิ้ม “ซูหวานหว่าน! เจ้าเปิดมันสิ! อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่านี่คือผงขี้เถ้าที่เจ้าซื้อมาจากร้านขายยาของเรา! อีกทั้งเจ้ายังใช้ไหใบนี้ใส่มันเอาไว้!”

ชาวบ้านหลายคนอยู่ในอาการสับสน หวังเซียนซูก็กระตือรือร้นที่อยากจะลองทำบางสิ่ง แต่ซูหวานหว่านก็ดึงมือของนางเอาไว้ “ความที่จะใส่ ไฉนกลัวไร้ข้ออ้าง! พวกเจ้าทั้งหมดมาดูได้ มันเป็นเพียงงูที่จะเอาไว้ดองเหล้าต่างหาก!”

พูดจบซูหวานหว่านก็เปิดออกอย่างช้า ๆ ซูต้าเฉียงหวาดระแวงเล็กน้อย เขาไม่เคยจับงูพิษมาก่อน และเขาก็ไม่ใช่คนที่จะดองเหล้า! แล้วเขาจะทำเหล้าดองงูได้อย่างไร!

ซูต้าเฉียงวิ่งไปด้านหลังลูกสาว จ้องมองไปด้านในไหด้วยท่าทีประหม่า ทำให้ทุกคนต่างหัวเราะเยาะออกมา

เถ้าแก่หูหัวเราะออกมาอย่างประชดประชัน แน่นอนว่าเขาเป็นคนสั่งให้เอาของไปใส่ไว้ในนั้น แล้วมันจะไม่ใช่ได้อย่างไร!

เถ้าแก่หูพูดออกมาว่า “ซูหวานหว่าน! เจ้ากำลังพยายามทำอะไร! ยอมรับออกมาเสียเถอะ!”

ทันทีที่สิ้นเสียงรอยยิ้มบนใบหน้าของเถ้าแก่หูก็พลันจางหายไป เมื่องูโผล่หัวออกมาจากในช่องว่างระหว่างสองนิ้วตรงปากไห

ชาวบ้านคนหนึ่งถึงกับอ้าปากค้างแล้วอ้วกออกมา ดูเหมือนว่ามันจะถูกดองเอาไว้เป็นเวลามากกว่าหนึ่งเดือน และมันยังมีชีวิตอยู่!

ทันทีที่เห็นว่าเป็นงูชาวบ้านต่างขยับตัวหนี พร้อมทั้งกรีดร้องออกมาด้วยความหวาดกลัว ใครจะกล้าดูว่ามีสิ่งใดอยู่ข้างใน

“ข้างในมีงู! ขนาดของมันยาวถึงสี่ถึงห้าฉื่อ! น่ากลัวมาก!”

เถ้าแก่หูอ้าปากค้างตกตะลึง ถึงกับพูดอะไรไม่ออก “…มันจะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร!”

เขาเป็นคนกำชับให้หลี่หลางจงใส่ขี้เถ้าหญ้าลงไปในไหใบนี้

เหตุใดถึงกลายเป็นเหล้าดองงูไปได้!

“ซูหวานหว่าน! เจ้าทำบ้าอะไร!” เถ้าแก่หูตะโกนออกมา

“ข้าน่ะหรือทำอะไร! พวกเจ้าเป็นคนเอาไหหมักเหล้าของเราออกมา ทำแบบนี้งูมันก็จะหนีน่ะสิ! หากมันหนีไปแล้วพวกเราจะไปจับงูตัวใหญ่ ๆ จากไหนมาดองเหล้า!” เด็กสาวชำเลืองมองด้วยแววตาเย็นชา เดินไปจับงูที่เลื้อยออกมาตอนไหนไม่รู้กลับมา ทว่ายังไม่ทันได้จับมันก็พุ่งหาเถ้าแก่หูเลื้อยขึ้นไปบนขาของเขา สัมผัสที่ลื่นทำให้เถ้าแก่หูตัวสั่นด้วยความกลัว

“อ๊าก!” เถ้าแก่หูกรีดร้องออกมา พยายามจับงูที่เลื้อยขึ้นมาจนถึงท้องของตนเองออก “พวกเจ้ารีบมาช่วยข้าเร็วเข้า!”

แต่ไม่มีชาวบ้านคนใดกล้าพอที่จะเข้าไปช่วยจับงู พวกเขาต่างหยิบก้อนหินขึ้นมาขว้างใส่เพื่อให้งูหนีไป พวกเขาไม่ได้เข้าไปตีงูเพราะกลัวจะพลาดพลั้งทำให้เถ้าแก่หูได้รับบาดเจ็บ

งูตัวนั้นเลื้อยขึ้นไปถึงคอของเถ้าแก่หู มันเลื้อยพันรอบลำคอของเถ้าแก่หู และรัดคอเขาจนทำให้หายใจไม่ออกและหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เถ้าแก่หูพยายามจับลำตัวของงู แต่หัวของมันก็ได้เลื้อยมาถึงบริเวณหน้าผากของเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่างูกำลังจะพ่นพิษออกมา

“อ๊าก…” เถ้าแก่หูร้องโอดครวญ เป็นลมหมดสติไป

จากนั้นงูตัวนั้นก็คลายตัวออกจากลำคอของเถ้าแก่หู เลื้อยเข้าไปที่พุ่มหญ้า ซูหวานหว่านรีบวิ่งตามไปพร้อมพูดว่า “ท่านพ่อ! พวกเราไปกันเถอะ! จะปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้”

ซูต้าเฉียงรีบวิ่งเข้าไปช่วยลูกสาว สองพ่อลูกช่วยกันจับงูพิษ เตรียมใส่มันเข้าไปในไหเหมือนเดิม

แต่ในขณะที่กำลังจะเปิดออก ซูต้าเฉียงเหมือนจะเห็นผงสีขาวอยู่ข้างใน ซึ่งมองดูแล้วเหมือนกับขี้เถ้าหญ้า!

ซูต้าเฉียงต้องการเอ่ยถามลูกสาว แต่ก็รู้ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาอันควร เขาจึงปิดปากสนิทแกล้งทำเป็นไม่รู้ งูตัวนั้นเป็นซูหวานหว่านที่จับมันมาจากในมิติฟาร์ม และใส่มันลงไปในไหตอนที่ไม่มีใครสนใจ

ชาวบ้านต่างรู้แล้วว่าในไหใบนั้นมีงู และรีบให้ซูหวานหว่านนำมันกลับเข้าไปในบ้านทันที หลังจากนั้นพวกเขาก็ช่วยกันหาวิธีจัดการกับเถ้าแก่หูและหลี่หลางจง เรื่องของขี้เถ้าหญ้า คนที่อยู่เบื้องหลังต้องเป็นเถ้าแก่หูแน่นอน!

ซูหวานหว่านขอให้แม่เจิ้นแจกต้นพริกให้กับชาวบ้าน หลังจากนั้นนางจึงเข้าไปในเมืองกับพวกชาวบ้านสองสามคนเพื่อไปที่ศาลาว่าการพร้อมเถ้าแก่หูและหลี่หลางจง แต่ท่านนายอำเภอไม่อยู่ พวกเขาทั้งสองเลยถูกขังเอาไว้และรอการไต่สวนที่จะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น

การไต่สวนคดีต้องให้ชาวบ้านมาเป็นพยาน ซูหวานหว่านให้ชาวบ้านพักอยู่ที่ร้านอาหารไท่อัน แม้ว่าภายในร้านจะยังไม่ได้ทำความสะอาดก็ตาม และชวนให้พวกเขากินอาหารเย็นด้วยกัน

กลางดึก ซูหวานหว่านวางแผนที่จะไปที่บ้านของฮวงเหล่าเพื่อพักผ่อน เมื่อนางนึกถึงหน้าของฉีเฉิงเฟิงซึ่งไม่ได้เห็นมาเป็นสองสามวันแล้วก็รู้สึกมีความสุขขึ้นมาเล็กน้อย

แต่หลังจากที่นางออกมาจากร้านก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขวางซูหวานหว่านเอาไว้พร้อมพูดว่า “แม่นางซู หวังจางเจ้านายของเราต้องการพบเจ้า”

ผู้ดูแลหวัง? นั่นมันคนที่จะให้นางดื่มเหล้าผสมยาในงานเลี้ยงวันนั้นไม่ใช่หรอกเหรอ?

“ข้าไม่ไป” ซูหวานหว่านปฏิเสธออกมาตรง ๆ แล้วเบี่ยงตัวเดินหนี

“ช้าก่อน!” ชายคนนั้นวิ่งตาม ก่อนที่คำพูดต่อมาของเขาจะทำให้หัวใจของนางสั่นไหว!