บทที่ 8 การเก็บเกี่ยว

ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์

บทที่ 8 การเก็บเกี่ยว

 

เมื่อเสียงโห่ร้องดังขึ้น ผู้คนรอบข้างก็เริ่มเฝ้าอยู่ที่หน้าหลุมน้ําแข็งของตัวเอง รอให้ปลาตัวใหญ่โผล่ออกมา

 

หลังจากนั้นไม่นานหลี่หูก็ตะโกนขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า

 

“ดูสิ หลุมของข้ามีปลาขึ้นมาแล้ว!”

 

ยังไม่ทันพูดจบหลี่หูก็ใช้ฉมวกไม้ไผ่แทงลงไปทันที ผิวน้ําเปลี่ยนเป็นสีแดง เมื่อหลี่หูยี่นมือลงไปในน้ําแข็ง ก็สามารถดึงปลาตัวใหญ่เหมือนของมู่เฟิงขึ้นมาได้

 

ปลาตัวใหญ่ขนาดพอๆกับมู่เฟิงที่พึ่งแทงขึ้นมา มันดิ้นไปดิ้นมาไม่กี่ครั้งก่อนจะสิ้นลม

 

ผิวทะเลสาบนั่นหนาวเน็บมาก เมื่อปลาตายมันตัวแข็งอย่างรวดเร็ว

 

หลีหูรู้สึกตื่นเต้นเขามองไปที่มู่เฟิง และพูดว่า

 

“จับปลาได้จริงๆ!เผ่าของเราไม่ขาดแคลนอาหารแล้ว!”

 

“อืม!” มู่เฟิง พยักหน้าและมองไปที่ปลาตัวใหญ่ เขาประเมินคร่าวๆน้ําหนักของมันประมาณ 10 -20 จิน เขารู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

 

“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าปลาที่นี่จะตัวใหญ่ขนาดนี้”

 

ไม่รอให้เขาพูดจบคนอื่นๆก็เริ่มโห่ร้อง “พวกเจ้าดูสิข้าก็จับได้ 1 ตัวเหมือนกัน!”

 

“ฮ่าๆๆ มาดูเร็วเข้าข้าเองก็ได้ปลาเช่นกัน!”

 

“รีบมาช่วยข้าหน่อยทางนี้ปลาตัวใหญ่มากข้าลากขึ้นมาไม่ไหว!”

 

เสียงตะโกนและเสียงโห่ร้องดังกึกก้องอย่างต่อเนื่อง

 

หมิงกวงและหลีหูมองปลาตัวใหญ่ที่จับขึ้นมาที่ละตัวใบหน้าของพวกเขาแดงระเรื่อด้วยความตื่นเต้น พวกเขาตะโกนโวกเวกโวยวายไปมาขณะที่จับปลา

 

ไป๋หยาดีใจตื่นเต้นใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้มและโห่ร้องเช่นเดียวกัน

 

“พี่มู่เฟิงช่างร้ายกาจจริงๆ ท่านคิดวิธีนี้ได้อย่างไร!”

 

มู่เฟิงยิ้มและตอบกลับไปว่า “ตราบใดที่สามารถแก้ปัญหาเรื่องอาหารของเผ่าได้ก็เพียงพอแล้ว”

 

“ข้าเองก็จะจับมันด้วยเช่นกัน!” ไป๋หยากล่าวดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว เตรียมยกฉมวกไม้ไผ่ในมือขึ้น

 

“อื้ม!” มู่เฟิงพยักหน้า “ปลาตัวต่อไปที่โผล่ออกมาข้าจะให้เจ้าเป็นคนลงมือ!”

 

“เย้!” ดวงตากลมโตของนางเมื่อเวลายิ้มหรี่ลงเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว และงดงามอย่างบอกไม่ถูก

 

“ข้าเก่งมากนะจะบอกให้!”

 

ไม่นานหลุมน้ําแข็งที่ทั้งสองคนเฝ้าก็ปรากฏปากปลาที่ใหญ่กว่าเมื่อครู มู่เฟิงก้มตัวลงและส่งสัญญาณให้กับไป๋หยา

 

เมื่อได้รับสัญญาณแล้ว ไป๋หยาพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มไม้ไผ่ลงไปอย่างรวดเร็ว!

 

แต่ไม่รู้เพราะว่าใช้แรงเกินไปหรือผิวน้ําแข็งลื่นเกินไป ไป๋หยาพุ่งเข้าไปในหลุมน้ําแข็งทันที ราวกับว่าจะตกลงไปในนั้น

 

“ ไป๋หยา!” มู่เฟิงรู้สึกชาไปถึงหนังศีรษะ เขารีบโผกอดไป๋หยาเอาไว้ แล้วล้มลงกับพื้น

 

การช่วยเหลือชีวิตคนอย่างเร่งด่วน มู่เฟิงจึงไม่ได้ทันระวังเขากดตัวของหญิงสาวภายใต้ร่างของเขา มือของเขาจับอยู่ที่หน้าอกของนาง แม้ว่าจะมีขนสัตว์อยู่ระหว่างกลางแต่ยังคงรู้สึกถึงความอบอุ่นและยืดหยุ่น

 

“อ๊าา” มู่เฟิงกรีดร้อง เขาเพิ่งมีปฏิกิริยาตอบกลับรีบดึงมือออกแล้วลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาอยากที่จะยื่นมือออกไปเพื่อดึงไป๋หยาลุกขึ้น แต่เขากลับหดมืออย่างลังเล

 

ใบหน้าเล็กๆของไป๋หยาเองก็แดงระเรื่อ ก้มหน้าก้มตาไม่กล้ามองมู่เฟิงโดยตรง นางปัดน้ําแข็งบนตัวพลางมองไปที่หลุมน้ําแข็งแล้วอุทานว่า

 

“พี่มู่เฟิง เร็วเข้า ฉมวก!”

 

พูดจบนางก็กระโจนเข้าใส่อีกครั้งคอเสื้อหนังของไป๋หยาเปิดออก ราวกับแสงแห่งฤดูใบไม้ผลิพุ่งออกมา มู่เฟิงรีบหันหน้าหนีด้วยความเขินอาย

 

แต่ทันใดนั้นเขาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็วคว้าไป๋หยาเอาไว้ในอ้อมกอด ก่อนที่จะหยิบฉมวกไม้ไผ่ที่ลอยอยู่ในโพรงน้ําแข็งมันกําลังที่จะยุบตัวลงไป

 

เห็นได้ชัดว่า ไป๋หยานั้นสามารถแทงปลาตัวใหญ่ได้ มู่เฟิงออกแรงดึงฉมวกขึ้น และรู้สึกได้ว่าแรงต่อต้านมีน้ําหนักมากกว่าตัวที่เขาจับก่อนหน้านี้

 

“รีบมาช่วยข้าเร็วเข้า!” มู่เฟิงตะโกนเสียงดัง

 

หลี่หูที่อยู่ด้านข้างไม่ไกลนักกําลังยุ่งอยู่กับการเอาตัวปลาใหญ่ขึ้นมาจากน้ําแข็ง ได้ยินดังนั้นก็ทุบไปที่ปลาที่ยังดิ้นอยู่ เพื่อให้มันสงบลงจากนั้นรีบเดินมาหา มู่เฟิงยื่นมือออกไปจับไม้ไผ่ที่อยู่บนผิวน้ํา

 

“ย่าส์!” หลี่หูตะโกนเสียงดัง เขาใช้แขนข้างเดียวยกปลาตัวใหญ่ที่ไป๋หยาแทงได้ขึ้นมาจากน้ํา

 

“ใหญ่มาก!”นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋หยาเห็นปลาตัวใหญ่ขนาดนี้นางอดใจไม่ไหวได้แต่กรีดร้อง

 

“อ้า ข้าจับปลาตัวใหญ่ที่สุดได้!”

 

พูดไปนางก็เข้ากอดมู่เฟิง และหัวเราะพร้อมกับกระโดด

 

“เห็นไหม ข้าจับปลาตัวใหญ่ได้!”

 

“อื้ม!” มู่เฟิงถูกหญิงสาวกอดจนแทบหายใจไม่ออก ดวงตาของเขาพยายามเหล่ไปมองที่อื่น “เจ้าแข็งแกร่งมาก!”

 

หลี่หตื่นเต้นเช่นกันเขาหัวเราะเสียงดัง หันไปมองรอบๆมีปลาอยู่มากมายหลายตัวในหลุมน้ําแข็งของคนอื่นๆ ดังนั้นอาหารในเผ่าจึงไม่ต้องกังวลไปอีกหลายวัน

 

“ท่านหัวหน้าเผ่า!” หลี่หูคุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือของเขายกขึ้นสูงและกล่าวด้วยความยินดี

 

“ท่านหัวหน้าเผ่าขอบคุณที่ชี้แนะ!”

 

ในเวลานี้ทุกคนรอบข้างเห็นการกระทําของหลี่หู พวกเขาวางฉมวกไม้ไผ่ลงและคุกเข่าเช่นกัน

 

“ขอบคุณหัวหน้าเผ่าที่ชี้แนะ!”

 

ไป๋หยาสัมผัสถึงสิ่งที่ผิดปกติจึงตระหนักได้ถึงความจริงจังของสถานการณ์ นางเองก็ปล่อยมู่เฟิงแล้วคุกเข่าตาม

 

มู่เฟิงเห็นการกระทําของพวกเขาและรู้สึกจนปัญญา เขารีบยื่นมือออกไปพยุงหลีหูให้ลุกขึ้น แล้วพยุงหมิงกวงกับไป๋หยาขึ้น

 

“ทุกคนไม่จําเป็นจะต้องทําเช่นนี้พวกเราเป็นเผ่าเดียวกัน ตั้งแต่ยังเด็กข้าเองก็ได้แต่เฝ้ามอง และถูกเลี้ยงดูมาโดยพวกท่าน ดังนั้นนี่เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยที่ข้าจะทําให้กับเผ่าเท่านั้น ข้านับถือพวกท่านเป็นทั้งลุงและพี่ชาย!”

 

“ต่อไปทุกคนไม่ต้องทําความเคารพเช่นนี้อีกและเรียกข้าว่ามู่เฟิงก็พอ”

 

ในขณะเดียวกัน มู่เฟิงก็ถอนหายใจอีกครั้ง

 

“ดูเหมือนว่าการสนับสนุนความเสมอภาคของทุกคนในสังคมเดิมนี้จะเป็นเรื่องยากมาก!”

 

ถึงอย่างนั้นทุกคนที่อยู่รอบข้างต่างมีสีหน้าอีกเหิมและจิตใจเต้นแรง หัวหน้าเผ่าของพวกเขาแตกต่างจากเผ่าอื่นๆ พวกเขายินดีที่จะให้มู่เฟิงเรียกพวกเขาว่าลุงหรือพี่ชาย

 

สิ่งที่สําคัญที่สุดก็คือ ชายหนุ่มคนนี้สามารถนําพาพวกเขาไปยังทิศทางที่ถูกต้องได้