บทที่ 14 วิธีการป้องกันหอกไม้ไผ่

ฉันเป็นหัวหน้าเผ่าดึกดำบรรพ์

บทที่ 14 วิธีการป้องกันหอกไม้ไผ่

 

เมื่อพบว่าฉางหนิงมองตัวเองด้วยสายตากระตือรือร้น มู่เฟิงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

 

“หลี่หู ปลาถูกแบ่งให้กับคนในเผ่าแล้วหรือยัง”

 

“หา?” หลี่หูเองก็เพิ่งหายจากอาการช็อคเช่นกัน เขาวางโล่หญ้าลงแล้วพูดว่า

 

“อาหารทั้งหมดถูกมอบให้กับเว่ยหยาง เขาจะเป็นคนแบ่งเอง!”

 

“ อืม ถ้าอย่างนั้นท่านไปดูสักหน่อย ปลาที่เหลือทําความสะอาดเครื่องในและขอดเกล็ดภายนอกแล้วใช้เกลือปนทาเอาไว้จากนั้นตากแดดให้แห้ง!”

 

“แต่ว่า…” หลี่หมองไปที่ฉางหนิงแวบหนึ่ง กล่าวยังลังเลว่า

 

“เกลือของพวกเรามีไม่มากแล้ว!”

 

“นี่” มู่เฟิงไม่แปลกใจแม้แต่น้อยและหันไปมองฉางหนิง ฉางหนิงรีบตอบสนองทันทีใบหน้าที่งดงามยิ้มและพูดออกมาว่า

 

“หากพวกเจ้ารอได้ ข้าจะให้คนในเผ่าเอาเกลือมาให้พวกเจ้าดีหรือไม่”

 

มู่เฟิง พยักหน้าเขารอประโยคนี้ของนางอยู่

 

“แต่การใช้เกลือทาลงบนปลามีประโยชน์อย่างไร?” ฉางหนิงถามขึ้นด้วยความแปลกใจ

 

“การใช้เกลือทาลงบนตัวปลาจะช่วยป้องกันเนื้อปลาจากการเน่าเสียได้!” มู่เฟิงอธิบาย

 

“นอกจากเนื้อปลาแล้วยังใช้ได้กับเนื้ออื่นๆเช่นกัน แต่ในวันที่อากาศหนาวเนื้อที่ถูกเก็บไว้จะยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นแต่ถ้าอากาศร้อนเวลาเน่าเปื่อยก็จะสั้นลงมา!”

 

ฉางหนิงประหลาดใจอีกครั้งดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความสงสัย

 

“เจ้ารู้มากขนาดนี้ได้อย่างไร หัวหน้าเผ่าคนก่อนสอนเจ้าหรือ”

 

มู่เฟิงไม่ได้ตอบแต่พูดเรื่องอื่นแทน “นอกจากเกลือแล้วยังมีขนสัตว์ที่เจ้าสัญญากับพวกเราด้วย!”

 

ฉางหนิง นึกขึ้นได้ว่าคําถามที่ตนเองถามนั้นไม่เหมาะสมนางโค้งคํานับเล็กน้อยเพื่อขอโทษจากนั้นจึงเอ่ยว่า

 

“ยกโทษให้กับข้าที่พูดจาล่วงเกินเจ้าปได้โปรดวางใจเถอะขนสัตว์และเกลือข้าจะให้คนส่งมา เมื่อข้ากลับไปที่เผ่าและข้าจะทําตามคํามั่นสัญญาคือการมอบมังกรดินนี้ให้กับเจ้า!”

 

หลังจากหยุดไปครู่หนึ่ง ดวงตาของฉางหนิงก็เป็นประกายอีกครั้ง

 

“เพียงแต่ข้ามีคําขออยากจะพูดให้ท่านฟัง!”

 

“คําขออะไร?”

 

“ข้าต้องการให้เจ้านําเผ่าของเจ้าไปรวมกับเผ่าของข้า” ใบหน้าของฉางหนิงเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและจริงใจ ดวงตากลมโตสีดําขลับจ้องมองไปที่มู่เฟิง

 

“ หา?” หลี่หมองไปที่มู่เฟิงอย่างประหม่า

 

“ไม่จําเป็น!” มู่เฟิงปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยว

 

“แม้ว่าเผ่าต้าเจียงของเราจะมีขนาดเล็กแต่ก็เป็นเผ่าอิสระ”

 

“แต่พวกเจ้าไม่มีแม้แต่สัญลักษณ์ของตัวเอง!” ฉางหนิงกล่าว

 

อย่างร้อนรน

 

“หากพวกเจ้าเข้าร่วมกับเผ่าวิหคเขียว พวกเจ้าสามารถมีสัญลักษณ์ได้ทันที คนในเผ่าก็จะได้รับอาหารเพิ่มและความปลอดภัยก็มากขึ้น!”

 

สมแล้วที่นางเป็นองค์หญิงของชนเผ่าใหญ่ แม้ว่านางจะไม่เข้าใจสถานการณ์ของเผ่าต้าเจียง แต่ปัญหาที่นางกล่าวออกมานั้นเป็นพื้นฐานของเผ่าพันธุ์เล็กๆอย่างต้าเจียงต้องประสบพบเจอ!

 

“ไม่เป็นไร อีกไม่นานพวกเราจะมีสิ่งเหล่านั้น!” มู่เฟิงพูดเสียงเรียบ “เผ่าต้าเจียง เป็นเผ่าอิสระเรื่องนี้ไม่เปลี่ยนแปลง!”

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงท่าทีของมู่เฟิง ฉางหนิงก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและยังรู้สึกโกรธเคืองกับมู่เฟิงที่ไม่รู้อะไรดีหรือไม่ดี แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ยังพูดอย่างสงบว่า

 

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ข้าจะกลับไปให้คนของเผ่านําของมาให้เจ้าเดี๋ยวนี้!” พูดจบ ฉางหนิง ก็ลุกขึ้นและเดินจากไป ก่อนที่นางจะเดินต่อนางหยุดชั่วคราวและเอ่ยว่า

 

“แต่เผาของข้านั้นอยู่ไกลจากที่นี่มาก รอข้ากลับไปและส่งคนมาอย่างน้อยต้องใช้เวลา 7 วัน!”

 

มู่เฟิง พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ ไม่เป็นไรพวกเรารอได้!”

 

ฉางหนิงตกตะลึงชั่วครู่ หันกลับไปมองมู่เฟิง ดวงตาคู่งามมีทั้งความผิดหวังและความอยากรู้อยากเห็นแฝงไว้ด้วยความหมายที่แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก แต่นางก็ทําเพียงได้แค่นี้ หลังจากนั้นนางก็เรียกคนของนางจากไป

 

“ มู่เง!” หลี่หูพูดอย่างประหม่าว่า

 

“พวกเขาจะไม่กลับมาปล้นเราใช่ไหม?”

 

“ไม่! ท่านไม่ได้ยินเหรอว่าอาคู่ลี่ไม่ชอบเผ่าของเรา!” มู่เฟิงยิ้มและสายหัว

 

“แต่สาวน้อยคนนี้” หลี่หู คุณคิดอยู่สักครู่ก่อนจะพูดออกมา

 

“มาโด้ของเผ่าวิหคเขียว เชิญพวกเราเข้าร่วมเผ่า ถ้าพวกเราปฏิเสธละก็…”

 

มู่เฟิงชะงักเล็กน้อย “เจ้าพูดถูก เราควรจะเผื่อไว้!”

 

“อะไรนะ?” หลี่หูฟังไม่ถนัด

 

“ไม่มีอะไรใดูเหมือนว่าข้าจําเป็นจะต้องเตรียมตัวให้พร้อม!” เมื่อพูดเช่นนั้น มู่เฟิงก็หันหน้าไปมองหลี่หู และบอกว่า

 

“เรียกคนมาหาข้า 20 คน”

 

“เรียกมาทําอะไร?” หลี่หูถามด้วยความแปลกใจ

 

“ขุดบ่อเพื่อเอาน้ํา!” มู่เฟิงกล่าวด้วยเสียงทุ่มต่ํา

 

“ขุดบ่อ? เอาน้ํา?” หลี่หูตกตะลึง

 

“เพียงแค่ข้ามภูเขาไปก็มีแม่น้ําสายหนึ่งอยู่แล้วทําไมพวกเรายังต้องทําอะไรเช่นนี้อีก?”

 

มู่เฟิงส่ายหัว “มันไกลเกินไปและไม่สะดวก นอกจากนี้พวกเขายังต้องนํามีดกระดูกและสิ่งอื่นๆที่สามารถขุดดินได้มาด้วย” เมื่อพูดมาถึงตรงนี้เขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ จากนั้นก็พูดว่า

 

“เอาล่ะไปเรียกคนมาก่อนเถอะค่อยว่ากัน!”

 

“อุกะอุกะ!” หลี่หูรีบเดินจากไป มู่เฟิงจึงติดต่อกับระบบโดยตรง

 

“ระบบส่งภารกิจ!”

 

แจ้งเตือนจากระบบ:

 

ภารกิจที่ 1 ช่วยให้เผ่าผ่านช่วงเวลาที่ยากลําบากและประสบความสําเร็จ 300 คะแนน

 

ภารกิจที่ 2 แก้ปัญหาการอยู่รอดของชนเผ่า 500 คะแนน

 

ภารกิจที่ 3 สร้างขวัญและกําลังใจให้เผ่าเสร็จสมบูรณ์ 200 คะแนน

 

คะแนนความสําเร็จของคุณในตอนนี้คือ : 500 คะแนน

 

มู่เฟิงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเขารีบถามระบบต่อ “สามารถใช้คะแนนเหล่านี้แลกเป็นพลั่วหรือจอบได้หรือไม่?”

 

ระบบเด้งเปลี่ยนหน้าจอทันที: แลกพลั่ว ใช้ 50 คะแนน

 

มู่เฟิง คิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า

 

“งั้นแลกมา 6 เล่มก็แล้วกัน!”

 

จากนั้นก็มีข้อความนั้นๆปรากฏขึ้นด้านใต้ว่า

 

“ขีดจํากัดการแรก: 3 เล่ม!”

 

“เวรเอ๊ย ไม่จริงใช่ไหม!” มู่เฟิงอดที่จะบ่นไม่ได้

 

“ระบบห่าเหวอะไรกันทําไมถึงต้องจํากัดจํานวน!”

 

ระบบไม่สนใจและกล่าวต่อ “คุณแน่ใจหรือไม่ว่าจะใช้คะแนน 100 คะแนนเพื่อแลกรั่ว 2 เล่ม!”

 

“ แน่ใจ!” มู่เฟิงรู้สึกหงุดหงิด จากนั้นเขาก็รอสักพักแล้วพูดว่า

 

“อย่าบอกนะว่าข้าไม่สามารถแลกเปลี่ยนได้อีก?”

 

ระบบเตือนอีกครั้งว่า “ระบบเป็นเพียงความช่วยเหลือเบื้องต้นเท่านั้นไม่สามารถทําให้คุณได้เปรียบมากกว่าในยุคปัจจุบัน แน่นอนว่ายกเว้นข้อได้เปรียบที่คุณสร้างด้วยตัวคุณเอง!”

 

“เห*ย!”