บทที่ 411 มีพิรุธ
บทที่ 411 มีพิรุธ
หลังจากสงบสติอารมณ์ลงแล้ว หวังจุนจึงออกความคิดเห็น
“ประธานอวี้ ผมว่าเรื่องนี้มันแปลกมากครับ! พนักงานของเราตรวจสายลวดสลิงทุกวันและเปลี่ยนทุกสามถึงห้าปี ต่อให้เพิ่มความหนักของสิ่งของเป็นสองเท่า มันก็เป็นไปไม่ได้ที่สายจะขาด!”
“คุณหมายความว่ายังไง?”
อวี้ฮ่าวหรานยังคงมีท่าทางสงบนิ่ง
ขณะที่ใช้ความคิดอยู่นั้น เขาก็นึกถึงคนคนหนึ่ง!
ต้องเป็นฝีมือของกัวหย่งซินที่หลี่จิงเทียนพูดถึงเมื่อสองสามวันก่อนแน่นอน!
อวี้ฮ่าวหรานไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีเจตนาอย่างไร ผู้ชายคนนั้นถูกปล่อยตัวออกจากคุกก่อนกำหนด และตอนนี้มันต้องการคิดบัญชีแค้นกับเขา
ยิ่งไปกว่านั้นผู้ชายคนนี้บังเอิญทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เหมือนกัน!
ถ้ามีเรื่องแปลกประหลาดเกิดขึ้น แน่นอนว่ามันต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับกัวหย่งซิน
ถ้าเป็นอย่างที่เขาคิดไว้จริง ๆ คนคนนั้นจะต้องตาย!
“ไป! คุณไปที่นั่นกับผม!”
อวี้ฮ่าวหรานขมวดคิ้ว เขาปลอบโยนถวนถวนแล้วสั่งให้หลิวว่านฉิงดูแลลูกสาวแทน ก่อนออกจากบริษัทพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงหลายคน
สถานที่ก่อสร้างอยู่ไม่ไกลจากสำนักงานของเครือฮ่าวหราน ซึ่งเป็นที่ดินที่กัวหย่งซินไม่ได้รับสัมปทาน
เมื่อขับรถเข้าไปใกล้สถานที่ก่อสร้าง ชายหนุ่มก็พบว่าบริเวณโดยรอบถูกรายล้อมไปด้วยนักข่าวหลายสำนักแล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา
ถึงอย่างนั้นพอพวกนักข่าวเห็นรถของเขา ทุกคนก็กรูเข้ามารุมล้อมสัมภาษณ์เขาทันที!
“ประธานอวี้คะ! คุณมีอะไรจะพูดเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้ไหมคะ?”
“ฉันเป็นนักข่าวจากมอนิ่งเดลี่ค่ะ ฉันขอถามคุณอวี้หน่อยได้ไหมคะว่าคุณถูกตำรวจเรียกตัวมาหรือเปล่า?”
“เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นอุทาหรณ์ไหมคะ? หรือว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนคะ?”
“…”
หลังจากที่อวี้ฮ่าวหรานลงรถ นักข่าวก็วิ่งมารุมล้อมเขาอย่างรวดเร็ว เสียงถามคำถามทำให้คิ้วของเขาขมวดมุ่นยิ่งกว่าเดิม!
ในที่สุดเขาก็เข้าใจความรู้สึกของเฉิงกัวอัน นักข่าวพวกนี้น่ารำคาญจริง ๆ
แถมคำถามบางคำถามยังส่อเจตนาร้ายอีก!
ไม่ว่าเขาจะตอบคำถามหรือไม่ สุดท้ายแล้วมันก็ส่งผลเสียต่อเครือฮ่าวหรานอยู่วันยังค่ำ
การที่พวกนักข่าวมารวมตัวอย่างนี้ผิดปกติมาก!
อุบัติเหตุเพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน โดยปกตินักข่าวจะไม่มีที่เกิดเหตุเร็วขนาดนี้ เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่นอน!
พวกนักข่าวมีมากมายเกินไปจึงทำให้ชายหนุ่มเดินเข้าไปในที่เกิดเหตุไม่ได้
โชคดีที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาถึงแล้ว พวกเขาจึงหยุดคนเหล่านั้นไว้
อวี้ฮ่าวหรานเดินไปยังพื้นที่ที่ตำรวจปิดกั้นอยู่
“ท่านครับ ตอนนี้เรายังหาตัวคนทำไม่เจอครับ”
เมื่อมาถึงจุดตรวจ เขาจึงแสดงบัตรประจำตัวให้ตำรวจดู
“ผมเป็นประธานบริษัทเครือฮ่าวหราน และตอนนี้ผมอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น!”
หลังจากยืนยันตัวตนเรียบร้อย เหล่าเจ้าหน้าที่จึงอำนวยความสะดวกให้เขาอย่างรวดเร็ว
ภายในสถานที่ก่อสร้างที่ถูกปิดกั้น คนงานจำนวนสองสามคนต่างมารวมตัวกัน บ้างยังคงตกใจ บ้างก็พูดคุยถึงสถานการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น
“เกือบไปแล้ว! โชคดีที่ฉันหลบเร็ว ไม่อย่างนั้นได้นอนอยู่ในโรงพยาบาลแน่”
“นอนโรงพยาบาลก็ยังดี แต่อาเฉียงกับคนอื่น ๆ ตายแล้วน่ะสิ!”
“บอกตามตรงนะ ฉันว่าเรื่องนี้แปลก ๆ! พวกเขาเพิ่งเปลี่ยนสายลวดสลิงเมื่อวานไม่ใช่เหรอ? แล้วมันจะพังได้ยังไง?”
“…”
คนงานหลายคนต่างถกเถียงกันนอกจากนี้ในบริเวณนั้นยังมีเจ้าหน้าที่นับสิบชีวิตทำงานอยู่ด้วย
“คุณคือประธานบริษัทเครือฮ่าวหรานเหรอครับ? มันร้ายแรงเกินไป! คุณรู้ไหมว่าพวกเราต้องเสี่ยงแค่ไหน?”
พออวี้ฮ่าวหรานเดินเข้าไปใกล้จุดเกิดเหตุ ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางโมโหเล็กน้อย
“ชีวิตของคนนับสิบต้องมาเสี่ยงกับความประมาทเลินเล่อของพวกคุณ! คุณจะต้องถูกตัดสินโทษอย่างหนักแน่นอน!”
หวังจุนรีบเดินเข้าไปขวางอย่างรวดเร็ว
“ตอนนี้เรายังมีหลักฐานไม่ครบ คุณอย่าเพิ่งพูดจาเหลวไหลเลยครับ เพราะสังคมของเรามีกฎหมายเป็นบรรทัดฐาน ทุกอย่างจะต้องเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายแน่นอนครับ!”
เขาเป็นผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างครั้งนี้ ดังนั้นจึงไม่มีเรื่องประมาทเลินเล่อเกิดขึ้นแน่นอน นอกจากนี้สายลวดสลิงจะถูกตรวจสอบและเปลี่ยนก่อนใช้งานทุกครั้ง!
หากเป็นสถานก่อสร้างที่อื่น พวกเขาคงไม่ตรวจสอบอุปกรณ์ในการทำงานบ่อยแบบนี้ โดยทั่วไปแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่สายเคเบิลที่หนาและแข็งแรงจะขาดกันได้ง่าย ๆ
ดังนั้นเขาจึงเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอน
“เฮอะ! หลักฐาน? ทุกคนตายแล้ว พวกคุณจะหาหลักฐานมาจากไหน? ไอ้พวกนายทุนใจดำ คุณไม่กลัวถูกจับเหรอไง?”
ตำรวจคนนั้นยังคงโยนความผิดให้กับบริษัท อวี้ฮ่าวหรานรู้สึกได้ทันทีว่าท่าทางของอีกฝ่ายผิดปกติ
หากเป็นสถานการณ์ปกติ ต่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เขาก็ไม่สมควรโมโหจนเกินเหตุอย่างนี้
“ก่อนอื่นทางเราต้องบอกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงคลุมเครือ และประการที่สองผมรับรองได้ว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้มาจากฝ่ายเราแน่นอนครับ”
ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มยังคงตอบอย่างใจเย็น
อวี้ฮ่าวหรานไว้ใจหวังจุนมากกว่าใคร อีกฝ่ายไม่มีทางหักหลังเขาแน่นอน
และเมื่อตัดสินจากปฏิกิริยาของเขาแล้ว เรื่องนี้ต้องมีลับลมคมในแน่นอน
“ผมบอกแล้วไงว่าไม่ต้องแก้ตัว คนคนนี้…”
ตำรวจวัยกลางคนยังไม่ละความพยายาม เขายังคงโทษอีกฝ่าย แต่ทันใดนั้นลูกน้องของเขาก็วิ่งเข้ามา
“หัวหน้าโจว มีบางอย่างผิดปกติครับ”
ตำรวจวัยกลางคนที่ถูกเรียกว่าหัวหน้าโจวขมวดคิ้วทันที
“อืม พาฉันไปดูหน่อย”
อวี้ฮ่าวหรานและคนอื่น ๆ เดิมตามไปอย่างรวดเร็ว ในฐานะผู้รับผิดชอบ พวกเขาจึงสามารถตรวจสอบได้อย่างเต็มที่
สถานที่เกิดเหตุเป็นอาคารหกชั้น และชั้นบนสุดมีสายลวดสลิงเส้นใหญ่หล่นอยู่ ไม่มีใครกล้าแตะต้องมันเลยสักคน
“ดูนี่สิครับหัวหน้าโจว ผมว่าสายลวดสลิงบางเส้นมีรอยตัด ถึงมันจะถูกเก็บซ่อนไว้อย่างดี แต่แค่มองแวบเดียวผมก็รู้แล้วครับว่ามันไม่เหมือนเส้นอื่น!”
ตำรวจหนุ่มโชว์สายลวดสลิงที่ถูกตัดให้คนอื่นดู
อวี้ฮ่าวหรานเงยหน้ามอง ด้วยสายตาที่เฉียบแหลม เขาสามารถสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว
เกลียวสายสลิงดูไม่เหมือนรอยขาด แต่กลับดูเหมือนว่ามันถูกตัดด้วยอุปกรณ์บางชนิด!
ขณะนั้นเองอวี้ฮ่าวหรานรู้สึกว่ามีใครบางคนจ้องมองเขาอยู่!
พอหันไปมอง ชายหนุ่มก็เห็นว่าคนงานต่างชาติวัยสี่สิบปีกำลังมองเขาอยู่ สีหน้าของผู้ชายคนนั้นเหยเกเล็กน้อย
แต่จู่ ๆ หัวหน้าทีมโจวก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม
“ฮึ่ม อะไรวะเนี่ย? มันพังแล้ว! เรื่องนี้เป็นความรับผิดชอบของผู้จ้างงาน!”
“แต่…”
“มันโผล่มาได้ยังไง? ผมทำงานนี้มานานหลายปี คุณจะรู้ดีกว่าผมได้ยังไง?”
หัวหน้าทีมโจวโพล่งขึ้นขัดจังหวะลูกน้อง ก่อนหันมามองฮ่าวหรานอีกครั้ง
“ผมบอกคุณแล้ว คุณเตรียมตัวชดใช้ได้เลย! พวกเราจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ แน่!”
ขณะที่พูดอยู่นั้น ท่าทางของเขาดูมีพิรุธอย่างมาก
อวี้ฮ่าวหรานยังคงเงียบขรึมเหมือนเดิม ลางสังหรณ์ของเขาบอกว่าผู้คุมงานคนนี้มีลับลมคมใน!
ประกอบกับสายสลิงที่ถูกตัด เรื่องนี้จึงชัดเจนมาก!
“คุณไม่คิดว่ามันผิดปกติบ้างเหรอ?”
เขามองตำรวจตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย ขณะที่สายตาเย็นชาจนคนข้างหน้าเสียวสันหลัง