บทที่ 412 สอบสวน

บทที่ 412 สอบสวน

“ผิดปกติ? ผมว่าคุณต่างหากที่เป็นความผิดพลาดในเรื่องนี้! มีคนงานตายมากมาย! แต่คุณยังปัดความรับผิดชอบ!”

ครั้งนี้ท่าทางของหัวหน้าโจวเกรี้ยวกราดกว่าเดิม

“หัวหน้าโจว เราต้องตรวจสอบเรื่องนี้ก่อนนะครับ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้น แม้แต่ลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างหลังยังรู้สึกว่าไม่เข้าท่าเลย เพราะปกติแล้ว พวกเขาไม่เคยเห็นหัวหน้าโจวมีท่าทางอย่างนี้!

“ฮึ่ม! ฉันจะหาหลักฐานเอง! ถ้าได้ครบเมื่อไรฉันจะเอาไอ้นายทุนเลวทรามคนนี้เข้าคุกแน่!”

อวี้ฮ่าวหรานเยาะเย้ยในใจ เขามั่นใจว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ความผิดของเครือฮ่าวหรานแน่นอน!

ท่าทางของตำรวจวัยกลางคนผิดปกติอย่างชัดเจน!

เขาไม่ได้โต้เถียงอีกฝ่าย แต่เลือกกลับไปที่ตึกบริษัทเครือฮ่าวหรานพร้อมกับลูกน้อง

ภายในออฟฟิศ เขากำลังโทรหาเฉิงกัวอัน

เฉิงกัวอันอาศัยอยู่ในเมืองฮ่วยอันมานานกว่าสิบปี ไม่แน่ว่าเส้นสายของอีกฝ่ายอาจช่วยเหลือเขาได้

“ฮ่าวหราน ผมเพิ่งรู้ข่าวเมื่อเช้า…”

หลังจากรอสายไม่นาน เสียงของเฉิงกัวอันก็ดังขึ้นปลายสาย เขาพูดด้วยความระมัดระวังอย่างมาก

“ก่อนอื่นคุณต้องบอกผมมาก่อนว่าคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไหม?”

เขาถามเรื่องความรับผิดชอบเป็นอย่างแรก เพราะการรับมือกับสถานการณ์แบบนี้สำคัญมาก…

“ไม่แน่นอนครับ ผมไปสำรวจที่เกิดเหตุแล้วเห็นว่าสายลวดสลิงมีรอยตัด แถมท่าทีของหัวหน้าโจวที่มาถึงก่อนยังแปลก ๆ”

อวี้ฮ่าวหรานปฏิเสธด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย

“ดีเลย!”

เฉิงกัวอันถอนหายใจยาวทันทีที่ได้ยิน เขากลัวว่าเหตุการณ์นี้เครือฮ่าวหรานจะต้องกลายเป็นแพะรับบาป

เรื่องนี้คงรับมือไม่ง่ายแน่…

“คุณช่วยผมอย่างหนึ่งได้ไหมครับ?”

คิ้วของอวี้ฮ่าวหรานยังคงขมวดแน่น ถ้าไม่ใช้กำลังจัดการ เรื่องนี้อาจยุ่งยากมากกว่าเดิม

แต่การใช้กำลังอาจทำให้เรื่องนี้บานปลาย!

สุดท้ายแล้วโลกใบนี้ยังคงปกครองด้วยมนุษย์โลก ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเข้าไปยุ่งเรื่องของมนุษย์ธรรมดาแน่นอน ถ้าอีกฝ่ายไม่มายุ่งกับครอบครัวเขาก่อน

“อืม…ผมรู้จักตำรวจระดับสูงอยู่สองสามคน ถ้าจะให้พวกเขาใช้เส้นสายเพื่อให้คุณพ้นผิดคงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าให้พวกเขาช่วยสืบสวนยังพอมีหวัง”

“โอเคครับ นอกจากรอยตัดบนเส้นลวดสลิงที่บอกไปก่อนหน้านี้ ผมยังมีหลักฐานอื่นอีกครับ”

หลังจากตกลงกันเรียบร้อยแล้ว อวี้ฮ่าวหรานจึงวางสายโทรศัพท์

ก่อนออกจากออฟฟิศ เขาสั่งให้หวังจุนส่งลูกน้องไปสะกดรอยตามแรงงานต่างชาติที่ก่อนหน้านี้ทำตัวมีพิรุธ

สัญชาตญาณของอวี้ฮ่าวหรานไม่ผิดแน่ แรงงานต่างชาติคนนั้นต้องมีเรื่องที่ปกปิดไว้แน่ ๆ

เวลาล่วงเลยมาจนถึงเวลาบ่ายแก่ ๆ

ด้วยอิทธิพลของผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ เรื่องทุกอย่างจึงแย่ลงกว่าเดิม!

‘ไร้จิตสำนึก! นายทุนโหดคร่าชีวิตแรงงานต่างด้าวนับสิบ!’

‘อาลัย แรงงานต่างชาติตายด้วยกำมือนายทุน!’

‘…’

พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์หลายสำนักต่างชี้เป้ามาที่เครือฮ่าวหราน

กระทู้ข่าวเหล่านั้นถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางบนโลกอินเทอร์เน็ต ทำให้หุ้นของเครือฮ่าวหรานร่วงต่ำลงอย่างมาก!

พันธมิตรทางการค้าหลายรายส่งจดหมายเตือนมาที่บริษัทว่าพวกเขาจะยุติการร่วมมือ!

ขณะที่ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน จู่ ๆ เจ้าหน้าที่วัยกลางคนก็ได้รับแจ้งเรื่องน่าตกใจ!

“อะไรนะ? ฉันรับผิดชอบงานนี้อยู่แล้วนี่! ทำไมนายถึงได้รับช่วงต่อ?”

หัวหน้าโจวขมวดคิ้ว เขาตัดสินใจปิดคดีนี้เรียบร้อยแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนเข้ามาแทรกแซงในช่วงเวลาฉุกละหุกอย่างนี้!

“ขอโทษครับหัวหน้าโจว คำสั่งนี้มาจากเบื้องบน คุณจะปฏิเสธไม่ได้!”

ตำรวจหลายนายยืนอยู่ข้างหน้าเขา ใบหน้าของหัวหน้าโจวเขียวคล้ำทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น!

เขาไม่คิดว่าประธานหนุ่มจะโต้กลับเร็วขนาดนี้!

แต่คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะประสานให้เบื้องบนออกคำสั่งย้ายเขา

“ฮึ่ม! นายก็เห็นนี่ว่าเราใกล้จะปิดคดีได้แล้ว ฉันว่านายกลับไปจะดีกว่านะ”

หัวหน้าโจวแค่นเสียงอย่างเย็นชา ก่อนหยิบเอกสารที่เขาพิมพ์มาก่อนหน้านี้ออกมายื่นให้อีกฝ่าย

เมื่อเห็นสิ่งนั้น ตำรวจหนุ่มจึงพลิกเอกสารอ่าน แต่ยังคงมีท่าทีเพิกเฉยเหมือนเดิม

“ผมขอโทษที่ต้องบอกคุณว่าคำสั่งข้างต้นคือการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลางและจะมีการสอบสวนอย่างเข้มงวด ดังนั้นพวกเราจึงยอมรับผลการสอบสวนของหัวหน้าโจวไม่ได้ครับ”

“คุณ!”

หัวหน้าทีมโจวอดโมโหไม่ได้!

“เบื้องบนคนไหนเป็นคนออกคำสั่ง?”

“ฮ่า ๆ ไม่ใช่เรื่องของคุณ ผมไม่เข้าใจว่าใช้กฎหมายอย่างเป็นกลางส่งผลดีต่อทุกคน แต่ทำไมคุณกลับร้อนรนอย่างนี้ล่ะครับ?”

ตำรวจหนุ่มหัวเราะเบา ๆ คำพูดของเขาเป็นเหมือนมีดเสียดแทงใจดำของอีกฝ่าย!

“ไปกันเถอะ!”

หัวหน้าทีมโจวสับสนอย่างมาก ตอนนี้เขาทำได้เพียงนำลูกน้องออกไปจากสถานที่เกิดเหตุ

“เดี๋ยวก่อน!”

จู่ ๆ ตำรวจหนุ่มก็เรียกเขาเอาไว้

“ตามคำสั่งของเบื้องบน คุณจะต้องมอบโทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารทั้งหมดให้พวกผม แล้วกลับไปที่สำนักงานทันทีและห้ามออกไปที่ไหนเด็ดขาด”

“อะไรนะ?”

หัวหน้าโจวโวยวายทันที!

“เจียงอวิ๋น! อย่าลืมว่าแกเคยเป็นลูกน้องฉันมาก่อน!”

ตำรวจหนุ่มที่ถูกเรียกว่าเจียงอวิ๋นหัวเราะเบา ๆ

“ฮ่า ๆ พวกเราแค่ทำตามกฎหมายน่ะครับ เราไม่ได้ยึดเครื่องมือสื่อสารของคุณบ่อยซะหน่อย แล้วก็ช่วยแยกแยะเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวด้วยนะครับ”

เขาพูดถูกต้องทุกอย่าง

หัวหน้าโจวมีท่าทีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง

อีกด้านหนึ่ง ถึงลูกน้องที่หวังจุนส่งไปจะไม่ชำนาญเหมือนมืออาชีพ แต่พวกเขาก็สามารถสะกดรอยตามแรงงานต่างชาติคนนั้นได้

พวกเขาตามอีกฝ่ายไปจนถึงตรอกเล็ก ๆ ที่ซึ่งยากจะสะกดรอยตาม

ลูกน้องของหวังจวิ้นจึงกระโดดข้ามกำแพงไปอีกฝั่งหนึ่ง

หลังจากข้ามกำแพง เขาก็ได้ยินเสียงสนทนาของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน!

“ผมจัดการตามที่คุณบอกแล้วครับ ตำรวจตรวจไม่เจอความผิดปกติ ตอนนี้ถึงเวลาที่คุณจะจ่ายเงินสองแสนหยวนให้ผมแล้ว”

“ฮ่า ๆ แน่นอน ๆ แต่หลังจากรับเงินแล้วคุณต้องหนีออกจากเมืองให้เร็วที่สุดและอย่ากลับมาอีกเด็ดขาด”

“ครับ ผมจะหนีไปเดี๋ยวนี้แหละ”

“…”

ไม่นานเสียงสนทนาก็ถูกส่งให้อวี้ฮ่าวหราน ลูกน้องคนนั้นบันทึกเสียงของอีกฝ่ายแล้วส่งให้เขา

“ประธานอวี้ มีคนใส่ร้ายพวกเราจริง ๆ ด้วยครับ!”

หวังจวิ้นขมวดคิ้ว ถึงจะรู้อยู่แล้ว แต่ก็อดตกใจไม่ได้อยู่ดี

วงการธุรกิจนั้นน่ากลัวอย่างมาก แค่ประมาทเพียงเล็กน้อย ทุกอย่างอาจพังลงในพริบตา!

ถ้าอีกฝ่ายทำสำเร็จ ต่อให้เครือฮ่าวหรานจะมั่นคงหรือก้าวหน้าแค่ไหนก็ต้องถูกสั่งปิดทันที

ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนจะต้องถูกจับเข้าคุกแน่นอน

อยู่อย่างตายทั้งเป็น!

“ไม่ต้องห่วง ผมจะจัดการทุกอย่างเอง”

อวี้ฮ่าวหรานเห็นว่าอีกฝ่ายกังวลมาก จึงปลอบโยนเขา

มันเป็นแค่การแสดงเท่านั้น ถ้าครอบครัวเขาไม่อาศัยอยู่โลกมนุษย์ เขาคงไม่มีวันชายตามองพวกตัวตลกอย่างนี้

“มีสายตำรวจรายงานมาว่าถ้าหัวหน้าทีมโจวถูกโยกย้ายแล้ว การเก็บรวบรวมหลักฐานก็ไม่มีปัญหา”

พูดจบ เขาก็หยิบปากกาหมึกซึมบนโต๊ะขึ้นมา

“ไม่มีคำให้การจากพยานบุคคลเหรอครับ?”