บทที่ 86 กำลังเสริม Ink Stone_Fantasy

ภายในถ้ำ มีทางเดินทางยาวคดเคี้ยวไปมามุ่งหน้าสู่วิหารลับใต้ดิน ทุกๆ สิบเมตร มีเชิงเทียนติดผนังกกำแพงหิน แสงเทียนสีเหลืองทำให้บรรยากาศทางเดินขมุกขมัวและดูน่าขนลุกเข้าไปกันใหญ่

ด้วยความเร็วประหนึ่งเงา ลูเซียนมุ่งหน้าไปตามทางเดินอย่างเงียบๆ ยิ่งลึกเข้าไป ก็ยิ่งมืดยิ่งขึ้น

นักบวชหลวงในชุดสีเงินกำลังลาดตระเวนตรวจทางเดินอีกทาง ซึ่งพวกสุนัขรับใช้ศาสนจักรอาจลอบเข้ามาในโบราณสถานร้าง อย่างไรก็ตาม เขาออกจากช่องทางเข้าหลักเป็นคนสุดท้าย เนื่องจากแองโกลากำลังสู้อยู่ด้านนอก ลูเซียนได้โอกาสทองในการลอบเข้าไปตามหาคุกใต้ดิน

แทนที่จะแผ่พลังวิญญาณออกไป ลูเซียนเลือกใช้สัมผัสการฟังอันแม่นยำจับบรรยากาศรอบตัว ดูเหมือนว่าทหารคุ้มกันส่วนใหญ่ออกไปสู้กับเหล่าผู้พิทักษ์ราตรี เนื่องจากลูเซียนไม่ได้ยินเสียงใครพูดหรือเดินอยู่เลย ในรังของพวกนอกรีต เขาต้องระวังตัวเป็นพิเศษในการใช้พลังเหนือธรรมชาติใดๆ ก็ตาม

โบราณสถานร้างใต้ดินมีพื้นที่กว้างขวาง แม้เขาจะศึกษามาแล้วคร่าวๆ จากการสังเกตบรรยากาศใน ‘ลูกแก้วฉายภาพ’ ลูเซียนก็ไม่คาดคิดว่าจะมีโบราณสถานร้างที่มีพื้นที่ใหญ่โตขนาดนี้

พื้นทางเดินราบเสมอขึ้น ลูเซียนเห็นประตูเหล็กตลอดสองข้างทาง ด้วยความลังเลเล็กน้อย เขาไม่มั่นใจว่าควรเปิดประตูบานใกล้ที่สุดตรงหน้าหรือไม่

มือขวาเขาคว้ามือจับประตู ลองขยับดูเบาๆ ลูเซียนไม่รู้เลยว่ามีอะไรรออยู่หลังประตู

ขณะที่กำลังจะหมุนเปิดประตู ลูเซียนได้ยินเสียงคนคุยกัน ดังมาจากอีกประตูหนึ่ง ไม่ไกลจากจุดที่ลูเซียนกำลังยืนอยู่

“เกิดอะไรขึ้นนอกข้าง? นักบวชออกไปหมดเลยหรือไง?” ชายคนหนึ่งถาม เสียงของเขาฟังดูมีความกังวล

“ข้าก็ไม่รู้ว่ามีอะไรกัน เสียงระเบิดดังน่ากลัว” เสียงอีกคนตอบ

หลังจากประเมินความแข็งแกร่งของพวกนอกรีตทั้งสองคนคร่าวๆ ลูเซียนตัดสินใจเปิดประตูพรวดเข้าไปและพุ่งเข้าใส่ทั้งสองคนอย่างไม่ให้ตั้งตัว พวกนอกรีตทั้งสองคนไม่ทันได้เตรียมตัวรับมือการจู่โจมแบบกะทันหัน ชั่วพริบตาเดียวทั้งสองก็ลงไปกองกับพื้น

ปิดประตูไล่หลัง ลูเซียนปลุกสาวกนอกรีตหนุ่มคนหนึ่ง

หลังจากรู้สึกมึนงงสับสนอยู่สักพัก สาวกหนุ่มคนนั้นก็ได้สติรับรู้ว่าเพิ่งเกิดอะไรขึ้นและกำลังจะร้องขอความช่วยเหลือ อย่างไรเสียเขาได้ทำเพียงอ้าปาก ทันทีที่มองตาลูเซียน สติเขาก็หลุดลอย

นัยน์ตาของลูเซียนเต็มไปด้วยดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน ตาของเขาลึกลงไปๆ ราวกับหลุมดำสองหลุม

“เจ้ารู้ไหมว่าครอบครัวยากจนที่ถูกจับมาหลายวันก่อนอยู่ที่ไหน?” ลูเซียนถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาและทุ้มต่ำ

“ทราบขอรับ… ใต้เท้า” สาวกหนุ่มตอบด้วยความเคารพ หลังตกอยู่ในเวท ‘เนตรดารา’ ของลูเซียน และด้วย ‘เนตรดวงดาว’ เป็นมนต์สะกดจิต เวทมนตร์ที่แผ่พลังออกมาจึงเบาบางมาก ยากที่จะถูกจับได้

จากปากคำของสาวกที่ตกอยู่ใต้มนต์สะกดจิต ลูเซียนพอจะจับข้อมูลสำคัญมาได้ วิหารตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของโบราณสถานร้างขนาดใหญ่แห่งนี้ ซึ่งกองกำลังหลักของอาร์เจนต์ ฮอร์น มักจะลาดตระเวนแถวนั้น ส่วนคุกใต้ดินอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ มีอัศวินดำระดับกลางประจำการอยู่หนึ่งนาย พร้อมกับพวกอัศวินฝึกหัดใต้บังคับบัญชาอีกหลายนาย

นอกจากนี้ อันที่จริงโบราณสถานร้างมีมากกว่าหนึ่งชั้นจริง ทว่าหลายๆ ชั้นที่อยู่ใต้ดินถูกทำลายสิ้นซาก ไม่สามารถใช้การได้ต่อไป ขณะที่ชั้นนี้ มีทางเดินรวมๆ แล้วห้าเส้นทางเชื่อมต่อไปยัง ‘ป่าดำ’

เมื่อรู้ว่ากองกำลังหลักอาจหวนกลับมาได้ตลอดเวลา ลูเซียนต้องเร่งลงมือ หลังจากหักคอสาวกนอกรีตทั้งสองคน เขาออกจากห้องนั้นมา อ้อมผ่านวิหารทางฝั่งตะวันตกและมุ่งหน้าไปยังคุกใต้ดินด้วยความเร็วอันเงียบงัน

เมื่อรู้จักโบราณสถานร้างแห่งนี้ดีขึ้น ลูเซียนพอจะสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ไม่นาน เขาก็มาถึงคุกใต้ดิน

คุกใต้ดินมีขนาดค่อนข้างใหญ่ ถูกแบ่งครึ่งด้วยตะแกรงเหล็ก ฟากหนึ่งมีห้องขังประมาณเจ็ดหรือแปดห้อง ส่วนอีกฟากมีอัศวินฝึกหัดสี่นายเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลพูดถึงเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นข้างนอก ถัดไปด้านหลังพวกเขา เครื่องมือทรมานหลากหลายประเภทแขวนอยู่เต็มกำแพง

มีชายแก่คนหนึ่งอยู่ในชุดเกราะหนังดำทมิฬใบหน้าบิดเบี้ยว ช่วงเวลานั้น เขากำลังนั่งอยู่บนม้านั่ง ฟังเสียงการปะทะกันที่เกิดขึ้นข้างนอกและมองไปยังห้องขังอีกฟากหนึ่งด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว ลูเซียนคิดว่าเขาคงเป็น ‘อัศวินดำ’

อัศวินเฒ่ายืนขึ้นพูดอย่างเกรี้ยวกราด “ลากตัวพวกมันมานี่… ไอ้นิ้วด้วนสองคนนั่น ข้าต้องจัดการพวกมัน”

ลูเซียนมีลางสังหรณ์ใจขึ้นมาทันที

“ลอร์ดแจนสัน เรายังฆ่าพวกมันตอนนี้ไม่ได้นะขอรับ!” อัศวินฝึกหัดคนหนึ่งปรามเขา

“เจ้าไม่ต้องมาเตือนข้า!” แจนสันตระโกนโวยวายอย่างหงุดหงิด “ไอ้นักโทษสองคนนั่นมันตัวปัญหา วุ่นวายไปทั้งคุกห่านี่ ข้าต้องถ่อสังขารลากพวกมันไปกระท่อมกลางป่าแทบทุกวัน! พวกนักบวชเห็นข้าเป็นตัวอะไร? สุนัขรับใช้หรือไงวะ?!”

ความฉุนเฉียวเกรี้ยวกราดของแจนสันมาจาก ‘พร’ ของเขา อัศวินฝึกหัดมองหน้ากันเลิกลั่ก จนทหารคนหนึ่งหยิบกุญแจไปเปิดห้องขัง

“เจ้าสองคน ออกมานี่” ทิมเตะโจเอลกับอะลิซ่าที่นอนกองอยู่บนพื้น

โจเอลและอะลิซ่าท่าทางกลัวมาก ส่วนไอเวินมีน้ำตาคลอเบ้ากัดริมฝีปากตัวเองอยู่เงียบๆ ในฐานะเด็กชาย เขาคงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้น

“เร็ว!” ทิมเตะเข้ากลางหลังของโจเอล โซซัดโซเซออกมาจากห้องขัง โจเอลล้มลงกองตรงหน้าแจนสัน

หยิบแส้หนังลงมาจากกำแพง แจนสันฟาดแส้ลงบนโจเอลกับอะลิซ่าอย่างโกรธแค้น “ไอ้ขยะ! ไอ้พวกชั้นต่ำ! ข้าต้องลากพวกเจ้าไปในป่ากทุกวัน!”

ทุกคำที่เขาสบถออกมา แจนสันจะลงน้ำหนักแส้รุนแรงขึ้นๆ

แม้ว่าแจนสันยังยั้งมือไม่ฆ่าโจเอลกับอะลิซ่าเสียตอนนี้ แส้ของเขาก็ทำให้โจเอลกับอะลิซ่ากรีดร้องด้วยความเจ็บปวดสุดขีด และดิ้นทุรนทุรายไปมาบนพื้น

ขณะที่แจนสันเพลิดเพลินกับเสียงกรีดร้อง ลูเซียนกำหมัดแน่นอย่างโกรธแค้น กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างกายเกร็งตัว เขาอยากจะฆ่าพวกชั่วแล้วฉีกเนื้อพวกมันเป็นชิ้นๆ เสียตอนนี้

อย่างไรก็ตาม เขาต้องอดกลั้นเอาไว้ก่อน ทำอะไรพลีพลามอาจทำให้ชีวิตเขาต้องจบลงข้างในนี้ เลิกคิดเรื่องการช่วยชีวิตลุงโจเอลกับครอบครัวไปได้เลย

ซ่อนตัวในเงามืด ลูเซียนกำลังรอจังหวะ

“อีเลีย ผู้พิทักษ์ราตรีพวกนี้มันแข็งแกร่ง” แองโกลาลอยตัวขึ้นกลางอากาศ ส่งกระแสจิตคุยกับนักบวชหลวงนอกรีตอีกรูปด้วยพลังปีศาจ “พวกมันมีของวิเศษดีๆ เยอะ โชคดีที่เราชิงลงมือก่อน ทำลายของวิเศษของพวกมันได้หมด”

ผู้พิทักษ์ราตรีเหลือรอดอยู่ห้าคนเท่านั้น ประกอบด้วย คลาวน์, ซัลวาดอร์ หรือ ‘ผู้คุมกฎ’, อัศวินหลวงหนึ่งนาย, มินสค์ หรือ ‘มังกรแดง’ และบาทหลวงอีกรูปหนึ่ง ส่วนผู้พิทักษ์ราตรีคนอื่นๆ อีกยี่สิบห้าคนถูกฆ่าตายเรียบ บางคนไม่เหลือแม้แต่ศพ ถูกทำลายเกลี้ยง

“อย่าเสียเวลาอีกเลย แองโกลา ฆ่าพวกมันให้หมด แล้วเราต้องทำลายทางเข้า”

เสียงของอีเลียลอยเข้ามาเร่งให้เขาลงมือ

“เอาละ” แองโกลายกมือขึ้นอีกครั้ง มีเงาดำปกคลุม

ครั้งนี้ ท้องฟ้ายามวิกาลพลันกลายเป็นสีน้ำเงินน้ำทะเลอย่างน่าอัศจรรย์ ราวกับมหาสมุทรกับท้องฟ้าสลับตำแหน่งกัน น้ำทะเลในมหาสมุทรลอยอยู่ด้านบน และพายุมวลน้ำมหึมาพุ่งลงมาใส่แองโกลา!

อีเลียสัมผัสได้ถึงพลัง เขายืนตะลึงงัน

คามิล ‘พลังคลื่นสมุทร’

อัศวินอาภา ระดับเจ็ดมาถึงแล้ว!

ลอยตัวในท้องฟ้า พระคาร์ดินัลหลวงสองรูป กอสเซ็ตต์และอะเมลตัน ก็ตามหลังท่านหญิงคามิลมาติดๆ

“ฆ่านักโทษทิ้งให้หมด! ทำลายหลักฐานทั้งหมด! ทุกคนหนีออกไปอีกทาง!” อีเลียสั่งการในทันที

ขณะเดียวกัน เขาร่ายเวทเพื่อทำลายแท่นบูชา แม้ตัวเขาเองจะเป็นนักบวชระดับเจ็ดก็ตาม แต่คงต้านกำลังเสริมของ ‘ศาสนจักร’ ที่มาพร้อมกับพระคาร์ดินัลหลวงสองรูป และอัศวินอาภาไม่ไหว

นอกจากนั้น ซาร์ด ปีศาจที่น่ากลัว อาจจะโผล่มาตอนไหนก็ได้

เมื่อได้รับคำสั่ง แจนสันยกแส้ขึ้นสูงแววตาป่าเถื่อนปรากฏบนหน้า

เมื่อลูเซียนได้ยินเสียงฟาดแส้ดังสนั่นหวั่นไหว เขารู้ว่าถึงเวลาต้องลงมือแล้ว ราวกับเงาสีขาวโปร่งแสง ลูเซียนโผล่พรวดออกมาจากความมืดและพุ่งเข้าใส่อัศวินดำด้วยพละกำลังมหาศาล

……………………………………….