ตอนที่ 98 นอนไม่หลับ (พลิกไปพลิกมา) / ตอนที่ 99 คบกับฉัน

[นิยายวาย] เมื่อบุหรี่ตกหลุมรักไม้ขีดไฟ

ตอนที่ 98 นอนไม่หลับ (พลิกไปพลิกมา)

 

 

ตอนแรกเขายังอยากจะนอนหลับอีกสักหน่อย ตอนนี้กลับไม่มีความรู้สึกง่วงนอนหลงเหลืออยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

 

 

สิ่งที่หลูจื้อพูดเมื่อครู่นี้มันหมายความว่ายังไงกันแน่

 

 

เขาสั่งว่าอยู่ให้ห่างจากซ่งไข่ หรือว่าเขากับซ่งไข่จะเป็นคู่รักกัน?

 

 

ดังนั้นพวกครูฝึกพวกนั้นถึงได้ไม่รู้สึกขัดอะไรกับเรื่องพวกนี้

 

 

แต่ว่ามันไม่น่าจะใช่นะ เพราะพวกครูฝึกแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ค่อยจะต้อนรับซ่งไข่สักเท่าไหร่ ตอนที่เจอเขาต่างก็ดูห่างเหินไม่สนิทใจกันเลย

 

 

หากว่าตามความสัมพันธ์ของพวกเขากับหลูจื้อแล้ว ถ้าเขาเป็นคนรักกับหลูจื้อจริงๆ พวกเขาก็ควรจะยินดีต้อนรับสิถึงจะถูก

 

 

แล้วถ้าไม่ใช่ ทำไมหลูจื้อต้องบอกให้เขาอยู่ให้ห่างจากซ่งไข่ด้วย

 

 

หรือว่าพวกเขารู้กันหมดแล้วว่าซ่งไข่เป็นคนประเภทนั้น?

 

 

ดังนั้นพวกครูฝึกถึงไม่รู้สึกแปลกกับเรื่องพวกนี้?

 

 

ในเมื่อเป็นแบบนี้ ตัวเขาจะอยู่ใกล้หรือว่าออกห่างจากซ่งไข่แล้วมันเกี่ยวอะไรกับหลูจื้อล่ะ?

 

 

เพื่อที่จะกำชับชุยหัง เขาถึงกับไม่โทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของห้องพัก แถมยังหาวิธีการเอาเบอร์โทรศัพท์ของตนมาจนได้ แล้วโทรมาหาตนเองโดยตรงเลยด้วย

 

 

สูญเสียความพยายามมากขนาดนี้ เพื่อจะพูดตักเตือนในสิ่งที่ชุยหังฟังไม่เข้าใจเลยสักนิดหรอ

 

 

เขานอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมาครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนกับแพนเค้กไม่มีผิด คือไม่มีทางที่จะหลับลงได้เลย

 

 

เขาอยากจะโทรกลับไปหาหลูจื้อโดยตรง ถามเขาว่ามันหมายความว่ายังไงกันแน่ แต่ว่าเมื่อครู่นี้เหมือนเขาจะพูดว่าเขาไม่มีเวลามาก คงจะกำลังยุ่งอยู่กับอะไรบางอย่าง ต่อให้ตนโทรกลับไปเขาก็คงจะไม่รับสาย

 

 

เขามองดูเบอร์โทรศัพท์ที่หลูจื้อใช้โทรเข้ามาหาตนเองเมื่อสักครู่นี้ด้วยท่าทีลังเลอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่จะกดบันทึกเข้าไปไว้ในสมุดโทรศัพท์อย่างระมัดระวัง แล้วพิมพ์คำว่า ‘หลูจื้อ’ ตามลงไป

 

 

จากนั้นเขาก็ลองใช้วีแชทของตัวเองเพิ่มเพื่อนใหม่ โดยใช้เบอร์โทรศัพท์ของหลูจื้อค้นหาแต่ผลปรากฏว่าไม่พบบุคคลดังกล่าว

 

 

ดูเหมือนว่าหลูจื้อคงจะไม่ได้เปิดใช้ฟังชั่นการจับคู่เพื่อนจากสมุดบัญชีโทรศัพท์

 

 

เขารู้สึกเหมือนมีต้นหญ้าเกิดขึ้นในใจของเขา ก็คือไม่เข้าใจ คำพูดสั้นๆ ของหลูจื้อเมื่อครู่นี้มันหมายความว่าอะไรกันแน่

 

 

อันที่จริงภายในใจของเขาแอบมีเสียงกระซิบเบาๆ บอกกับเขาว่า บางทีหลูจื้ออาจจะไม่อยากให้ตนเองตกลงปลงใจกับใคร เพราะตอนนี้เขากำลังพิจารณาอยู่ว่าจะลองคบกับตนดูดีไหม

 

 

แต่ทว่าความหวังนี้มันช่างเลือนรางมากเสียจริงๆ

 

 

ดังนั้นขนาดแค่คิดเขาก็ยังไม่กล้าคิดเลย เมื่อครู่ตอนที่ความคิดนี้มันโผล่ขึ้นมาเขาก็อยากจะกดมันเอาไว้ แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะแอบคิดแบบนั้น

 

 

ความรู้สึกขัดแย้งเหมือนทำร้ายตัวเองในใจแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกใจสลาย ตลอดทั้งเที่ยงเขาเอาแต่นอนอยู่บนเตียงคอยเตือนตัวเองตลอดว่าอย่าคิดไปเองฝ่ายเดียว

 

 

ในทางกลับกัน สิ่งที่ซ่งไข่พูดกับเขา ความลำบากใจที่เกิดขึ้นกับเขา ดูเหมือนว่าแทบจะไม่นึกถึงมันอีกเลย

 

 

แสงอาทิตย์หลังช่วงเที่ยงยิ่งเผ็ดร้อนมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะเมืองเอ้อแหล่งเตาไฟใหญ่แบบนี้ ยิ่งทำให้คนรับมือแทบไม่ไหว

 

 

เมื่อไปถึงสนาม พวกเขามองดูบรรยากาศที่อยู่ห่างไกลออกไป ดูเหมือนกับถูกแสงแดดแผดเผาจนบิดเบี้ยวยังไงอย่างนั้น

 

 

ชุยหังเดินตามหลังพวกเขาทุกคนไป เพราะช่วงบ่ายไม่ได้นอนหลับดังนั้นจึงไม่ได้รู้สึกง่วงเพราะนอนไม่พอ แล้วยังรู้สึกว่าความง่วงนอนอ่อนเพลียไม่มีเลย ในทางกลับกันก็เป็นคนที่ดูมีชีวิตชีวามากที่สุดคนหนึ่ง

 

 

ห้องอื่นๆ มองไปแล้วก็เหมือนๆ กัน ต่างก็ดูอืดอาดยืดยาด ทุกคนต่างถอนหายใจออกมาจนดังก้อง

 

 

ด้านครูฝึกทุกคนกลับมีชีวิตชีวาตื่นตัวสุดๆ ที่จริงชุยหังก็แอบสงสัยอยู่นิดหน่อย หรือว่าครูฝึกพวกนี้ทุกวันไม่นอนกลางวันกันเลยหรอ ทำไมทุกครั้งต่างก็มาเร็วกว่าพวกเขามากขนาดนี้ทุกวันเลย

 

 

ไม่ว่าพวกเขาจะมาตอนไหนต่างก็จะเห็นครูฝึกพวกนี้แต่งตัวเต็มยศ สวมหมวกหม้อตาลใบใหญ่ยืนอยู่ใต้แสงอาทิตย์

 

 

รูปร่างของซ่งไข่โดดเด่นชัดเจนที่สุด เดิมทีครูฝึกประจำห้องสองมองไปแล้วดูค่อนข้างอ้วนนิดหน่อย แต่เมื่อเทียบกับซ่งไข่แล้วก็ดูผอมบางลงไปเยอะเลย

 

 

เขายังคงเป็นเหมือนเดิม ขอแค่เห็นมีคนเดินเข้าไปก็จะเรียกให้ไปยืนเข้าแถวตามระเบียบทันที

 

 

นอกจากนี้เขายังจงใจมายืนอยู่ข้างๆ ของชุยหังอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 99 คบกับฉัน

 

 

ชุยหังอยากจะออกห่างจากเขาสักหน่อยแต่ก็รู้สึกเกรงใจจึงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

 

 

หลังจากที่ทุกคนมากันครบแล้ว ซ่งไข่ก็เริ่มออกคำสั่งให้พวกเขาเคลื่อนไหวตามคำสั่ง

 

 

แต่ทว่าวันนี้ดูเหมือนจะแตกต่างออกไป

 

 

ตอนที่พวกเขากำลังฝึกอยู่นั้นก็มีพวกรุ่นพี่หลายคนสวมชุดของมหาวิทยาลัยเดินตรงเข้ามาทางนี้ จากนั้นก็มายืนห้อมล้อมพวกเขาเอาไว้

 

 

บนตัวของพวกเขาบางคนยังแบกกล้องมาด้วย

 

 

เมื่อเห็นว่าพวกชุยหังกำลังฝึกเตะเท้าก็มีคนตั้งใจเดินถือกล้องเข้ามาถ่ายอยู่ข้างๆ เขา

 

 

สำหรับพวกเขาเหล่านี้ ชุยหังพยายามเลือกที่จะไม่หันไปมอง ในเมื่อมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวเขา

 

 

เขาคิดว่า บางทีอาจจะเป็นชมรมนักข่าวหนังสือพิมพ์โรงเรียนล่ะมั้ง

 

 

พวกเขาทำเพื่อให้ได้ข่าว ในเมื่อรุ่นน้องชายหญิงรุ่นใหม่เข้ามาแล้ว พวกเขาหนังสือพิมพ์โรงเรียนย่อมจะต้องแสดงฝีมือทำข่าวเล็กๆ น้อยๆ เสียหน่อย

 

 

ตลอดทั้งบ่ายนี้ พวกเขาทุกคนยังคงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ทว่าเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว หลายวันมานี้นับว่าพวกเขาปรับตัวได้มากแล้ว

 

 

ทางด้านสาขาการจัดการทางทะเลตลอดทั้งสองวันที่ผ่านมาก็ไม่มีผู้หญิงที่เป็นลมแดดอีกเลย ดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดนับว่าผ่านพ้นไปได้แล้ว

 

 

ที่เหลือก็คือต้องอดทนฝึกทหารตลอดช่วงสองสัปดาห์นี้ให้เสร็จสิ้นไปเท่านั้น

 

 

ช่วงพักเบรกคั่นกลางนั้น ซ่งไข่เรียกชุยหังไปคุยอีกแล้ว

 

 

ชุยหังจนปัญญาแต่ก็ไม่มีวิธีอื่น ใครใช้ให้เขาเป็นถึงครูฝึกล่ะ

 

 

“ตอนนี้นายปรับตัวคุ้นชินกับสถานะของฉันแล้วหรือยัง” ซ่งไข่เอ่ยถาม

 

 

ชุยหังพูดขึ้น: “ครับ ครูฝึกซ่งไงครับ”

 

 

“นอกจากครูฝึกล่ะ?” เห็นได้ชัดว่าคำตอบที่ซ่งไข่ต้องการไม่ใช่คำตอบนี้

 

 

ชุยหังครุ่นคิดแล้วพูดว่า: “ถ้าอย่างนั้นก็เพื่อนออนไลน์ไง ถึงแม้ว่าจะเคยคุยนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมากมาย”

 

 

“อืม ฉันคิดว่านายดีพอสมควรเลย” ซ่งไข่กล่าว

 

 

ชุยหังพูดว่า: “ขอบคุณครูฝึกสำหรับคำชมครับ”

 

 

“หรือว่าพวกเราคบกันเถอะ?” ซ่งไข่เอ่ยถาม

 

 

ชุยหังมึนไปแล้ว นี่เป็นชย่าอวี่ชิวอีกคน?

 

 

แต่ว่าเขากับชย่าอวี่ชิวแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นเพื่อนออนไลน์กัน เขาจะต้องรู้จักเข้าใจตนแน่นอน อีกอย่างตัวเขาเองก็เป็นคนที่อยู่ในแวดวงนี้อยู่แล้ว ดูท่าทางเขาคงจะไม่ได้พยายามปิดบังหลบเลี่ยงอะไรมากมายด้วย ไม่อย่างนั้นหลูจื้อคงจะไม่บอกให้ตนอยู่ให้ห่างจากเขาหรอก

 

 

“ผมคิดว่าช่างมันดีกว่าครับ ผมในตอนนี้เป็นแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว” ชุยหังกล่าว

 

 

ซ่งไข่พูดต่อ: “ฉันไม่ได้ล้อนายเล่นนะ ฉันพูดจริงจัง ก่อนหน้านี้ฉันเองก็ประทับใจนายไม่น้อย เพียงแต่ว่าในตอนนั้นไม่ใช่เพราะนายบอกว่ามีแฟนแล้วหรอ ฉันก็เลยไม่ได้พูดอะไร ในเมื่อตอนนี้นายเลิกแล้ว อีกอย่างก็มาอยู่ที่นี่พอดีด้วยอันที่จริงก็เป็นพรหมลิขิตนะ”

 

 

ชุยหังกลับไม่รู้สึกว่านี่เป็นพรหมลิขิตอะไร

 

 

เขาไม่เกลียดซ่งไข่ แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องชอบซ่งไข่นะ

 

 

คนเรายังไงก็ต้องมีมาก่อนมาหลัง อย่างน้อยต่อหน้าเขาหลูจื้อกับชย่าอวี่ชิวต่างก็มาก่อนเขาทั้งนั้น

 

 

ขนาดชย่าอวี่ชิวยังถูกตนผ่านเลย แน่นอนว่าด้านซ่งไข่ก็ต้องไปอยู่หลังๆ เลย

 

 

“ไม่ได้ครับ ตอนนี้ผมไม่คิดอยากจะมีแฟนแล้ว มันเหนื่อยเกินไป” ครั้งนี้ชุยหังไม่ได้รู้สึกลังเลมากเหมือนกับตอนที่ทำกับชย่าอวี่ชิว อีกทั้งยังปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมามากเลยด้วย

 

 

“นายพึ่งจะอายุเท่าไหร่เอง ทำไมทำอย่างกับว่าหมดหวังกับแวดวงนี้แล้วยังไงอย่างนั้นเลย” ซ่งไข่เอ่ยถาม

 

 

ชุยหังพูดตอบ: “ไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนั้นครับ คือในตอนนี้แค่ไม่มีความคิดแบบนั้น”

 

 

“ไม่มีความคิดแบบนั้น หรือเป็นเพราะหลูจื้อ?” ซ่งไข่ถามอย่างตรงไปตรงมา

 

 

ชุยหังงุนงงนิดหน่อยจึงถามว่า: “อะไรคือเป็นเพราะครูฝึกหลู?”

 

 

“หลูจื้อเป็นคนหล่อแล้วก็ยังสง่ามาก แต่เขาไม่ใช่คนแวดวงนี้นายเบี่ยงเบนเขาไม่ได้ ถ้าหากเขาสามารถเบี่ยงเบนได้คงจะเบนไปนานแล้ว ยังจะวนมาถึงนายหรอ”

 

 

เมื่อฟังคำพูดของซ่งไข่แล้วชุยหังเอาแต่รู้สึกว่าเหมือนเขาจะเคยเบี่ยงเบนหลูจื้อมาแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จยังไงอย่างนั้น

 

 

แต่ทว่าดูจากท่าทางของหลูจื้อแล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวด้านนี้เลย