บทที่ 415 เดินหมากผิด

บทที่ 415 เดินหมากผิด

“พี่เขย… ผมขอลาออกแล้วกลับบ้าน…ทันไหม?”

หลี่จิงเทียนพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทา

อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจอีกฝ่าย เขามองกัวหย่งซินที่ยืนอยู่ข้างหน้าด้วยความสนใจอย่างมาก

“พูดอีกอย่างว่าคุณคือคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?”

“โธ่! อย่าพูดจาเหลวไหลสิ ไม่งั้นผมจะฟ้องคุณข้อหาหมิ่นประมาทนะครับ!”

กัวหย่งซินแสดงสีหน้าขำขันพร้อมปฏิเสธทันควัน

“หึหึ! ผมรู้ว่าในห้องนี้มีเครื่องบันทึกเสียงอยู่ คุณจะแบล็กเมล์ผมสินะ? คุณคิดว่าผมอายุสามขวบเหรอ!”

พูดจบ ห้องทำงานของอวี้ฮ่าวหรานก็ตกอยู่ในความเงียบ

“พี่เขย… เราจะทำยังไงกันดี?!”

หลี่จิงเทียนมีสีหน้าตื่นตระหนก ตอนนี้เขารู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก

“ผมไม่อยากกลับไปอยู่ในคุก ผมไม่ได้ทำอะไรผิด… ผมเพิ่งออกมา…”

“หุบปาก!”

อวี้ฮ่าวหรานที่เคยอารมณ์ดีกลับโมโหหลังจากได้ยินอีกฝ่ายคร่ำครวญอย่างขี้ขลาด

ผู้ชายอย่างหลี่จิงเทียนไม่ต่างอะไรกับเศษสวะไร้ประโยชน์ โชคดีที่เขาไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายคนนี้ในการทำธุรกิจ

“โอ้ ประธานอวี้ยังมีแรงตะคอกอยู่เหรอครับ”

กัวหย่งซินมีสีหน้าเย้ยหยัน ก่อนนั่งลงบนโซฟา

“จริงสิ เฮ้อ…คนจะตายก็ปากเก่งอย่างนี้ล่ะ”

“คุณพูดอะไร!”

หวังจุนรู้สึกโมโหเล็กน้อย ต่อให้พวกเขาจะเป็นฝ่ายผิดจริง ๆ แต่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับความตายเลย

“ฮ่า ๆ แกกล้าขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ?”

กัวหย่งซินยิ้มชำเลืองมองอีกฝ่ายขณะยิ้มมุมปากด้วยความเย้ยหยัน

“ผมกลัวว่าคุณจะถูกตัดสินโทษหนักน่ะสิ จุ๊ ๆ…คนงานนับสิบชีวิต…ผมบอกได้แค่ชาติหน้าอย่าไปขัดขาใครเข้าล่ะ”

ทันใดนั้นเสียงไซเรนก็ดังขึ้นที่ชั้นล่างสุดราวกับอีกฝ่ายสามารถได้ยินคำพูดเขา

“หืม? มาเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?!”

กัวหย่งซินได้ยินดังนั้นก็มีสีหน้าพึงพอใจอย่างมาก เขารีบลุกยืนขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่าง ก่อนชะโงกดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“จุ๊ ๆ หนึ่งคัน สองคัน…รถตำรวจมาที่นี่เก้าคัน ประธานเครือฮ่าวหรานยิ่งใหญ่จริง ๆ”

หลังจากนับรถตำรวจคร่าว ๆ เขาก็หันกลับมามองสามคนในห้องและอดเยาะเย้ยไม่ได้

น่าเสียดายที่กัวหย่งซินไม่รู้ตัวว่าอวี้ฮ่าวหรานและหวังจุนกำลังมองเขาเป็นเหมือนคนโง่เง่า

ไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็วิ่งเข้าไปในตึกเครือฮ่าวหราน และไม่กี่นาทีต่อมาพวกเขาก็มาถึงชั้นบนสุดของตึก!

ระหว่างทางที่ตำรวจเข้าไปในตึก พนักงานเครือฮ่าวหรานทั้งหลายรู้สึกว่าจุดจบของบริษัทใกล้มาถึงแล้ว…

เมื่อวานสำนักข่าวประโคมข่าวร้ายที่เกิดขึ้นทั้งวัน และวันนี้ตำรวจหลายนายก็บุกมาที่บริษัท ซึ่งมันชัดเจนอย่างมาก!

“จบแล้ว…จบเห่แล้ว บริษัทเราต้องถูกปิดแน่ ๆ!”

“เกิดอะไรขึ้น! ฉันเพิ่งได้งานที่มั่นคงเองนะ”

“ประธานเป็นคนดีขนาดนี้ เขาจะทำเรื่องแบบนั้นได้ยังไง?”

“…”

พนักงานทุกคนต่างวิจารณ์ด้วยความตื่นตระหนก

ตอนนี้เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างเร่งรุดเข้าไปข้างในตึกอย่างรวดเร็ว! ผู้ที่ออกคำสั่งคือเจียงอวิ๋นที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดูแลคดีที่เกิดขึ้น

“ขออนุญาตแนะนำตัวครับ! ผมชื่อเจียงอวิ๋น เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ครับ”

“หือ? ทำไม…”

กัวหย่งซินรู้สึกงงงวยเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าของอีกฝ่าย

แต่ไม่นานก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นสงบนิ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนี้อีกฝ่ายกำลังจะถูกจับ แล้วจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันได้ยังไง?

“ฮ่า ๆ ดีแล้วที่พวกคุณมา! รีบเข้าไปจับคนเลวไร้จิตสำนึกเถอะครับ!”

ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนสีหน้า ก่อนตะโกนเสียงดัง

“เฮ้อ สามคนนี้ ประธานบริษัท ผู้จัดการทั่วไป รองผู้จัดการทั่วไป พวกคุณต้องลงโทษเขาให้หนักนะครับ!”

กัวหย่งซินรู้สึกภาคภูมิใจอย่างมากจนแทบจะล้นออกมาจากปาก

และเป็นอีกครั้งที่เขาไม่รู้ตัวว่าเจียงอวิ๋นและเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านหลังกำลังมองเขาเป็นตัวตลก…

แต่กลับเป็นหลี่จิงเทียนที่ตกตะลึง

อีกฝ่ายมาถึงเร็วเกินไป…เขาไม่มีโอกาสแม้แต่จะวิ่งหนี

“ผม… เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม… ผมไม่เกี่ยวจริง ๆ”

ตอนนี้หลี่จิงเทียนตื่นตระหนกจนแทบควบคุมสติไม่อยู่ เขาเพิ่งจะออกจากคุกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกได้ไม่นาน แต่ตอนนี้ต้องกลับเข้าไปอีกแล้วเหรอ?!

เจียงอวิ๋นมีสีหน้าสับสนอย่างมาก เขาไม่รู้ว่าทำไมหนึ่งในผู้ชายคนนั้นถึงมีสีหน้าตื่นตระหนก

แต่ตอนนี้เรื่องนั้นมันไม่สำคัญ!

“คุณอวี้ เรารู้สึกเสียใจอย่างมากสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางสำนักงานขอยืนยันว่าจะชดใช้ค่าเสียหายอย่างแน่นอนครับ”

พูดจบ เขาก็โค้งคำนับเพื่อขอโทษชายที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม

อวี้ฮ่าวหรานไม่ติดใจเอาความ เพราะรู้ว่าทันทีที่เจอสิ่งผิดปกติ อีกฝ่ายก็รีบไปสถานที่เกิดเหตุทันที

“ครับ ผมจะรอดู”

แต่กัวหย่งซินกลับตกตะลึงเมื่อเห็นอย่างนั้น

“คุณ…คุณทำอะไร?!”

สมองของเขาถึงกับขาวโพลน ไม่รู้ว่าจะตอบสนองกับสิ่งที่เกิดขึ้นยังไง

“หัวหน้าเจียง ทำไมคุณถึงขอโทษฆาตกรพวกนี้? จับพวกมันสิ! จับพวกมันไปขังคุกเดี๋ยวนี้!”

เขาตะคอกด้วยความโมโห แต่เจ้าหน้าที่ทั้งหลายกลับมองมาที่เขาด้วยสายตาสมเพช

ขณะเดียวกันเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดก็วิ่งเข้าไปล้อมกัวหย่งซินเอาไว้

เจียงอวิ๋นหันมองชายร่างอ้วนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ใบหน้าของเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเย็นชาและน่ากลัวกว่าเดิม

“จับเขาเหรอ? คุณคิดว่าพวกผมโง่มากใช่ไหม?”

เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย หลังจากหัวหน้าทีมโจวรับสารภาพ เขาก็อดรังเกียจคนคนนี้ไม่ได้!

เขาพลาดที่พยายามใส่ร้ายนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงอย่างอวี้ฮ่าวหราน

และเขาต้องชดใช้ให้ผู้เสียชีวิตกว่าสิบคนอย่างสาสม!

“แก…พวกแกจะทำอะไร?”

กัวหย่งซินรู้ตัวแล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“คนร้ายอยู่ตรงโน้น! พวกแกเอาแต่จ้องฉันทำไม”

“ฮ่า ๆ ขอโทษนะครับ! แต่เป้าหมายที่พวกเราต้องจับกุมคือคุณ! คุณกัว”

เจียงอวิ๋นมีสีหน้าเย้ยหยันพร้อมหัวเราะเยาะ

“หา? จับ…จับฉัน?”

กัวหย่งซินอึ้งทันที เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยินเลย

“ไม่! ให้หัวหน้าโจวมาคุยกับฉัน! เรียกเขามา!”

เขาตะโกนออกมาเหมือนกับนึกเรื่องบางอย่างได้ แต่ตอนนี้ใบหน้าของเจียงอวิ๋นกลับฉายแววสมเพช

“คุณต้องการเจอหัวหน้าทีมโจวเหรอ? คุณจะคุยกับเขาเรื่องที่ตกลงกันไว้ใช่ไหมครับ?”

เหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจค่อย ๆ เดินเข้าไปประชิดตัวกัวหย่งซิน

“ไม่ต้องห่วง! ไม่ต้องห่วงครับ อีกสักพักคุณจะได้เจอเขาแน่”

พอพูดจบ เจียงอวิ๋นก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณ ทันใดนั้นกัวหย่งซินจึงรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น!

แผนล่ม!

พูดอีกอย่างคือมีนายตำรวจระดับสูงเข้ามาแทรกแซง!

หลังจากปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมด สีหน้าไม่สบอารมณ์ของเขาก็เปลี่ยนตกตะลึงทันที

“ไม่! เป็นไปไม่ได้… ทุก…ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้ว!”

เมื่อเห็นว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เขาก็ควบคุมสติไม่ได้อีกต่อไป

“พวกแก! หยุดไอ้พวกนั้นเดี๋ยวนี้!”

พอถูกเปิดโปง แววตาของกัวหย่งซินก็ฉายแววดุร้าย ก่อนตะโกนสั่งลูกน้องให้โต้กลับทันควัน!

ทันทีที่ได้ยินคำสั่ง บอดี้การ์ดเหล่านั้นก็ยืนนิ่งขณะมองเจ้านายด้วยสายตาเวทนา