แดนนิรมิตเทพ บทที่ 348
ทุกคนพยักหน้าพร้อมกัน ปฏิกิริยาตอบสนองช้า

จากนั้นทุกคนก็ตะโกนออกมาอย่างตกใจพร้อมกัน “ตายหมดแล้ว?”

“เป็นไปได้ยังไงกัน? ใครฆ่าพวกเขา?” เฉินจิงเย่ถามอย่างสงสัย

นายอำเภอเหมยและนายพันหวางเองก็สงสัย กำลังของโจรพวกนั้นพวกเขาได้เคยเห็นมาเองแล้ว แม้แต่กระสุนปืนปกติก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ แล้วใครสามารถฆ่าพวกเขาได้หมดกันละ?

หลี่ซู่เฟินเคยเห็นเฉินซงจื่อฆ่าปรมาจารย์ตระกูลหลี่ในงานการประชุมสูงสุดฮ่านหยางมาก่อน จึงไม่รู้สึกตกใจกับสิ่งนี้

แต่พวกนายอำเภอเหมยเหมือนว่าจะไม่ค่อยเชื่อ จึงบอกให้เฉินโม่พาตัวเอียนชิงเฉิงและเวินฉิงกลับเข้าไปพักในเต็นท์ก่อน จากนั้นก็เข้าไปสำรวจในบ้านด้วยตัวเอง

เมื่อเห็นสภาพในบ้าน นอกจากนายพันหวางแล้ว นายอำเภอเหมยและพ่อแม่ของเฉินโม่ต่างก็อาเจียนออกมา

เลือดนองมากเกินไปแล้ว!

เมื่อกลับเข้าเต็นท์ สีหน้าของนายอำเภอเหมยดูอึดอัดเล็กน้อย “คุณเฉินครับ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีความผิด แต่ยังไงก็สมควรจะมอบให้กับทางรัฐจัดการนะครับ!อีกอย่างในนั้นยังมีอีกหลายคนที่มีความผิดไม่ถึงขั้นต้องตายนะครับ!”

แม้แต่เฉินจิงเย่ก็เห็นด้วยกับความคิดของนายอำเภอเหมยมากกว่า ยังไงซะทั้งสองคนก็เป็นผู้ที่เติบโตมาในโลกมนุษย์ จึงให้ความสำคัญกับเรื่องการฆ่าคนอย่างมาก

เฉินโม่สีหน้าเรียบเฉย น้ำเสียงเย็นชา “ฉันรู้สึกเพียงแค่ว่าฆ่าไม่พอด้วยซ้ำ!”

“หากฆ่าได้มากกว่านี้ ก็จะไม่มีคนกล้ามาแตะต้องญาติพี่น้องเพื่อนของฉันเฉินโม่คนนี้อีก ฉันจะให้ทุกคนได้รับรู้ ว่าหากแตะต้องญาติพี่น้องของฉัน จะมีจุดจบยังไง!”

นายอำเภอเหมยฟังแล้วรู้สึกหวาดกลัว เจตนาฆ่าในคำพูดของเฉินโม่เห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่คำขู่เท่านั้น

เพียงแต่เขาไม่เข้าใจ จากฐานะเด็กนักเรียนมัธยมปลายของเฉินโม่ ทำไมถึงได้มีเจตนาฆ่าที่รุนแรงขนาดนี้?

คนก็ฆ่าไปแล้ว แม้ว่านายอำเภอเหมยและนายพันหวางจะไม่ค่อยพอใจนัก รู้สึกว่าเฉินโม่ทำเกินเหตุ แต่ทั้งสองคนก็ไม่ใช่คนโง่ ไม่มีทางยอมมีปัญหากับเฉินโม่เพราะคนตายพวกนั้น

ถือซะว่าตายด้วยอาวุธของกองทัพแล้วกัน!

อีกอย่างคนพวกนั้นส่วนมากแล้วก็เป็นพวกนักบู๊ จัดการก็ง่าย และเบื้องบนก็คงไม่เอาความอะไร

“เรื่องหลังจากนี้ก็รบกวนนายอำเภอเหมยจัดการด้วยนะครับ ฉันพาพวกเธอกลับไปพักผ่อนก่อนละ”

“คุณเฉินเดินทางปลอดภัยครับ!” นายอำเภอเหมยบอกลาอย่างให้เกียรติ

มองดูแผ่นหลังที่ครอบครัวเฉินโม่จากไป นายอำเภอเหมยถอนหายใจ “เมื่อก่อนที่ทุกคนให้เกียรติตระกูลเฉิน บางทีอาจจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเฉินโม่และตระกูลจิน แต่หลังจากนี้ การกระทำที่ทุกคนมีต่อตระกูลเฉิน คงจะเปลี่ยนจากให้เกียรติเป็นหวาดกลัวแล้วละ”

นายอำเภอเหมยแอบคิดในใจ ตระกูลเฉิน ห้ามมีปัญหาด้วยเด็ดขาด

เมื่อเฉินโม่กลับถึงบ้าน ก็รักษาซังซังที่ถูกเจ้าสำนักน้อยทำร้าย ยังดีที่เจ้าสำนักน้อยเป็นพวกวิกลจริต จึงไม่ได้ฆ่าซังซัง เฉินโม่ใช้ยาเสริมจิตเพียงเม็ดเดียวก็รักษาซังซังจนหายดีแล้ว

เมื่อปลอบขวัญเวินฉิงและเอียนชิงเฉิงเรียบร้อยแล้ว เฉินซงจื่อก็ได้พาเนี่ยเสี่ยวเชี่ยนกลับมาถึง เมื่อได้รับรู้ว่าเวินฉิงถูกเจ้าสำนักน้อยจับตัวไป เฉินซงจื่อเองก็แอบเหงื่อตกเช่นกัน

คืนวันนั้น เฉินจิงเย่และหลี่ซู่เฟินเรียกเฉินโม่ไปที่ห้องนอน แล้วปิดประตูเริ่มการสอบถาม

เมื่อผ่านอันตรายครั้งนี้ เฉินโม่ที่เดิมทีคิดจะเปิดเผยตัวตนผู้บำเพ็ญเซียนของตัวเอง ก็ยกเลิกที่จะบอก เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกับพ่อแม่ ตัวตนผู้บำเพ็ญเซียนของตัวเองเก็บเป็นความลับไว้ก่อนดีแล้ว

สุดท้าย เฉินโม่ก็โยนเรื่องทุกอย่างไปที่เฉินซงจื่อ บอกว่าเฉินซงจื่อสอนความสามารถให้กับตัวเองเล็กน้อย ดังนั้นจึงสามารถฆ่าพวกเจ้าสำนักน้อยพวกนั้นได้

เมื่อได้รับชัยชนะในครั้งนี้ เฉินจิงเย่ก็พอได้ยินเรื่องโลกฝึกบู๊มาบ้าง แต่ไม่รู้ถึงระดับขั้นของพวกนักบู๊ จึงเชื่อคำพูดของเฉินโม่อยู่บ้าง

ค่ำคืน เฉินโม่หยิบเอาหยกรวมสารที่ค้นมาได้จากเจ้าสำนักน้อยออกมา แบ่งออกเป็นสามส่วน แล้วก็นำมากลั่นเป็นหยกแขวนคุ้มกันให้กับเฉินจิงเย่ เวินฉิงและเอียนชิงเฉิงคนละชิ้น มอบให้กับทั้งสามคน และย้ำชัดว่าให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลา

เวินฉิงและเอียนชิงเฉิงเชื่ออย่างไม่สงสัยใดๆ แต่เฉินจิงเย่กลับไม่เชื่อว่าหยกชิ้นเล็กๆเพียงชิ้นเดียวจะมีประโยชน์อะไร แต่ถูกหลี่ซู่เฟินต่อว่าด่าทอ จึงสวมใส่อย่างเชื่อฟัง

วันต่อมา ปีใหม่วันที่สิบหก โรงเรียนตี้ยีแห่งอู่โจวเปิดเรียนมาหลายวันแล้ว

หลี่ซู่เฟินพาเวินฉิงกลับไปที่ฮ่านหยาง พวกเฉินจิงเย่เอียนชิงเฉิงทั้งสี่คนเองก็รีบกลับไปยังอู่โจว