ตอนที่ 1335 สุสานที่หายไป (5)
สายตาที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ของจวินอู๋เสียดึงดูดความสนใจของพวกเฉียวฉู่
“เสี่ยวเสีย มองอะไรอยู่น่ะ?” เฉียวฉู่ลุกขึ้นนั่ง กลีบดอกไม้ติดเต็มตัวไปหมด
“เจ้าเดาหัวใจของเด็กสาวไม่ออกหรอก” เฟยเหยียนกระซิบขณะมองไปที่มงกุฎดอกไม้บนหัวของจวินอู๋เสีย จากนั้นก็แอบชำเลืองมองไปที่หรงรั่ว ก่อนจะเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ออกมาจากก้านจำนวนหนึ่ง แล้วนั่งอยู่เงียบๆท่ามกลางทุ่งดอกไม้ สองมือของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“โอ้ เรื่องของหัวใจเด็กสาว ข้าคงรู้ไม่มากเท่าเจ้าจริงๆ เหยียนเอ๋อร์……” เฉียวฉู่พูดอย่างมีนัย แกล้งลากเสียงที่พยางค์สุดท้าย
เฟยเหยียนกลอกตาใส่เขา แล้วยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองต่อไป
เขาไม่มีเวลามายุ่งกับเจ้าทึ่มนั่นหรอก!
“เจ้าเห็นอะไรเหรอ?” หรงรั่วถามพร้อมกับเดินเข้าไปหาจวินอู๋เสีย เท่าที่นางรู้จักจวินอู๋เสียมา ทุ่งดอกไม้ตรงหน้าพวกเขาไม่มีทางกระตุ้นความสนใจจวินอู๋เสียได้มากขนาดนั้นหรอก แล้วนางก็มีท่าทางปกติมาตลอด ทำไมจู่ๆถึงจ้องมองไปข้างหน้าแบบนั้นล่ะ?
จวินอู๋เสียไม่พูดอะไร แต่เอามงกุฏดอกไม้ออกจากหัวมาถือไว้ในมือ สายตายังคงจ้องนิ่งอยู่ที่เดิม
เสี่ยวเจว๋ก้มหน้าด้วยความเศร้า เขาคิดว่า “พี่ชายตัวน้อย” ไม่ชอบมงกุฎดอกไม้
“ดูนี่ซิ” จู่ๆจวินอู๋เสียก็ยกมือขึ้นและชี้ไปยังทิศทางที่ตัวเองมองอยู่
เหนือทุ่งดอกไม้ มีมงกุฎดอกไม้อีกอันลอยอยู่กลางอากาศ มงกุฎดอกไม้นั้นทำออกมาไม่สวยเลย ถักออกมาแบบหลวมๆ เหมือนอันที่อยู่ในมือของจวินอู๋เสียเป๊ะ
“เกิดอะไรขึ้น?!” หรงรั่วพูดอย่างประหลาดใจ นางตกใจเล็กน้อยจากภาพที่เห็นตรงหน้า
มงกุฎดอกไม้ลอยได้ มันแปลกเกินไปแล้ว และพอจวินอู๋เสียขยับมงกุฎดอกไม้ในมือ มงกุฎดอกไม้อีกอันก็ขยับตาม!
“กระจกลวงตา!” ฟ่านจั๋วอุทาน ลุกพรวดขึ้นมาและกระโจนสองก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างๆจวินอู๋เสีย
“กระจกลวงตา?” จวินอู๋เสียถามอย่างสงสัย
“ข้าก็ไม่ค่อยรู้หรอก แต่เคยได้ยินแม่ของข้าพูดถึง แต่ก็จำไม่ได้แล้ว” ฟ่านจั๋วดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ จากนั้นเขาก็หันไปมองจวินอู๋เหยาที่อยู่ด้านข้างทันที
“พี่ใหญ่อู๋เหยา ท่านรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่?”
จวินอู๋เหยาเดินมาข้างๆจวินอู๋เสียและมองดูปรากฏการณ์แปลกประหลาดนั่น แต่ก็ไม่มีคำถามใดๆในสายตาของเขา เขาหยิบเอามงกุฎดอกไม้จากมือของจวินอู๋เสีย และท่ามกลางสายตาจ้องมองอย่างกระวนกระวายของเสี่ยวเจว๋ เขาโยนมันขึ้นไปในอากาศทันที
พอมงกุฏดอกไม้สีม่วงถูกโยนขึ้นไป มันก็แตกกระจายออก กลีบดอกไม้ร่วงหล่นกระจัดกระจายลงมาอย่างช้าๆ ราวกับเกล็ดหิมะตกลงมา
และอีกฝั่งหนึ่งก็เกิดภาพอย่างเดียวกันขึ้น
เหมือนกันเป๊ะเลย!
“กระจกสะท้อนจันทร์” จวินอู๋เหยายิ้มมุมปาก เขาก้มหน้ามองจวินอู๋เสีย
“นี่คือเขตแดนชนิดหนึ่งเหมือนที่เราเคยเจอก่อนหน้านี้ แต่อันนี้ซับซ้อนกว่านิดหน่อย มันจะสะท้อนภาพสิ่งต่างๆได้ และอันนี้น่าจะสะท้อนแต่ภาพของพืชเท่านั้น”
มันเป็นภาพเดียวกันอย่างแน่นอน แต่มีแค่ภาพสะท้อนของมงกุฎดอกไม้ให้เห็นเท่านั้น ไม่มีภาพของจวินอู๋เสียและคนอื่นๆเลย ราวกับว่ามีพลังบางอย่างเอาภาพของพวกเขาออกไป
จวินอู๋เสียใจเต้นแรงขึ้นมาทันที นางวิ่งขึ้นไปข้างหน้า
ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ทันใดนั้นนางก็รู้สึกถึงแรงกดดันแปลกๆบางอย่างที่หยุดนางเอาไว้ไม่ให้ไปข้างหน้าต่อได้!
เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นป้องกันไม่ให้นางผ่านไป
จวินอู๋เสียใจเต้นแรง นางยกมือขึ้นและวางมือลงบนกำแพงที่ไร้รูปร่างนั้น ภายใต้ฝ่ามือของนาง นางรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่แข็งและเย็นของหิน!
สุสานจักรพรรดิแห่งความมืด!