บทที่ 314
หลัวตานรอยยิ้มเต็มใบหน้า แววตาที่มองพวกฉู่สิงเป็นมิตรมาก

“พวกคนน่าสนใจ”

พึมพำออกมาหนึ่งประโยค หลัวตานพูดต่อ “ในเมื่อศิษย์พี่ของนายตกลงแล้ว ลู่ฝานงั้นเราตกลงกันแล้ว สองวันหลังจากนี้ ต่อสู้ครั้งเดียวตัดสินแพ้ชนะที่ผาเหลยถิง ไม่มีผู้ชม ไม่มีใครรบกวน”

ลู่ฝานวางชามเหล้าลง พูดอย่างราบเรียบว่า “เอาตามที่พี่ต้องการ”

หลัวตานยิ้มแล้วพยักหน้า จากนั้นหันหลังเดินออกไป

บทสนทนาของพวกเขาสองคน มีคนจำนวนมากได้ยิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผ่านวันนี้ไป คนทั้งสถาบันสอนวิชาบู๊ต้องรู้เรื่องที่ลู่ฝานคณะหนึ่งเดียวกับหลัวตานคณะฟ้าร้องต่อสู้กัน

งานเลี้ยงดำเนินไป 1-2 ชั่วยาม ตอนที่กำลังจะจบ

อาจารย์เซินถูลุกออกจากที่นั่งเงียบๆ จากนั้นเดินไปที่ประตูหลังโถงใหญ่บู๊

ลู่ฝานเห็น หลังจากทักทายอาจารย์อี้ชิง เขาก็เดินออกไป

เดินไปทางประตูด้านหลัง มีนักเรียนคณะกำแหงทักทายลู่ฝานเป็นระยะ

ลู่ฝานพยักหน้าเป็นการตอบกลับ จากนั้นเดินออกจากโถงใหญ่บู๊

เมื่อเดินออกมา เสียงโหวกเหวกเบาลงไม่น้อย เมื่อมองออกไป เห็นต้นไม้ ดวงจันทร์อยู่บนฟ้า ดวงดาวเต็มท้องฟ้า

เดินตามทางเดินหินเล็กๆ ไปด้านหน้า สุดทางของคณะเป็นประตูบานหนึ่ง ทำจากทองสำริด ไม่มีลวดลายใดๆ ดูธรรมดาทั่วไป

เมื่อเปิดประตู เห็นแสงจากด้านหลังประตูแบบรางๆ

ลู่ฝานเปิดประตูเบาๆ แล้วเดินเข้าไป เห็นอาจารย์เซินถูนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะหิน พร้อมใบหน้าที่มีรอยยิ้ม

“มาสิลู่ฝาน”

อาจารย์เซินถูกวักมือเรียก เขาดื่มจนหน้าแดงระเรื่อ ตอนนี้ข้างตัวยังมีไหเหล้าวางอยู่

ลู่ฝานนั่งลงตรงข้ามอาจารย์เซินถู ประตูสำริดด้านหลังเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด จากนั้นก็ปิดลง

อาจารย์เซินถูหยิบแก้วมาใบหนึ่ง เป็นแก้วเคลือบดินเผา ด้านบนมีลวดลาย เป็นเครื่องเคลือบที่ผ่านการทำมาอย่างดี

เหล้าสีใสสะท้อนดวงจันทร์ จนเกิดแสงระยิบระยับ ดมแล้วไม่มีกลิ่นหอมอะไร

“ดื่มสิ มีประโยชน์กับนาย!”

อาจารย์เซินถูยิ้มแล้วดื่มเองก่อน

ลู่ฝานยกแก้วเหล้าดื่มรวดเดียวจนหมด

เหล้าผ่านลำคอ กลายเป็นคลื่นความร้อน ลู่ฝานหน้าแดงเล็กน้อย รู้สึกว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์พุ่งไปทั่วร่างกาย เหมือนได้กินยาชั้นดีอย่างไรอย่างนั้น เริ่มมีเสียงดังเบาๆ ออกมาจากตัว

เหล้าแก้วหนึ่งลงสู่ท้อง ลู่ฝานรู้สึกว่าพลังปราณของตัวเองเพิ่มขึ้นกว่าเท่า

ประสิทธิภาพระดับนี้ ดีกว่ายาชีวิตทั่วไป

“เหล้าดี!”

ลู่ฝานพูดออกมา อ้าปากพ่นคลื่นความร้อนออกมา

แววตาอาจารย์เซินถูดูตกใจเล็กน้อย ลู่ฝานดื่มไปแก้วใหญ่ แต่ดูเหมือนไม่เป็นไรเลย

เขาจำได้ว่าครั้งก่อนให้เฉียวเซวียนดื่มแก้วนี้ไป เฉียวเซวียนโดนฤทธิ์แอลกอฮอล์จนตัวสั่น

เซินถูไม่รู้ว่าลู่ฝานเคยดื่มยาที่แรงกว่าเหล้านี้ ยาที่อาจารย์หวูเฉินทำให้เขา มีอะไรบ้างที่ไม่รุ่มร้อนทรมาน ลู่ฝานชินไปนานแล้ว

เหล้าแค่นี้จะทำให้เขาขาดสติ ไม่มีทางอยู่แล้ว

อาจารย์เซินถูประเมินลู่ฝานสูงขึ้นอีกแล้ว

“ลู่ฝาน นายเล่นหมากรุกเป็นไหม”

อาจารย์เซินถูชี้ไปที่โต๊ะด้านหน้า ลู่ฝานจึงเห็นว่าบนโต๊ะหิน สลักเป็นกระดานหมากรุก ขณะเดียวกัน ตัวหมากก็วางอยู่เรียบร้อยแล้ว

ลู่ฝานพูดอย่างราบเรียบว่า “รู้นิดหน่อยครับ แต่ความสามารถด้านหมากรุกไม่มาก”

อาจารย์เซินถูยิ้มแล้วพูดว่า “รู้นิดหน่อยก็โอเคแล้ว มาเล่นเป็นเพื่อนฉันสักตาสิ”

ลู่ฝานพยักหน้า สายตามองไปที่กระดานหมากรุก

แม้ไม่เข้าใจว่าอาจารย์เซินถูเรียกเขามา เพราะแค่ต้องการให้เล่นหมากรุก แต่ในเมื่ออาจารย์เซินถูพูดแล้ว เล่นสักตาจะเป็นไรไป