รองอาจารย์ซูมองขึ้นบนหน้าจอปรากฏผลคะแนนกลางลานสนามรบ พร้อมเสียหัวเราะ “ขอบคุณพวกท่านมากที่ค่อยเตือนสติฉัน ตอนนี้เหมือนว่าสถานการณ์กำลังพลิกแพลง”
“เป็นไปไม่ได้!” รองอาจารย์ยูเบิกตาโพง “เด็กสาวคนนี้อายุเพียงสิบหกงั้นหรอ? แต่เธออยู่ในระดับเก้าด้วยอายุเพียงสิบหกปี!?”
เขาตบต้นขาตัวเองและพูดขึ้น “มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร!?”
“นั่นสิ!” รองอาจารย์เจียงพูดขึ้นเสียงดัง “บางทีท่านอาจใช้วิธีพิเศษเพื่อเร่งการฝึกฝนของพวกเขา นี่ท่านซู! ท่านกำลังโกงพวกเราเพื่อให้สำนักหลิงหยวนชนะการสอบระดับชาติในครั้งนี้!”
“ไร้สาระ!” รองซูพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “นี่ท่านกำลังกล่าวหาข้าและใส่ความสาวกของข้า หากตรวจสอบแล้วไม่พบความยุติธรรม ทูลขอให้พระองค์ทรงตัดสินเลย”
ในขณะเดียวกันจักรพรรดิผู้นั่งอยู่ในหมู่พวกเขาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “กำลังภายในของเธอนั่นบริสุทธฺืและชอบธรรม เธอมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ ที่ดาจินมีคนมีความสามารถเช่นนี้ พวกท่านนั่งลงได้”
“ท่านได้ยินด้วยหรือ ..” รองอาจารย์ของสามสำนักมองหน้ากันเลิ่กลักก่อนจะหันกลับไปนั่งที่ตัวเอง
ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต นาหลันฮงวูชี้นิ้วไปที่หน้าจอยักษ์ เขาหัวเราะพลางตักไอติมเข้าปาก “ดูท่านจักรพรรดิ! ดวงตาของท่านเกือบเปลี่ยนเป็นสีเขียว!”
มีเพียงนาหลันฮงวูนักรบผู้นำชั้นสูงที่อยู่ในยุคเดียวกับจักรพรรดิองค์ก่อนหน้านี้ เขาจึงกล้าที่จะพูดแบบนี้ ต่างจากคนอื่นๆ ที่หัวเราะเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“เจ้าของร้าน ท่านรู้จักเทคนิคการควบคุมดาบด้วยหรือ?” ผู้คนรอบตัวหันมองไปที่ฟางฉี “มาจากร้านของท่าหรือ?” มูตงไลมองหน้า “นอกจากการต่อสู้ระยะประชิดแล้ว ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร้านของท่านมีเทคนิคการควบคุมดาบที่ยอดขนาดนี้”
“นี่ท่าน ท่านเป็นเจ้าของร้านอะไรกันแน่!?” ในที่สุดเจ้าหญิงก็เริ่มตระหนักว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หรือว่าเขาอาจจะขายน้ำทิพย์? หรือจะขายสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณ? แต่ใครเล่าจะไปรู้กันละว่าเขาอาจจะขายเทคนิคดังกล่าวก็เป็นได้!
“ร้านของท่านมีเทคนิคการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ทุกแบบเลยหรือไม่?” องค์ชายสองเอ่ยถาม “พวกเขาซื้อเทคนิคการควบคุมดาบจากร้านของท่านหรือ?”
ถึงตอนนี้ทุกคนเริ่มเห็นแล้วว่าเทคนิคการควบคุมดาบนี้อัศจรรย์และสามารถเพิ่มระยะการโจมตีให้แก่นักรบ!
แน่นอนพวกเขาส่วนมากไม่รู้มาก่อนว่าสาวกของสำนักหลิงหยวนเองก็เพิ่งได้เรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบเมื่อไม่นอนมานี้ หากฟางฉีใช้มันให้ทุกคนดูอาจทำให้ทุกคนประหลาดใจกว่านนี้
“ด้วยเทคนิคการควบคุมดาบนี้ นักรบจะใช้มันอย่างไม่ต้องเป็นกังวลกับคู่ต่อสู้จากแดนอื่นใด” ชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีดำพูดด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง “ท่านฟาง เทคนิคการควบคุมดาบมาจากร้านของท่านอย่างงั้นหรือ?”
“แน่นอนสิ” ฟางฉีกอดออก “พวกท่านอยากเดินทางไปที่ร้านของข้ามั้ยละ?”
“มันมีราคาเท่าไร?” องค์ชายสองถาม
“ยี่สิบคริสตัล ข้ามั่นใจได้เลยว่าพวกท่านจะประทับใจ”
“…”
“!?”
ผู้คนรอบๆ อ้าปากค้าง มองหน้ากัน
นี่เขาล้อเล่นใช่มั้ย? ทำไมมั่นใจอะไรขนาดนั้น!?
[ฮ่าๆ เซียนกระบี่พิชิตมารในราคายี่สิบคริสตัลไง]
[มาลองดูสิ นอกจากเทคนิคการควบคุมดาบแล้วยังมีสกิลอีกมากมายนับไม่ถ้วน มันเพียงพอที่พวกท่านจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันแน่นอน]
สำหรับผู้เล่นในคาเฟ่ บางคนที่ยังไม่เคยซื้อเกมเซียนกระบี่พิชิตมารเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างตะโกน “เราจะซื้อ ตอนนี้!”
“มันชื่อเกมอะไร?” มูตงไลเอ่ยถามเนื่องจากคุ้นเคยกับคาเฟ่นี้มาก่อน
“เซียนกระบี่พิชิตมาร!”
มูตงไลหัวเราะ “ข้าต้องใช้เวลาเล่นสักหน่อยแล้ว แม้จะยุ่งแค่ไหนข้าก็ต้องหาเวลาไปให้ได้ ..พวกท่านละ จะไปกับข้ามั้ย?”
“หืมม? โอ้อืมมม” คนอื่นทำหน้าสับสน แต่ก็พยายามรักษาภาพพจน์ตัวเองไว้
…
“เซียนกระบี่พิชิตมารในราคายี่สิบครัสตัลหรอ?” เหลียงเฮอฟู่จากเฉิงจิ้งทำหน้าเศร้าหลังจากมองหน้าเหล่าสาวกผู้ได้รับความพ่ายแพ้ “นี่มันเป็นผลลัพธ์จากยี่สิบคริสตัลหรือ?”
– ณ ลานกว้างในสนามรบ –
“นี่เป็นเทคนิคการควบคุมดาบหรอ?”
“ใช่ ข้าจะบอกให้ว่ามันมีราคายี่สิบคริสตัล ขอโฆษณาให้เจ้าของร้านหน่อย ..”
“ข้าเคยได้ยินมาแล้ว!” เซียวเลงชูพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “หลังจากผ่านการสอบครั้งนี้ไปแล้ว ฉันจะต้องไปจัดการกับเซียนกระบี่พิชิตมารซะแล้ว!”
“ผู้ชนะคือ นาหลันหมิงสื่อ!”
“ฮ่าๆๆ เธอฉลาดมาก!”
“มาเร็วข้าจะสอนพวกเขาผ่านการเล่นเกมเอง” เซียวหยูตะโกนโอ้ขณะชมการถ่ายทอดสด
“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สาวกคนอื่นๆ ของสำนักหลิงหยวนเราจะมีเทคนิคที่ทรงพลังพอๆ กับเธอ” เหล่าสาวกพูดคุยกันถึงนาหลันหมิงสื่อและเพื่อนร่วมสำนัก
สถานการณ์เริ่ม้ปลี่ยนไป สำนักอื่นก็เช่นกันพวกเขาเริ่มมีความวิตกกังวลเล็กน้อย
“อย่าคิดจะท้ายทายพวกเขา แม้เขาจะมีอันดับต่ำกว่าก็ตาม!”
เสียงประกาศในจอดังขึ้นอีกครั้ง ..
“หลิวหยุนศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านหวังจากสำนักซียี่ ได้ขอท้าทายซูเหลียวศิษย์หมายเลขแปดของบ้านหวังจากสำนักหลิงหยวน!”
“…”
“ผู้ชนะคือ ซูเหลียว!”
“หวังเซียงศิษย์หมายเลขสองของบ้านหวังจากสำนักเฉิงจิ้งขอท้าทายหวังใต้สำดับสุดท้ายของบ้านหวังจากสำนักหลิงหยวน!”
“…”
“ผู้ชนะคือ หวังใต้!”
“เยเฟ่งหัวศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านซวนจากสำนักซียี่ ขอท้ายทายเฉินชิงชิงศิษย์หมายเลขสามของบ้านซวนจากสำนักหลิงหยวน”
“ผู้ชนะคือ เฉินชิงชิง”
“ไงละท้าทายคนที่มีอันดับต่ำกว่า” เสียงบ่นจากคนในคาเฟ่ที่กำลังนั่งดูการถ่ายทอดสดด้วยความสะใจ
แต่ละครั้งที่เสียงประกาศผลดังขึ้น ทุกคนในสนามจต่างตกตะลึง
“ยิงซงซวนศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านสวรรค์จากสำนักซียี่ขอท้าทายเกาซงศิษย์หมายเลขห้าของบ้านสวรรค์จากสำนักหลิงหยวน!”
“…”
“ผู้ชนะคือ เกาซง!”
“!!??”
อีกครั้งที่ได้ยินผลลัพท์ ทุกคนตัวแข็งราวกับรูปปั้น
แม้แต่ผู้อ่านประกาศเองก็แทบไม่เชื่อสายตา
ตอนนี้จักรพรรดิแห่งดาจินที่นั่งอยู่ในที่สูงสุดดูมีอาการงงงวยไม่ต่างจากคนอื่นๆ
“พวกเขามาจากที่ไหนกัน!?”
“ศิษย์จากสำนักหลิงหยวน พวกเขาใช้เทคนิคอะไรกัน?”
เสียงพูดคุยฮือฮา ..
ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต
“ฮ่าๆ พวกเจ้าดันมาท้าทายพ้องเพื่อนของเราเอง ไม่รู้ตัวเอากันซะเล้ย!”
“ทำไมทุกคนจากสำนักหลิงหยวนถึงได้ดูสนุกกันขนาดนี้” ตงชิงลี่ยืนมองหน้าจอด้วยความรู้สึกอยากร่วมสนุกด้วย
ย้อนกลับไปยังที่นั่งของฟางฉี เขากล่างด้วยน้ำเสียงร่าเริง “พวกเขาแข็งแรงกันจริงๆ”
“พี่หญิงไม่ต้องกังวล! เรายังมีน้องชายห้าของเรา!” องค์ชายสองปลอบโยนองค์หญิงด้วยน้ำเสียงปลุกพลัง “น้องห้าของเรามีคะแนนสะสมมากมายจากสำนักเฉิงจิ้ง เขาต้องเพิ่มความหวังและปกป้องคะแนนของเขาได้แน่”
ในฐานะศิษย์เก่าของเฉิงจิ้งเองเขาหวังว่าเฉิงจิ้งจะต้องได้รับรางวัลแน่นอน
“ที่พี่พูดก็มีเหตุผล!” เมื่อองค์หญิงได้ยินเช่นนั้นเธอเริ่มมีสติอีกครั้ง “เราต้องมั่นใจในฝีมือของเขา!”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เสียงประกาศก็ต้องขึ้นอีกครั้ง “ซูฉีซินศิษย์หมายเลขสองของบ้านซวนจากสำนักหลิงหยวนขอท้ายทายศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านโลกจากสำนักเฉิงจิ้ง!”
องค์หญิงตาโตเหมือนไข่ห่าน “…” เธอทำท่าทีไม่ค่อยอยากเชื่อกับเสียงประกาศเท่าไรนัก
“…” องค์ชายสองก็เช่นกัน
เมื่อมองดูบนหน้าจอประกาศคะแนน อาจารย์จากสองสำนักทั้งซียี่และเฉิงจิ้งต่างมีสีหน้าที่ดูมืดมน
ณ คาเฟ่
“ฮ่าๆ จัดการพวกเขาให้ราบคราบ!”
“ง่ายเหมือนหั่นเนื้อหมู!”
“อีกสองสำนักคงต้องยกธงขาวขึ้นแล้วละ”
…