ตอนที่ 156

Black Tech Internet Cafe System

รองอาจารย์ซูมองขึ้นบนหน้าจอปรากฏผลคะแนนกลางลานสนามรบ พร้อมเสียหัวเราะ “ขอบคุณพวกท่านมากที่ค่อยเตือนสติฉัน ตอนนี้เหมือนว่าสถานการณ์กำลังพลิกแพลง”

 

“เป็นไปไม่ได้!” รองอาจารย์ยูเบิกตาโพง “เด็กสาวคนนี้อายุเพียงสิบหกงั้นหรอ? แต่เธออยู่ในระดับเก้าด้วยอายุเพียงสิบหกปี!?”

 

เขาตบต้นขาตัวเองและพูดขึ้น “มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร!?”

 

“นั่นสิ!” รองอาจารย์เจียงพูดขึ้นเสียงดัง “บางทีท่านอาจใช้วิธีพิเศษเพื่อเร่งการฝึกฝนของพวกเขา นี่ท่านซู! ท่านกำลังโกงพวกเราเพื่อให้สำนักหลิงหยวนชนะการสอบระดับชาติในครั้งนี้!”

 

“ไร้สาระ!” รองซูพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “นี่ท่านกำลังกล่าวหาข้าและใส่ความสาวกของข้า หากตรวจสอบแล้วไม่พบความยุติธรรม ทูลขอให้พระองค์ทรงตัดสินเลย”

 

ในขณะเดียวกันจักรพรรดิผู้นั่งอยู่ในหมู่พวกเขาพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “กำลังภายในของเธอนั่นบริสุทธฺืและชอบธรรม เธอมีศักยภาพที่ยอดเยี่ยม ช่างเป็นเรื่องน่ายินดีจริงๆ ที่ดาจินมีคนมีความสามารถเช่นนี้ พวกท่านนั่งลงได้”

 

“ท่านได้ยินด้วยหรือ​ ..” รองอาจารย์ของสามสำนักมองหน้ากันเลิ่กลักก่อนจะหันกลับไปนั่งที่ตัวเอง

 

ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต นาหลันฮงวูชี้นิ้วไปที่หน้าจอยักษ์ เขาหัวเราะพลางตักไอติมเข้าปาก “ดูท่านจักรพรรดิ! ดวงตาของท่านเกือบเปลี่ยนเป็นสีเขียว!”

 

มีเพียงนาหลันฮงวูนักรบผู้นำชั้นสูงที่อยู่ในยุคเดียวกับจักรพรรดิองค์ก่อนหน้านี้ เขาจึงกล้าที่จะพูดแบบนี้ ต่างจากคนอื่นๆ ที่หัวเราะเบาจนแทบไม่ได้ยิน

 

“เจ้าของร้าน ท่านรู้จักเทคนิคการควบคุมดาบด้วยหรือ?” ผู้คนรอบตัวหันมองไปที่ฟางฉี “มาจากร้านของท่าหรือ?” มูตงไลมองหน้า “นอกจากการต่อสู้ระยะประชิดแล้ว ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าร้านของท่านมีเทคนิคการควบคุมดาบที่ยอดขนาดนี้”

 

“นี่ท่าน ท่านเป็นเจ้าของร้านอะไรกันแน่!?” ในที่สุดเจ้าหญิงก็เริ่มตระหนักว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น หรือว่าเขาอาจจะขายน้ำทิพย์? หรือจะขายสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณ? แต่ใครเล่าจะไปรู้กันละว่าเขาอาจจะขายเทคนิคดังกล่าวก็เป็นได้!

 

“ร้านของท่านมีเทคนิคการต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ทุกแบบเลยหรือไม่?” องค์ชายสองเอ่ยถาม “พวกเขาซื้อเทคนิคการควบคุมดาบจากร้านของท่านหรือ?”

 

ถึงตอนนี้ทุกคนเริ่มเห็นแล้วว่าเทคนิคการควบคุมดาบนี้อัศจรรย์และสามารถเพิ่มระยะการโจมตีให้แก่นักรบ!

 

แน่นอนพวกเขาส่วนมากไม่รู้มาก่อนว่าสาวกของสำนักหลิงหยวนเองก็เพิ่งได้เรียนรู้เทคนิคการควบคุมดาบเมื่อไม่นอนมานี้ หากฟางฉีใช้มันให้ทุกคนดูอาจทำให้ทุกคนประหลาดใจกว่านนี้

 

“ด้วยเทคนิคการควบคุมดาบนี้ นักรบจะใช้มันอย่างไม่ต้องเป็นกังวลกับคู่ต่อสู้จากแดนอื่นใด” ชายชราที่สวมเสื้อคลุมสีดำพูดด้วยน้ำเสียงลึกซึ้ง “ท่านฟาง เทคนิคการควบคุมดาบมาจากร้านของท่านอย่างงั้นหรือ?”

 

“แน่นอนสิ” ฟางฉีกอดออก “พวกท่านอยากเดินทางไปที่ร้านของข้ามั้ยละ?”

 

“มันมีราคาเท่าไร?” องค์ชายสองถาม

 

“ยี่สิบคริสตัล ข้ามั่นใจได้เลยว่าพวกท่านจะประทับใจ”

 

“…”

 

“!?”

 

ผู้คนรอบๆ อ้าปากค้าง มองหน้ากัน

 

นี่เขาล้อเล่นใช่มั้ย? ทำไมมั่นใจอะไรขนาดนั้น!?

 

[ฮ่าๆ เซียนกระบี่พิชิตมารในราคายี่สิบคริสตัลไง]

 

[มาลองดูสิ นอกจากเทคนิคการควบคุมดาบแล้วยังมีสกิลอีกมากมายนับไม่ถ้วน มันเพียงพอที่พวกท่านจะเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันแน่นอน]

 

สำหรับผู้เล่นในคาเฟ่ บางคนที่ยังไม่เคยซื้อเกมเซียนกระบี่พิชิตมารเมื่อได้ยินเช่นนั้น พวกเขาต่างตะโกน “เราจะซื้อ ตอนนี้!”

 

“มันชื่อเกมอะไร?” มูตงไลเอ่ยถามเนื่องจากคุ้นเคยกับคาเฟ่นี้มาก่อน

 

“เซียนกระบี่พิชิตมาร!”

 

มูตงไลหัวเราะ “ข้าต้องใช้เวลาเล่นสักหน่อยแล้ว แม้จะยุ่งแค่ไหนข้าก็ต้องหาเวลาไปให้ได้ ..​พวกท่านละ จะไปกับข้ามั้ย?”

 

“หืมม? โอ้อืมมม” คนอื่นทำหน้าสับสน แต่ก็พยายามรักษาภาพพจน์ตัวเองไว้

 

 

“เซียนกระบี่พิชิตมารในราคายี่สิบครัสตัลหรอ?” เหลียงเฮอฟู่จากเฉิงจิ้งทำหน้าเศร้าหลังจากมองหน้าเหล่าสาวกผู้ได้รับความพ่ายแพ้ “นี่มันเป็นผลลัพธ์จากยี่สิบคริสตัลหรือ?”

 

–  ณ ลานกว้างในสนามรบ  –

 

“นี่เป็นเทคนิคการควบคุมดาบหรอ?”

 

“ใช่ ข้าจะบอกให้ว่ามันมีราคายี่สิบคริสตัล ขอโฆษณาให้เจ้าของร้านหน่อย ..”

 

“ข้าเคยได้ยินมาแล้ว!” เซียวเลงชูพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนัก “หลังจากผ่านการสอบครั้งนี้ไปแล้ว ฉันจะต้องไปจัดการกับเซียนกระบี่พิชิตมารซะแล้ว!”

 

“ผู้ชนะคือ นาหลันหมิงสื่อ!”

 

“ฮ่าๆๆ เธอฉลาดมาก!”

 

“มาเร็วข้าจะสอนพวกเขาผ่านการเล่นเกมเอง” เซียวหยูตะโกนโอ้ขณะชมการถ่ายทอดสด

 

“ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่า สาวกคนอื่นๆ ของสำนักหลิงหยวนเราจะมีเทคนิคที่ทรงพลังพอๆ กับเธอ” เหล่าสาวกพูดคุยกันถึงนาหลันหมิงสื่อและเพื่อนร่วมสำนัก

 

สถานการณ์เริ่ม้ปลี่ยนไป สำนักอื่นก็เช่นกันพวกเขาเริ่มมีความวิตกกังวลเล็กน้อย

 

“อย่าคิดจะท้ายทายพวกเขา แม้เขาจะมีอันดับต่ำกว่าก็ตาม!”

 

เสียงประกาศในจอดังขึ้นอีกครั้ง ..

 

“หลิวหยุนศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านหวังจากสำนักซียี่ ได้ขอท้าทายซูเหลียวศิษย์หมายเลขแปดของบ้านหวังจากสำนักหลิงหยวน!”

 

“…”

 

“ผู้ชนะคือ ซูเหลียว!”

 

“หวังเซียงศิษย์หมายเลขสองของบ้านหวังจากสำนักเฉิงจิ้งขอท้าทายหวังใต้สำดับสุดท้ายของบ้านหวังจากสำนักหลิงหยวน!”

 

“…”

 

“ผู้ชนะคือ หวังใต้!”

 

“เยเฟ่งหัวศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านซวนจากสำนักซียี่ ขอท้ายทายเฉินชิงชิงศิษย์หมายเลขสามของบ้านซวนจากสำนักหลิงหยวน”

 

“ผู้ชนะคือ เฉินชิงชิง”

 

“ไงละท้าทายคนที่มีอันดับต่ำกว่า” เสียงบ่นจากคนในคาเฟ่ที่กำลังนั่งดูการถ่ายทอดสดด้วยความสะใจ

 

แต่ละครั้งที่เสียงประกาศผลดังขึ้น ทุกคนในสนามจต่างตกตะลึง

 

“ยิงซงซวนศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านสวรรค์จากสำนักซียี่ขอท้าทายเกาซงศิษย์หมายเลขห้าของบ้านสวรรค์จากสำนักหลิงหยวน!”

 

“…”

 

“ผู้ชนะคือ เกาซง!”

 

“!!??”

 

อีกครั้งที่ได้ยินผลลัพท์ ทุกคนตัวแข็งราวกับรูปปั้น

 

แม้แต่ผู้อ่านประกาศเองก็แทบไม่เชื่อสายตา

 

ตอนนี้จักรพรรดิแห่งดาจินที่นั่งอยู่ในที่สูงสุดดูมีอาการงงงวยไม่ต่างจากคนอื่นๆ

 

“พวกเขามาจากที่ไหนกัน!?”

 

“ศิษย์จากสำนักหลิงหยวน พวกเขาใช้เทคนิคอะไรกัน?”

 

เสียงพูดคุยฮือฮา ..

 

ณ คาเฟ่อินเตอร์เน็ต

 

“ฮ่าๆ พวกเจ้าดันมาท้าทายพ้องเพื่อนของเราเอง ไม่รู้ตัวเอากันซะเล้ย!”

 

“ทำไมทุกคนจากสำนักหลิงหยวนถึงได้ดูสนุกกันขนาดนี้” ตงชิงลี่ยืนมองหน้าจอด้วยความรู้สึกอยากร่วมสนุกด้วย

 

ย้อนกลับไปยังที่นั่งของฟางฉี เขากล่างด้วยน้ำเสียงร่าเริง “พวกเขาแข็งแรงกันจริงๆ”

 

“พี่หญิงไม่ต้องกังวล! เรายังมีน้องชายห้าของเรา!” องค์ชายสองปลอบโยนองค์หญิงด้วยน้ำเสียงปลุกพลัง “น้องห้าของเรามีคะแนนสะสมมากมายจากสำนักเฉิงจิ้ง เขาต้องเพิ่มความหวังและปกป้องคะแนนของเขาได้แน่”

 

ในฐานะศิษย์เก่าของเฉิงจิ้งเองเขาหวังว่าเฉิงจิ้งจะต้องได้รับรางวัลแน่นอน

 

“ที่พี่พูดก็มีเหตุผล!” เมื่อองค์หญิงได้ยินเช่นนั้นเธอเริ่มมีสติอีกครั้ง “เราต้องมั่นใจในฝีมือของเขา!”

 

ก่อนที่เธอจะพูดจบ เสียงประกาศก็ต้องขึ้นอีกครั้ง “ซูฉีซินศิษย์หมายเลขสองของบ้านซวนจากสำนักหลิงหยวนขอท้ายทายศิษย์หมายเลขหนึ่งของบ้านโลกจากสำนักเฉิงจิ้ง!”

 

องค์หญิงตาโตเหมือนไข่ห่าน “…” เธอทำท่าทีไม่ค่อยอยากเชื่อกับเสียงประกาศเท่าไรนัก

 

“…” องค์ชายสองก็เช่นกัน

 

เมื่อมองดูบนหน้าจอประกาศคะแนน  อาจารย์จากสองสำนักทั้งซียี่และเฉิงจิ้งต่างมีสีหน้าที่ดูมืดมน

 

ณ​ คาเฟ่

 

“ฮ่าๆ จัดการพวกเขาให้ราบคราบ!”

 

“ง่ายเหมือนหั่นเนื้อหมู!”

 

“อีกสองสำนักคงต้องยกธงขาวขึ้นแล้วละ”