ตอนที่ 24 เครื่องมือล่าสมบัติ

สวรรค์ลิขิตข้าให้เป็นตัวร้าย I Am the Fated Villain

ไม่ช้า ทุกคนในโถงก็ได้รับความตกใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่หรือผู้เยาว์ พวกเขาอดเบิกตากว้างไม่ได้พอเห็นชายหนุ่มปรากฏตัวเหนือพวกเขา

เขาปรากฏตัวออกจากอากาศธาตุ โดยปราศจากความผันผวนสักนิด!พวกเขารู้สึกราวกับเขาไม่มีอยู่ เป็นเพียงภาพมายา

ชายหนุ่มมีสีหน้าสงบและไม่แยแส เขาสวมชุดดำไร้เครื่องประดับ แต่เสน่ห์ที่ติดตัวมาโดยกำเนิดมอบความรู้สึกสูงส่งให้เขาโดยไม่ต้องใส่ของหรูหรา

ด้านหลังเขาคือประมุขไท่เสวียนกับผู้หญิงในชุดขาวที่มีผ้าคลุมครึ่งหน้า เรือนร่างของนางมากพอจะดึงความสนใจของชายหนุ่มหลายคน

“ประมุขไท่เสวียน..”

“ท่านหญิงไท่เสวียน…นางคือสาวงามอันดับหนึ่งแห่งแดนบูรพา..”

“ไม่น่าแปลก!’

“เราขอทำความเคารพคุณชาย!”

ทันทีทันใด ทุกคนในโถงต่างก้มหัว พวกเขาอดแสดงความเคารพอย่างมากต่อชายผู้ยิ่งใหญ่ตรงหน้าไม่ได้

จ้าวเทียน ฉู่อู่จื่อ เซียวฮ่าวกับคนอื่นจากรุ่นชราตกใจมากสุด พลังของคุณชายกู่ตรงหน้าพวกเขายากจะหยั่งถึงจริงๆ มากจนพวกเขาประเมินอาณาจักรบ่มเพาะเขาไม่ออก

มันทำให้พวกเขารู้สึกกลัวราวกับกำลังจ้องหลุมไร้ก้นบึ้ง!

“ไม่จำเป็นต้องมีมารยาทกันนัก!”

กู่ฉางเกอตอบสบายๆ

เขาย่อมไม่ปฏิเสธถ้าคนขอให้เขาแสดงหน้าต่อหน้าคนอื่น เหนือสิ่งอื่นใด มันช่วยให้เขานำขุมอำนาจของแดนบูรพามารวมได้เนื่องจากส่วนใหญ่ค่อนข้างสนิทสนมกับเย่เฉิน

สำหรับคนอย่างเขา มันเป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการกับเย่เฉิน ตราบเท่าที่เขาพูดสักคำ ไม่มีใครในหมู่คนเหล่านี้ที่จะกล้าไปคบค้าสมาคมกับเย่เฉินอีก

พวกที่บรรลุเต๋าจะช่วยได้กว่าพวกที่ไม่บรรลุ!

[พลังคือสิ่งถูกต้อง]

กู่ฉางเกออยากเห็นว่าโชคของเย่เฉินจะอยู่ไปนานสักแค่ไหน

หลังจากนั้น ทุกคนก็แนะนำตัว ประจบให้มากสุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อมอบความประทับใจอันดีแก่กู่ฉางเกอ อย่างไรก็ตาม กู่ฉางเกอขาดความสนใจในพวกเขาและรักษาสีหน้าสงบตลอด ในทางกลับกัน ความคิดของเขายังลอยล่องไปที่หน้าต่างสถานะ

สำหรับเย่เฉิน มันไม่นานก่อนเขาจะโดนบดขยี้ เม็ดยารวมวิญญาณนั่นไม่ง่ายขนาดนั้น กู่ฉางเกอได้ทิ้งเคล็ดวิชาลับที่บันทึกไว้ใน[วิชาเซียนปีศาจกลืนกิน]ลงไปด้วย

หยานจีอาจพบความผิดปกติถ้านางอยู่ในสภาพสูงสุด แต่ด้วยสภาพปัจจุบัน มันเป็นไปไม่ได้ที่นางจะมองเห็น

ด้วยความสูงส่งของวิชาเซียนปีศาจกลืนกิน กู่ฉางเกอไม่กังขาพลังของเคล็ดวิชาลับที่บันทึกไว้ภายในมัน

เย่เฉินจะไปไหนได้?

เขาไม่ต่างอะไรกับเครื่องมือล่าสมบัติสำหรับกู่ฉางเกอ

ไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกตินี้ ตอนนี้ เปลือกตาของเขาลดลงขณะจิบชา

โชคดี อารมณ์ของเขาเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ตราบเท่าที่เขาไม่ยิ้ม คนอื่นก็จะเกรงขามเขา

มันคือสิ่งที่พวกเขาเรียกกันว่าบารมี!

พอเห็นแบบนี้ ทุกคนในโถงก็รู้สึกกลัวและระมัดระวังกว่าเดิม ไม่มีใครกล้าตอแยนายน้อยคนนี้

แทบทุกคนต้องพยายามเอาใจกู่ฉางเกออย่างระมัดระวังโดยการถามเขาว่าเหตุใดถึงลงมาอาณาจักรเบื้องล่าง หรือเขามีงานอดิเรกแบบไหน

กู่ฉางเกอเพลิดเพลินกับการที่มีคนประจบ การเป็นวายร้ายช่างสุดยอด!

ทุกคนในโถงสามารถเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ของซูชิงเกอกับกู่ฉางเกอคือเหตุผลที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไท่เสวียนสามารถเกาะขากู่ฉางเกอได้แน่น สมญานามสาวงามอันดับหนึ่งแห่งแดนบูรพาไม่ได้มาแบบปากเปล่า ซูชิงเกอครองใจชายหนุ่มหลายคนจริงๆ!

พวกตาแก่หลายคนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพวกเขามีทายาทที่โดดเด่นแบบนี้ในตระกูลบ้างจะเป็นไง?น่าเสียดาย พวกเขาไม่มีคนที่หน้าตาโดดเด่นเท่าซูชิงเกอ ไม่ช้าพวกเขาก็ได้แต่ล้มเลิกความคิดนั้น

ตอนนี้ สายตาของกู่ฉางเกอหยุดที่สาวงามในฝูงชน และยืนขึ้นถาม“เจ้าชื่ออะไร?”

“อา!ท่านกำลังพูดกับข้าหรือ?”

สาวงามผู้นั้นตอบด้วยความตกใจ หลายคนอดอิจฉานางไม่ได้ที่โดนกู่ฉางเกอถาม มันนับเป็นเกียรติอ่างมากที่โดนคุณชายตั้งคำถาม!

ทำไมเขาถึงพบว่านางดูคุ้นๆ?

“เจ้ากับข้าเคยพบกันมาก่อนไหม?เจ้ามีความสัมพันธ์ยังไงกับเย่เฉิน?”

กู่ฉางเกอถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“อา…เย่เฉิน..”

ศิษย์ที่ชื่อหวังเสวี่ยพบว่าตัวเองพูดไม่ออกตอนได้ยินคำถามนี้

“เสวี่ยเอ๋อร์ คุณชายกำลังถามเจ้า!”

อาจารย์ของนางวิตกเสียยิ่งกว่านางซะอีก หวังว่านางจะพูดคำดีๆออกมา

“คุณชาย เย่เฉินคืออดีตคู่หมั้นของข้า ข้าได้ยกเลิกการหมั้นของข้ากับเขาไปสามปีก่อน..”

“ตอนท่านอยู่ที่ขอบของแดนต้องห้ามหมื่นอสูร และสังหารสัตว์อสูรที่น่าสะพรึงกลัวในขอบเขตราชาเซียนด้วยการตวัดกระบี่เพียงครั้งเดียว ข้าบังเอิญเฝ้ามองจากระยะไกล ข้าได้รับการช่วยเหลือโดยท่าน เช่นนั้น..”

หวังเสวี่ยบังคับให้ตัวนางเองสงบลงและรีบอธิบาย

อดีตคู้หมั้นของเย่เฉินที่ยกเลิกการหมั้นกับเขาเมื่อสามปีก่อน?

และนางก็บังเอิญถูกเขาช่วยไว้?

กู่ฉางเกอค้นผ่านความทรงจำและไม่ช้าก็พบคำตอบ เมื่อไม่นานมานี้ ตัวเขาคนก่อนได้ไปแดนต้องห้ามหมื่นอสูรเพื่อดูว่าจะพบสมบัติที่นั่นไหม

แต่เขาก็ไม่พบอะไร

ไม่น่าแปลกที่ผู้หญิงนางนี้จะมีความชื่นชมต่อเขาอย่างลึกซึ้งในสายตา ความชื่นชมนี้เกิดขึ้นก่อนเขาข้ามโลกมา

[เฮือก]

‘เขาฆ่าสัตว์อสูรระดับราชาเซียนด้วยการตวัดกระบี่เพียงครั้งเดียว..’

คนในโถงอดหลั่งเหงื่อเย็นไม่ได้พอได้ยินคำพูดของหวังเสวี่ย จ้าวเทียน ฉู่อู่จื่อกับพวกตาเฒ่ายิ่งกลัวกว่า หนังศีรษะพวกเขาชาด้านไปหมด

พวกเขาสงสัยว่าพวกเขาหูฝาดหรือเปล่า?

คุณชายผู้นี้มีพลังมากแค่ไหนกัน?

เหล่าผู้อาวุโสอาณาจักรเซียนสามารถเดินทางได้หลายพันลี้ ส่วนเซียนศักดิ์สิทธิ์สามารถเป็นประมุขของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีอาณาเขตทอดยาวเป็นล้านลี้ได้ในแดนบูรพา สำหรับราชาเซียน…พวกเขาไม่มีอยู่ และถือได้ว่าไร้เทียมทาน

การจะหาราชาเซียนเจอ หรือแม้แต่ร่องรอย มันต้องเดินทางไปในแดนต้องห้ามอย่างแดนต้องห้ามหมื่นอสูร

นี่ไม่ได้หมายความว่าตัวตนที่ยิ่งใหญ่สุดในแดนบูรพากลับไม่แม้แต่จะต้านกระบี่เดียวจากคุณชายกู่ได้?

ไม่มีใครกังขาคำพูดของหวังเสวี่ย!

แม้แต่ซูชิงเกอก็ยังตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางรับรู้ถึงพลังแท้จริงของกู่ฉางเกอ ต่อหน้าเขา คนรุ่นเยาว์ของแดนบูรพาไม่ต่างอะไรจากมด

ความกลัวเกาะกุมหัวใจทุกคน และความเคารพต่อกู่ฉางเกอก็ยิ่งลึกล้ำ

‘สวรรค์เมตตา!ดีที่ข้าไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับเย่เฉินมาก่อน ข้าต้องไม่ปล่อยให้หลานสาวข้าติดต่อกับเขาอีกในอนาคต..’

‘เย่เฉินผู้นั้นคือคนที่ตายไปแล้ว!กล้าดียังไงถึงไปยั่วยุคนแบบนี้?’

เหงื่อเย็นไหลลงแผ่นหลังของผู้อาวุโสสูงสุดหยางสวี่และก็ขอบคุณสวรรค์ในใจ เขาเกือบรนหาที่ตาย