ใครๆ ก็รู้ว่าระเบิดอสุนีบาตอานุภาพเป็นอย่างไร!
แม้แต่ชาวเผ่าเฮ่อเฮ่อที่ดุร้ายก็ยังพ่ายแพ้แก่อานุภาพนี้
ชิวเยี่ยไป๋แลดูเขาอย่างเย็นชา ดูท่านางประเมินความสามารถและความลึกซึ้งของคุณชายตระกูลเหมยต่ำไปหน่อย
นี่เป็นบุรุษที่ทระนง เป็นความทระนงของราชันผู้ยืนอยู่บนทุกจุดสูงสุดในแวดวงของตนเอง
นางย่อมรู้ดีว่าบุรุษเยี่ยงนี้ต้องการอะไร เขาต้องการให้พวกนางยอมถูกจับแต่โดยดี แต่ถ้าไม่ยอมเขาก็ยินดีที่จะทำลายถ้ำนี้อย่างไม่เสียดายและฝังพวกนางไว้เสียเลย
ทว่า…
นางหรี่ตา แววตาเย็นเยียบวาววับราวแสงดาวจับจ้องเหมยซู ร้องหึอย่างไม่ใส่ใจ “เหมยซู เจ้าร้ายกาจ ข้ายอมรับ แต่…”
“แต่อะไร” เหมยซูแลดูบุรุษที่ยืนอยู่ที่สูง แสงจากคบเพลิงสาดส่องเงาร่างของอีกฝ่ายไว้บนผนังถ้ำยิ่งส่อให้เห็นถึงความอ้อนแอ้น ขณะเดียวกันก็ทำให้ใบหน้าที่คมคายของชิวเยี่ยไป๋เหมือนถูกเคลือบด้วยแสงชั้นหนึ่ง แสงนี้ทำให้ดวงตาเขาฉายแววเย็นเยียบวูบหนึ่ง
“แต่ จับโจรต้องจับหัวหน้าก่อน!”
พูดขาดคำ ร่างของชิวเยี่ยไป๋พลันพุ่งสู่อากาศ กระบี่อ่อนที่เอวกลายเป็นสายรุ้งจี้เข้าใส่ทรวงอกของเหมยซูในพริบตา
นางเคลื่อนไหวเร็วและกะทันหันเกินไป แม้แต่พวกโจวอวี่ยังนึกไม่ถึงว่านางจะลงมือ เพียงวูบเดียวเงาสีเขียวสายหนึ่งก็บินจู่โจมใส่เหมยซู
รองพ่อบ้านก็แค่ทันเบิกตากว้าง ก็เห็นประกายสีขาวจี้เข้าใส่อกของเจ้านาย ดูท่าจะทะลุอกแล้ว
เหมยซูได้แต่แหงนกายไปข้างหลังอย่างทุลักทุเล แต่ก็ยังหลบประกายคมที่เปี่ยมด้วยจิตสังหารไม่พ้น รู้สึกว่าพลังกระบี่กรีดเข้าใส่เสื้อแพรปักลายสีดำเงิน
แต่ก่อนที่คมกระบี่จะทะลุอกเขา กลับได้ยินเสียง ตัง คราหนึ่งแล้วกระบี่ก็ชงักลง
ชิวเยี่ยไป๋งงงัน สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ หรือว่าเหมยซูเป็นยอดฝีมือพลังภายนอก
แต่ต่อให้เหมยซูฝึกวิชาระฆังทองหรือวิชาอาภรณ์เหล็กสำเร็จก็ยังยากจะต้านการจู่โจมที่นางทุ่มพลังภายในถึงเจ็ดส่วนนี้!
นางยังไม่อยากฆ่าเหมยซู เพียงต้องการให้บาดเจ็บสาหัสจะได้จับเป็นตัวประกันบีบให้พวกทหารปล่อยพวกนางออกไป!
แต่นางก็ได้คำตอบอย่างรวดเร็ว
พลังกระบี่ของนางกรีดอกเสื้อของเหมยซูจนฉีกขาดชั่วพริบตา เผยให้เห็นประกายหม่นสีทองเงินของเสื้อชั้นใน
“เสื้อไหมทอง!”
พอชิวเยี่ยไป๋เห็นของสิ่งนี้ก็เข้าใจ ที่แท้เหมยซูสวมเสื้อไหมทองที่ทองคำหมื่นชั่งก็ยากจะเสาะหา เป็นเสื้อเกราะที่หากมิใช่กระบี่วิเศษจะทะลุทะลวงมิได้ และไม่ถูกทำลายไม่ว่าจะใช้ไฟหรือใช้น้ำ!
มิน่าเล่าเขาจึงต้านกระบี่ของนางได้
เหมยซูถอยไปหลายก้าวอย่างทุลักทุเล จนกระทั่งถูกชายฉกรรจ์สูงใหญ่สองคนที่อยู่ข้างหลังพยุงไว้ แต่เขายังคงรู้สึกเลือดลมปั่นป่วนและกระอักโลหิตคำหนึ่งในพริบตา
พรวด!
ถึงอย่างไรชิวเยี่ยไป๋ก็มีพลังฝีมือสุดยอดในยุทธจักร พลังกระบี่ของนางมิใช่คนฝึกวิทยายุทธ์ทั่วไปจะรับไว้ได้ ต่อให้มีเสื้อไหมทอง เหมยซูยังคงถูกกระทบกระเทือนจนบาดเจ็บ!
“คุณชายใหญ่! คุณชายใหญ่! ท่านเป็นอย่างไรบ้าง!” รองพ่อบ้านรีบเข้าไปประคองเหมยซู
เหมยซูโบกมือห้ามรองพ่อบ้านไว้ ยืดตัวตรงแล้วยกมือปาดคราบโลหิตที่มุมปากช้าๆ ดวงตางดงามแลดูชิวเยี่ยไป๋อย่างเฉยเมย “เย่ไป๋ เจ้าลงมือแรงมากนะ”
ถ้าเขามิได้สวมเสื้อไหมทอง ป่านนี้คงโชกเลือดแล้ว!
ชิวเยี่ยไป๋ดีดกระบี่ กล่าวอ้อยอิ่งว่า “จิ๊ รู้เช่นนี้ข้าน่าจะเด็ดหัวเจ้าดีกว่า ว่าไหม”
ดวงตาของเหมยซูเหมือนมีหมอกคลุมอีกชั้น ลมโชยฝนพรำสลายไปสิ้นราวกับพายุตั้งเค้า เขาเม้มปากกล่าวเบาๆ “ไม่เคยมีใครทำให้ข้าหลั่งโลหิตโดยไม่จ่ายค่าตอบแทน เย่ไป๋ เจ้าว่าเจ้าต้องจ่ายอย่างไร”
คนบางคนยิ่งโกรธน้ำเสียงสีหน้าจะยิ่งนุ่มนวล เห็นได้ชัดว่าเหมยซูคือคนประเภทนี้ แต่ความนุ่มนวลนี้ทำให้ผู้คนต้องสยิวกายด้วยความหนาวเหน็บ
ชิวเยี่ยไป๋แค่นยิ้ม “เช่นนั้นคงต้องรอดูว่าเจ้าทำได้หรือไม่!”
พูดจบกระบี่ในมือนางพลันจู่โจมด้วยกระบวนท่านกนางนวลลงชายหาด จี้เข้าใส่ทั้งสองขาของเหมยซู ใช้การกระทำแทนคำพูดว่านางไม่ใส่ใจที่จะทำให้เขาต้องหลั่งโลหิตอีกคราแม้แต่น้อย
เหมยซูประกายตาเย็นวูบ “เยียนหนู!”
ชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ค้อมตัวในพริบตา ยกเหมยซูไว้บนบ่าของตน และในมือเขาจู่ๆ ก็มีดาบยาวอันใหญ่ปรากฏขึ้นราวเล่นมายากล ฟันใส่ศีรษะของชิวเยี่ยไป๋!
พลังรุนแรงมาก เสียงโครมดังสนั่น ถึงกับฟันเอาเรือแตกออก!
หัวหน้าสู้กัน ทางด้านนี้พวกลูกน้องก็พากันลงมือ
โจวอวี่กับเหล่าเจอกูต่างคนต่างสู้ พริบตาเดียวก็ตะลุมบอนกับพวกทหารทางการที่ฮือเข้าใส่
ด้านหยวนเจ๋อมิรู้เป็นอะไรไป ถึงกับถูกทหารหลายคนบีบจนเข้ามุม แต่มิได้ลงมือ
ทหารหลายคนนี้เมื่อครู่เห็นเขาเผยใบหน้าจนตะลึงกับความงาม ยามนี้เห็นเขามิได้ขัดขืน ดวงตาจึงฉายแววเจ้าเล่ห์ สบตากันแล้วก็มีบางคนลูบคลำใบหน้าเขา
สัมผัสที่มือเนียนลื่น พริบตานั้นทหารคนนั้นก็สีหน้าประหลาด “มารดามันเอ๋ย สวยกว่าสตรีเสียอีก ผิวกายยังลื่นกว่าสตรีด้วย!”
พริบตานั้นอีกหลายคนฉายแววหื่นกระหาย พากันทึ้งตัวหยวนเจ๋อ
แต่พวกเขาไม่มีใครสังเกตว่าหยวนเจ๋อตัวสั่นน้อยๆ เอาแต่ก้มหน้า ดวงตางดงามที่ถูกผมเผ้าปกคลุมอยู่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างน่ากลัวที่ม่านตา
จุดดำที่เดิมที่อยู่กลางนัยน์ตากำลังกระตุก และขยายตัวอย่างช้าๆ ราวกับเถาวัลย์ จนกระทั่งเต็มดวงตาสีเทาเงินของเขา
“ไม่…”
เขากัดฟันแค่นเสียงต่ำ คล้ายกับกำลังต่อต้านบางอย่าง
“ไปให้พ้น…” หยวนเจ๋อคุกเข่ากับพื้น ร่างม้วนขดแทบจะเป็นท่าที่ถูกทรมานจนเจ็บปวด กัดริมฝีปากคำรามต่ำๆ
อย่า…
ทำไมจึงมากำเริบเอาตอนนี้
เมื่อครู่ขณะที่เห็นเหมยซูพูดกับชิวเยี่ยไป๋เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแล้ว เพียงแต่ไม่น่าจะกำเริบตอนนี้นี่นา ยังไม่ถึงเวลา…สถานที่ก็ไม่ถูกต้อง…
เขาเกร็งไปทั้งตัว ปลายนิ้วจิกผนังไว้แน่น มิได้สนใจบรรดามือไม้ที่กำลังลูบคลำใบหน้าและตัวเขา มัวแต่ต่อต้านมาร…ในร่างของตนเอง
ไม่ได้ ให้มันโผล่ออกมาตอนนี้ไม่ได้ ไม่เช่นนั้นตามนิสัยของมันแล้วต้องเลือดหลั่งเป็นท้องธารแน่!
น่าเสียดายที่พวกทหารเหล่านี้ไม่รู้ความคิดของเขา ดวงตาทุกคนเหมือนสัตว์ป่า เมื่อเห็นผิวกายผุดผ่องของหยวนเจ๋อปรากฏออกมาตามร่องเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาด
หยวนเจ๋อไม่ขัดขืน ในสายตาของพวกเขานี่คือความอ่อนแอ บางครั้งกับผู้อ่อนแอกว่าธาตุแท้ในมุมมืดของมนุษย์จะถูกแสดงออกอย่างหมดสิ้นและเกิดอารมณ์อันชั่วร้าย