Chapter 8: การข่มแหง

 

“ ปังงง -”

 

ชายหัวล้านตบโต๊ะข้างหน้าเสี่ยวหลัวอย่างแรง โดยสายตาที่ใช้มองเสี่ยวหลัว นั้นมีความมุ่งร้ายเป็นอย่างมาก ” ไอเด็กเวรเพียงเพราะแกไปยุงกับวัวเงินของข้า และแกทําให้พวกพี่น้องของพี่ใหญ่คนนี้ต้องเข้าคุกไปห้าคน แกลองคํานวณจํานวนเงินที่พี่ใหญ่คนนี้ต้องเสียไปดูสิว่าแกจะต้องชดใช้เงินกับสิ่งที่พี่ใหญ่คนนี้สูญเสียไปเท่าไหร่”

 

ดวงตาที่ดุร้ายของเขาส่งความมุ่งร้ายมาให้กับเสี่ยวหลัว วัวเงินหมายถึงพวกเด็กๆ ที่พวกมันลักพาตัวมา และหักขาแล้วโยนเข้าไปในถนนเพื่อให้ไปขอทาน

 

เนื่องจากเด็กหญิงตัวเล็ก หนีรอดไปได้จึงถูกเจ้าหน้าที่ตํารวจ กู่ เชียงหลิน ที่รู้จักกันในนาม “ดอกไม้แห่ง ความยุติธรรม” เมื่อเรื่องไปอยู่ในมือเธอมันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะทําให้พวกเขาต้องเสียเงินไปเป็นจํานวนมากถึงจะช่วยพี่น้องของพวกเขาให้ออกมา แต่เรื่องนี้มันจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าหากเสี่ยวหลัวไม่ไปช่วยเด็กน้อยนั่นตั้งแต่แรก

 

เสี่ยวหลัวเงยหัวขึ้นแล้วมองไปที่ชายหัวโล้นอย่างเฉยเมย: “ฉันจะช่วยอะไรแกได้ เราจะคุยเรื่องนี้กันหลังจากที่ฉันกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จ แกช่วยออกไปให้ไกลๆหน่อยได้ไหม เพราะตอนที่ฉันเห็นหน้าของแกแล้ว ฉันไม่มีอารมณ์ที่จะกินก๋วยเตี๋ยวเลยหว่ะ”

 

เสี่ยวหลัวพูดจบแล้วเขาก็ก้มหน้าลงกินก๋วยเตี๋ยวต่อไป

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่เสี่ยวหลัวกล่าวบรรยากาศในพื้นที่ทั้งหมดก็แปลกไป

 

เหล่าชายฉรรจ์หลายสิบคนต่างก็ตกตะลึงในจุดนี้พวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไอเด็กเวรคนนี้เมื่อต่อหน้าพวกเขาแล้วยังจะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในสถานการณ์เช่นนี้ นี่เขาไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาเลยหรือ?

 

ชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดสูทที่อยู่ในระยะไกลก็ตกใจเช่นกัน จากนั้นเขายิ้มอย่างผ่อนคลาย: “เขาเป็นคนที่กระจอกงอกง่อยหรือว่าเขาเป็นคนที่มีทักษะที่น่าทึ่งกันแน่นะ…” ชายวัยกลางคนชี้ไปที่หัวของตัวเอง “หรือว่าเขาจะมีปัญหาที่ตรงนี้”

 

“ บอสเพื่อความปลอดภัยของคุณหลบออกไปจากที่นี่เถอะ” บอดี้การ์ดคนหนึ่งที่อยู่ทางด้านซ้ายแนะน่า

 

ชายวัยกลางคนโบกมือของเขา: “ไม่…เป้าหมายของพวกมันก็คือเด็กหนุ่มคนนั้นและพวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้ ไม่เป็นอะไรหรอก”

 

เขามองดู เสี่ยวหลัว ที่กําลังกินก๋วยเตี๋ยวอย่างเอร็ดอร่อยและจู่ๆ เขาก็นึกถึงวันที่เข้ามาทํางานที่เจียงเฉิงนี้ 7เป็นครั้งแรก ในเวลานั้นเขายังเด็กมากและมักจะมาที่ร้านแผงลอยริมถนนเพื่อทานอาหารเมื่อเขาหิว ครั้งหนึ่งเขาก็เคยถูกเจ้าหนี้หลายสิบคนที่ถือมืดตามมาทวงหนี้

 

ในหัวใจของเขารู้สึกสั่นไหวขณะที่นิ้วของเขาเคาะลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ “เป็นเรื่องที่น่าเสียดายถ้าตอนที่ฉันเป็นเด็กฉันมีพลังและมีความคิดสร้างสรรค์ฉันก็คงจะไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้” เขาหันหัวของเขาไปและบอกบอดี้การ์ดทางด้านขวาว่า” เล้งคุณไปช่วยชายเด็กหนุ่มคนนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์”

 

“ครับบอส!” บอดี้การ์ดตอบกลับด้วยความเคารพ

 

อารมณ์ของชายหัวล้านพุ่งขึ้นสูงในทันที

 

“แม่ถึงเถอะ!”

 

โต๊ะของ เสี่ยวหลัวถูกโยนพลิกคว่าในทันที ก๋วยเตี๋ยวที่เหลืออีกสามชามของเขากระจัดกระจายไปทั่วพื้น และชามก๋วยเตี๋ยวแตกเป็นชิ้นๆ

 

ชายหัวล้านเอาเท้าของเขาแล้วกระทืบลงบนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่อยู่บนพื้น เขาเหยียบย่าพวกมันจนสกปรกและคํารามอย่างโกรธเกรี้ยว: “แกกินอยากกินก๋วยเตี๋ยวงั้นเหรอ? ก้มลงคุกเข่าแล้วหยิบมันขึ้นมาแล้วกลื่นเส้นก๋วยเตี๋ยวลงไปซะ น้ําซุปก็อย่าให้เสียเลยมันให้สะอาดหรือจะให้ฉันจะตัดลิ้นของแกทิ้ง เลือกเอา ” เขากดหัวไหล่ของเสี่ยวหลัวอย่างแรง “ แกมัวแต่ชักช้าอะไรอยู่หรือว่าแกกาลังรอใครบางคนลุกขึ้นมาและช่วยแก”

 

เสี่ยวหลัวมองดูก๋วยเตี๋ยวทั้งสามชามที่กระจายอยู่ทั่วพื้น การแสดงออกบนใบหน้าของเขากลายเป็นเย็นชา เขาโยนตะเกียบทิ้งและลุกขึ้นอย่างช้าๆ ดวงตาของเขาแหลมคมเหมือนดั่งดวงตาของเสือดาว เขาจ้องมองชายหัวโล้นอย่างเยือกเย็น

 

ฟิ้ววว –

 

ในเวลานี้ทุกคนไม่สามารถช่วยได้ ได้แต่อ้าปากค้าง ที่พี่ใหญ่ของพวกเขาถูกจู่โจมอย่างรวดเร็ว บรรยากาศตอนนี้เย็นยะเยือกขึ้นมาในทันที ทันใดนั้นพวกเขาก็มีภาพลวงตาว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นคือโจมโฉดที่โหดเหี้ยม ซึ่งมือของเขานั้นเปื้อนไปด้วยเลือดจํานวนนับไม่ถ้วน เขาไม่ใช่แค่คนธรรมดาที่กําลังกินก๋วยเตี๋ยว

 

ชายหัวล้านก็ตกใจเช่นเดียวกันขณะที่เขากําลังจะพูดอะไรออกมา ก็มีมือที่แข็งแรงพุ่งออกมาเร็วดั่งสายฟ้า เข้าหาเขาห้านิ้วเปิดออกเหมือนกับงูหลามที่กําลังจะกินเหยื่อของมัน มันจับคอของเขาเอาไว้และยกตัวเขาลอยขึ้นฝ่ามือบีบหลอดลมและหลอดอาหารของเขาแน่น

 

อาการเจ็บปวดพุ่งขึ้นเข้าไปในสมองของเขา เขาไม่สามารถช่วยได้ ได้แต่ส่งเสียงอ่อออกมามือของเขา ทุบแขนเหล็กนี้พยายามที่จะทําให้อีกฝ่ายปล่อยมือไป อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะพยายามมากเพียงใด มือนี้ก็นิ่งเหมือนดั่งดื่มเหล็ก

 

“ฉันพูดแล้วใช่ไหม เมื่อฉันกินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเราก็สามารถที่จะคุยกันได้ แต่ทําไมแกถึงไม่ฟังล่ะ” คิ้วของเสี่ยวหลัวขมวดกันจนยับยู่ยี่

 

ชายฉกรรจ์หลายสิบคนที่ชายหัวล้านพามาต่างก็ตกตะลึง พวกเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น ความแข็งแกร่งของเสี่ยวหลัวนั้นส่งผลต่อจิตใจของพวกเขาเป็นอย่างมาก มือข้างเดียวของเขาก็เพียงพอแล้วที่จะยกบอสของพวกเขาให้ลอยขึ้น ตอนนี้เขายังเป็นคนอยู่ใช่ไหม?

 

ชายวัยกลางคนที่อยู่ห่างไกลเปิดปากของเขาออกเล็กน้อยและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาด

 

บอดี้การ์ดทั้งสองคนที่อยู่ข้างเขาก็ตกใจมากเช่นกัน นี่เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อได้ว่าผู้ชายที่ดูเหมือนคนธรรมดาคนนี้จะสามารถยกชายร่างใหญ่ที่ซึ่งน้ําหนักกว่า 150 ปอนด์ ขึ้นได้ด้วยมือเพียงข้างเดียว ขนาดพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะทําได้

 

ชายที่มีใบหน้าบวมเป็งไม่สามารถช่วยอะไรได้ ได้แต่ตื่นตระหนก: “ไปด้วยกันไป ช่วยลูกพี่โหญ่!”

 

เขาตะโกนเสียงดังแต่เขาไม่ได้เข้าไปด้วย

 

เหล่าชายฉกรรจ์หลายสิบคนตอบสนองโดยทันทีพร้อมกับควงมาเชเต้ที่อยู่ในมือของพวกเขา พร้อมกับวิ่งเข้าไปดั่งกับคลื่นยักษ์ที่พุ่งเข้าใส่เสี่ยวหลัว

 

เสี่ยวหลัว สบถ ” พวกแกต้องการมันกลับไปใช่ไหม ได้! ฉันจะให้มันคืนให้แก่พวกแกเอง!”

 

เสี่ยวหลัว โยนชายหัวล้านที่อยู่ในมือของเขา เข้าไปในฝูงคนที่กําลังวิ่งเข้ามา

 

ชายหัวล้านบินกลับหัวกลับหางด้วยความเร็วที่เร็วมากเหมือนดั่งลูกกระสุน

 

เมื่อเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันเช่นนี้ เหล่าชายฉกรรจ์ที่วิ่งอยู่ข้างหน้าประมาณห้าหรือหกคนเหยียดมือของพวกเขาออกไปเพื่อที่จะรับบอสของพวกเขา พวกเขาคิดว่าพวกเขาอยู่ด้วยกันก็เพียงพอที่จะรับบอสของพวกเขาได้ แต่ก่อนที่พวกเขาเหล่านี้จะยกแขนขึ้นร่างกายของชายหัวล้านก็พุ่งเข้าชนเข้ากับพวกเขาอย่างแรง

 

ปังง

 

ปากของพวกเขาพ่นละอองเลือดออกมา พวกเขาเป็นเหมือนดั่งพินที่ถูกลูกโบว์ลิ่งชนจนล้มล้มลงบนพื้นด้วยความเจ็บปวด

 

การชนที่รุนแรงนี้มันน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว!

 

พี่น้องหลายสิบคนหยุดการกระทําของพวกเขาทันที พวกเขาไม่กล้าที่จะขยับเขยื้อน มีเพียงแต่ดวงตาของ

 

พวกเขาที่เบิกกว้างเพราะพวกเขาหวาดกลัวเสี่ยวหลัว

 

ในขณะที่พวกเขากําลังตกตะลึงอยู่นั้น เสี่ยวหลัวก็ลงมืออย่างไม่ลังเล เขาส่งหมัดออกไปสองหมัด

 

ปัง ปัง –

 

ชายตัวโตสองคนที่อยู่ใกล้ๆ บินออกไปเหมือนถูกรถพุ่งเข้าชนอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงกรีดร้องโหยหวนของพวกเขา ร่างกายของพวกเขาเสียการควบคุมและลอยพุ่งเข้าไปชนกับพวกพี่น้องของเขาหลายคนก่อนที่จะหยุดลง พวกเขาพยายามที่จะลุกขึ้น แต่ก็รู้สึกเจ็บปวดที่อก มีผู้ชายสองคนที่สามารถลุกขึ้นมาได้ แต่หลังจากที่ 

อาเจียนออกมาเป็นเลือดคําหนึ่งพวกเขาก็หมดสติล้มพับลงไปอีกครั้ง

 

ชายวัยกลางคนหดตัวลงใบหน้าของเขาแทบจะไม่สามารถซ่อนความตกใจของเขาเอาไว้ได้ เขาไม่เคยคิดเลยว่าทักษะของเสี่ยวหลิวที่เก็บซ่อนเอาไว้จะมีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้

 

บอดี้การ์ดทั้งสองของเขาก็ตกตะลึงเช่นกัน ทักษะและความแข็งแกร่งดังกล่าวมันน่าตกตะลึงเกินไป พวกเขามองหน้ากันและไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง

 

“ ไอแม่เยด, ไปฆ่ามันและตัดหัวของมันมาเดี๋ยวนี้!”

 

ชายหัวล้านได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ไม่ได้หมดสติ เขาจับไปที่หน้าอกที่ได้รับบาดเจ็บของเขาในขณะที่เขาตะโกนอย่างบ้าคลั่ง

 

เขาเคยได้ยินมาก่อนแล้วจากชายผู้ที่มีใบหน้าที่บวมเป็งแล้วว่าอีกฝ่ายนั้นมีทักษะการต่อสู้ที่พิเศษ แต่เข ไม่ได้คาดหวังให้เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ มันมีสํานวนหนึ่งเรียกว่าอะไรนะ? แม้แต่เสือก็ไม่สามารถที่จะสู้กับฝูงหมาป่าได้ ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ไม่สามารถสู้กับคนในจํานวนมากได้ เพราะพวกเขาเป็นคนกลุ่มใหญ่ พวกเขามีความได้เปรียบในด้านของตัวเลข!

 

ชายร่างใหญ่เคยเป็นทหารผ่านศึกมาก่อนเขามองไปที่เสี่ยวหลัวผู้ซึ่งกําลังสู้กับคนหลายสิบคนอย่างกล้าหาญ ท่าทางของพวกกลุ่มอันธพาลเป็นเหมือนดั่งกลุ่มของไฮยีน่าที่กําลังล่ากวาง

 

“ พวกแกต้องการที่จะสู้อย่างหนักใช่ไหม ได้! วันนี้ฉันจะให้พวกแกต่อสู้ให้มากที่สุดเท่าที่พวกแกต้องการ!”

 

มุมปากของเสี่ยวหลัวส่งประกายรอยยิ้มที่โหดเหี้ยม เขาไม่ใช่เพียงไม่ถอยหนี แต่เขาริเริ่มที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันอย่างจริงจัง