“ทะ…ทะ…ทำ…”
โม่โจวพูดติดอ่างเหมือนเด็กเพิ่งหัดพูด เขาไม่เคยเห็นใครสามารถเจาะเกล็ดของกิ้งก่าเพลิงมาก่อน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของการป้องกัน แต่จุดเด่นนั้นแทบจะไม่สามารถต้านทานการฟันดาบของหยวนได้ในครั้งเดียว และง่ายดายมากอีกด้วย
หยวนยื่นมือไปหาโม่โจวที่ล้มลงอยู่กับพื้นและกำลังตกใจอยู่
“หื้มมม? แล้วเกิดอะไรขึ้นทำไมนายถึงยังสู้อยู่ทั้งๆที่สู้ไม่ได้ล่ะ”
หยวนถามโม่โจวขณะที่ดึงเขาขึ้นจากพื้น
การแสดงออกของโม่โจวแข็งขึ้นเมื่อได้ยินคำถามของหยวน
“ฉันจะตายหากไม่ได้รับแกนของมอนสเตอร์ตัวนี้ ดังนั้นฉันจึงพยายามฆ่ามันเพื่อเอาแกนของมันมาถึงแม้ว่าฉันจะตายก็ตาม”
โม่โจวถอนหายใจด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ทำไมนายถึงจะตายละ ถ้านายไม่สามารถได้แกนของมอนสเตอร์ตัวนี้ไป”
หยวนเริ่มสนใจสถานการณ์ของโม่โจว
โมโจวถอนหายใจลึกๆ อีกครั้ง
“เพราะฉันไปทำให้ผู้ที่ถูกเลือกในนิกายของฉันขุ่นเคืองเข้านะสิ…”
“ถูกเลือกแล้วมีอะไรเหรอ??”
โม่โจวมองหยวนด้วยสีหน้าแปลกๆ ใครจะไม่รู้ว่าผู้ถูกเลือกแปลว่าอะไร?
“ผู้ถูกเลือกคือคนที่สวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่โปรดปราน ล้วนเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่ และเป็นที่เคารพนับถือของทุกคนยังไงล่ะ”
“เป็นที่โปรดปรานของสวรรค์งั้นหรอ…”
หยวนพยักหน้า
“นายหมายความว่า นายกำลังจะตายเพราะทำให้คนผู้นั้นขุ่นเคือง ทำไมหรอ นายไปฆ่าพ่อแม่ของเขา ต่อหน้าเขาหรอไง?”
โม่โจวส่ายหัวอย่างรุนแรงกับคำพูดของหยวน
“ไม่มีทาง! ฉันชอบผู้หญิงคนนึง แต่เพราะศิษย์พี่เหรินก็ชอบเธอเหมือนกัน เขาเลยโกรธฉัน”
“เขากำลังคบกันอยู่งั้นหรอ”
“ไม่…”
“หึ!”
หยวนทำเสียงไม่พอใจออกมา
“เขาอยากจะฆ่านาย เพราะนายไปสารภาพรักกับสาวคนนี้เหรอ ศิษย์พี่เหรินของนายนี่ช่างไรเหตุผลจริงๆ”
โม่โจวรู้สึกตะลึงกับคำพูดของหยวน
“แต่สถานการณ์แบบนี้ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลานั่นแหละนะ”
หยวนคิดกับตัวเอง
หยวนเหลือบไปมองศพของกิ้งก่าเพลิง
“นายต้องการแกนของมันใช่ไหม”
หยวนถามขณะที่ชี้ไปที่ศพของกิ้งก่าเพลิง
“ใช่”
โม่โจวตอบ
“เอาไปสิ”
“เอ๋?”
โม่โจวมองหยวนด้วยความประหลาดใจ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแกนมอนสเตอร์กิ้งก่าเพลิงนี้เป็นสมบัติล้ำค่า แม้แต่ผู้อาวุโสในนิกายยังปรารถนา แต่ชายหนุ่มคนนี้ก็ยังเต็มใจที่จะมอบมันให้กับเขา ที่เพิ่งเคยพบกันครั้งแรกยังงั้นหรอ
“ให้ฉันจริงๆหรอ??”
โม่โจวพูดด้วยความสงสัย
“แต่นายเป็นคนฆ่ามันนี่”
“งั้นฉันเอามันไปเองก็ได้”
หยวนหันหลังแล้วเดินไปหาศพ
เมื่อเห็นการกระทำของหยวน โม่โจวก็ตื่นตระหนกทันที
“เดี๋ยวก่อน ฉันต้องการมัน ได้โปรดมอบมันให้กับฉันเถอะ แล้วฉันโมโจวแห่งนิกายดาบบินจะเป็นหนี้บุญคุณของนายตลอดไป!”
“พี่หยวนใจดีจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นเขาคงเก็บไว้ใช้เองแน่ๆ”
เสี่ยวฮัวคิดกับตัวเอง ในขณะที่เธอเฝ้าดูโม่โจวคุกเข่าให้หยวนเพื่อแสดงความขอบคุณ
“หากมีสิ่งใดที่ต้องการจากโม่โจวคนนี้ ฉันจะทำมันให้!”
โม่โจวพูดเสียงดังพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาของเขา
หยวนไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน เลยไม่รู้จะต้องทำยังไงต่อกับการกระทำของโม่โจว
“ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้ ถ้าฉันสามารถแลกแกนมอนสเตอร์กับชีวิตของใครบางคนได้ ฉันก็จะทำมันอย่างไม่ลังเลเลย”
หยวนกล่าว เขาคิดว่าคุ้มมากแล้วที่แลกแกนมอนเตอร์หนึ่งแกน กับชีวิตคนหนึ่งคน
“ขอบคุณ! ขอบคุณมากๆ!”
โม่โจวนิ่งไป
“ไม่เพียงแต่ช่วยฉันจากกิ้งก่าเพลิง แต่นายยังให้แกนของมันกับฉันอีกด้วย ในช่วงเวลาสั้นๆ นายได้ช่วยชีวิตฉันถึงสองครั้งแล้ว โปรดยอมรับการขอบคุณของฉันเถอะ”
“มันน่าอึดอัดที่เห็นผู้ชายที่โตแล้วแบบนาย มานั่งอยู่ในท่านี้และร้องไห้ไปด้วยนะ นายรีบลุกขึ้นเถอะ”
ใช้เวลาสักครู่โม่โจวก็สงบลงแล้วลุกขึ้นยืน
“ฉันยังไม่รู้จักชื่อของนายเลย”
“เรียกฉันว่าหยวนก็ได้นะ”
“ถ้าอย่างนั้นหยวน ฉันชื่อโมโจว เป็นศิษย์ชั้นนอกของนิกายดาบบิน”
โม่โจวยื่นมือออกมาเพื่อจับมือกับหยวน
“นิกายดาบบิน? คืออะไรอีกแล้ว?”
หยวนถามโดยลืมไปว่าเขาเคยได้ยินคำนี้แล้ว เมื่อมาโลกนี้ครั้งแรก
โม่โจวรู้สึกงุนงงกับคำถามของเขาในทันที
“พี่หยวนนิกายเป็นองค์กรที่อุทิศตนเพื่อการฝึกฝนพลัง ผู้คนทั่วไปจะไปศึกษาการฝึกฝนพลังกันที่นั่น”
เสี่ยวฮัวอธิบายให้หยวนฟัง
“หรือเรียกอีกอย่างว่า โรงเรียนสำหรับผู้ฝึกฝนพลังงั้นหรอ?”
หยวนมองไปที่โม่โจว และแสงในตาเขาก็เป็นประกายขึ้นมา
“เฮ้ โม่โจว นายช่วยพาฉันไปดูนิกายดาบบินของนายหน่อยได้ไหม ฉันไม่เคยไปที่นิกายไหนมาก่อนเลย”
โม่โจวตัวสั่นตื่นจากความมึนงง
“นายเป็นผู้ฝึกฝนพลังที่ขี้โกงจริงๆ”
โม่โจวพึมพำด้วยน้ำเสียงไม่อยากจะเชื่อ
“โกง?”
หยวนมองไปที่เสี่ยวฮัวเหมือนกับมีเครื่องหมายคำถามล้อมรอบหัวของเขา
“เขาหมายถึงว่าพี่หยวนเป็นผู้ฝึกฝนพลังที่เป็นอิสระ และไมได้อยู่ในนิกายอะไรทั้งนั้น นั่นมันน่าอิจฉาเป็นอย่างมาก”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว แต่ทำไมนายถึงดูตกใจมากเลยละ”
หยวนมองไปที่โม่โจว
“ฉันสามารถบอกได้ว่าหยวนเป็นผู้ฝึกวิญญาณระดับเก้า แต่นายกลับสามารถสังหารกิ้งก่าเพลิงตัวนั้นที่แม้แต่นักรบวิญญาณระดับสาม ก็ยังมีปัญหาในการสังหารมันเลย แต่กับนาย นายกลับฆ่ามันได้อย่างง่ายดายมาก”
“สิ่งที่เขาพยายามจะพูดก็คือ พี่หยวนไม่ได้รับการฝึกฝนจากนิกายใดเลย พี่หยวนเลยไม่น่าจะมีพลังขนาดนี้”
เสี่ยวฮัวพูดแทรก
เธอมองไปที่โม่โจวที่ตกตะลึง และกล่าวว่า
“พี่หยวนเป็นคนพิเศษ เขาอัจฉริยะ อย่าเอาเขาไปเปรียบเทียบ แม้แต่ผู้ที่ถูกเลือกก็ไม่มีค่าอะไร เมื่ออยู่ต่อหน้าพี่หยวน”
“อ่า…เธอทำให้ฉันเขินนะเสี่ยวฮัว อย่าพูดคำพูดน่าอายพวกนี้สิ”
หยวนถอนหายใจเสียงต่ำ ใบหน้าของเขาแดงเล็กน้อย
“ไม่นะ ฉันเชื่อคำพูดของเสี่ยวฮัวว่าหยวนนั้นเป็นอัจฉริยะจริงๆ”
โม่โจวกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“สำหรับการเข้าไปดูนิกายดาบบินของฉัน ต้องได้รับอนุญาตจากผู้อาวุโสในนิกายก่อนนะ แต่นายจะได้ไปอย่างแน่นอน”
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะรออะไรล่ะ”
หยวนกล่าวอย่างร่าเริง เขาไม่ได้คาดหวังว่าจะมีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในนิกาย แต่เขาก็ตื่นเต้นสำหรับสิ่งที่เหมือนโรงเรียน ที่ในความเป็นจริงเขาไม่สามารถไปได้ ด้วยข้อจำกัดทางร่างกายของเขา
“อ๊ะ แปปนะ! ขอเวลาฉันดึงแกนมอนสเตอร์ออกมาก่อน”
โม่โจวพูดอย่างเร่งรีบจนเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปเลย