“ดาบตัดโลหิต!”
แสงโค้งสีแดงกวาดไปทั่วทั้งป่า และพุ่งตรงไปที่ลิงตัวสูงสามเมตร
2 >
เมื่อหยวนสังเกตเห็นว่าพลังฉีที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นถึงหนึ่งร้อยเท่าจากการเพิ่มระดับความชำนาญเพียงขั้นเดียว นั่นก็ทำให้เขาตกใจมาก ยังงั้นถ้าดาบแยกสวรรค์ เพิ่มระดับขึ้นอีกขั้นหนึ่ง มันไม่ต้องใช้พลังงานถึงหนึ่งล้านฉีเลยหรอ สำหรับการเปิดใช้งานเทคนิคนั้นในระดับที่ 2
“หยวน…นายทำได้ยังไงกัน…”
โม่โจวตัวสั่นด้วยความตกใจที่หยวนสามารถสังหารมอนสเตอร์ระดับสูงได้อย่างง่ายดายในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
“แม้แต่ผู้ฝึกวิญญาณระดับสูงก็ยังไม่สามารถสังหารได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวเลย”
นับตั้งแต่พวกเขาได้พบกัน และตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมชมนิกายดาบบินนั้น หยวนก็ตามล่ามอนสเตอร์ทุกตัวที่ขวางทาง และรวบรวมแกนมอนสเตอร์ได้เพิ่มมาอีก
“สิบเอ็ดอันเหรอ…”
หยวนนับจำนวนแกนมอนสเตอร์ที่ได้มา แกนมอนสเตอร์เปล่งประกายในมือของหยวน ทำให้โม่โจวตกตะลึงอย่างมาก เหมือนกับตอนนี้เขากำลังอยู่ในโรงประมูลแกนมอนสเตอร์อย่างนั้นแหละ
“แกนมอนสเตอร์มากมายเลย!!”
โม่โจวร้องออกมาเสียงดัง
แกนมอนสเตอร์ล้วนเป็นทรัพยากรที่มีค่า ช่วยให้ผู้ฝึกฝนพลังสามารถฝึกฝนได้อย่างมาก และเป็นที่ต้องการของผู้ฝึกในทุกระดับ เนื่องจากสามารถหาได้จากมอนสเตอร์ระดับสูงเท่านั้น จึงถือว่ามันหายาก และก็ไม่ได้ง่ายๆเลยที่มอนเตอร์ระดับสูงพวกนั้นจะดรอปพวกมันออกมาแต่ละอัน แต่ตอนนี้ต่อหน้าของเขากลับมีมันอยู่หลายสิบอัน และมันยังรวมกันอยู่บนฝ่ามือของชายเพียงคนเดียว
“นายคิดว่าเยอะขนาดนี้ ถ้าฉันกินมันเข้าไปทั้งหมด มันจะเข้าไปอุดปากของฉันแทนรึเปล่าเนี่ย”
หยวนถอนหายใจ
“อะไรนะ?”
โม่โจวไม่เข้าใจสิ่งที่หยวนพูด แต่เขาสังหรณ์ว่าเขาจะเสียใจ ถ้าเข้าใจความหมาย ในสิ่งที่หยวนพูด เขาจึงตัดสินใจไม่สนใจมันแทน
“พวกเราวิ่งเข้าหาแต่มอนสเตอร์ระดับสูงมาตลอดและมันก็เป็นจำนวนมากด้วย นั่นเป็นตัวที่หกแล้วนะ”
โม่โจวครุ่นคิด ขณะที่หัวของมอนสเตอร์ระดับสูงอีกตัวกำลังตกลงสู่พื้น
“นายชอบการตัดหัวหรอ?”
“มันมีประสิทธิภาพ และง่ายดีนะ”
หยวนยิ้มอย่างสบายๆ
“เชอะ ไม่ได้แกนมอนสเตอร์จากตัวนี้ เสียดายจัง”
“ง่ายจัง”
โม่โจวเปรียบหยวนกับผู้ถูกเลือกในนิกายของเขา พวกเขาจะสามารถพูดแบบนี้ได้รึเปล่านะ? เขาสามารถกำจัดมอนสเตอร์ระดับสูงได้อย่างง่ายดายอย่างนี้มั้ย? คิดว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้มั้ง
ทันใดนั้นเขาก็มีความคิดเข้ามาในหัว
‘ถ้าหากหยวนเป็นผู้ฝึกฝนพลังที่เก่งแบบนี้ มีโอกาสที่ฉันจะพาเขามาเข้าร่วมนิกายได้มั้ยนะ’
หากนิกายดาบบินยอมรับคนอัจฉริยะแบบเขาเข้ามา พวกเขาต้องดีใจอย่างมากแน่นอน
“หยวน นายเคยคิดจะเข้าร่วมกับนิกายไหนรึเปล่า?”
โม่โจวตัดสินใจถามหยวน
หยวนครุ่นคิดสักครู่ก่อนแล้วจึงส่ายหัว
“ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนิกายเลย เพราะงั้นฉันถึงยังไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย”
“ถ้าอย่างนั้นนายสนใจมาเข้าร่วมนิกายกับฉันมั้ยละ ฉันแน่ใจว่านิกายของฉันจะต้องรับนายด้วยความยินดีแน่”
“…”
ในขณะที่หยวนกำลังคิดอยู่นั้น เสี่ยวฮัวก็ติดสินแล้วพูดแทนเขาทันที
“พี่หยวนไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมนิกายหรอก มีแต่จะขัดขวางการเติบโตของเขา เสี่ยวฮัวเชื่อว่าพี่หยวนจะแข็งแกร่งขึ้นเร็วกว่ามากเมื่อได้อยู่กับเสี่ยวฮัว”
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวฮัว โม่โจวก็หมดความมั่นใจลง เพราะว่าเธอเงียบมาตลอด เขาเลยไม่ได้สนใจมากนัก
“หากฉันเข้าร่วมนิกายก็แค่เพื่อความสนุกสนานเท่านั้นแหละ”
หยวนกล่าว
“แต่ยังไงก็ตาม มันเร็วไปที่ฉันจะเข้าร่วมนิกายอื่นๆ ตอนนี้ขอปฏิเสธก่อนแล้วกันนะ”
“อย่างนั้นหรอ”
ในขณะที่โม่โจวหมดหวังเนื่องจากหยวนปฏิเสธข้อเสนอ เขาก็ยังคิดว่ามีหวังว่าหยวนจะเข้าร่วมนิกายของเขาในอนาคต
“ถ้าอย่างนั้น เมื่อนายรู้สึกว่าอยากเข้าร่วมนิกายไหนสักที่ ได้โปรดมาที่นิกายของฉันนะ”
“โอเค จะลองเอาไปคิดดู”
หลังจากเดินต่อไปอีกสองสามชั่วโมงเขาก็มาถึงหุบเขาอันกว้างใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง
“ที่นี่คือนิกายดาบบินงั้นหรอ?”
หยวนหลงใหลในฉากของดาบนับพันที่ลอยอยู่ในอากาศเหนือหุบเขา ราวกับว่ามีหลังคาที่ทำด้วยดาบปกคลุมอยู่
“นั่นคือการก่อตัวของดาบนับพัน มันเป็นรูปแบบการต่อสู้ระดับสวรรค์ หากเปิดใช้งานมันจะโจมตีพร้อมกันราวกับห่าฝน แม้ว่ามันจะเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้ว นับตั้งแต่เปิดใช้งานมันครั้งสุดท้าย”
โม่โจวต้องการแสดงความประทับใจต่อหยวน โดยพลังของนิกายเขา หวังว่าจะเพิ่มโอกาสให้หยวนสนใจมาเข้าร่วมนิกายมากขึ้น
คำพูดของโม่โจวและฉากอันงดงามของดาบที่เขาเห็นนั้น ทิ้งความประทับใจอย่างมากไว้กับหยวน ซึ่งหยวนไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน สำหรับเสี่ยวฮัวเธอมองไปที่มันเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะมองออกไปทางอื่น
“รอที่นี่สักครู่นะหยวน ฉันขอไปขออนุญาตพานายเข้าเยี่ยมชมนิกายในฐานะแขกก่อน”
“อืมม”
หยวนพยักหน้า และรอเขาอยู่ด้านนอก
“ผู้ฝึกพลังอัจฉริยะงั้นหรอ?”
ชายชรานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ที่สวยงาม แล้วจ้องมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“ถูกต้องครับ ผู้อาวุโสเจียง เขาสามารถสังหารกิ้งก่าเพลิงระดับสูงได้ด้วยการฟันดาบเพียงครั้งเดียว ถึงขนาดเจาะทะลุเกล็ดเหล็กของมันได้เลย”
โม่โจวเล่าสิ่งที่เขาเห็นให้ผู้อาวุโสเจียงฟัง
ผู้อาวุโสเจียง เป็นผู้อาวุโสของนิกายดาบบินนี้ ซึ่งเขาเป็นผู้ดูแลการปกครองของนิกาย
“ถ้าชายหนุ่มที่แกพูดถึงดีจริงอย่างที่แกยกย่องเขาละก็ ฉันก็อยากจะพบเขาด้วยตัวฉันเอง”
ผู้อาวุโสเจียงลุกยืน และเดินไปที่ประตู
“รออะไรล่ะ ไปกันเถอะ”
“ครับผม”
โม่โจวพาผู้อาวุโสเจียงไปพบหยวนและเสี่ยวฮัว
“หยวน ขอบคุณที่รอนะ”
“อื้ม”
“หืม…ผู้ฝึกวิญญาณระดับเก้างั้นหรอ นายอายุเท่าไหร่กัน?”
ผู้อาวุโสเจียงบอกระดับการฝึกฝนของหยวนได้เพียงแวบเดียว
“ดูเหมือนนายจะอายุประมาณโม่โจวเลยนะ ไม่เลวเลยสำหรับผู้ฝึกฝนที่ฝึกฝนขนาดนี้ได้โดยที่ไม่ได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมมาก่อน”
ผู้อาวุโสเจียงพยักหน้าด้วยความเห็นชอบ
“ท่านผู้นี้คือ?”
“นี่คือผู้อาวุโสเจียง เขาเป็นผู้ดูแลการปกครองของนิกายนี้”
โม่โจวแนะนำผู้อาวุโสเจียงให้หยวน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ฉันขอเข้าประเด็นเลยแล้วกัน นายต้องการเข้าร่วมนิกายดาบบินของฉันในฐานะศิษย์หรือไม่ นิกายจะมอบผลประโยชน์ และทรัพยากรมากมายให้แก่ศิษย์ เพื่อช่วยให้พวกเขาได้เติบโต หากนายเข้าร่วม จากนั้นฐานการฝึกพลังของนายจะเพิ่มขึ้นรวดเร็วอย่างแน่นอน บางทีนายอาจจะมีสิทธิ์ได้เป็นศิษย์ชั้นในของนิกายในใดวันหนึ่งก็ได้”
“ศิษย์ชั้นใน?”
หยวนสงสัยว่าศิษย์ชั้นในหมายถึงการเป็นนักเรียนชั้นสูงใช่ไหม
“แก…”
ผู้อาวุโสเจียงขมวดคิ้วและมองไปที่โม่โจว
“ผู้อาวุโสเจียง หยวนไม่เคยรับรู้การมีอยู่ของนิกาย จนกระทั่งวันนี้ เขาจึงต้องการมาเยี่ยมชมนิกายดาบบินของเรา”
โม่โจวอธิบายให้ผู้อาวุโสฟังด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
“อะไรนะ? นี่มันเป็นไปได้ยังไงกัน?”
ผู้อาวุโสเจียงสงสัยในคำพูดของเขา
ผู้อาวุโสเจียงมองไปที่หยวนอีกครั้ง และถอนหายใจ
“อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้สนใจสถานการณ์ของนายในตอนนี้ คำตอบของนายคืออะไร ฉันจะรับนายเป็นศิษย์นอกทันทีหากนายต้องการ”
โม่โจวเห็นโอกาส และกระตุ้นหยวน
“หยวน นายนี่โชคดีจริงๆนะ ในปกติแล้วจะต้องผ่านการสอบเข้าก่อน ถึงจะได้รับเข้านิกาย อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสเจียงมีอำนาจในที่นี่ นายสามารถเข้านิกายได้โดยไม่ต้องสอบให้ยุ่งยากเลย นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่ใครๆก็อยากได้เลยนะ”
โม่โจวกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“…”
หยวนเงียบไปครู่หนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แม้ข้อเสนอจะน่าดึงดูด แต่หยวนก็ยังคงส่ายหัว
“แม้ผมจะขอบคุณกับข้อเสนอที่ดีงามเช่นนี้ แต่ยังไงผมก็ต้องขอปฏิเสธก่อนครับ”
หยวนตอบผู้อาวุโสเจียง
“ทำไมกัน”
โม่โจวอุทาน ใครจะปล่อยโอกาสแบบนี้ให้สูญเปล่ากัน นี่อาจจะเป็นโอกาสที่เขาจะได้เป็นศิษย์ชั้นในของนิกายที่ยิ่งใหญ่นี่เลยนะ โอกาสที่ศิษย์ชั้นนอกทุกคนจะยอมตายเพื่อมัน
“เหมือนที่ฉันได้พูดไปแล้ว ฉันยังไม่พร้อมที่จะเข้าร่วมกับนิกายใดๆ ตอนนี้ฉันกำลังรอใครบางคน และจนกว่าเธอจะมาหาฉัน ฉันจะไม่ตัดสินใจอะไรใหญ่ๆ”
หยวนกล่าว
เสี่ยวฮัวเหลือบมองหยวน เมื่อเขาเอ่ยว่ากำลังรอใครบางคน คนๆนั้นเป็นใครกันนะ?
“…”
“…”
“ดีมาก”
ผู้อาวุโสเจียงพูดพร้อมกับหลับตา
“ถ้านั่นเป็นการตัดสินใจของนายก็เป็นไปตามนั้นแล้วกัน อย่ากลับมาอีกครั้งแล้วขอความเมตตาจากฉันอีกแล้วกัน”
โม่โจวถอนหายใจ ความพยายามทั้งหมดของเขาสูญเปล่าไปทันที บางทีเหตุผลที่ผู้อาวุโสเจียงไม่ได้พยายามอย่างแท้จริงเพื่อให้หยวนมาเข้าร่วมกับนิกายของพวกเขา ก็คงเพราะยังไม่เชื่อมั่นในคำพูดที่เขาพูด หยวนเป็นอัจฉริยะที่แม้แต่ศิษย์ชั้นในก็ไม่อาจเทียบได้เลยนะ
“อืม…เกี่ยวกับการเข้าเยี่ยมชมนิกายของพวกท่าน ฉันได้รับการอนุญาตให้เข้าไปดูนิกายของท่านได้หรือไม่?”
หยวนถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ เขายังอยากเห็นข้างใน ถึงแม้จะปฏิเสธไปแล้วก็ตาม
โม่โจวมองไปที่ผู้อาวุโสเจียง และรอคำตอบจากเขา
ผู้อาวุโสเจียงตะคอกอย่างเย็นชา และกล่าวว่า
“ให้เขาดูว่าเขาพลาดอะไรไป”
หลังจากนั้นผู้อาวุโสเจียงก็เดินจากไป
“…”
หยวนพูดไม่ออก การปฏิเสธของเขาทำให้ผู้อาวุโสเจียงขุ่นเคือง
โม่โจวถอนหายใจอีกครั้ง ด้วยสีหน้าขอโทษ
“อย่ากังวลไปเลยหยวน มันเป็นความผิดของฉันตั้งแต่ต้น ถ้าไม่พูดถึงนายต่อหน้าผู้อาวุโสเจียง ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น”
หยวนไม่สนใจ และพูดออกมาว่า
“ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่คนแก่ขี้บ่นเท่านั้นเอง”
“หยวน!! อย่าได้พูดให้ท่านได้ยินเชียว ไม่งั้นท่านอาจจะฆ่านายก็ได้”
โม่โจวทำสีหน้าหวาดกลัวแล้วหันไปดูผู้อาวุโสเจียงทันที โม่โจวโล่งใจเมื่อหันไปแล้วไม่เห็นร่างของเขาแล้ว
“ลืมท่านไปก่อน แล้วพาฉันเข้าไปข้างในเถอะ ฉันอยากเห็นข้างในตั้งแต่เห็นการก่อตัวของดาบพันเล่มแล้ว”
หยวนกล่าวด้วยเสียงเร่งเร้า
โม่โจวยิ้มอย่างขมขื่น และกล่าวว่า
“เอาล่ะ ตามฉันมา”
เข้าหันกลับมาและเดินนำทั้งสองเข้าไปด้านใน
“ว้าว พวกเขาพกดาบกันทุกคนเลย”
ดวงตาของหยวนวูบไหวด้วยความตื่นเต้น เขาไม่สามารถตื่นเต้นได้มากกว่านี้แล้ว ในสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงที่ที่ให้เขาได้สำรวจก็เท่านั้น