ซูหวานหว่านมั่นใจว่า บุคคลผู้นี้ต้องมีบางสิ่งผิดปกติ!

หายไปไหนแล้ว?

ซูหวานหว่านไม่ทันระวังวิ่งเข้าไปชนกับผู้ดูแลหลิว เมื่อเขาเห็นท่าทางร้อนรนของนางก็ยังไม่ทันได้เอ่ยถามสิ่งใด ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมดังออกมาจากในห้องโถง “อ๊าก! เหตุใดในเนื้อของพวกเจ้าถึงมีพยาธิอยู่ด้วย!”

ซูวานหว่านเดินเข้าไปสำรวจก็พบว่าบนโต๊ะของเขามีชาม ‘เนื้อ’ ที่ชายคนที่วิ่งหนีออกมาจากในครัวเมื่อครู่วางอยู่

“คุณชายเป่ยฉวน! พวกเราไม่ต้องการคำอธิบายจากท่าน หากแต่ข้าจะร้องเรียนเรื่องที่ร้านของท่านขายเนื้อวัว!”

“ท่านเข้าใจผิดแล้ว นี่ไม่ใช่เนื้อวัว ท่านดูสิ” ท่าทางของซูหวานหว่านนิ่งสงบ นางใช้ตะเกียบคีบเนื้อออกมาแล้วพูดว่า “เห็นได้อย่างชัดเจนว่านี่คือเนื้อหมู”

กล่าวจบซูหวานหว่านก็หันมองซ้ายขวาแล้วเอ่ยว่า “ชายที่เอาเนื้อนี้มาให้ท่านอยู่ที่ใด?”

เมื่อมองก็ไม่พบผู้ใด “เมื่อครู่เขายังอยู่ที่นี่! เขาเอาอาหารจานนี้มาวางแล้วก็จากไป!”

ซูหวานหว่านขมวดคิ้วและอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้น เมื่อได้ฟังเช่นนั้นเขาก็เข้าใจ ก่อนจะบอกว่าเหตุใดตนเองจึงสั่งอาหารจานนี้ไป ที่แท้ก็มีคนแอบมากระซิบที่ข้างหูเขาเอ่ยถามว่าต้องการสั่งเมนูเนื้อวัวหรือไม่ เขาไม่เคยกินมันมาก่อน และต้องการลองอาหารจานใหม่ ๆ จึงพยักหน้าตอบตกลง อีกทั้งยังมอบค่าตอบแทนให้ แต่ใครจะรู้ว่า… บุคคลนั้นไม่ใช่เด็กในร้านเจวียเซ่อ!

ซูหวานหว่านสั่งให้คนออกไปตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด และพบว่ามีเนื้อหมูสามชิ้นถูกซ่อนเอาไว้ในห้องครัวของร้าน เมื่อลองหั่นเนื้อหมูนั้นดูก็พบว่ามีพยาธิอยู่ในเนื้อด้วย

ในเวลานี้หมูกำลังป่วยเป็นโรคอะไร?

ซูหวานหว่านได้ซักถามกับผู้ดูแลหลิวอีกครั้ง เขาบอกว่าได้รับรู้เรื่องนี้มาจากคุณชายถัง แต่โรคหมูนั้นมีอยู่ที่เมืองโจวเท่านั้น

ตอนนี้คนที่กินเนื้อหมูป่วยต่างพากันป่วยตาย!

ซูหวานหว่านตรวจสอบเนื้อหมูอีกครั้งและพบว่ามีพยาธิไส้เดือนอยู่จริง ๆ หากกินมันเข้าไปอาจจะทำให้ร่างกายได้รับอันตราย! หญิงสาวเกิดความร้อนรนขึ้น คนพวกนั้นต้องการทำให้ร้านของนางเสียชื่อเสียง ถึงได้นำเนื้อหมูติดโรคมาซ่อนเอาไว้ในร้าน! อีกทั้งยังจะให้ซื้อหมูจากพวกเขาอีก! หากให้ลูกค้ากินเนื้อพวกนี้ไป ผลที่ตามมาคงไม่อาจจินตนาการได้ว่ามันจะหนักขนาดไหน!

“รีบเขียนประกาศแปะเอาไว้ที่หน้าประตูร้าน เตือนชาวบ้านทุกคนให้ระวังการซื้อเนื้อหมู เพราะโรคหมูกำลังระบาดอยู่ในตอนนี้ หากมีพยาธิไส้เดือนอยู่ในเนื้อจะไม่สามารถเอามันมาปรุงอาหารได้ และลงนามเป่ยฉวนเฟิงหลิว”

หลังจากที่ติดประกาศเอาไว้เรียบน้อย แน่นอนว่ามันจะต้องมีผลตามมา แต่นางก็ไม่อาจทนได้เมื่อรู้ความจริงแล้วไม่ทำสิ่งใดเลย นางไม่อาจปล่อยให้คนเลวหลอกลวงคนอื่นและปล่อยให้มันหนีไปได้!

เวลาเดี๋ยวกัน คนขายหมูที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลกำลังขายเนื้อหมูในราคาถูก เมื่อรู้ว่าร้านเจวียเซ่อติดประกาศ จึงเกิดความโกรธเคืองขึ้น เขาทำการแปะป้ายเอาไว้ว่าหมูหนึ่งชั่งราคาสามเหรียญ แต่ก็ยังไม่สามารถขายได้!

เหล่าผู้คนต่างรวมตัวกันและพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อซูหวานหว่านได้ยินข่าวจึงรีบตามไป แต่ก็พบว่าหน้าตาของคนขายหมูนี่คุ้นอย่างบอกไม่ถูก หน้าตาของพวกเขาเหมือนกับชาวต่างถิ่นที่มาป่วนร้านของนางเมื่อวันก่อน!

เมื่อชายคนนั้นเห็นซูหวานหว่านก็พูดออกมาอย่างโกรธเคือง “คุณชายเป่ยฉวน! เนื้อหมูที่ข้าขายนั้นมีคุณภาพดี เจ้าไม่ต้องติดประกาศให้ผู้คนระวังเพียงเพราะข้าขายเนื้อราคาถูกหรอก!”

ซูหวานหว่านมองหมูครึ่งตัวที่อยู่บนเขียงของเขา และพูดว่า “หมูของเจ้าข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าดีหรือไม่ได้? อีกอย่างข้าก็ไม่ได้เขียนชื่อของเจ้าลงไป เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าข้าหมายถึงเจ้า”

พูดจบซูหวานหว่านก็ชี้ไปที่เนื้อหมูแล้วพูดว่า “หากหมูของเจ้านั้นไม่มีพยาธิ เจ้ากล้าผ่ามันให้ทุกคนดูหรือไม่ จะได้ไม่ต้องมาถูกข้าต่อว่าเช่นนี้?”

คำพูดนี้ได้เตือนสติของชายคนนั้น เขาเหลือบมองชายอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ แล้วตัดเนื้อหมูบางส่วนออกมาเผยให้เห็นเนื้อหมูที่อยู่ในสภาพดี และพูดกับซูหวานหว่านอย่างภาคภูมิใจ “คุณชายเป่ยฉวนเห็นแล้วหรือไม่ เนื้อหมูนี้ไม่มีอะไรนอกจากมันหมู! เป็นเพราะว่าเราขัดสนเรื่องเงินถึงได้ฆ่ามัน…”

ระหว่างพูดออกมาก็ทำท่าราวกับจะร้องไห้ ทุกคนจึงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง และรู้สึกต้องการช่วยเหลือพวกเขาจริง ๆ จึงรีบพากันแย่งซื้อเนื้อหมูทันที!

ซูหวานหว่านถูกทิ้งให้ยืนเพียงลำพังข้างหลัง ทว่านางก็ได้เอ่ยกำชับกับทุกคนอีกครั้ง “ทุกครั้งที่พวกท่านซื้อเนื้อหมู โปรดระวังกันด้วย อย่าซื้อเนื้อหมูที่ป่วยเป็นโรคระบาด หากป่วยขึ้นมา มันจะรักษายาก!”

หากไม่ซื้อเนื้อหมูราคาถูก ๆ แบบนี้คนอื่นก็ต้องซื้ออยู่ดี! ในตอนนี้ไม่มีผู้ใดสนใจคำพูดของซูหวานหว่าน! พลันใดนั้นก็มีคนพูดออกมาว่า “คุณชายเป่ยฉวน ท่านจะพูดมากไปเพื่ออะไร? หรือเพราะกลัวว่าการที่เรามีเนื้อกินจะกระทบต่อร้านของท่าน?”

“ใช่แล้ว! หากท่านไม่ซื้อเนื้อหมูไปกิน ก็อย่ามาขวางคนอื่นไม่ให้ซื้อมันไปกินจะดีกว่า!”

“…”

ซูหวานหว่านถูกชายร่างท้วมผลักออกไปให้พ้นทาง เมื่อเห็นสถานการณ์กลายเป็นแบบนี้ นางก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ แต่นางก็ทำได้เพียงปล่อยให้คนเหล่านี้ซื้อเนื้อไป

ในตอนเย็น ใกล้เวลาร้านอาหารจะปิดแล้ว ซูหวานหว่านกำลังจะออกไป ทว่านางก็ยังเห็นว่าแผงลอยขายหมูยังเปิดอยู่ และขายเนื้อหมูหนึ่งชั่งสองเหรียญ! เหล่าชาวบ้านต่างแยกกันซื้อมันด้วยความโกลาหล!

เที่ยงของวันรุ่งขึ้น ซูหวานหว่านได้ยินเรื่องของศาลาว่าการมาจากฉีเฉิงเฟิง ว่ามีคนจำนวนไม่นอนร้องเรียนให้ไปจับคนขายเนื้อหมูสองคนนั้น เพราะพวกเขาพบว่ามีเพียงครึ่งเดียวของเนื้อหมูที่ทุกคนซื้อไปในตอนแรกมีคุณภาพดี แต่หมูที่พวกเขาซื้อไปตอนกลางคืนนั้นกลายเป็นเนื้อหมูที่ป่วยเป็นโรคระบาด!

วันนี้เมื่อทางการมาตรวจสอบก็ไม่พบสองคนนั้นแล้ว

ผู้คนต่างร้องโอดครวญกันไม่หยุด บางคนจ่ายเงินซื้อหมูไปทั้งหมดสิบชั่ง และตอนนี้พวกเขาก็ทำได้แต่ร้องไห้เสียใจ!

มีบางคนที่เกิดความเสียดายจึงนำเนื้อเหล่านั้นไปทำอาหาร แต่เกิดอาการป่วยขึ้นมาจึงเกิดความละอายใจ พากันแบกหน้าไปหาซูหวานหว่านเพื่อขอร้องให้นางรักษาอาการป่วยให้ และเอ่ยขอโทษนาง

ในช่วงเวลาไม่นานก็มีร้านขายยาเล็ก ๆ เปิดขึ้นภายในเมือง หน้าร้านมีแผ่นป้ายไม้ถูกห้อยเอาไว้มากมาย เมื่อได้ยินมาว่ายาของร้านนี้มีราคาถูก ผู้คนจึงไปซื้อยาหลากหลายชนิดมากิน

ซูหวานหว่านคิดว่าชาวบ้านจะต้องป่วยด้วยโรคนี้เยอะ นางจึงตั้งแผงขายยาหน้าร้านอาหารเจวียเซ่อ เพื่อทำการรับการรักษาและตรวจโรค แต่กลับถูกรายล้อมไปด้วยผู้หญิงที่ไม่ได้ป่วยแต่ก็มารักษา

ซูหวานหว่านกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องนี้มากจนไม่รู้จะทำอย่างไร แต่แล้วฉือชุนหยูก็เดินเข้ามา “คุณชายเป่ยฉวนเจ้าคะ! แม่ของข้ากำลังป่วย! ข้าขอให้พ่อครัวที่ร้านอาหารของท่านช่วยทำอาหารให้แม่ของข้ากินอย่างมีความสุขได้หรือไม่?”

“แน่นอน” ซูหวานหว่านตอบรับ หากแต่ก็สงสัยว่าเหตุใดในครั้งนี้ฉือชุนหยูถึงไม่มามาวุ่นวายกับนาง แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ปล่อยให้ฉือชุนหยูนำตัวพ่อครัวไป

ไม่กี่วันต่อมา ฉือชุนหยูก็มาที่นี่ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อขอยืมตัวพ่อครัว ความกังวลใจของซูหวานหว่านนั้นกำลังจะหมดไป แต่ในครั้งนี้ฉือชุนหยูมาพร้อมกับกลุ่มพลลาดตระเวน!

ไป๋หยวนซูพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “คุณชายเป่ยฉวน ท่านตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆ่าฮูหยินหยวน โปรดร่วมมือกับเราไต่สวนในคดีนี้ด้วย”

ฆาตกรรมฮูหยินหยวน? ซูหวานหว่านขมวดคิ้วอย่างงุนงง ฉือชุนหยูจ้องมองไปที่ซูหวานหว่านและพูดออกมา “เจ้านำพ่อครัวของเจ้ากลับไปซะ! พวกเจ้าทำอะไรให้แม่ของข้ากินทุกวันกัน! พ่อครัวของเจ้านำเนื้อหมูที่ร้านไปทำอาหารให้แม่ข้ากิน! แม่ของข้าเสียแล้ว! มันคือความผิดของพวกเจ้า!”

ไป๋หยวนซูคว้าตัวฉือชุนหยูเอาไว้ ส่วนซูหวานหว่านเพียงพูดออกมาอย่างใจเย็น “สาว ๆ วันนี้ข้าคงจะต้องขอโทษด้วย พวกเราจะต้องให้ความร่วมมือกับทางการในการตรวจสอบ หากข้าเป็นคนทำจริงจะต้องมีหลักฐานและข้าจะยอมรับผิด แต่ถ้าไม่ใช่ก็ได้โปรดหยุดพูดไปซะ!”

“เจ้า!” ความเกลียดชังในใจของฉือชุนหยูมีแต่จะมากขึ้น! แต่นางก็ไม่มีทางใดแล้วจึงทำได้แค่ตามไปยังศาลาว่าการ

คนใช้ตระกูลฉือนั้นมีหลักฐาน “นี่คือเนื้อหมูที่พ่อครัวได้ทำให้ฮูหยินของข้ากิน และพบว่ามันมีพยาธิไส้เดือนอยู่ในเนื้อด้วย!”

“นี่คือเนื้อหมูที่พ่อครัวนำมาจากร้านอาหารเจวียเซ่อ มันมีพยาธิ!”

“ต้องเป็นคำสั่งของเป่ยฉวนเฟิงหลิวแน่!”