“ไม่นะ!!”

ได้ยินแบบนี้ เจ้าหน้าที่จำนวนมากของสำนักวิญญาณสาขาเมืองฮวายหนิงก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป พวกเขาไม่คาดคิดว่าฉางฉือจะถ่ายทอดคำสั่งออกมาเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังบอกให้ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณทั้งสองคนลงมือพร้อมกัน

หากจั่วฮาวพ่ายแพ้และถูกจับตัวไปจริงๆนั้น บางทีเรื่องนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ใหญ่โตได้

ทว่าต่อหน้าผู้อาวุโสสำนักวิญญาณนั้น พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะตอบโต้หรือเข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ ความแตกต่างของพลังอำนาจนั้นมีมากเกินไป มีมากเกินไปจริงๆ

“นี่คือผลกรรมที่สมควรได้รับ เป็นผลกรรมที่สมควรได้รับ เจ้านี่จะต้องเผชิญกับเคราะห์ร้าย”

ในช่วงเวลานี้เจ้าหน้าที่ของเมืองฮวายหนิงต่างก็เป็นกังวล ทว่าถันป๋อกลับมีความรู้สึกตรงกันข้าม เขาได้หัวเราะคิกคักออกมา ต้องการให้เซี่ยปิงได้รับผลกรรมที่สมควรได้รับ หากไม่ใช่เป็นเพราะการที่แสดงท่าทางยโสโอหังและหยิ่งผยองเช่นนั้นออกมา เป็นไปได้อย่างไรที่จะเผชิญกับชะตากรรมเช่นนี้

เขาคิดว่าเจ้านี่จะต้องตายอย่างแน่นอน

ถึงแม้ว่าทุกๆคนจะอยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นเริ่มต้นเหมือนๆกัน ทว่ามันก็ไม่ได้บ่งบอกว่าพลังอำนาจของทั้งสองฝ่ายนั้นเท่าเทียมกัน ในฐานะผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณนั้น พวกเขาได้เรียนรู้ทักษะพลังวิญญาณมากมายจากสำนักวิญญาณสาขาหลักโดยตรง ซึ่งไม่ใช่ทักษะพลังวิญญาณที่จ้าวสำนักวิญญาณของสาขาย่อยจะเทียบด้วยได้

อย่าพูดถึงว่าตอนนี้พวกเขาก็มีถึงสองคน มีความได้เปรียบในด้านจำนวน เห็นได้ชัดว่าเจ้านี่จะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน จะต้องถูกอัดจนพิการ ไม่สามารถที่จะใช้อำนาจของตนเองรังแกผู้อื่นได้อีก

“การเดินอยู่แถวแม่น้ำ รองเท้าจะไม่เปียกได้อย่างไร ในที่สุดก็ถึงตาของเจ้าที่จะต้องถูกสั่งสอน” ถันป๋อรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ เขาและจั่วฮาวนั้นมีความขัดแย้งกันมานาน การที่ได้เห็นศัตรูที่เก่าแก่เผชิญกับเคราะห์ร้ายนั้น เขาก็รู้สึกดีใจกับความทุกข์ของคนอื่นอย่างถึงที่สุด

รอให้เขาได้เหยียบย่ำในระหว่างที่เจ้านี่กำลังล้มอยู่ ระบายความโกรธแค้นทั้งหมดที่ผ่านมาหลายปี

“ทักษะระฆังทองสั่นสะเทือน!”

ทันใดนั้นผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณทั้งสองคนก็ได้โจมตีออกมา พวกเขาได้แสดงทักษะพลังวิญญาณของชนเผ่าวิญญาณออกมาทันที บนอากาศนั้นเหมือนกับปรากฏเป็นระฆังทองขึ้นมา แสงสีทองได้ส่องสว่างออกไปไกลหลายกิโลเมตร นี่คือสิ่งที่แปรเปลี่ยนมาจากพลังอำนาจของจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์

“ไม่มีทาง นี่คือทักษะระฆังทองสั่นสะเทือน เป็นทักษะพลังวิญญาณระดับสุดยอดของชนเผ่าวิญญาณ!”

เจ้าหน้าที่ของเมืองฮวายหนิงจำนวนมากต่างก็ตกตะลึง พวกเขาเคยได้ยินถึงทักษะพลังวิญญาณที่น่าอัศจรรย์นี้มาก่อน สามารถที่จะแปรเลี่ยนกลายเป็นระฆังทองและมีคลื่นสั่นสะเทือนของพลังวิญญาณที่แผ่ออกมา

เมื่อใดที่เสียงระฆังทองดังขึ้นมา พลังทำลายล้างของคลื่นวิญญาณที่สั่นสะเทือนนี้ก็จะปะทุออกมา มีพลังอำนาจที่เหนือยิ่งว่าการทักษะพลังวิญญาณอื่นๆถึงหลายเท่า

ต่อให้ร่างกายจะมีการป้องกันของพลังเวทมนตร์ก็เปล่าประโยชน์ อาณาเขตจิตใต้สำนึกจะถูกทำลายอย่างกะทันหัน เป็นเหมือนกับการเผชิญหน้ากับสายฟ้าฟาดก็ว่าได้

ครั้งหนึ่งทักษะพลังวิญญาณนี้ก็ได้แสดงประสิทธิภาพที่ยิ่งใหญ่ออกมาในระหว่างการทำสงครามกับปีศาจต่างถิ่น เสียงระฆังทองที่ได้ดังขึ้นมา เป็นดั่งเสียงแห่งความตายที่ทำให้ศัตรูนับหมื่นเสียชีวิตไป สามารถที่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง เข้าใกล้คำว่าไร้เทียมทาน

ปัง ปัง ปัง!!!

ทันใดนั้นพลังอำนาจของทักษะระฆังทองสั่นสะเทือนนี้ก็ได้ปะทุออกมา บนอากาศมีเสียงของระฆังทองดังขึ้น เป็นเสียงที่ดังอย่างชัดเจน จากนั้นคลื่นพลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้ถ่ายทอดออกมาจากผู้อาวุโสทั้งสอง

บนอากาศ ปรากฏเป็นคลื่นระรอกที่ก่อตัวขึ้นมาเป็นสสารทันที เป็นเหมือนกับคลื่นทะเลก็ว่าได้ พุ่งออกไปสู่เซี่ยปิง ปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่

ทั่วทั้งแผ่นดินสั่นสะเทือน ที่พื้นปรากฏเป็นรอยแตกร้าวจำนวนมาก คาช่า คาช่า ส่งเสียงดังออกมา

“หลบหนี หลบหนีเร็ว”

ถันป๋อและคนอื่นๆมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก พวกเขาก็รู้สึกได้ถึงภัยคุกคามที่อันตราย เพราะว่าการโจมตีพลังวิญญาณนี้เป็นการโจมตีที่ไม่ได้เจาะจงเป้าหมาย หากพวกเขาอยู่ในระยะการโจมตีนั้น ก็จะถูกคลื่นพลังวิญญาณกระแทกเข้าไปพร้อมกับศัตรู จะตายไปโดยที่ไร้หลุมฝังศพ

พวกเขาต่างก็หลบหนีออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่กระจายตัวไปคนละทิศคนละทาง เกรงกลัวว่าการที่ตนเองอยู่ที่นี่ต่ออีกครึ่งวินาทีนั้น ก็จะถูกสังหารไปอย่างกะทันหัน

พลังอำนาจของผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์ขั้นเริ่มต้นสองคนนั้นไม่ใช่เรื่องตลก หากผู้บ่มเพาะคนใดที่ยังไม่ได้อยู่ในระดับกายาศักดิ์สิทธิ์และถูกการโจมตีพลังวิญญาณนี้เข้าไปล่ะก็ จะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย

ต่อให้เป็นผู้บ่มเพาะในระดับเดียวกัน หากไม่มีพลังอำนาจทางจิตวิญญาณที่มากพอนั้น ก็อาจจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจนกลายเป็นคนปัญญาอ่อนได้

ตึบ!

เซี่ยปิงมองอย่างที่ไม่ต้องการมองพร้อมกับก้าวเท้าออกไป แสดงทักษะมังกรสวรรค์คำรามออกมา!

คำราม!

ทันใดนั้น บนอากาศก็เหมือนกับว่ามีมังกรสวรรค์ปรากฏขึ้นมา คำรามออกสู่ท้องฟ้า มีพลังอำนาจของมังกรระดับสุดยอด สะเทือนน้ำสะเทือนบก เหมือนกับว่าเสียงคำรามนี้ได้ถ่ายทอดออกไปสู่พื้นที่ครึ่งหนึ่งของเมืองฮวายหนิง

อีกทั้งบางคนก็สังเกตเห็นมังกรสวรรค์ที่ปรากฏขึ้นมาเหนือท้องฟ้าของเมืองฮวายหนิง หลบซ่อนตัวอยู่ในหมอกเมฆ ความกดดันที่มหาศาลได้หล่นทับลงมา น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด

ภายในพริบตา ระฆังทองก็ได้ปะทะกับพลังอำนาจมังกร ทันใดนั้นก็ถูกบดทำลายจนแตกกลายเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกับว่าถูกบดขยี้ก็ว่าได้ ระเบิดออกมาจนที่พื้นปรากฏเป็นหลุมขนาดใหญ่

“นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณทั้งสองคนสะดุ้งขึ้นมาทันที พวกเขาไม่กล้าที่จะเชื่อสายตาของตนเอง เห็นได้ชัดว่าตนเองได้โจมตีฝ่ายตรงข้ามด้วยทักษะระฆังทองสั่นสะเทือนซึ่งเป็นทักษะลับระดับสุดยอดของชนเผ่าวิญญาณ ควรที่จะสังหารศัตรูได้ในทันทีทันใดถึงจะถูก

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นการที่พวกเขาทั้งสองร่วมมือกันเพื่อจัดการกับคนๆเดียว

ทว่าตอนนี้การคำรามของจั่วฮาวกลับทำลายการโจมตีของพวกเขาจนแตกสลายไป ระฆังทองได้แตกกลายเป็นเสี่ยงๆ เปลี่ยนกลายเป็นเศษซาก อีกทั้งแรงกดดันวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวก็ได้ถ่ายทอดมาที่ร่างกายของพวกเขาเช่นกัน ทำให้พวกเขาเผชิญกับการสะท้อนกลับทางจิตวิญญาณ

“อ๊าก!”

ทันใดนั้นผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณทั้งสองก็ส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพช เลือดไหลออกมาจากส่วนต่างๆของร่างกาย ทั่วทั้งร่างกายกระเด็นออกไป ไถลไปกับพื้นไกลหลายร้อยเมตร ที่พื้นนั้นก็ปรากฏเป็นรอยขีดยาว ในที่สุดก็พุ่งชนเข้ากับกำแพง

พวกเขาไม่สามารถกลั้นเลือดที่พุ่งออกมาได้ หัวใจได้รับความเสียหายอย่างหนัก หายใจอย่างติดๆขัดๆ

แม้แต่จิตวิญญาณของพวกเขาก็ได้รับบาดแผลเช่นกัน หากพวกเขาไม่ใช่ผู้บ่มเพาะในระดับกายาศักดิ์สิทธ์และมีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งในระดับหนึ่งนั้น การคำรามเมื่อครู่นี้ก็คงจะทำให้จิตวิญญาณของพวกเขาแตกสลาย

“ช่างเป็นการประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไป!”

เซี่ยปิงมองออกไปที่ผู้อาวุโสของสำนักวิญญาณทั้งสองคนที่นอนอยู่ที่พื้นด้วยสีหน้าที่ดูถูก ร่างกายของเขามีออร่าที่น่าเกรงขามแผ่ออกมา เหมือนกับว่ามีมังกรสวรรค์อาศัยอยู่ภายในส่วนลึกของร่างกายก็ว่าได้

“แข็งแกร่งเกินไป”

เจ้าหน้าที่ของเมืองฮวายหนิงจำนวนมากต่างก็ตกตะลึง พวกเขารู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่มหาศาล เหมือนกับเผชิญหน้ากับศัตรูตามธรรมชาติ พวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าตนเองกำลังมองไปที่สิ่งมีชีวิตระดับสุดยอดซึ่งมีออร่าของความศักดิ์สิทธิ์ ความโบราณและความยิ่งใหญ่แผ่ออกมา

เห็นได้ชัดว่าพวกเขานั้นได้ทำงานร่วมกับจั่วฮาวมาเป็นระยะเวลานาน ทว่าตอนนี้กลับรู้สึกแปลกประหลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ความแข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้พวกเขารู้สึกต่ำต้อยและปรารถนาที่จะคลานเข้าไปแทบเท้า

“ทำไมถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้?!”

ถันป๋อมีสีหน้าที่ซีดเผือด รู้สึกอิจฉาอย่างมาก อีกทั้งยังรู้สึกตกใจอยู่ลึกๆ เขาคิดว่าเดิมทีต่อให้พลังอำนาจของตนเองจะด้อยไปกว่าจั่วฮาว ทว่าก็ไม่ได้ห่างไกลกันมากนัก

อย่าพูดถึงว่าการที่เขาเข้าร่วมกับสำนักวิญญาณสาขาหลักนั้นก็เพื่อที่จะทำการศึกษาเรียนรู้ทักษะลับต่างๆ ซึ่งเขาก็ได้เรียนรู้ทักษะพลังวิญญาณมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตนเองมีทักษะการโจมตีที่ทรงอำนาจมากมาย ซึ่งควรที่จะอยู่เหนือกว่าจั่วฮาวถึงจะถูก

ทว่าดูตอนนี้ ตนเองกลับอ่อนแอนกว่าจั่วฮาวอย่างมาก ความแตกต่างช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน พลังอำนาจของเจ้านี่ช่างล้ำลึกและไม่สามารถประเมินค่าได้ อันที่จริงประสบการณ์หลายปีในการขยันเรียนรู้ทักษะลับอย่างหนักนั้นไม่ได้มีความหมายเลย

แท้ที่จริงแล้วเจ้านี่ได้ครอบครองทักษะพลังวิญญาณนี่มาจากที่ใดกัน ทำไมถึงไม่เคยพบเห็นมาก่อน

“นี่มัน นี่มัน!”

ฉางฉือหวาดกลัวจนไร้เรี่ยวแรงและล้มลงไปโดยตรง ผู้ที่หนุนหลังตนเองทั้งสองต่างก็ถูกอัดจนหมดสภาพไป ตอนนี้ไม่มีใครที่จะสามารถปกป้องตนเองได้อีก

ในตอนนี้ใบหน้าของเขาซีดเซียวพร้อมกับมองไปที่เซี่ยปิงด้วยความแตกตื่น

“เจ้า เจ้า อย่าเข้ามา ข้าเป็นลูกชายของจ้าวสำนักวิญญาณ ข้าคือลูกชายของจ้าวสำนักวิญญาณ เจ้ารู้ไหม?!” ฉางฉือแสดงท่าทางที่แข็งนอกอ่อนใน เขาได้ตะโกนออกมาเพื่อพยายามข่มขู่เซี่ยปิง

“หนวกหู!”

ปัง เซี่ยปิงได้ใช้ฝ่ามือตบเข้าไป ตบจนฉางฉือกระเด็นออกไปโดยตรงและหมุนกลางอากาศสามรอบ ฟันของเขาหลุดออกมา2-3ซี่ ในที่สุดก็ร่วงลงไปกับพื้น จากนั้นก็ส่งเสียงร้องตะโกนออกมาอย่างน่าสมเพช