ตอนที่ 186 อนาคตของเขา ชีวิตของเธอ (1) / ตอนที่ 187 อนาคตของเขา ชีวิตของเธอ (2)

ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล

ตอนที่ 186 อนาคตของเขา ชีวิตของเธอ (1) 

 

 

ไป่จือเย่ว์มองสำรวจไปรอบๆ ห้องเรียนอย่างคาดหวังรอบแล้วรอบเล่า แต่ท่ามกลางนักเรียนหลายสิบคนกลับไม่มีใครยกมือเลยสักคน  

 

 

หล่อนถอนหายใจพลางมองไปรอบๆ อีก และแล้วสายตาก็สบเข้ากับเซิ่งอี่เจ๋อและอันซย่าซย่า 

 

 

หล่อนจึงนึกขึ้นได้ว่าฉีเหยียนซีเคยพูดคุยกับทั้งสองคนนี้ และพวกเขาก็นั่งใกล้ๆ กันด้วย บางทีทั้งสองคนนี้อาจจะสนิทสนมกับฉีเหยียนซีมากกว่าคนอื่นๆ ก็ได้ 

 

 

ครูสาวจึงลองเอ่ยปากดู “เซิ่งอี่เจ๋อ อันซย่าซย่า พวกเธอจะติดอะไรไหมเรื่องการไปเยี่ยมฉีเหยียนซี” 

 

 

ทั้งสองคนต่างก็อ้ำอึ้ง 

 

 

เด็กนักเรียนทั้งห้องโห่ร้องและส่งเสียงเชียร์ “เยี่ยมไปเลย! ครูไป่ เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมมาก!” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อนิ่วหน้า และอันซย่าซย่าเองก็นั่งงงงันอยู่ตรงนั้นเฉยๆ อาจารย์และนักเรียนทั้งห้องพากันทิ้งภาระหนักลงบนไหล่ของเธอและเขา 

 

 

หลังจากโรงเรียนเลิกแล้ว อันซย่าซย่าก็ไปซื้ออาหารบำรุงกำลังจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ โรงเรียนด้วยเงินกองกลางของห้อง จากนั้นจึงกลับมารับเซิ่งอี่เจ๋อ 

 

 

เขากำลังนั่งรออยู่ในรถของเขาและพูดด้วยท่าทางชัดเจนว่าไม่อยากเกี่ยวข้อง “เชิญเธอไปตามสบายเลย ฉันไม่อยากเจอหน้าหมอนั่น” 

 

 

“แต่ครูไป่บอกให้เราไปด้วยกันนะ” อันซย่าซย่าตอบด้วยท่าทางไม่พอใจ “ก็ได้… ฉันไปเองคนเดียวก็ได้ ถ้านายไม่อยากไป” 

 

 

อย่างไรเสีย นายสองคนนี้อาจจะมีเรื่องกันอีกก็ได้ถ้าหากเซิ่งอี่เจ๋อไปกับเธอ ซึ่งมันก็เป็นฉากที่เธอไม่อยากเห็นเลย 

 

 

หญิงสาวเดินจากไปพร้อมกับถือถุงหนักๆ พะรุงพะรัง และรอยขมวดคิ้วบนใบหน้าของเซิ่งอี่เจ๋อก็ยิ่งหนักขึ้นขณะที่เขามองเธอจากข้างหลัง 

 

 

ให้ตายสิ เขาปล่อยเธอไปคนเดียวไม่ได้! 

 

 

เจ้าฉีเหยียนซีต้องกำลังวางแผนการชั่วร้ายกับอันซย่าซย่าอยู่แน่ๆ 

 

 

เขาลดกระจกรถยนต์ลง และร้องเรียกอันซย่าซย่า “นี่ หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ” 

 

 

อันซย่าซย่าหันหลังกลับมามองเขาด้วยความงุนงง แล้วเขาก็พูดอย่างบูดบึ้ง “ขึ้นรถสิ ฉันจะไปกับเธอ” 

 

 

หญิงสาวดีใจอย่างเห็นได้ชัด และรีบกุลีกุจอขึ้นรถ 

 

 

อันซย่าซย่าตกตะลึงพรึงเพริดไปเลย เมื่อรถหยุดลงที่นอกคฤหาสน์ตระกูลฉี 

 

 

พระเจ้า… มันเป็นคฤหาสน์ และใหญ่โตมาก มีคฤหาสน์หลังเล็กอยู่ด้านหลังด้วย… 

 

 

พวกนายทุนที่ร่ำรวยอย่างน่ารังเกียจพวกนี้…ช่างร่ำรวยหรูหราอย่างน่าขัน! 

 

 

ขณะที่เธอยืนอยู่ที่นั่นด้วยความประหลาดใจ เซิ่งอี่เจ๋อก็เม้มริมฝีปากด้วยความไม่พอใจ “ยัยใสซื่อเอ๊ย” 

 

 

เขาอาสาที่จะแบกกล่องอันหนักอึ้งไว้เอง ทิ้งไว้เพียงแค่กระเช้ายาบำรุงเบาๆ ให้กับอันซย่าซย่า 

 

 

เธอไม่ได้สังเกตการกระทำของเขาเลย ได้แต่เพียงหยิบกระเช้าขึ้นมาแล้วก็ตกตะลึงพรึงเพริดไปตลอดทางเดินเข้าไป 

 

 

พ่อบ้านกล่าวทักทายและโค้งคำนับให้อย่างนบนอบ หลังจากได้รับการบอกกล่าวถึงสาเหตุที่มาแล้ว เขาก็ส่งสาวใช้ขึ้นไปข้างบนเพื่อแจ้งให้ฉีเหยียนซีทราบ 

 

 

อันซย่าซย่ากระดากกับการที่ชายสูงวัยโค้งคำนับให้ เธอจึงรีบคำนับกลับ 

 

 

หญิงสาวสังเกตการออกแบบตกแต่งภายใน และเห็นว่ามันเป็นสไตล์ยุโรปที่หรูหราโอ่อ่า ของเก่าแก่โบราณถูกจัดประดับไว้ทุกหนแห่ง และมีภาพวาดสีน้ำมันติดอยู่บนผนังสองสามภาพ 

 

 

เธอไม่รู้จักมันหรอก แต่ก็มั่นใจว่าจะต้องเป็นของราคาแพงหูฉี่แน่นอน… อย่างไรเสีย ศิลปะก็เป็นสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ 

 

 

ฉีเหยียนซีนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับขาที่ถูกเข้าเฝือกข้างหนึ่ง เขาลุกไปไหนไม่ได้ 

 

 

กระเป๋านักเรียนที่มู่หลีนำมาให้เขาถูกทิ้งอย่างไม่สนใจไยดี— เขาฉีกหนังสือทุกหน้าออกเพื่อเป็นการบอกว่าเขาโมโหมากแค่ไหน 

 

 

พ่อของเขาเองก็โกรธมากจนเกือบจะตีเขาอีกครั้ง 

 

 

ตอนนี้ ภายหลังจากห้องได้รับการเก็บกวาด และไม่มีอะไรที่ดีกว่านั้นให้ทำแล้ว ฉีเหยียนซีก็ได้แต่นอนเอามือสองข้างหนุนหัว เหม่อมองท้องฟ้าอันว่างเปล่า 

 

 

มีกระดาษแผ่นหนึ่งที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์วางอยู่ข้างหมอน 

 

 

มันเป็นกระดาษสัญญาที่เขาหลอกให้อันซย่าซย่าลงชื่อเมื่อวันก่อน 

 

 

“อันซย่าซย่าเต็มใจจะเป็นสมบัติส่วนตัวของฉีเหยียนซี…” 

 

 

อันซย่าซย่า… 

 

 

ให้ตายสิ! ทำไมเขาถึงได้คิดถึงเธอขึ้นมาอีก! 

 

 

ด้วยความรำคาญใจ ฉีเหยียนซีสบถเบาๆ ในขณะที่สาวใช้เปิดประตูเข้ามาพอดี 

 

 

เขาตะคอกอย่างไม่สบอารมณ์ “มีอะไร รีบพูดแล้วก็ออกไปซะ!” 

 

 

สาวใช้ตอบด้วยเสียงสั่นเทา “นายน้อยคะ มีเพื่อนร่วมห้องสองคนมาเยี่ยมค่ะ ฉันคิดว่าหนึ่งในนั้นคือ-คืออันซย่าซย่า…” 

 

 

ฉีเหยียนซีตกตะลึงไปก่อนที่ความอิ่มเอิบใจจะซัดสาดเข้าใส่เขา 

 

 

อันซย่าซย่ามาเขาที่นี่ด้วยตัวเองเลยหรือ 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 187 อนาคตของเขา ชีวิตของเธอ (2) 

 

 

เขาผุดลุกขึ้น ซึ่งทำให้ขาข้างที่บาดเจ็บนั้นถูกรั้งตึงจนต้องสูดหายใจด้วยความเจ็บปวด  

 

 

เมื่อเหลือบมองลงไปยังชุดนอนที่ยับยู่ยี่ ผมเผ้าอันยุ่งเหยิง เขาก็พูดอย่างลุกลี้ลุกลน “เอ่อ อย่าเพิ่งให้เธอขึ้นมา ให้เธอรอสักครู่ หาอะไรมาให้ฉันใส่ก่อน”  

 

 

สาวใช้รีบหยิบเสื้อผ้ามาให้เขาก่อนจะกลับลงไปข้างล่าง 

 

 

เมื่ออันซย่าซย่าและเซิ่งอี่เจ๋อขึ้นมายังห้องนอนของเขา ทั้งคู่ต่างก็เห็นฉีเหยียนซีในสภาพสวมเสื้อไหมพรมสีเทา ผมยุ่งเล็กน้อย และกำลังง่วนอยู่กับการอ่านหนังสือ 

 

 

“เอ่อ…หนังสือนายกลับหัวน่ะ” เซิ่งอี่เจ๋อหยอกอย่างไม่ไว้หน้า 

 

 

เมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่าย ฉีเหยียนซีก็เงยหน้าขึ้นด้วยความแปลกใจ แล้วก็รู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นหน้าเซิ่งอี่เจ๋อ “ให้ตายสิวะ นายมาทำอะไรที่นี่” 

 

 

อันซย่าซย่าเอ่ยอย่างระวังถ้อยคำ “พวกเรามาที่นี่เพื่อเยี่ยมนาย…” 

 

 

ใบหน้าของเขาเครียดขึ้น 

 

 

ทีแรกเขาคิดว่าเธอคงจะแยกแยะความรู้สึกผิดชอบชั่วดีได้แล้ว และตั้งใจมาหาเขา ไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าเซิ่งอี่เจ๋อจะโผล่มาพร้อมเธอด้วย! 

 

 

ที่เธอมาเพราะอยากแสดงความเหนือกว่าหรือมาเยาะเย้ยเขากันแน่ 

 

 

“ใครส่งพวกเธอมา” ฉีเหยียนซีร้องฮึ ท่าทางดูหงุดหงิดมาก 

 

 

อันซย่าซย่าตอบอย่างอ้อมแอ้ม “ครูไป่สั่ง… ครูขอให้พวกเราเป็นตัวแทนห้องมาเยี่ยมนาย” 

 

 

เมื่อสัมผัสถึงความโกรธที่กำลังแผ่ซ่านออกมาจากเขา อันซย่าซย่าก็ผงะถอยหลังไปนิดหนึ่ง 

 

 

“พวกเราก็เจอเขาแล้วนี่ กลับกันได้แล้ว” เซิ่งอี่เจ๋อชวนเธอกลับ และกำลังจะเดินออกไปอยู่พอดีเมื่อเสียงหัวเราะอย่างพอใจดังขึ้นจากเบื้องหลัง “อี่เจ๋อ เธอมาที่นี่เรอะ ฮ่าๆ ลุงไม่ได้เจอเธอมานานโขแล้ว” 

 

 

หลังจากคำพูดทักทายนั้น ทั้งคู่ก็ได้พบกับนายท่านฉีซึ่งเพิ่งจะกลับบ้าน เขาแต่งกายด้วยสูทพอดีตัว รูปร่างท่าทางดูดีมาก 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อทักทายตอบอย่างสุภาพ แล้วพ่อของฉีเหยียนซีก็ยิ้มพร้อมเอ่ยปาก “เรามาเล่นหมากรุกกันสักตาไหม” 

 

 

เซิ่งอี่เจ๋อไม่กล้าปฏิเสธข้อเสนอนั้นจึงพยักหน้าตอบ เขาหันมาหาอันซย่าซย่า “เธอจะมาดูฉันเล่นหมากรุกหรือว่าจะรออยู่ที่นี่” 

 

 

อันซย่าซย่าไม่ใช่คนที่ชอบเรื่องไพ่หรือหมากรุกเลย ดังนั้นเธอจึงส่ายหน้า เซิ่งอี่เจ๋อถอนใจจากนั้นก็เหลือบไปมองฉีเหยียนซีซึ่งยังคงอยู่บนเตียง เขาไม่คิดว่าเจ้าหมอนั่นจะสามารถก่อเรื่องได้ในสภาพแบบนี้ ชายหนุ่มจึงแนะให้อันซย่าซย่ารอเขาก่อนและเขาจะไปศึกษาการเล่นหมากรุกกับพ่อของฉีเหยียนซี 

 

 

สีหน้าของฉีเหยียนซีเปลี่ยนไปในบัดดลหลังจากที่ทั้งสองออกจากห้องไป เขาเบ้ปากพลางพูด “ถ้าไม่รู้ดีไปกว่านี้ ฉันคงคิดว่าเจ้าเซิ่งอี่เจ๋อน่ะเป็นลูกชายเขาแล้วล่ะ” 

 

 

อันซย่าซย่านั่งลงบนโซฟาเล็กตัวหนึ่งพลางหยิบหมอนอิงมากอดไว้ “ทำไมนายถึงพูดแบบนั้นล่ะ พ่อของนายแค่ชอบเขาก็เท่านั้นเอง นายต้องเป็นคนที่เขารักมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว” 

 

 

“หึ ให้โลกแตกก่อนเถอะ” ฉีเหยียนซีเย้ยหยัน 

 

 

เมื่อไหร่กันที่พ่อคนหนึ่งจะทำร้ายลูกตัวเองสาหัสถึงเพียงนี้ 

 

 

เขานอนเล่นแท็บเล็ตโดยไม่สนใจไยดี ปล่อยให้อันซย่าซย่านั่งอยู่ตามลำพัง 

 

 

เสียงเพลงเบื้องหลังของเกมดังขึ้นขณะที่เขาผ่านแต่ละด่านๆ แต่แท้จริงนั้น ความว่างเปล่าภายในใจเขากลับดูเหมือนกว้างขึ้นและกว้างขึ้น 

 

 

เมื่อเงยหน้าขึ้น สายตาเขาก็หันไปทางอันซย่าซย่าอย่างไม่ตั้งใจ เธอกำลังพลิกดูหนังสืออะไรสักอย่างอยู่ สีหน้าจริงจังบนหน้าเธอทำให้หัวใจเขากระตุก 

 

 

เขาถามอย่างเก้อๆ “นี่ อันซย่าซย่า เธอกับเซิ่งอี่เจ๋อกำลังคบกันหรือเปล่า” 

 

 

อันซย่าซย่าส่ายหน้า “เปล่า” 

 

 

เธอพูดความจริงโดยแท้จริง 

 

 

ใบหน้าของฉีเหยียนซีดูสดใสขึ้น ถ้าพวกเขาไม่ได้คบกัน มันก็หมายความว่าเขายังมีโอกาสน่ะสิใช่ไหม 

 

 

“ฉีเหยียนซี หายไวๆ นะ แล้วก็จากนี้ไปอย่าเอาแต่ใจนัก มีหลายคนที่เสียใจเมื่อนายได้รับบาดเจ็บนะ” อันซย่าซย่าพยายามโน้มน้าวเขาด้วยน้ำเสียงจริงจัง 

 

 

รอยยิ้มบนใบหน้าเขาชะงักอยู่แค่นั้น “เธอคงคิดไปเองแล้วล่ะ ไม่มีใครมาเสียใจให้ฉันหรอก” 

 

 

“อย่างน้อยที่สุด นายก็เป็นคนที่เจ็บปวดเองเวลาที่บาดเจ็บไง! ทำไมนายถึงหาเรื่องให้ตัวเองเจ็บด้วยล่ะ” 

 

 

“ฉัน…เจ็บ” ฉีเหยียนซีถามด้วยความงงงัน 

 

 

นานเท่าไหร่แล้วนะที่มีคนถามเขาว่าเขาเจ็บป่วยตรงไหนหรือเปล่า