บทที่ 24:ภาษาอังกฤษที่น่าแปลกใจ
หลังจากตื่นนอนและทานอาหารเช้าเสี่ยวหลัวก็ไปที่ห้องเรียนเพื่อเรียนตามตารางเรียนปกติ
หลังจากการออกไปใช้ชีวิตในสังคมมาเป็นเวลากว่าสามปีการกลับไปที่ห้องเรียนเพื่อเรียนมันเป็นสิ่งที่ทรมานมากสําหรับเสี่ยวหลัว อาจารย์ผู้สอนกําลังพูดอธิบายอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบนแท่น เสี่ยวหลัวในขณะนี้เขารู้สึกง่วงนอนเป็นอย่างมากเปลือกตาทั้งสองของเขาราวกับเป็นแม่เหล็กที่กําลังดึงดูดซึ่งกันและกัน
ในท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้เอาชนะอาการง่วงนอนของเขาได้และได้แต่นอนฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ
อาจารย์ผู้สอนเมื่อได้พบนักศึกษาคนหนึ่งที่กําลังนอนฟุบหลับอยู่บนโต๊ะ เธอก็หยุดสอนในทันทีและถามอย่างตรงๆว่า “พวกเธอการบรรยายของฉันมันน่าเบื่อเกินไปงั้นเหรอ?”
ทั้งคลาสตกใจและงุนงงอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็ส่ายหัวอย่างรวดเร็วเพื่อปฏิเสธ
“ไม่ค่ะการสอนของอาจารย์จ้ง วิเศษมากโดยเฉพาะเกี่ยวกับประวัติการเงินของประเทศต่างๆ พวกเราทุกคนต่างก็ตั้งใจฟังอย่างกระตือรือร้น” อันหวนกล่าวตอบ
คนอื่นๆ พยักหน้าตามคําพูดของเธอทันที
อาจาร์จ้ง เหม่ยลี่ ดันแว่นขึ้นแล้วเธอก็ชี้ไปที่เสี่ยวหลัว”ถ้ามันน่าสนใจจริงๆแล้วทําไมเขาถึงหลับ”
ทุกคนหันไปมอง มันเป็นเรื่องจริงเสี่ยวหลัวนั้นร่างกายส่วนบนของเขากําลังแผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่วโต๊ะตอนนี้ เขาก็กําลังกรนและนอนหลับสนิท
“โอ้พระเจ้า จูเสี่ยวเฟยคงไม่ได้บอกพี่หลัว ว่าเขาสามารถนอนหลับในคลาสเรียนของใครก็ได้ยกเว้นคราสเรียนของอาจารย์จ้ง…” ในใจของอันหวนหวนรู้สึกกังวลสําหรับเสี่ยวหลัว
ชูเยว่สวมเสื้อเชิ้ตปักสีขาวและกระโปรงสีเขียวหยกโปร่งสบาย ในครั้งนี้ผมสีดําของเธอถูกมัดเป็นผมหางม้าสายลมพัดผ่านจากหน้าต่างผมของเธอปลิวไสว เธอสวยงามราวกับเทพธิดาที่บริสุทธิ์
เมื่อเธอเห็นเสี่ยวหลัวนอนหลับอยู่เธอก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว”ผู้ชายคนนี้มาอยู่ที่นี่เพื่อมาเรียนหรือไม่หรือเขามาที่นี่เพื่อนอน?”
“อาจาร์จ้ง ไม่ชอบเมื่อมีคนหลับในห้องของเธอเสี่ยวหลัวกําลังมีปัญหาแล้วคราวนี้” ไป่ ไซ่เหวิน ส่ายหัวของเธออย่างเห็นอกเห็นใจ
เสี่ยวหลัวไม่ได้ตระหนักว่าเขาได้กลายเป็นจุดสนใจของทั้งคลาสเรียนในขณะนี้ หลังจากที่ถูกปลุกให้ตื่น โดยเสี่ยวเฟยจูและเติ้งไคเขาก็ถามทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
จูเสี่ยวเฟยไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้”พี่ชายที่รักของผม พี่กําลังนอนในคลาสของอาจารย์จ้ง”
“มันทําไม?”
เสี่ยวหลัวไม่รู้อะไรเลย เมื่อตอนที่เขาอยู่ในวิทยาลัยเขาไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าไม่สามารถนอนในคลาสเรียนได้ อาจารย์มหาวิทยาลัยไม่สนใจว่าคุณจะฟังหรือไม่ขอแค่เรียนจบก็เพียงพอแล้ว ในหัวเย่ไม่ได้เป็นแบบนั้นงั้นเหรอ?
เสี่ยวหลัวเงยหน้าขึ้นและรู้สึกตกใจอย่างมาก ผู้หญิงทุกคนในคลาสเรียนและแม้แต่อาจารย์หญิงบนแท่นกําลังยืนมองมาที่เขาอยู่ในเวลานี้
“ผู้อํานวยการสํานักวิชาการเป็นญาติของอาจารย์จ้ง ผู้อํานวยการฝ่ายวิชาการเป็นผู้รับผิดชอบตราบใดที่เธอพูดอะไรออกไป เธอก็สามารถจดบันทึกย่อลงบนไฟล์ประวัติของพี่ได้ในทันที มีนักศึกษาคนหนึ่ง ที่ขาดคลาสเรียนของเธอและตกในคลาสนั้นมันทําคนคนนั้นจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลังจากผ่านไปห้าปี ” เติ้งไค กล่าวด้วยความกระวนกระวายราวกับแมวที่กําลังอยู่บนอิฐร้อนๆ
เสี่ยวหลัวตระหนักถึงความจริงและยิ้มออกมาอย่างขมขื่น”นี่มันน่าอึดอัดซะมัด!”
“ฉันขอโทษพี่ด้วยที่ฉันไม่ได้เตือนพี่หลัว เกี่ยวกับสถานการณ์แบบนี้ล่วงหน้ามันเป็นความผิดของฉันเอง” จูเสี่ยวเฟย ตบศีรษะของเขาด้านหลังและกล่าวโทษตนเอง
ในเวลานั้นเองก็มีหญิงสาวคนหนึ่งยืนขึ้นและตะโกนใส่เสี่ยวหลัวด้วยน้ําเสียงที่รุนแรง“เสี่ยวหลัวนายไม่ได้นอนหลับอย่างสบายในคืนที่ผ่านมาหรือยังไง ทําไมนายถึงได้มานอนหลับในห้องเรียนได้? นายไม่รู้หรือไงว่านี่เป็นคุณลักษณะที่แย่เอามากๆ”
เธอคนนี้มีผมที่สั้นและเธอแต่งตัวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอไม่ได้แต่งหน้ามา เหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ หน้าของเธอเปลือยเปล่า เธอเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์มีใบหน้ารูปแตงโมตาเล็กๆ มองดูแล้วไม่เลวเลย อย่างไรก็ตามเธอไม่ใช่คนที่มีลักษณะที่น่ารักอ่อนหวานทั่วทั้งร่างกายของเธอมีความสง่างามและเคร่งขรึม มั่นใจได้เลยว่าเธอจะกลายเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมเมื่อได้เข้าสู่สังคม
หลังจากการแนะนําของจูเสี่ยวเฟยและเติ้งไคเมื่อวานนี้เสี่ยวหลัว ก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร เธอคือผู้ดูแลวิชาเอกภาษาอังกฤษชื่อ ฮวาง รั่วหราน เธอเป็นผู้หญิงที่ดีและมีหลักการมากซึ่งเป็นคนที่กระตือรือร้นเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
(ผู้ดูแลคือ นักเรียนผู้ทําหน้าที่ช่วยครูดูแลความประพฤติของนักเรียนคนอื่น)
“ยอมรับความผิดของนายต่ออาจารย์จ้งและสัญญาว่าจะไม่นอนหลับในคลาสเรียนอีกในอนาคตซะ!” ฮวาง หรู่หราน กล่าวด้วยน้ําเสียงที่ชัดเจน
เสี่ยวหลัวยอมรับได้ถ้าหากอาจารย์จ้ง พูดกับเขาด้วยน้ําเสียงแบบนี้ แต่ตอนนี้ใครเป็นคนพูด? เธอคือผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อายุน้อยกว่าเขาหลายปี เธอยังมาวิจารณ์เขาอย่างเปิดเผยต่อหน้าผู้คนมากมาย เธอต้องการให้เขายอมรับความผิดพลาดและสัญญา? เสี่ยวหลัวรู้สึกไม่ชอบใจ
เขายืนขึ้นแล้วโค้งตัวให้กับอาจารย์จ้ง เหม่ยลี่ ที่ยืนอยู่บนแท่น เขาพูดออกมาอย่างจริงจังว่า”อาจารย์ผมผิดไปแล้วที่ได้นอนในคลาสเรียนและผมก็ยอมรับในความผิดของผม” เขาเหลือบสายตาไปที่ ฮวาง รั่วหราน และเปลี่ยนหัวข้อของการสนทนา“ผมยอมรับเพราะผมเข้าใจผิดไป แต่ไม่ใช่เพราะว่า ฮวาง รั่วหราน เป็นคนพูดผมถึงได้ยอมรับความผิด”
ทันทีที่เขาพูดค่าพูดนี้ออกไปผู้คนทั้งคลาสก็ตกอยู่ในความโกลาหล
เทพเจ้าหลัวกําลังทําอะไร เขากําลังประกาศสงครามกับ ฮวาง รั่วหราน งั้นเหรอ?
จูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค รู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ฮวาง รั่วหราน เป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกที่แข็งกร่าว เสี่ยวหลัวที่ได้ฉีกศักดิ์ศรีของเธอ เขาอาจจะต้องเผชิญกับอนาคตที่ยากลำบาก หนึ่งคือต้องรู้เธอเป็นผู้ดูแลชั้นเรียน มีหลายสิ่งที่ต้องทําและขอความช่วยเหลือจากเธอ มันจะเป็นหายนะแน่ๆถ้าเธอจงใจหรือทําสิ่งที่ยากลําบากสําหรับพวก เขา
ถึงแม้ว่าชูเยว่จะบอกว่าเธอต้องการจะเพิ่มเสี่ยวหลัวลงในทีมเกมของเธอ แต่ตอนนี้ชูเยว่กําลังดูความบันเทิงที่กําลังเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทกับ ฮวาง รั่วหราน แต่เธอก็เชื่อมั่นและเคารพในความรู้ทางวิชาการของ ฮวาง รั่วหร่าน ในความสําเร็จส่วนบุคคลและความคารมคมคายของเธอ ไม่เช่นนั้นเธอคงจะไม่ได้อยู่ตำแหน่งผู้ดูแลชั้นเรียน
“สิ่งที่เธอพูดในนั้นเป็นความจริงเมื่อเสี่ยวหลัวมาถึงชั้นเรียนของเรามันก็น่าสนใจยิ่งขึ้นไปอีก” ไป่ ไซ่เหวิน และชูเยว่ กําลังเฝ้าดูสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ฮวาง รั่วหราน มองไปที่เสี่ยวหลัว ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความชิงชังและรังเกียจเพราะเสี่ยวหลัวเป็นบุคคลแรกที่ท้าทายอานาจและศักดิ์ศรีของเธอในฐานะผู้ดูแลชั้นเรียน
อาจารย์จ้งเหมยลี่ ไม่ได้แสดงรอยยิ้มแห่งความยินดีออกมาเพราะเสี่ยวหลัวนั้นได้ยอมรับความผิดพลาดของเขา เธอมองไปที่เสี่ยวหลัวด้วยสีหน้าที่บูดบึง“เธอเป็นนักศึกษาใหม่ เสี่ยวหลัวเธอคงไม่รู้ว่ารั่วหราน นั้นเป็นผู้ดูแลห้องเรียนของเธอใช่ไหม เธอนอนหลับในคลาสเรียน รั่วหรานได้กล่าววิจารณ์เธอเล็กน้อยก็เพื่อประโยชน์ของเธอเอง เธอควรจะดีใจที่ได้มีผู้ดูแลที่ดีสิ แต่ตอนนี้เธอกําลังมีทัศนคติแบบไหนกัน? เธอไม่มีความเคารพต่อผู้ดูแลของเธอเลยใช่ไหม ฉันรู้สึกว่าเธอไม่ได้รู้สึกความผิดพลาดของตัวเอง”
เสี่ยวหลัวรู้สึกว่าใบหน้าเขาร้อนขึ้นเล็กน้อย เขาอายุมากแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับการวิจารณ์อย่างมากมายขนาดนี้
“Idiot” (งี่เง่า)
ฮวาง รั่วหราน จ้องมองเขาจากหางตาของเธอและนั่งลงพร้อมกับด่าว่าเขาเป็นภาษาอังกฤษ
เสี่ยวหลัวไม่สามารถทนได้และตอบด้วยเสียงเย็นทันที“Who was the idiot referring to?” (ใครคือคนงี่เง่า ที่เธอพูดถึง?)
มันไม่ใช่สไตล์ของเขาที่จะมาโต้เถียงกับเด็กผู้หญิง แต่โชคร้ายมากที่ ฮวาง รั่วหราน ทำให้เขาอารมณ์เสียยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ เนื่องจากเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไปเขาจึงตอบโต้กลับ ท่าไมเขาจะต้องทนที่มีคนทําให้เขารู้สึกไม่สบายอารมณ์ด้วย
ทั้งห้องเรียนเงียบลงทันทีที่เขาพูด
ทุกคนจ้องมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ไม่ใช่เพราะเขากล้าตอบโต้ ฮวาง รั่วหราน แต่เป็นเพราะเขาพูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก
ถ้าหากพวกเธอไม่เห็นเสี่ยวหลัวพูดออกมาด้วยตาตนเองพวกเธอคงจะคิดว่านี่เป็นคนต่างชาติที่เป็นคนพูดเสียงมันบริสุทธิ์เกินไปและธรรมดาเกินไป สําเนียงเป็นอเมริกันที่แท้จริงซึ่งเป็นระดับของการพูดภาษาอังกฤษที่พวกเธอต้องการที่จะบรรลุ
ชูเยว่หันมามองเสี่ยวหลัวอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้คาดคิดว่าเสี่ยวหลัวจะพูดภาษาอังกฤษได้ดีนัก
อาจารย์ จ้ง เหม่ยลี่ ก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน แม้ว่าเสี่ยวหลัวจะพูดเพียงประโยคสั้นๆ แต่เธอก็มั่นใจว่า เสี่ยวหลัวพูดภาษาอังกฤษอย่างน้อยก็ระดับหก และในสาขาวิชาหลักทั้งหมดก็มีเพียงแต่ ฮวาง รั่วหราน เท่านั้น ที่มาถึงระดับหก นี่เป็นเหตุผลที่เธอรู้สึกชมชอบ ฮวาง รั่วหราน ท้ายที่สุดครูเกือบทุกคนก็ชอบนักเรียนที่เรียนเก่ง มันเป็นเรื่องธรรมดา