ตอนที่ 403 หวังเจียเหยากลายเป็นคุณน้องสะใภ้

เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?)

ตอนที่ 403 หวังเจียเหยากลายเป็นคุณน้องสะใภ้?

หวังเจียเหยาเพิ่งเคยเจอเย่เทียนเป็นครั้งแรก แต่ทั้งกอดทั้งจับมือเขา

ออกจะให้ท่าพี่เขยมากเกินไปหรือเปล่า!

อีกทั้งยังทำทั้งหมดนี่ต่อหน้าภรรยาเย่เทียนด้วย!

คงยูมิเห็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ก็พูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

เย่เฉินเองก็ไม่ชอบพฤติกรรมนี้ของหวังเจียเหยาอย่างมาก แพศยาจริงๆ โชคดีที่หย่ากับหล่อนแล้ว ถ้าหากว่าปล่อยแม่นี่อยู่ในตระกูลเย่ของเราจริงๆ ไม่แน่ว่าวันไหนหล่อนอาจจะไปทอดกายถวายตัวหพี่ชายฉันก็ได้!”

ถึงแม้ว่าเย่เทียนจะดูน่ากลัวแต่ในสายตาเด็กผู้หญิงแล้ว ก็ดูป็นคนตรงๆ ซื่อๆ เท่านั้นเอง

หวังเจียเหยาพาเย่เทียนไปที่โต๊ะตัวเอง แล้วก็ชี้เด็กน้อยในรถเข็นพลางกล่าว

“พี่ใหญ่คะ นี่หลานพี่ค่ะ พี่อยากจะอุ้มเขาไหม?”

และในเวลานี้เอง ใบหน้าคงยูมิฉายแววรักใคร่ แล้วมองเด็กทารกสองคนที่อยู่ในรถเข็น

คงยูมิมองเด็กทารกชายแล้วกล่าวกับเย่เทียนอย่างเอ็นดู “คุณดูเด็กผู้ชายสองคน ปาก จมูก เหมือนน้องสามจังเลย”

เย่เทียนพยักหน้ารับ “เหมือนน้องสามจริงๆ”

หวังเจียเหยากล่าวด้วยสีหน้าภูมิใจ “อืมๆ นี่มันพิมพ์เดียวกับเย่เฉินอย่างกับโขลกออกมา”

ทว่าคงยูมิก็เสสายตาไปที่ทารกหญิงที่นั่งข้างๆ อย่างรวดเร็ว

“เด็กผู้หญิงสวยจังเลย อ้อนแอ้นเชียว”

คงยูมิอยากจะกอดทารกหญิงคนนี้อย่างอดไม่ได้ ทว่าในเวลานี้เย่เฉินกลับกระแอมสองที

“พี่สะใภ้ เด็กผู้หญิงไม่ใช่ลูกผม” เย่เฉินแค่นเสียงเย็น

ก่อนหน้านี้คงยูมิไม่ได้รู้เรื่องที่เย่เฉินตรวจ DNA ใบหน้าหญิงสาวฉายแววตื่นตระหนก

“เธอว่าอะไรนะ?”

เด็กสองคนอายุเท่ากันอย่างเห็นได้ชัด ในเมื่อล้วนแต่เป็นลูกของหวังเจียเหยาจะต้องเป็นพี่น้องท้องเดียวกันแน่

แต่เย่เฉินกลับพูดว่าเด็กชายเป็นลูกเขา แต่เด็กผู้หญิงไม่ใช่ของเขาเนี่ยนะ?

คงยูมิเป็นผู้หญิงย่อมเข้าใจได้ในทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น!

แล้วหญิงสาวจึงหันมองหวังเจียเหยาอย่างไม่ค่อยจะพอใจ หวังเจียเหยาลายใจทันทีเมื่อโดนจับได้

เพี้ยะ!

คงยูมิฟาดฝ่ามือใส่หน้าหวังเจียเหยาทันที!

“บ้าเอ้ย! หวังเจียเหยาในฐานะที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าคุณจะทำเรื่องต่ำช้าแบบนี้! คุณทำร้ายเย่เฉิน แล้วทำไมยังต้องพาเด็กผู้หญิงมาที่งานแต่งงานด้วย? จงใจมาหยามน้องชายฉันเหรอ!”

คงยูมิเองก็รู้ว่า ทันทีที่เย่เฉินเห็นเด็กผู้หญิงก็หัวเสียจะต้องนึกถึงเรื่องที่ตนเองโดนทรยศ

ดังนั้นถ้าหวังเจียเหยาจะมาก็ควรจะพามาแค่เด็กผู้ชายสิ เอาเด็กผู้หญิงมาทำไม

ที่จริงแล้วหวังเจียเหยาไม่ได้อยากจะยั่วโมโหเย่เฉินหรอก แต่ที่หล่อนพาลูกสาวมาก็เพราะลูกสาวเป็นลูกของซูมู่หลิน

นี่คือสายเลือดตระกูลซู แล้ววันนี้คืองานของตระกูลซูหล่อนเลยต้องเอาเด็กมาทั้งสองคน

แล้วจางเชี่ยนจื่อก็ผุดยืนขึ้นเอาพอเหมาะพอเจาะทันที

“นี่เกิดอะไรขึ้น? ทำไมหลานสาวฉันไปทำอะไรให้พวกคุณขยะแขยง? หลานสาวฉันจะอยู่ในงานไม่ได้ได้ยังไง?!”

จางเชี่ยนจือไม่พอใจในตัวเย่เฉิน ตอนนี้ก็ยิ่งไม่ชอบเย่เทียนกับภรรยาที่มาแย่งซีนตระกูลซู มาวางก้ามในงานแต่งงาน

บวกกับที่หล่อนรู้เรื่องของซู่มู่หลินกับหวังเจียเหยาแล้ว หล่อนรู้ว่าทารกหญิงในรถเข็นเป็นเลือดเนื้อของหล่อน

เมื่อจางเชี่ยนจือกล่าวจบงานก็วุ่นวายทันที

“นี่…นี่มันเกิดอะไรขึ้น! ลูกสาวของเมียเก่าเจ้าบ่าวทำไมเป็นหลานสาวของแม่เจ้าสาวล่ะ?”

“แม่ง หรือว่าเมียเก่าเจ้าบ่าวเคยนอกใจเจ้าบ่าวไปนอนกับน้องชายเจ้าสาวเหรอ?”

“โห นี่มันโหดสุดยอด!”

ซูเจิ้นหางไม่อยากให้คนเอาเรื่องครอบครัวไปคุยกันให้สนุกปาก เขาส่งสายตาบอกซูหมิงเจ๋อ

ซูหมิงเจ๋อเองก็รีบร้อนตะโกนเสียงดัง “ทุกท่าน ทุกท่านเชิญกลับไปนั่งประจำที่เถอะครับ เราเสิร์ฟอาหารเลยแล้วกัน ทุกท่านดื่มกินกันให้เต็มที่ วันนี้ไม่เมาไม่เลิก!”

ทุกคนต่างก็ไว้หน้าตระกูลซูจึงไม่กล้าพูดเรื่องนี้อีก พวกเขากลับไปนั่งอย่างว่าง่าย ดื่มเหล้ากินข้าวอย่างสนุกสนาน

ตอนนี้หวังเจียเหยาเห็นเย่เทียนและภรรยาเหมือนจะไม่ค่อยพอใจที่ตนเองทรยศเย่เฉิน

ก็รู้ได้เลยว่าคนตระกูลเย่ไม่น่ายอมรับหล่อนอีกแล้ว

แล้วพอเห็นจางเชี่ยนจื่อมารดาซูมู่หลินเข้าข้างตัวเอง ก็รีบประจบประแจงทันที

“คุณน้าคะ คุณคือแม่ของมู่หลินเหรอคะ?”

จางเชี่ยนจือหันมองหวังเจียเหยาแล้วกล่าว “ใช่แล้ว ฉันคือแม่ของเขา เธอคือคุณหนูหวังจากเวิ๋นโจวใช่ไหม? สวยจังเลย มิน่าล่ะลูกชายฉันถึงชอบเธอ”

หวังเจียเหยาลูบผม “ไม่เลยค่ะ คุณน้า หนูเป็นแค่คนธรรมดาเลยค่ะ ถ้าเทียบกับคุณน้า ต้องคุณน้าเลยถึงจะเป็นคนสวยค่ะ”

จางเชี่ยนจือโพล่งออกมา “เจียเหยาเธอมีลูกให้มู่หลิน ฉันดีใจมาก จริงสิเธออยากจะอยู่ที่บ้านเราไหม? ฉันจะได้เห็นหลานสาวบ่อยๆ ตอนนี้มู่หลินก็ไม่ค่อยสบาย เธออยู่กับเขาจะได้คอยดูแลเขาหน่อย”

หวังเจียเหยานิ่งไป จากที่จางเชี่ยนจือกล่าวเหมือนหญิงสูงวัยจะยอมรับให้ตนเองเป็นสะใภ้หล่อน!

ก่อนหน้านี้หวังเจียเหยาก็เคยจินตนาการว่าตนเองเป็นสะใภ้ตระกูลซูมาก่อน แต่ซูมู่หลินเองก็พูดอย่างชัดเจนว่าหล่อนไม่คู่ควร

ซูมู่หลินเองเห็นหวังเจียเหยาเป็นของเล่นเป็นเพื่อนนอนเท่านั้นเอง

หวังเจียเหยาประหลาดใจแต่ก็ยังทำทีกังวล “อ้าวมู่หลินไม่สบายเหรอคะ? เขาบาดเจ็บได้ยังไง? แล้วต่อไปจะเดินได้ไหมคะ?”

จางเชี่ยนจือกลอกตาใส่เย่เฉินแล้วแค่นเสียงออกมา

ขจยถึงได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

“มิน่าล่ะแม่ของมู่หลินถึงได้ยอมรับฉัน ที่แท้มู่หลินบาดเจ็บเพราะเย่เฉิน!”

หวังเจียเหยารีบรับปากทันที “คุณน้าคะ สบายใจเถอะค่ะ หนูจะต้องอยู่ที่นี่ต่อเพื่อดูแลมู่หลิน”

สีหน้าเย่เฉินเริ่มฉายแววไม่พอใจออกมา

ตอนนี้เย่เฉินแต่งงานกับซูมู่ชิง หวังเจียเหยาไม่ควรจะแต่งงานกับซูมู่ชิงสิ เมียเก่าจะกลายมาเป็นน้องสะใภ้เหรอ?

ดูแล้วแม่ยายคนนี้จะจงใจเหยียดยามเย่เฉิน!

ซูมู่ชิงเห็นสามีตนเองไม่พอใจก็กล่าวเสียงแผ่ว “ขอโทษด้วยนะคะที่รัก แม่ฉันเหลวไหลจริงๆ”

เย่เฉินไม่อยากจะทำหน้านิ่วคิ้วขมวดในวันแต่งงาน เขาฝืนฉีกยิ้ม

“ไม่เป็นไร เราไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับน้องชายคุณนี่ ไม่งั้นเราก็แค่ไม่ไปเจอพวกเขา”

และในเวลานี้เองซูเจิ้นหางที่เชิญเย่เทียนและภรรยาให้ร่วมรับประทานอาหารโต๊ะเดียวกับเขา และเริ่มดื่มเหล้ากัน

ส่วนเย่เฉินและซูมู่ชิงก็ต้องไปดื่มเหล้ากับพวกผู้ใหญ่ตามกฎเกณฑ์และมารยาท

ที่นี่มีโต๊ะหลายร้อยบวกกับส่วนมากมาเพราะนับถือบ้านตระกูลซู เย่เฉินเลยไม่จำเป็นต้องไปขอบคุณทุกโต๊ะ

เมื่อดื่มเหล้าเสร็จ เย่เฉินเพิ่งได้โอกาสช่วงพักสูดอากาศ ซีกวาก็เดินมา

“คุณชายเย่ คุณดูทางนั้นสิ”

ซีกวาชี้ไปที่ไกลๆ ที่มีกลลุ่มคนเบียดเสียด เย่เฉินเลยมองไม่ออกมในทันทีทันใด

“ของอะไรน่ะ?” เย่เฉินถาม

ซีกวาอธิบาย “คนชุดชมพูคือหวังหยวนหยวน!”

เย่เฉินถึงพอจะจำอีกฝ่ายได้ “หวังหยวนหยวนเหรอ? หล่อนมาได้ยังไง?”

หลายวันที่ผ่านมานี้ตอนเย่เฉินเป็นยาม เขายังเจอหวังหยวนหยวนอยู่เลย

ซีกวากระซิบข้างหูเย่เฉิน “เมื่อครู่ผมแอบไปฟังมา เหมือนว่าหวังหยวนหยวนจะหาผู้ชายรวยๆ มาเลี้ยง!”

“อะไรนะ?”

เย่เฉินหันมองอีกครั้งแล้วก็พบว่าหวังหยวนหยวนสวมเกาะอกต่ำๆ ไม่ปิดบังเรือนร่างตนเอง กำลังนำเสนอเรือนร่างของตนเองให้กับชายอายุ 40 กว่าปีคนหนึ่งดู

ชายชราคว้าแขนนวลเนียนของหวังหยวนหยวนเอาไว้ด้วยสีหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย เหมือนอยากจะกลืนกินหญิงสาวให้ได้!