ท่าทีน่าเกรงขามของถังหนิงช่างเกินต้านทาน หม่าเวยเวยจึงกลัวเกินกว่าจะสบตามองเธอ
ทว่าถังหนิงขี้เกียจจะเสียเวลากับหม่าเวยเวย เธอจึงรีบออกมาพร้อมกับคนของจู้ซิงมีเดีย ก่อนจะตามสืบเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างหลงเจี่ยกับจู้ซิงมีเดีย
จากนั้นถังหนิงติดต่อลู่เช่อซึ่งในเวลานี้ได้มาถึงเมือง Z ที่ที่เขาต้องอึ้งเมื่อได้พบกับหันซิวเช่อตอนที่อีกฝ่ายมาที่กองถ่ายรายการที่เอสเอเจกำลังถ่ายทำอยู่
“หลงมั่นอยู่ที่ไหน”
“หลงเจี่ยบอกว่าเธอมีบางอย่างต้องไปจัดการ เธอเลยกลับไปปักกิ่งแล้ว คุณไม่เจอเธอเหรอครับ” หัน ซิ่วเช่อถามขึ้นอย่างหน้าตาเฉย
ลู่เช่อรู้เรื่องของหม่าเวยเวยแล้ว เขาจึงเข้าไปคว้าเสื้อของอีกฝ่ายก่อนเอ่ย “ถ้าเส้นขนของหลงมั่นหายไปสักเส้น ทั้งคุณและพี่ชายจะต้องถูกทำลายไม่มีชิ้นดีแน่! ”
เขาไม่อยากจะเสียเวลาชีวิตไปกับหันซิวเช่อ สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาคือการตามหาหลงเจี่ย เขาได้เบาะแสจากที่อยู่โรงแรมและรู้ว่าหลงเจี่ยอยู่ที่ไหนในท้ายที่สุด
ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นหลงเจี่ยเมาและไม่สนใจโลกภายนอกโดยการขังตัวเองอยู่ในห้องอย่างนี้
เขาต้องเปิดเผยตัวตนของตัวเองและเตือนทางโรงแรมว่าภรรยาของเขาอาจฆ่าตัวตาย ก่อนที่พวกเขาจะยอมเปิดประตูห้องหลงเจี่ยให้ด้วยความกลัวว่าจะต้องรับผิดชอบ
ทันทีที่ได้กลิ่นเหล้า ลู่เช่ออุ้มหลงเจี่ยจากเตียงไปในอ่างอาบน้ำ จากนั้นจึงเปิดฝักบัวรดตัวเธอเพื่อปลุกให้ตื่น
ไม่นานหลงเจี่ยก็ได้สติ เมื่อเห็นลู่เช่อเธอก็ถามขึ้นทันที “ทำไมคุณมาอยู่ที่นี่ได้คะ”
“คุณปิดมือถือแล้วผมก็ติดต่อคุณไม่ได้เลยไงครับ! ” ลู่เช่อเอ่ยอย่างเย็นชา อุ้มเธอออกมาจากอ่างอาบน้ำ ก่อนใช้ผ้าขนหนูห่อตัวเธอเอาไว้ “จำที่ผมบอกคุณก่อนที่คุณจะไปจากจีนไม่ได้เหรอครับ”
“ในเมื่อคุณมาถึงที่นี่แล้ว คงรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วใช่ไหมคะ” หลงเจี่ยหันหน้าไปมองลู่เช่อ “ฉันมันคนไร้ค่า ฉันปกป้องจู้ซิงมีเดียไว้ไม่ได้”
“ต่อให้คุณปกป้องมันไว้ไม่ได้ คุณก็น่าจะกลับมาที่บ้านทันทีสิครับ การจมอยู่กับความผิดพลาดแบบนี้มันได้ประโยชน์อะไรล่ะครับ” เขาถาม
“คุณโกรธหรือเปล่าคะ”
“คุณคิดว่ายังไงล่ะครับ” ลู่เช่อสวนกลับ “บางครั้งผมก็อยากจะถามคุณว่าผมยังเป็นสามีคุณหรือเปล่า ผมไม่เคยเป็นคนแรกที่คุณติดต่อมาเลย ไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่แค่ไหนที่คุณเจอ คุณกลับเลือกดื่มจนเมาแอ๋อย่างนี้แทนที่จะเล่าให้ผมฟังสักคำ”
หลงเจี่ยก้มหน้าอย่างเถียงไม่ออก “อย่าเพิ่งรีบดุฉันเลยค่ะ ฉันเองก็กำลังพยายามคิดว่าฉันผิดตรงไหนอยู่”
“คุณรู้หรือเปล่าว่าทำไมหันซิวเช่อถึงจ้องทำลายจู้ซิงมีเดีย”
“เขามีปัญหากับถังหนิง เขาเลยมาระบายความแค้นลงที่ฉัน…”
“แล้วยังไงครับ คุณกำลังจะโทษคุณผู้หญิงเหรอ” ลู่เช่อถาม
“…”
“คุณผู้หญิงกลับมาแล้วนะครับ…”
“เธอกลับมาแล้วเหรอ”
ไม่อย่างนั้นผมจะหาคุณเจอง่ายขนาดนี้ได้ยังไงกัน หันซิวเช่อโอนหุ้นของเขาให้หม่าเวยเวย แล้วตอนี้เธอก็ไปโอ้อวดอำนาจของตัวเองที่จู้ซิงมีเดียโดยที่ไม่รู้ว่าคุณผู้หญิงกลับมาแล้ว ตอนนี้คุณผู้หญิงขังเธอเอาไว้ และทุกคนก็กำลังเป็นห่วงคุณอยู่ด้วยครับ! ” ลู่เช่อสูดหายใจลึกหลังจากพูดจบก่อนจะคุ้ยเสื้อผ้าสะอาดๆ มาให้หลงเจี่ยเปลี่ยน
หลงเจี่ยยังคงเอาแต่เงียบเหมือนภรรยาตัวน้อยที่ว่าง่าย
เธอดูออกว่าตอนนี้ลู่เช่อกำลังโกรธจริงๆ
เธอทั้งประมาทและไร้สติ แต่ในเวลาเดียวกันเธอก็โกรธจนคิดอะไรไม่ออกเช่นกัน
หลังจากเจอตัวหลงเจี่ย ลู่เช่อโทรหาถังหนิงทันที “คุณผู้หญิงครับ ผมเจอเธอแล้ว จะพาเธอกลับไปเดี๋ยวนี้ครับ…”
“อย่าโทษเธอมากนักเลย เธอเป็นภรรยาของนาย นายน่าจะเข้าใจเธอดีกว่าใครนี่นา” ถังหนิงเอ่ยเตือน
“ผมรู้ว่าควรทำยังไงครับ คุณผู้หญิง”
หลังจากได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ หลงเจี่ยยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม เธอไม่รู้ว่าตัวเองจะก่อเรื่องใหญ่ขนาดนี้ และไม่ว่าจะทวงจู้ซิงมีเดียคืนมาได้หรือไม่ เธอก็รู้สึกว่าตัวเองทำให้ถังหนิงผิดหวัง
ลู่เช่อรู้ว่าเธอกำลังหดหู่ใจ เขาจึงไม่ได้กล่าวโทษเธอแต่อย่างใด และบอกกับเธอขณะที่กำลังขับรถ “ผมไม่ได้โกรธคุณเพราะจู้ซิงมีเดีย ผมแค่เป็นห่วงคุณเท่านั้นเองครับ”
“ฉันรู้ค่ะ…”
ไม่นานลู่เช่อก็กลับมาถึงไฮแอทรีเจนซีพร้อมหลงเจี่ย
อย่างไรก็ตามการที่อยู่ๆ ต้องมาเผชิญหน้ากับถังหนิงก็ทำให้เธอรู้สึกหวั่นในใจเล็กน้อย
“เข้าไปสิครับ”
ลู่เช่อพาเธอเข้ามาในไฮแอทรีเจนซีในขณะที่ถังหนิงกำลังอ่านสัญญา ซึ่งเป็นสัญญาที่ออกโดยไห่รุ่ยเมื่อครั้งที่ก่อตั้งจู้ซิงมีเดียขึ้นมา
เมื่อเห็นหลงเจี่ยกลับมา ถังหนิงจ้องเธอและถามขึ้น “ทำไมเธอไม่ติดต่อฉันทันทีที่เกิดเรื่องขึ้น”
หลงเจี่ยรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่เธอไม่ชอบเก็บเรื่องไว้กับตัวเอง จึงตอบหลังจากเงียบไปชั่วครู่ “เพราะหัน ซิ่วเช่อบอกว่าเขาวางแผนทั้งหมดนี้เพราะเกลียดคุณค่ะ ฉันคิดว่าพวกคุณคงมีเรื่องบาดหมางใหญ่โตกัน… ฉันเลยคิดว่า…”
“ฉันไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ” ถังหนิงตัดบท “ถ้าฉันจะบอกว่าฉันเคยเห็นเขาที่วิทยาลัยในอังกฤษแค่ไม่กี่ครั้ง เธอจะเชื่อฉันไหมล่ะ”
“ฉันต้องเชื่อคุณอยู่แล้วล่ะค่ะ” หลงเขี่ยตอบ “ฉันเชื่อคุณเสมอแหละค่ะ ก็แค่…”
“ไม่ต้องอธิบายอะไรแล้ว ฉันเข้าใจ” ถังหนิงห้ามหลงเจี่ยไม่ให้พูดอะไรไปมากกว่านี้ขณะที่สบตามองอีกฝ่าย “ช่วงที่ฉันรอเธออยู่ ฉันสืบเรื่องของหันซิวเช่อมาบ้างแล้ว พี่ชายของเขาเลี้ยงเขามาโดยไม่ได้รับความรักจากแม่ จากผลงานของเขาก็เห็นได้ชัดแล้วว่าเขาโหยหาความรักขนาดไหน แต่เขาก็หยิ่งซะเหลือเกิน เขาเลยไม่ยอมรับและนึกถึงผู้หญิงสักคน
“ดูเหมือนว่าฉันอาจจะทำให้เขาโกรธตอนที่เราเจอกัน ดังนั้นฉันเองก็มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย”
“แต่ตอนนี้จู้ซิงมีเดียตกอยู่ในมือของหม่าเวยเวยแล้วนะคะ…”
เมื่อหลงเจี่ยว่าดังนั้น ถังหนิงก็ชูสัญญาในมือพร้อมรอยยิ้มบาง “ไม่เสมอไปหรอก”
“แต่ว่าสื่อเองก็รู้เรื่องนี้แล้ว พวกเขาต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นข่าวใหญ่แน่ๆ เลยค่ะ…”
“แต่ฉันก็กลับมาแล้วไม่ใช่หรือไง” ถังหนิงเอ่ยกับหลินเฉี่ยน จากนั้นจึงพูดกับทุกคน “แค่ฉันไม่อยู่ไม่กี่เดือน ฉันก็ไม่มีตัวตนแล้วเหรอ
“ฉันเคยพลาดอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ถ้าหม่าเวยเวยอยากจะเหมือนฉันนักอย่างนั้นก็เอาเลยสิ…
“ฉันจะให้คำตอบกับพวกเธอทุกคนเอง โดยเฉพาะเรื่องของหันซิวเช่อ คอยดูการแสดงเด็ดๆ ได้เลย”
เมื่อได้ยินคำพูดของถังหนิงและมองแววตาของเธอ อยู่ๆ หลงเจี่ยและหลินเฉี่ยนก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมาก
“ฉันจะทวงจู้ซิงมีเดียกลับมาให้เธออย่างไม่มีรอยขีดข่วนเลยล่ะ ส่วนเรื่องเอสเอเจ ฉันจะส่งพวกเขาเข้าคุกเอง หลงเจี่ย ฉันเข้าใจว่าเธอทุ่มเทให้กับวงนี้มาก แต่ถ้าเราไม่จัดการกับศิลปินที่มีประวัติด่างพร้อยตามสมควร สุดท้ายพวกเขาจะดึงเราให้พังลงไปด้วย ฉันจะไม่ปล่อยให้ชื่อของเธอมีมลทินเด็ดขาด มันไม่ได้ช่วยให้เธอดันศิลปินคนอื่นได้หรอกนะ”
หลงเจี่ยพยักหน้ารับหลังจากได้ยินเช่นนั้น “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ คุณทำสิ่งที่คุณต้องได้เลยค่ะ…”
“กลับบ้านไปพักผ่อนซะ… ลู่เช่อคงเป็นห่วงเธอมาก เธอน่าจะกลับบ้านไปปลอบเขาหน่อยนะ”