“หันซิวเช่อคนนั้นบ้าไปแล้ว” หลินเฉี่ยนเอ่ยหลังจากหลงเจี่ยจากไป “ฉันละอายใจกับความคิดข้างเดียวของเขาจริงๆ ”
“ฉันทำอะไรกับเรื่องนั้นไม่ได้หรอก เจอคนอย่างนั้นเข้าไปฉันจะทำอะไรได้ล่ะ” ถังหนิงถาม “เขามั่นใจว่าวิธีของเขาจะทำให้จู้ซิงมีเดียตกต่ำในตอนที่ฉันไม่อยู่ ความจริงที่เกิดขึ้นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าฉันคิดถูกที่ไม่สนใจเขา ฉันก็แค่รู้สึกแย่ที่หลงเจี่ยต้องถูกจ้องทำร้ายมานานน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นต่อไปคุณวางแผนว่าจะทำยังไงล่ะคะ”
“หลงเจี่ยทุ่มเทกับการฝึกเอสเอเจมาก แล้วสุดท้ายดูสิ่งที่เกิดขึ้นสิ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ทั้งสี่คนเอาแต่มองหลงเจี่ยถูกทำร้าย ในสายตาของฉันพวกเขาไม่มีความเป็นมนุษย์เลยสักนิด ดังนั้น…ก่อนที่ฉันจะเล่นงานกับหันซิวเช่อ ฉันต้องจัดการกับพวกเขาก่อน
“วงการบันเทิงไม่เคยไร้คนดี
“รวมถึงพวกคนไม่รู้สำนึกด้วย!
“ในเมื่อหันซิวเช่อใช้คนพวกนี้ในการข่มขู่หลงเจี่ย อย่างนั้น…ฉันก็ต้องใช้พวกเขาเพื่อแสดงให้เขาเห็นว่าเขาคิดผิดแค่ไหน”
หลังจากคลอดเหยียนเอ๋อร์ ร่างกายของถังหนิงกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม อีกทั้งยังดูมีเรี่ยวแรงมากขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วยซ้ำ
“เธอยังท้องอยู่ อย่าเข้ามายุ่งเลยดีกว่านะ… ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ คุณป้าหลี่คงจะบ่นฉันแน่ๆ ”
หลินเฉี่ยนพยักหน้าให้ พอเป็นเรื่องของหันซิวเช่อและวง ขี้ขลาด เธอรู้ว่าการเข้าไปเกี่ยวข้องกับพวกเขาคงไม่ได้มีผลดีกับตัวเธอแต่อย่างใด
“ถ้าอย่างนั้นก็ระวังตัวด้วยนะคะให้บอดีการ์ดตามประกบคุณตลอดเวลาเราจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง…” หลินเฉี่ยนออกปากเตือน
“เธอคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรล่ะ” ถังหนิงหัวเราะ “ดูเหมือนว่าฉันจะต้องแวะไปเมือง Z สักหน่อยแล้วล่ะ”
เธอจะไปที่นั่นทำไมกันน่ะหรือ แน่นอนว่าเธอกำลังจะไปกำจัดวงนั้นให้หายไปกับตา
กล้าดีอย่างไรมากดขี่ข่มเหงหลงเจี่ย คิดว่าจู้ซิงมีเดียไม่มีคนหนุนหลังอยู่อย่างนั้นหรือ
…
ด้วยเส้นสายที่เขามี หันซิวเช่อรู้อย่างรวดเร็วว่าความแอบพบกันของเขากับหม่าเวยเวยถูกเปิดโปงแล้ว ทว่า…เขารู้ว่ามันจะเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว เขาจึงไม่ได้สนใจว่าจู้ซิงมีเดียจะรู้เรื่องนี้ อย่างไรเสียมันก็ไม่ได้เป็นของหลงเจี่ยอีกแล้ว
หากแต่เขานึกไม่ถึงว่าถังหนิงจะกลับมาปักกิ่งแล้ว!
และไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะมาถึงเมือง Z ด้วยตัวเอง!
หันซิวเช่อพยายามติดต่อหม่าเวยเวย แต่อีกฝ่ายถูกขังเอาไว้และโทรศัพท์ของเจ้าตัวก็แบตเตอรี่หมดมานานแล้ว
เขาจึงตัดสินว่าว่าหลังจากเอสเอเจถ่ายทำเสร็จจะพาพวกเขากลับปักกิ่งไปกับเขาทันที อย่างไร…เขาเองก็รับปากกับหลงเจี่ยเอาไว้แล้วว่าจะไม่ทำรุนแรงกับจู้ซิงมีเดีย
แต่ในเวลานี้ถังหนิงได้มาถึงกองถ่ายเรียบร้อยแล้ว
และเธอได้นัดพบกับผู้จัดแล้วเสียด้วย
แม้ว่าผู้จัดจะอึ้งกับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของถังหนิง เธอก็ยังคงเป็นถังหนิง…
ไม่ว่าข่าวลือจะมีมากมายเพียงไหน ตราบใดที่เธอยังเป็นภรรยาของโม่ถิง เธอก็ยังน่าเกรงกลัวอยู่เสมอ ยิ่งเมื่อเธอเข้ามาหาด้วยท่าทีแข็งกร้าวตั้งแต่แรก
หากแต่ถังหนิงไม่ได้บอกให้ใครรู้แผนการที่เธอวางไว้ เธอทำเพียงไปพบกับผู้จัดและหัวหน้าผู้อำนวยการด้วยตัวเธอเอง
เมื่อทั้งสองคนเห็นถังหนิง สายตาก็แทบถลนออกมาจากเบ้า อย่างไรเสียก็มีข่าวลือว่าเธอเป็น คนใช้ อยู่ที่อเมริกา ทำไมอยู่ๆ เธอถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่เมือง Z ได้
“ฉันต้องขอโทษประธานหวังกับผู้กำกับเฟิ้งด้วยนะคะ ที่ฉันมาขอพบคุณโดยที่ไม่ได้บอกล่วงหน้าพอดีฉันมีบางอย่างจะมาเตือนพวกคุณน่ะค่ะ”
“คุณถัง…พูดมาได้เลยครับ”
“เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับวงที่หลงเจี่ยพามาน่ะค่ะ เพื่อไม่ให้คุณสูญเสียไปมากกว่านี้ ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายในการยกเลิกสัญญาของพวกเขา แต่ฉันก็หวังว่าคุณจะไล่พวกเขาออกไปจากรายการด้วยตัวเองนะคะ”
“คุณถัง ผมไม่ค่อยเข้าใจเลยครับ…” ในเมื่อหลงเจี่ยพาพวกเขามาและพวกเขาเองก็เป็นศิลปินในสังกัดจู้ซิงมีเดีย ทำไมอยู่ๆ ถังหนิงต้องขอร้องให้ทำอย่างนั้นด้วย
“ขอฉันพูดตามตรงกับคุณเลยนะคะ ทั้งสี่คนนั้นถูกจับได้ว่าเสพยาค่ะ! คุณอยากจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้งหรือให้พวกเขาออกไปเงียบๆ ล่ะค่ะ” ถังหนิงถาม “คุณอยากจะรักษาชื่อเสียงดีๆ เอาไว้ไหมล่ะค่ะ หรืออยากโดนดึงให้ตกต่ำไปกับพวกเขากันล่ะ”
“แต่พวกเขาก็เป็นศิลปินของจู้ซิงมีเดียไม่ใช่เหรอครับ”
มาถึงจุดนี้ ถังหนิงส่ายหน้าและเริ่มอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับหลงเจี่ย โดยเฉพาะแผนการของหันซิวเช่อ “ก่อนหน้านี้ฉันอยู่ที่ต่างประเทศเลยไม่สามารถป้องกันปัญหาอย่างนี้ไว้ได้น่ะค่ะ ฉันเลยมาที่นี่เพื่อแสดงความจริงใจ หวังว่าฉันจะแก้ไขเรื่องนี้ได้ก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ”
หลังจากทั้งสองได้ฟังคำอธิบายของถังหนิง พวกเขาถึงกับอึ้งจนเหงื่อแตกพลั่ก แม้ว่าจะคุ้นเคยกับแผนการในวงการแล้ว พอได้มาเจอกับตัวเองและเกือบถูกลากให้พังไปด้วย มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะทำให้เขากลัวขึ้นมา
“ในเมื่อเรื่องซับซ้อนขนาดนี้ แน่นอนว่าเราขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้วกันครับ เรื่องที่คุณถังขอเอาไว้ไม่ใช่เรื่องยากเลย เราแค่ต้องตัดฉากของพวกเขาออก พวกเขาเป็นศิลปินหน้าใหม่ในวงการคงไม่ได้ออกอากาศมากอยู่แล้ว” ผู้กำกับเอ่ย “โชคดีที่คุณเป็นคนดีพอที่จะมาเตือนเรานะครับ…ไม่อย่างนั้นต้องเกิดเรื่องใหญ่เกินกว่าที่เราจะรับมือไหวแน่”
“เราเองต่างก็พยายามทำให้วงการบันเทิงน่าอยู่ขึ้น การช่วยเหลือกันคงเป็นการดีที่สุดอยู่แล้วล่ะค่ะ” ถังหนิงตอบพร้อมรอยยิ้ม
“อย่างนั้นถ้ามีอะไรให้เราช่วยก็บอกได้เลยนะครับ เราจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เลย”
ถังหนิงมองทั้งสองคนพลางส่งยิ้มให้ เห็นได้ชัดว่าเธอคิดบางอย่างไว้ในใจแล้ว…
ผู้จัดและผู้กำกับเข้าใจเจตนาของเธอดี เธอแค่ต้องการแก้แค้นให้หลงเจี่ยเท่านั้น
เธอจึงขอให้ปิดบังเรื่องการนัดพบครั้งนี้ไม่ให้หันซิวเช่อรู้
การแสดงบางอย่างไม่ควรรีบเปิดม่านเกินไปนัก
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ คุณนึกถึงเราขนาดนี้ เราไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธคำขอของคุณหรอกครับ”
ถังหนิงได้ช่วยพวกเขาไม่ให้สูญเสียครั้งใหญ่ไว้จริงๆ หากเรื่องของวงนี้ถูกเปิดเผยขึ้นมา รายการของเขาคงได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างแน่นอน ในเมื่อถังหนิงยอมเสนอตัวช่วยพวกเขา คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้ความร่วมมือกับเธอ
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอขอบคุณล่วงหน้าไว้ด้วยนะคะ” ถังหนิงยกชาขึ้นดื่มให้กับคนทั้งสอง
หลังจากถังหนิงจากไป ผู้กำกับก็เอ่ยกับผู้จัด “ผมเข้าใจว่าทำไมคนถึงพูดกันว่าถังหนิงเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นแล้วล่ะ
“อีกอย่าง ผมไม่เคยเชื่อเลยว่าเธอจะยอมแพ้ให้กับเรื่องเล็กๆ บนโลกออนไลน์ คุณเองก็เห็นวิธีการที่เธอวางแผนมาอย่างแยบยลกับตาตัวเองแล้วนี่ครับ พวกเขากล้าพูดว่าเธอเป็นแค่อดีตได้ยังไงกัน ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด!
“แล้วไม่ว่ายังไงเราก็จำเป็นต้องช่วยเรื่องนี้ อย่างน้อยเราก็จะได้ไม่ไปมีเรื่องกับเธอ ไม่อย่างนั้นเราคงได้ตายโดยไม่รู้ตัวแน่ๆ ”
พูดจบทั้งสองก็กลับไปที่กองถ่าย
ทว่าเมื่อผู้กำกับมองไปที่เอสเอเจ ตอนนี้พวกเขาดูเหมือนกากเดนที่เป็นพิษภัยสังคมไปเสียแล้ว!
ดังนั้นต่อให้ถังหนิงจะโหดร้ายกับพวกเขามากเพียงไหน พวกเขาก็สมควรได้รับมัน!
หลังชะงักไปครู่หนึ่ง ผู้จัดส่งสายตาให้ผู้กำกับคล้ายบอกให้ลงมือ สุดท้ายอีกฝ่ายจึงไม่มีทางเลือกนอกจากเข้าไปหาทั้งสี่คน “พวกนายสี่คนมากับฉันซะ!”