สมาชิกในวงมองหน้ากันอย่างประหม่าก่อนจะเดินตามผู้กำกับไปในป่าแถบนั้น
“ผู้กำกับครับ เราทำอะไรผิดเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ บอกพวกเรามาเถอะค่ะ เราปรับปรุงตัวได้นะคะ…”
“ปรับปรุงตัวเหรอ” ผู้กำกับว่าเย้ยก่อนเอ่ยถาม “ฉันไม่เชื่อว่าพวกเธอจะทำอย่างนั้นได้หรอก ฉันแค่อยากรู้ว่าหลงเจี่ยอยู่ที่ไหน”
“เอ่อ…” สมาชิกสบตากันอย่างตอบอะไรไม่ถูก
“พวกเธอไม่ได้สำนึกบุญคุณที่หลงเจี่ยปั้นพวกเธอขึ้นมาเลย เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง พวกเธอได้แต่มองเธอถูกทำร้าย นี่มันคุ้มกันเหรอ” ผู้กำกับถามพลางจ้องมองสมาชิกทั้งสี่ “ฉันได้ยินเรื่องทรามๆ ที่พวกเธอทำแล้ว พวกเธอไม่ต้องอยู่ถ่ายทำที่นี่แล้วล่ะ มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นเลย”
เมื่อสมาชิกได้ยินเช่นนี้ พวกเขาถึงกับอึ้งขณะพยายามแก้ตัว “ผู้กำกับเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ”
“เข้าใจผิดเหรอ” ผู้กำกับหัวเราะ “ต้องให้ฉันเล่าสิ่งที่พวกเธอทำบนชั้นดาดฟ้าด้วยไหม”
ทั้งสี่นิ่งค้าง…
“ฉันจะไว้หน้าพวกเธอโดยการให้พวกเธอออกไปซะ! ” เขาตวาดลั่น “วัยรุ่นก็น่าจะยับยั้งชั่งใจเอาไว้บ้าง ต่อให้พวกเธอเสพยา ก็น่าจะได้รับการยกโทษถ้าพวกเธอแสดงความสำนึกออกมาบ้าง แต่นี่
“พวกเธอเลือกที่จะอกตัญญูเพราะความโลภ ฉันล่ะไม่อยากจะเชื่อว่าพวกเธอจะหักหลังหลงเจี่ยแค่เพราะว่าจะได้อยู่ในรายการต่อ!
“แล้วฉันก็ไม่อยากจะเชื่อว่าหลงเจี่ยจะเสียแรงปกป้องไอ้พวกคนไร้จิตสำนึกอย่างพวกเธอด้วย!…
“รายการฉันไม่มีที่สำหรับพวกเธอ ไสหัวไปซะ! ”
พูดจบผู้กำกับก็หันหลังเดินจากไป ทว่าสมาชิกในวงคนหนึ่งรีบคว้าแขนเสื้อเข้าไว้ “ผู้กำกับครับ เราไปไม่ได้นะครับ ถ้าเราไปทุกอย่างที่เราถ่ายทำไปจะต้องเสียเปล่านะครับ”
“เสียเปล่าเหรอ ฮ่าๆ พวกเธอคิดว่าตัวเองสูงส่งซะเหลือเกินนะ เพราะว่าหลงเจี่ย เราเลยถ่ายฉากของพวกเธอเอาไว้เยอะ แต่ตอนนี้ที่เราต้องทำก็แค่ตัดฉากพวกนั้นออกเท่านั้นแหละ” สิ้นคำ ผู้กำกับสะพัดตัวออกจากแรงจับและหันหลังกลับไปที่กองถ่าย
ในขณะเดียวกันวงที่สิ้นหวังไม่มีทางเลือกนอกจากก้มหน้าจากไป!
หันซิวเช่อได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเขาเห็นสมาชิกเก็บข้าวของเขาจึงเอ่ยถามทันที “เกิดอะไรขึ้น พวกเธอไปก่อเรื่องอะไรตอนที่ฉันไม่เห็น”
“เราก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน แต่ยังไงผู้กำกับก็รู้เรื่องของเราแล้ว… เลย…”
“ฉันจะไปพูดกับผู้กำกับเอง” หันซิวเช่อหันขวับไปทันที อย่างไรก็ตามสมาชิกในวงรีบรั้งเขาไว้
“ช่างมันเถอะครัย ถ้าเรื่องใหญ่โตไปมากกว่านี้ มันคงไม่ดีกับตัวเราหรอกครับ อีกอย่างคุณไม่รู้ความลับของเราจริงๆ เหรอ…หรือคุณตั้งใจใช้เราเป็นเครื่องมือทำร้ายหลงเจี่ย”
พวกเขาไม่ได้โง่ หลงเจี่ยถูกบังคับให้ลาออกและความลับของพวกเขาก็ถูกเปิดโปง ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็ดูเหมือนว่าหันซิวเช่อจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
“แล้วทำไมหลงเจี่ยต้องโอนหุ้นให้คุณด้วย เกิดอะไรระหว่างพวกคุณสองคนกันแน่ คุณจงใจแฉความลับของเราใช่ไหมล่ะ”
เหล่าสมาชิกวงต่างสงสัยเรื่องที่อยู่ๆ หันซิวเช่อก็เข้ามาคุมจู้ซิงมีเดีย “ก่อนหน้านี้ คุณแค่บอกพวกเราว่าหลงเจี่ยเหนื่อยๆ แล้วทิ้งพวกเราให้คุณดูแล เราคิดว่าหลงเจี่ยเกลียดเราและไม่อยากเห็นหน้าเราอีก แต่จากที่ผู้กำกับพูดดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นแล้วนะ”
ถึงคำถามพวกนี้จะทำให้หันซิวเช่อหวั่นใจเขาก็ยังเก็บอาการเอาไว้
“พวกเธอเข้าใจผิดแล้วล่ะ…หลงเจี่ยแค่เหนื่อยจริงๆ ไม่มีอะไรหรอก”
ทั้งหมดอยากจะซักไซ้ให้มากกว่านี้ แต่หันซิวเช่อรีบห้ามเอาไว้ “เดี๋ยวพวกนายก็จะเข้าใจเรื่องทุกอย่างเอง ให้ฉันไปพูดกับผู้กำกับว่าทำไมเขาถึงไล่พวกนายก่อน”
ตอนนั้นสมาชิกไม่เชื่อในตัวหันซิวเช่อ น่าเสียดายที่พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณของอีกฝ่ายอยู่ จึงทำได้เพียงรอดูว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร
หันซิวเช่อไม่เข้าใจถึงการตัดสินใจของผู้กำกับ
ในวงการนี้มีศิลปินมากมายทำเรื่องพวกนี้เพราะทนกับความโดดเดี่ยวไม่ไหว เขามั่นใจว่าผู้กำกับคงเห็นหลายสิ่งมากมากกว่าเขา หากแต่พวกมันเป็นเรื่องส่วนตัวของศิลปิน ตราบใดที่มันไม่ได้ส่งผลกระทบกับรายการ ส่วนใหญ่ผู้กำกับมักจะทำเป็นมองข้ามเรื่องพวกนั้นไป แต่ทำไมเอสเอเจถึงถูกเลือกปฏิบัติอย่างนี้กัน
เพราะเขาไม่ได้ผลประโยชน์มากพอหรือ
ด้วยเหตุนี้หันซิวเช่อจึงเข้าไปหาผู้กำกับ
“ผู้กำกับเฝิงครับ ผมขอเวลาสักหน่อยได้ไหมครับ”
ผู้กำกับเฝิงอยู่ระหว่างการกำหนดตำแหน่ง ทันทีที่เห็นหันซิวเช่อ เขานึกถึงแผนของถังหนิงได้ขึ้นมาจึงพยักหน้ารับ
ชายทั้งสองคนหลบมาคุยกันอยู่ที่เงียบๆ ก่อนหันซิวเช่อโพล่งถามขึ้นอย่างสุภาพ “ผมสงสัยว่าคุณไม่พอใจอะไรศิลปินของผมเหรอครับ ถ้าคุณบอกผมมาว่าพวกเขาทำอะไรผิด ผมจะได้ไปสั่งสอนเขาให้ได้”
ผู้กำกับหัวเราะแล้วเอ่ยข้างหูหันซิวเช่อ “คุณหันคงรู้ประวัติฉาวโฉ่ของพวกเขาอยู่แล้วใช่ไหมล่ะครับ”
“ผู้กำกับ…”
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกครับ พวกเขาสี่คนอยู่ที่นี่อีกไม่ได้แล้ว คุณจะพาพวกเขาไปไหนก็ไปครับ” เขาย้ำหนักแน่น “อีกไม่นานทีมงานก็จะปล่อยแถลงการณ์ออกมา เตรียมตัวไว้แล้วกันนะครับ”
“ผู้กำกับเฝิง…”
“ผมยุ่งอยู่ หวังว่าเราจะมีโอกาสทำงานร่วมกันอีกนะครับ”
พูดจบผู้กำกับก็หายลับไปจากสายตาของหันซิวเช่อ อย่างไรก็ตามสิ่งที่อีกฝ่ายทำก็ทำให้เขาเอะใจว่าต้องมีคนอยู่เบื้องหลังแน่ ไม่อย่างนั้นทำไมเขาถึงหนักแน่นและแน่วแน่ขนาดนี้
ทว่า…
…จะเป็นใครกัน
หลงเจี่ยไม่ได้เก่งขนาดนั้นคงเป็นเธอไปไม่ได้แน่
หลังจากครุ่นคิดอย่างรอบคอบเขาก็ยังคงหาคำตอบไม่ได้ ไม่นานหลังจากนั้นรายการได้ปล่อยแถลงการณ์ว่ายกเลิกการปรากฏตัวของเอสเอเจในรายการเพราะเรื่องการผิดศีลธรรม หลังจากสืบต่อไปจึงตัดสินใจเอาชื่อสมาชิกวงทั้งหมดขึ้นบัญชีดำ
หันซิวเช่อยิ่งมั่นใจว่าต้องมีบางคนกำลังชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน
โดยเฉพาะเมื่อทั้งสี่คนถูกตำรวจดักเอาไว้ขณะที่กำลังจะออกจากโรงแรม
“มีคนแจ้งความว่าแขกห้องสองศูนย์สองสองและสองศูนย์สองสามถูกจับได้ว่าทำผิดกฎหมายครับ หลังจากแจ้งกับพนักงานโรงแรมก็ได้รับการยืนยันเรื่องนี้ เราเลยต้องเชิญพวกคุณทั้งสี่คนมากับเราครับ”
หันซิวเช่อไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะลงเอยด้วยการยืนทำอะไรไม่ถูกขณะที่ทั้งสี่คนถูกพาตัวไปที่สถานีตำรวจเพื่อตรวจสารเสพติด
และในฐานะ นายใหญ่คนใหม่ ของจู้ซิงมีเดีย เขาและหม่าเวยเวยถูกขอให้ร่วมมือกับการสอบสวน!
หันซิวเช่อตามไปด้านหลังในขณะที่ทั้งสี่ถูกพาตัวออกจากโรงแรมและมุ่งหน้าไปที่สถานีตำรวจ ในตอนนี้เองที่เขาสังเกตเห็นคนคุ้นเคยก้าวขึ้นแบล็กโรลส์รอยซ์ไป
ถังหนิง!
ใช่แล้ว ถังหนิงนั่นเอง!
“ถังหนิง…ถังหนิง!
ทว่าต่อให้ถังหนิงจะได้ยินเสียงตะโกนของเขาก็ไม่ได้นึกสนใจแต่อย่างใด สำหรับเธอแล้ว หันซิวเช่อป็นใครกันล่ะ ขยะอย่างเขากำลังจะถูกเขี่ยทิ้ง…โดยไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ!
แน่นอนว่าตอนนี้เธอกลับมาปักกิ่งแล้ว เธอพร้อมที่จะต่อสู้อย่างน่าระทึกใจแล้ว
แล้วทำไมจะต้องรีบร้อนกันด้วยล่ะ