บทที่ 996 การปิดบังที่ช่วยไม่ได้

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

“วี๊ดด วี๊ดดด วี๊ดดดด…”

“มนุษย์หน้าอืด” ที่ถูกหลิงม่อลากกรีดร้องตลอดทาง ทั้งที่ยังอยู่ห่างกันไกลแต่เสียงกลับลอยเข้าหูซย่าน่ากับหลี่ย่าหลินแล้ว

ตอนนี้สองสาวซอมบี้กำลังนั่งยองอยู่ในช่องแคบแห่งหนึ่ง พร้อมมองออกไปข้างนอกด้วยสายตารอลุ้น แต่คิดไม่ถึงว่ายังไม่เห็นเงาคน ก็ได้ยินเสียงดังมาก่อนแล้ว

สองสาวมองตากันอย่างสงสัย ไม่นานหลี่ย่าหลินก็ชะโงกหน้าออกไปอย่างอดไม่ไหว “หลิงม่อ…”

“เดี๋ยวก่อน!” ซย่าน่าพลันได้สติ ยื่นมือออกไปดึงเธอ

ร่างกายหลี่ย่าหลินพลันชะงักค้าง “แต่ว่า…”

“ฟังให้ละเอียด” ซย่าน่าชะโงกหัวออกไปจากข้างหลังเธอ แล้วพูดเสียงเบา

“ฟัง…”

หลี่ย่าหลินได้ยินจึงเงียบ และเลียนแบบท่าทางของเธอด้วยการเอียงหัวไปใกล้ขอบช่องแคบ

“วี๊ดดดดด…”

เสียงกรีดร้องดังจากไกลมาใกล้ สองวินาทีต่อมา สองสาวซอมบี้ก็สบตากันอีกครั้ง

“นั่นเสียงอะไร?” หลี่ย่าหลินถาม

ซย่าน่าดุนคางทำท่าครุ่นคิด “สัตว์ประหลาดมั้ง…”

“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ก็…” ชั่วขณะหนึ่งหลี่ย่าหลินพลันนึกคำไม่ออก ทำได้เพียงถามซย่าน่าอย่างครุมเคลือ

ดีที่ซย่าน่าเข้าใจสิ่งที่เธอต้องการสื่อทันที จึงพยักหน้า บอกว่า “น่าจะกำลังมาแล้ว เพียงแต่เสียงนี้มัน…เหมือนจะดังกว่าที่ฉันคิดไว้อีกนะ”

“งั้น…งั้นพวกเราจะทำไงดี?” หลี่ย่าหลินร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด

“รอ” ซย่าน่าตอบเธอด้วยคำเดียว

ถูกต้องแล้ว รอ

ตอนนี้คนที่เผชิญหน้ากับอันตรายไม่ใช่ร่างจริงของหลิงม่อ ดังนั้นพวกเธอไม่อาจทำแผนการพังไม่เป็นท่าเพราะเหตุการณ์ตรงหน้า ไม่อย่างนั้นหลิงม่อคงลงแรงเสียเปล่า…

เพียงแต่ซย่าน่าเข้าใจเรื่องราวได้ดี ในขณะที่หลี่ย่าหลินไม่ค่อยเข้าใจนัก

ทว่าหลี่ย่าหลินที่ไม่ค่อยเข้าใจนักกลับเข้าใจอีกเรื่องเป็นอย่างดี : หากมีเรื่องอะไรให้เชื่อฟังซย่าน่า

นี่เป็นหนึ่งใน “ข้อดี” ของซอมบี้…ความคิดของเธอค่อนข้างตายตัว และบริสุทธิ์

ดังนั้นหลังจากที่ซย่าน่าบอกให้ “รอ” พวกเธอสองคนก็ยังคงซ่อนตัวอยู่ในช่องแคบและรอต่อไป ในขณะเดียวกัน เสียงร้องของหุ่นซอมบี้พลันดังมาจากในช่องทางเดิน

“เตรียมตัว!”

หลิงม่อแหกปากตะโกนบอกเสียงดัง

ตอนนี้เขาได้กระตุ้นความสามารถแฝงของหุ่นซอมบี้ออกมาจนหมดแล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่ลาก “มนุษย์หน้าอืด” ตัวหนึ่งมาด้วย เขาวิ่งได้เร็วกว่าก่อนหน้านี้ด้วยซ้ำ ซึ่งนี่เป็นสิ่งยืนยันได้ดี ขณะเดียวกันภายใต้การถูกกระแทกและลากถูด้วยความเร็ว “มนุษย์หน้าอืด” ตัวนั้นให้ความร่วมมือกับแผนการหลิงม่ออย่างสุดชีวิต…มันไม่เพียงกรีดร้องไม่หยุด แต่ความทรมานในน้ำเสียงก็กำลังพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องด้วย

พอถูกเสียงกรีดร้องกระตุ้น สัตว์ประหลาดเหล่านั้นพากันเบียดเสียดขึ้นฝั่ง และไล่ตามหลิงม่ออย่างไม่ลดละ

แวบแรกภาพที่เห็นนี้ เหมือนหลิงม่อพาสัตว์ประหลาดฝูงนั้นออกมาท่องเที่ยว…เพียงแต่หลิงม่อที่อยู่ข้างหน้ากลับไม่ได้ดูมีความสุขแต่อย่างใด ตรงกันข้าม เขารู้สึกว่าร่างกายร่างนี้ใกล้ถึงขีดจำกัดเต็มที่แล้ว…

“อดทนอีกหน่อย อีกนิดเดียว!” หลิงม่อกำหมัดจิกเล็บเข้าไปในฝ่ามือหนึ่งที เมื่อเลือดไหลออกมา เขาก็รู้สึกว่าเชื้อไวรัสในร่างกายกำลังเดือดพล่าน เรี่ยวแรงที่หดหายเริ่มกลับมาทีละนิดๆ เพียงแต่การดื่มเหล้าพิษเพื่อดับกระหายอย่างนี้ ไม่สามารถยืนหยัดได้นานนัก…

“ฉันมาถึงแล้ว!” หลิงม่อตะโกนคำรามบอกอีกครั้ง

เขาไม่รู้ว่าพวกซย่าน่าซ่อนตัวอยู่ตรงไหน…แต่ดูจากตอนนี้ ที่ซย่าน่าทำอย่างนี้กลับดูเหมือนรู้ล่วงหน้าก่อนแล้ว

ถ้าหากเขารู้ว่าพวกเธอซ่อนอยู่ตรงไหน บางทีการเคลื่อนไหวของเขาอาจเกิดการสะดุด…นอกจากนี้ถ้าหากว่าแม้แต่เขายังรู้ตำแหน่งของพวกเธอ ถ้าอย่างนั้นตอนที่สัตว์ประหลาดมากมายราวฝูงตั๊กแตนพวกนั้นวิ่งข้ามแดน ก็อาจจะรู้ตำแหน่งของพวกเธอด้วย

ดังนั้นขณะที่มองซ้ายมองขวา หลิงม่อจึงลอบถอนใจ โชคดี ยังปลอดภัยมาก…

เขาล่อสัตว์ประหลาดมามากมายขนาดนี้ จึงไม่อยากทำให้พวกซย่าน่าตกอยู่ในอันตรายเพราะเรื่องนี้…

“มาแล้ว” ซย่าน่าพูดเสียงเบา

หลี่ย่าหลินเงี่ยหูฟัง บอกว่า “นั่นไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่เราเห็นก่อนหน้านั้น”

“อืม สัตว์ประหลาดแบบใหม่” ซย่าน่าบอก “แต่ในเมื่อพวกมันอาศัยอยู่ที่นี่ได้ แสดงว่าพวกมันก็อยู่ในเครือเดียวกับสัตว์ประหลาดก่อนหน้านั้น…ชู่ว!”

เธอพลันยกมือปิดปากหลี่ย่าหลิน ดึงเธอให้โน้มตัวถอยหลัง

เพียงหนึ่งวินาทีผ่านไป เสียงกรีดร้องอย่างทรมานแสนสาหัสพลันดังมาจากบริเวณใกล้ๆ ขณะเดียวกันยังมีเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่งดังจามมาอีกเสียง “ข้างในยังมีอีก! ระวังด้วย!”

เมื่อเสียงกรีดร้องเสียงนั้นห่างออกไป เสียงกรีดร้องอื้ออึงก็ดังจากไกลเข้ามาใกล้อีกครั้ง…

หลังผ่านไปสิบกว่าวินาที ซย่าน่าจึงค่อยๆ ปล่อยมือ

“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเราเข้าไปกันได้แล้ว ดูเหมือนพี่หลิงจะล่อสัตว์ประหลาดส่วนมากออกไปแล้ว ถึงจะมีเหลือข้างในอยู่บ้าง แต่ก็ไม่น่าจะเยอะแล้วล่ะ แต่ยังไงพวกเราก็ต้องระวังไว้ก่อน…จะให้ดีที่สุดสำรวจสถานการณ์ในรังของพวกมันให้ชัดเจนก็พอ” ซย่าน่าบอก มีหลิงม่ออยู่ สัตว์ประหลาดพวกนั้นไม่วนกลับมาในเร็วๆ นี้แน่ พวกเธอจึงไม่ต้องห่วงว่าจะถูกพวกมันดักหน้าหลัง แต่เพื่อลดความกดดันให้หลิงม่อ พวกเธอจำเป็นต้องทำเวลาให้ดีที่สุด

“ไป!” ซย่าน่าดึงมือหลี่ย่าหลิน ตัดสินใจชะโงกหน้าออกไปข้างนอก

“ซย่าน่า…” หลี่ย่าหลินกลับชะงักในเวลานี้

“รุ่นพี่ เป็นอะไรไป? รีบไปกันเถอะ…” ซย่าน่าหันมามองเธออย่างประหลาดใจ

ทว่าพอหันกลับมา ใจเธอก็เต้นดัง “ตึกตัก” ทันที

บนดวงหน้างดงามของหลี่ย่าหลิน เวลานี้กลับไม่มีรอยยิ้มชวนหลงใหลปรากฏอยู่ ตรงกันข้าม เธอดูเคร่งเครียดและจริงงจัง กระทั่งมองมาด้วยสายตาแคลงใจ…

“ปะ…เป็นอะไรไป?” ซย่าน่ากลับทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ คนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดีอยู่ๆ กลับกลายเป็นคนละคน มันเป็นเรื่องที่น่าสับสนและทำตัวไม่ถูกจริงๆ ถ้าหากมีเฮยน่าอยู่แค่คนเดียว เธอย่อมไม่รู้สึกว่ามีอะไร แต่ตอนนี้ในร่างกายเธอกลับมีน่าน่าอยู่ด้วยอีกคน

หลี่ย่าหลินเม้มปาก อยู่ๆ ก็ถามขึ้นว่า “ซย่าน่า เธอรู้อะไรมาใช่ไหม?”

“หา?”

“มีอะไรที่เธอรู้ แต่เธอไม่ได้บอกหลิงม่อ” หลี่ย่าหลินพยายามเรียบเรียงคำให้เป็นประโยค

แต่เธอเพิ่งพูดจบ ซย่าน่าก็หน้าถอดสี

“พี่…”

ไม่รอให้ซย่าน่าถามอะไร หลี่ย่าหลินชี้นิ้วไปที่หน้าอกเธอ “ตรงนี้ของเธอ…ประหลาดมาก…”

“เกี่ยวอะไรกับหน้าอกฉันด้วย…” ซย่าน่าเบิกตากว้าง

อีกอย่างเรื่องที่พลังต่อสู้ (หมายถึงหน้าอกใหญ่) ของเธอไม่พอหลิงม่อก็รู้ตั้งนานแล้วนี่! เขารู้ดีกว่าใครทั้งนั้นแหละ!

แต่ไม่รู้ทำไม รุ่นพี่ที่ปกติเธอมักรู้สึกว่าไม่เคยจริงจัง ตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกต่างออกไป

ดังนั้นตอนที่เธอย้อนถาม ความจริงเธอเริ่มไม่ค่อยมีความมั่นใจแล้ว…

ตามคาด หลี่ย่าหลินส่ายหน้า บอกว่า “ฉันหมายถึง…จังหวะหัวใจของเธอ…”

“เรื่องนี้น่ะ…”

ซย่าน่าได้ยินก็ลูบหน้าอกตัวเองอย่างลืมตัว…เธอเม้มริมฝีปากล่างแล้วมองหลี่ย่าหลิน ในขณะที่สีหน้าดูแปลกไป

“เรื่องอะไรหรอ?” หลี่ย่าหลินจี้ถาม

ความจริงเธอไม่ได้อยากรู้ว่าซย่าน่าปิดบังเรื่องอะไรอยู่…แต่เธอสนใจสาเหตุที่ทำให้ซย่าน่ามีพฤติกรรมประหลาดออกไปมากกว่า

“คือว่า…” ซย่าน่าลำบากใจ

เธอลังเลไปครู่ใหญ่ แล้วจึงค่อยๆ บอกว่า “ไม่ใช่ว่าฉันอยากปิดบัง แต่ว่า…ฉันไม่รู้จะพูดยังไงดีต่างหาก…”

“ตอนที่เธอลงมา เธอต้องเห็นอะไรที่พวกฉันไม่เห็นแน่ๆ เลยใช่ไหม?” อยู่ๆ หลี่ย่าหลินก็ฉลาดขึ้นมา

ถ้าหากจะมีเรื่องอะไรที่เธอกับหลิงม่อไม่รู้ ก็คงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่ซย่าน่าเคลื่อนไหวเพียงลำพังในตอนแรกแน่นอน…

ถึงรุ่นพี่จะซื่อบื้อไปบ้าง แต่เรื่องง่ายๆ อย่างนี้เธอก็ยังพอเดาได้

ซย่าน่าพยักนห้า บอกว่า “ฉันเห็นใครบางคน…ที่นี่…”

“ใคร?”

“พี่หลิง”

“อะไรนะ?!” หลี่ย่าหลินเบิกตากว้าง

…………

หลิงม่อควบคุมหุ่นซอมบี้ให้วิ่งพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งต่อไป ทว่าระหว่างทาง เขาได้ทิ้ง “มนุษย์หน้าอืด” ตัวนั้นไปแล้ว

ถูกเขาทรมานติดๆ กันอย่างนี้ เสียงกรีดร้องอย่างทรมานของ “มนุษย์หน้าอืด” ที่เดิมก็ใกล้สิ้นลมแล้ว พลันเงียบหายไป

เหยื่อล่อที่หมดประโยชน์ย่อมไม่มีความจำเป็นต้องพกติดตัวไป แต่ก่อนจะทิ้งมัน หลิงม่อก็ยังฝืนเอื้อมมือไปปาดแผลตรงหน้าทองมันหนึ่งที

พอปาดไป เขาก็รู้สึกแปลกๆ ทันที…เหมือนเขายื่นมือไปจับโดนมดสิบกว่าตัว จากนั้นก็ปล่อยให้พวกมันมุดเข้าไปในแผลอย่างไรอย่างนั้น แต่หลังจากความทรมาน ความร้อนรุ่มก็ได้แผ่ซ่านออกจากฝ่ามือไปทั่วร่างกาย…

“เชี่ย จะกลายพันธุ์ไหมวะเนี่ย! ช่างเถอะ เติมพลังได้หน่อยก็ดีแล้ว…”

หลังจากวิ่งทะยานไปเกือบหนึ่งร้อยเมตร ในที่สุดหลิงม่อก็วิ่งเลี้ยวตรงทางโค้งแห่งหนึ่ง

และในจุดที่เขาวิ่งเลี้ยวไปไม่ถึงสามสิบเมตร ช่องทางเดินซีเมนต์เส้นหนึ่งก็ปรากฏขึ้น

“ย๊ากกกกก!”

หลิงม่อคำรามเสียงต่ำ จากนั้นก็เร่งความเร็ววิ่งเข้าไป

ขณะที่เขาวิ่งเข้าไปในช่องทางเดินซีเมนต์ และกลั้นหายใจอยู่อีกฝั่ง เสียงเคลื่อนไหวราวกระแสน้ำขึ้นก็ดังมาจากทางนั้น…

—————————————-