สุดท้ายจิ่วเยี่ยก็ช่วยมู่เฉียนซีเช็ดเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนร่างนางออก นางรู้สึกว่ากับจิ่วเยี่ยนั้น นางคุ้นชินกับเขาไปแล้ว

ไม่ว่าเขาจะทำเรื่องที่ผิดปกติมากเพียงใด เขาก็ล้วนรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องปกติ และนี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี เปลือกตาของมู่เฉียนซีกระตุกขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

จิ่วเยี่ยช่วยมู่เฉียนซีแต่งตัว ขณะเดียวกันมู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา “หากรู้มาก่อนว่าเข้ามาในเทือกเขาชีชงแล้วจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ข้าก็คงจะเตรียมอาภรณ์แบบบุรุษมาด้วยมากกว่านี้”

ถึงอย่างไรนางก็ต้องปลอมตัวเป็นชายหนุ่มในช่วงระยะหนึ่ง  ในตอนที่ว่าง ๆ นางก็ได้เตรียมอาภรณ์แบบบุรุษเอาไว้ประมาณสิบถึงยี่สิบกว่าชุด แต่สุดท้ายก็โดนเถาวัลย์หนามปีศาจนั่นเล่นงานจนเสื้อผ้าอาภรณ์ขาดต้องเปลี่ยนไปหลายต่อหลายครั้ง และเวลานี้ นางเหลืออาภรณ์เพียงชุดสุดท้ายแล้ว

หลังจากนี้หากชุดนี้ขาดไปอีก นางคงจะต้องกลับไปสวมใส่อาภรณ์แบบสตรีเช่นเดิมแล้ว

ครานี้มู่เฉียนซีได้รากของเถาวัลย์หนามปีศาจมาไม่น้อยเลย และนางก็ได้เริ่มทำการทดลองใหม่อีกครั้ง หลังจากเตรียมการมาได้สามวัน ในที่สุดนางก็ปรบมือขึ้นอย่างเบิกบานใจ

“ฮ่า! ในที่สุดก็สำเร็จสักที”

นางจ้องมองขวดยาตรงหน้าราวกับว่ามันเป็นสมบัติอันล้ำค่า “สิ่งนี้สามารถทำลายการรับรู้ของเถาวัลย์หนามปีศาจได้ เพื่อไม่ให้มันหาพวกเราเจอ  ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น สิ่งนี้ยังสามารถกัดกร่อนเถาวัลย์หนามปีศาจได้ ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพมันจะไม่ได้ผลมากนัก แต่มันจะได้ผลดีถ้าหากใช้กับกระบี่”

“อืม… และสิ่งนี้เมื่อวางเอาไว้บนผืนแผ่นดิน รอให้มันซึมลงไปก็จะสามารถวางยาพิษเถาวัลย์หนามปีศาจนี้ได้อย่างสมบูรณ์”

ยาทั้งสามชนิดได้เตรียมพร้อมแล้ว หากประสิทธิภาพของมันเป็นไปอย่างที่มู่เฉียนซีคาดเดาไว้ มู่เฉียนซีก็สามารถแก้แค้นเจ้าเถาวัลย์บัดซบนั่นได้แล้ว

“ออกเดินทางได้!” นางกล่าวอย่างฮึกเหิมเต็มที่

ส่วนจิ่วเยี่ยในเวลานี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมีความสุขในการเป็นพาหนะพานางเดินทาง

ครานี้มู่เฉียนซีมีความมั่นใจเกือบเต็มสิบส่วนว่านางจะสามารถจัดการกับเถาวัลย์หนามปีศาจนี้ได้

ถึงแม้ว่าวิธีการรักษาบาดแผลของจิ่วเยี่ยจะไม่เจ็บปวด แต่กระบวนการกระทำที่ใกล้ชิดเช่นนั้นมันสร้างความรำคาญให้นางอยู่ไม่น้อย ดังนั้นนางจะต้องยุติมันโดยเร็ว

— ฟึ่บ! —

ร่างสีม่วงกะพริบเข้าไปในดงเถาวัลย์หนามปีศาจนั้นอีกครั้ง

“บุปผาหลั่งสายฝน!”

ทันทีที่มู่เฉียนซีเข้าไป นางก็โจมตีด้วยยาขวดแรก แน่นอนว่าหลังจากนั้น นางอยู่ตรงไหน เจ้าเถาวัลย์หนามปีศาจก็ไม่สามารถรับรู้ได้

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

มันเริ่มโจมตีภายในวงล้อมอย่างบ้าคลั่ง

มู่เฉียนซี “อู๋ตี้ เสี่ยวหง!”

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

ฉวยโอกาสตอนที่เถาวัลย์หนามปีศาจตาบอด พวกเขาต้องฉวยโอกาสนี้โจมตีมันอย่างบ้าคลั่ง  เถาวัลย์หนามปีศาจโกรธเป็นอย่างมาก ทว่าก็มิอาจทำอะไรได้

— ฉ่า! —

ขวดยาขวดที่สองถูกนำออกมา มู่เฉียนซีได้ทำการกัดกร่อนเถาวัลย์เหล่านั้น และผลลัพธ์ก็เป็นไปอย่างที่นางได้คาดเอาไว้

ร่างของมู่เฉียนซีผ่านไปอย่างรวดเร็ว และนางก็ได้เจอกับแหล่งรากของมัน

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

ขวดยาหลายขวดตกลงบนพื้นดิน นางรอให้มันซึมลงไป

“มังกรวารีพิฆาต!”

หลังจากที่วางยาเสร็จเรียบร้อยแล้ว มูเฉียนซีเริ่มโจมตีทันที  เจ้าเถาวัลย์บัดซบนี่กำลังเลื้อยไปบนหนทางแห่งการทำลายล้าง ขณะที่นางก็ต้องฝึกฝีมือ

— ตูม! —

ถึงแม้ว่าเถาวัลย์หนามปีศาจนี้จะไม่สามารถรับรู้ตำแหน่งที่อยู่ของมู่เฉียนซี แต่จากการโจมตีของนางแล้ว มันสามารถหาตำแหน่งของนางได้ ทว่าก็ไม่มีความแม่นยำมากพอ ดังนั้นมันจึงไม่สามารถทำอะไรนางได้

“ฮิ ๆ!”

ยาของมู่เฉียนซีแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก นางชอบอกชอบใจหัวเราะเสียงดังลั่น

ครั้งแรกที่มู่เฉียนซีเข้ามาในดงเถาวัลย์หนามปีศาจ มันเกือบจะคร่าชีวิตนางไป ครั้งที่สองครั้งที่สามก็ไม่ได้ต่างอะไรกันมากนัก  ใครใช้ให้เข้ามาในอาณาเขตของมันกันเล่า ?

ทว่าครั้งนี้กลับเป็นมู่เฉียนซีที่เป็นฝ่ายรุก

ไม่นานนักเจ้าเถาวัลย์หนามปีศาจก็หาตำแหน่งของมู่เฉียนซีพบ  ร่างมู่เฉียนซีกะพริบรวดเร็วราวสายฟ้าฟาดเพื่อหลบหลีกการไล่ล่าของเถาวัลย์นับร้อย

— ฟิ้ว! —

นางโยนขวดยาไปอีกครั้ง

“ข้าย่อมรู้ดีว่ายานี้มีเวลาจำกัด แต่บังเอิญว่าข้าเตรียมมาเยอะเสียด้วยสิ ไม่ต้องห่วง ข้าจะเล่นกับเจ้าช้า ๆ ! ”

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

ยาบนพื้นดินนั้นออกฤทธิ์ค่อนข้างช้า ดังนั้นมู่เฉียนซีจึงมีเวลาเล่นกับเถาวัลย์หนามปีศาจนี้ทั้งวัน

ยาที่นางนำติดตัวมาเหลือน้อยลงไปเรื่อย ๆ แต่ทว่ามู่เฉียนซี อู๋ตี้ และเสี่ยวหงยังคงยืนหยัดที่จะต่อสู้ต่อไป

เหตุใดยาถึงยังไม่ออกฤทธิ์ ?  มู่เฉียนซีคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเกิดข้อผิดพลาดตรงไหน

อู๋ตี้ “นายท่าน ยาใกล้จะหมดแล้ว หากการรับรู้ของเจ้าปีศาจนี่กลับมาเราจะซวยเอาได้ ข้าคิดว่าพวกเราออกไปก่อนดีหรือไม่ ?”

วันนี้นายท่านยังไม่ได้รับบาดเจ็บ เพียงแค่อาภรณ์ขาดเล็กน้อย รีบฉวยโอกาสนี้ออกไปก่อนน่าจะดีกว่า

มันไม่ต้องการเห็นร่างของนายท่านเต็มไปด้วยเลือดอีกแล้ว ถึงแม้ว่าจะมียาดีไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ถึงอย่างไรมันก็ไม่อยากให้นายท่านบาดเจ็บอยู่ดี

อีกอย่าง มันก็ไม่ต้องการให้นายท่านถูกบุรุษเย็นเยือกผู้นั้นเอารัดเอาเปรียบ เจ้าบุรุษผู้นั้นหน้าตาดูนิ่ง ๆ เย็นชาก็จริง แต่เขากลับทำเรื่องเลว ๆ ได้อย่างเปิดเผย จิตใจเลวจริงแท้!

ถึงแม้ว่าเสี่ยวหงจะอยู่ฝ่ายจิ่วเยี่ย และรู้สึกว่าเยี่ยอ๋องผู้นี้เป็นแมวขโมยที่ไม่เลวเลย แต่ในฐานะที่มันเป็นสัตว์พันธสัญญาของมู่เฉียนซี มันจะไม่ยอมให้นางต้องบาดเจ็บแน่นอน

“นายท่านรีบไปเถอะ รสชาติของการบาดเจ็บนั้นมันแย่อย่างมาก”

มู่เฉียนซี “เจ้าจะรีบไปใย ? ไหน ๆ ก็มาแล้ว อดทนอีกหน่อยเถอะ ข้าไม่เชื่อเด็ดขาดว่ายาของข้าจะไม่ได้ผล”

คำสั่งของนายท่านไม่อาจขัดได้ อู๋ตี้เสี่ยวหงสองสัตว์พันธสัญญาไม่อาจกล่าวขัดใด ๆ “ได้! พวกเราจะอดทนเพื่อนายท่าน”

ในเมื่อนายท่านไม่ยอมออกไป เช่นนั้นพวกมันก็จะทำหน้าที่ปกป้องนายท่านให้ดีที่สุด

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

บัดนี้ยาตัวแรกถูกใช้จนหมดแล้ว  เถาวัลย์หนามปีศาจก็กลับมารับรู้ได้อีกครั้ง จากนั้นมันเริ่มลงมือโจมตีมู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง!

— ปัง!  ปัง!  ปัง! —

ครั้งนี้มันโกรธกว่าครั้งที่แล้วมากนัก  ทันใดนั้นมันกลายเป็นกรงหนามห้อมล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้

— ตูม! —

พลังธาตุวารีและกระบี่มังกรเพลิงของมู่เฉียนซีโจมตีกรงหนามอย่างบ้าคลั่ง ทว่ากลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ช่างย่ำแย่เสียจริง!

— ตูม!  ตูม!  ตูม! —

อู๋ตี้กับเสี่ยวหง ทั้งสองโจมตีอยู่นอกกรงหนามนั้น ทว่าก็ไม่กล้าที่จะใช้พลังมากเพราะกลัวว่านายท่านจะได้รับบาดเจ็บไปด้วย  หากมิใช่เป็นเพราะว่านายท่านอยู่ด้านใน พวกมันก็สามารถทำลายกรงหนามนี้ได้อย่างง่ายดาย

กรงหนามหมุนและเล็กลงไปเรื่อย ๆ หากเป็นเช่นนี้ต่อไป มีหวังมู่เฉียนซีถูกบีบจนตายเป็นแน่

— ฟึ่บ!  ฟึ่บ! —

หนามอันแหลมคมจำนวนมากแทงเข้าไปในผิวหนังมู่เฉียนซี และในขณะที่มันต้องการจะฉีกเนื้อมู่เฉียนซีออกเป็นชิ้น ๆ  ทันใดนั้นความเคลื่อนไหวทุกอย่างโดยรอบก็ได้หยุดลง

จิ่วเยี่ยที่ลอบมองสถาณการณ์อยู่อย่างลับ ๆ นั้นกำลังจะลงมือ แต่ก็ต้องหยุดชะงักไป

นางจัดการกับมันได้แล้ว!

— ตูม! —

พุ่มไม้ตาข่ายที่อยู่ตรงหน้าเขาแผ่ออก มู่เฉียนซีเป็นอิสระอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้นางก็ยังได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี

มู่เฉียนซีรีบห้ามเลือดตัวเองเอาไว้  ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ก็เริ่มสว่างขึ้นมา

เวลานี้เจ้าเถาวัลย์หนามปีศาจกลายเป็นพืชที่ไม่มีความโดนเด่นใด ๆ เลย สภาพของมันในตอนนี้นั้นยากที่จะจินตนาการว่ามันคือเถาวัลย์หนามปีศาจ

อู๋ตี้กล่าวอย่างกรุ่นในอารมณ์โกรธ “เจ้าปีศาจบัดซบทำให้นายท่านต้องบาดเจ็บอีกแล้ว น่ารำคาญยิ่งนัก! ข้าจะถอนรากถอนโคนมันให้สิ้นประเดี๋ยวนี้”

— ฟิ้ว! —

อู๋ตี้ขยายร่างใหญ่ขึ้นและดึงต้นของมันออกมา ทว่าด้านล่างนั้นมีกระดูกนับไม่ถ้วนอยู่ ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดถึงได้ถูกขนานนามว่าเป็นเถาวัลย์หนามปีศาจ เป็นเพราะมันเป็นดั่งปีศาจที่คร่าชีวิตนับไม่ถ้วนเช่นนี้นี่เอง

สิ่งที่น่ากลัวเช่นนี้มันช่าง…

เสี่ยวหงกล่าวขึ้นว่า “นายท่าน ดูเหมือนว่าข้างใต้นี้จะมีของล้ำค่าอยู่”

“โอ้! มันยังมีผนึกวิญญาณอยู่เป็นจำนวนมาก” ไม่พูดพร่ำใด ๆ ต่อ พวกมันทั้งสองตัวรีบพรวดลงไปหาของล้ำค่านั้นทันที

.