มีนักผจญภัยหลายคนที่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ ขณะเดียวกันนั้นก็ได้ทิ้งทรัพย์สินของมีค่าไว้มากมายเช่นกัน
เสี่ยวหงอู๋ตี้ ทั้งสองได้พบกับของล้ำค่ามากมาย และภายในกองสมบัตินี้ก็มีแผ่นกระดาษสีเหลืองเก่า ๆ โบราณแผ่นหนึ่งอยู่
— ฟิ้ว! —
อู๋ตี้หยิบกระดาษแผ่นนั้นออกมา “นายท่าน กระดาษแผ่นนี้เหมือนกับกระดาษที่ท่านเจ้าเมืองมอบให้นายท่านเลย”
มู่เฉียนซีรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน นางหยิบกระดาษแผ่นนั้นมาดู ก็เห็นข้อความหนึ่งเขียนอยู่บนกระดาษแผ่นนั้น
“ตัวข้านั้นเป็นปรมาจารย์ฝึกสัตว์ แต่โดนลอบทำร้ายเพราะได้เปิดเผยความลับของทรัพย์สมบัติ จนในที่สุดต้องมาเสียชีวิตในเทือกเขาชีชงแห่งนี้…”
นี่เป็นเหมือนอัตชีวประวัติมากกว่า ข้อความด้านหลังขาดหายไป แต่ถึงอย่างไรแล้วแผนที่ทรัพย์สมบัติที่ผู้ฝึกสัตว์ผู้นี้ได้ทิ้งเอาไว้ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้แข็งแกร่งทั่วทั้งเซี่ยโจวใจเต้นแรงไม่น้อย
มู่เฉียนซีหยิบแผนที่ที่เจ้าเมืองมอบให้กับนางออกมา กระดาษและลายมือเหมือนกันทุกประการ เป็นไปได้หรือไม่ว่าตำแหน่งในแผนที่นี้เป็นสถานที่ที่ปรมาจารย์ฝึกสัตว์ผู้นี้จากมา
สำหรับการฝึกสัตว์นั้น ถึงแม้ว่ามู่เฉียนซีจะเรียนรู้ขั้นพื้นฐานในการฝึกสัตว์แล้ว แต่หากคิดอยากจะมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้แล้วละก็ นางยังต้องศึกษาให้ลึกกว่านี้ และเวลานี้นางก็สนใจทรัพย์สมบัติที่ผู้ฝึกสัตว์ผู้นี้ทิ้งไว้เข้าแล้ว
ต้องทราบก่อนว่าทั่วทั้งเซี่ยโจวนี้ อย่าว่าแต่ปรมาจารย์ฝึกสัตว์เลย แม้แต่ผู้ฝึกสัตว์ก็หายากมาก
มู่เฉียนซีออกไปจากที่ตรงนี้ ถึงแม้ว่านางจะมีเบาะแสเล็ก ๆ น้อย ๆ อีกทั้งยังมีแผนที่อยู่ในมือ ทว่าในเทือกเขาชีชงอันกว้างใหญ่ไพศาลเช่นนี้ คิดจะตามหาสถานที่ที่ปรมาจารย์ฝึกสัตว์ผู้นี้จากมานั้น เป็นเรื่องไม่ง่ายเลย
ร่างในชุดดำสนิทปรากฏตัวขึ้นตรงหน้ามู่เฉียนซี มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “จิ่วเยี่ย เจ้ามีอะไรรึ ?”
“ซี… เจ้าเติบโตได้เร็วมาก เพียงแต่มันยังไม่พอ” จิ่วเยี่ยกล่าวเบา ๆ
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างจนปัญญา “เรื่องนี้ข้ารู้ดี หากเติบโตเร็วข้าก็จะตามท่านอาของข้าทัน และหากเติบโตขึ้นไปอีก ข้าก็จะตามเจ้าทัน ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่ข้าต้องเดิน แต่การฝึกฝนจะเร่งรีบเพียงเพื่อให้สำเร็จไปอย่างนั้นไม่ได้”
จิ่วเยี่ย “ข้าเพียงแค่จะสอนทักษะบางอย่างให้กับเจ้าเท่านั้นเอง”
มู่เฉียนซี “จิ่วเยี่ย เจ้าจะสอนทักษะบางอย่างให้ข้า เจ้าคิดว่าทักษะโบกมือแล้วทำให้มนุษย์กลายเป็นโครงกระดูกของเจ้า ข้าจะทำได้เช่นนั้นรึ ?”
มู่เฉียนซีคิดว่าทักษะของเขานั้นมีเพียงแค่ทักษะเดียว นั่นก็คือเพียงแค่เขาโบกมือเล็กน้อยก็สามารถฆ่าคนได้ภายในชั่วพริบตา
ดูเหมือนจะง่าย แต่หากไม่มีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับเขา ผู้ใดก็คงไม่สามารถทำอย่างเขาได้
“คนพวกนั้นไม่มีคุณสมบัติพอที่ข้าจะลงมือเอง”
มู่เฉียนซีตกตะลึงเล็กน้อย นั่นก็หมายความว่าคนเหล่านั้นไม่มีคุณสมบัติพอที่จะให้เขาลงมือ ดังนั้นเขาจึงใช้วิธีง่าย ๆ คือการโบกมือเพียงเล็กน้อยแล้วให้พวกเขากลายเป็นโครงกระดูก
“ข้าอยากเรียน!”
“เช่นนั้นไปกับข้า” จิ่วเยี่ยไม่พูดเปล่า เขารุดเข้ามากอดเอวอันบอบบางของนางและพานางไปที่ริมทะเลสาบ
ร่างสีดำปรากฏขึ้นอยู่บนทะเลสาบ กลิ่นอายที่เงียบสงบนั้นเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หมอกควันนับหมื่นพันเริ่มตลบไปทั่วทุกสารทิศ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นอย่างช้า ๆ
— ตูม! —
พลังอันน่าสะพรึงกลัวระเบิดลงไปในใจกลางทะเลสาบ ทำให้ป่าในบริเวณรอบ ๆ สั่นสะเทือนอย่างร้ายกาจ
หลุมขนาดใหญ่นั้นทำให้น้ำในทะเลสาบไหลลงไปอย่างบ้าคลั่งราวกับไม่มีวันที่จะเติมเต็มได้ แสดงให้เห็นว่าหลุมนั้นลึกมากเพียงใด
ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกของจิ่วเยี่ยนิ่งสงบเป็นอย่างมากราวกับจะทำลายทั่วทั้งเซี่ยโจวด้วยฝ่ามือ และดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาก็มิปาน
ทันใดนั้นจิ่วเยี่ยกลับไปยืนอยู่ข้าง ๆ มู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว
มู่เฉียนซีกล่าวชม “ทรงพลังยิ่งนัก”
จิ่วเยี่ยกล่าวอย่างช้า ๆ “นี่คือโยวหลัวซวนหยิน เป็นทักษะวิญญาณที่ข้าสร้างขึ้นมาเอง ทั้งหมดมีเจ็ดทักษะด้วยกัน”
เขาโอบร่างมู่เฉียนซีและก้มใบหน้าลงจะจุมพิตนาง ในขณะที่นางคิดว่าเจ้าก้อนน้ำแข็งผู้นี้กำลังจะบังคับขืนใจนางอีกครั้ง เขากลับมอบจุมพิตแผ่วเบาลงที่ระหว่างคิ้วของนาง
ความรู้สึกนี้ช่างเป็นความรู้สึกที่คุ้ยเคย
— ตูม! —
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีรู้สึกแปลกไป มันเป็นความรู้สึกราวกับมีอะไรบางอย่างระเบิดขึ้นในหัวของนาง
โยวหลัวซวนหยินแบ่งออกเป็นเจ็ดทักษะด้วยกัน เมื่อครู่นี้จิ่วเยี่ยเปิดผนึกทักษะแรกไป นั่นก็คือทักษะตี้ซวน ต่อมาก็จะเป็นทักษะเทียนซวน ทักษะโยวหมิง ทักษะโยวจั๋ว ทักษะชิงหลัว ทักษะหมิงหลัว และทักษะโลหิตเจ็ดชั้น
โยวหลัวซวนหยินนี้ ถึงแม้ว่าทักษะตี้ซวนจะเป็นทักษะแรกแต่มันก็น่ากลัวอย่างมหันต์ นางผู้เป็นเพียงแค่ปรมาจารย์ภูตกลับเต็มใจที่จะแสดงความสามารถออกมา ความน่ากลัวนี้แม้แต่พลังวิญญาณระดับจักรพรรดิสูงสุดก็สามารถโดนทำลายไปอย่างง่ายดาย อย่างอื่นนั้นก็ไม่ต้องพูดถึงเลย
และจิ่วเยี่ย เขาเป็นคนกล่าวว่าทักษะนี้เป็นทักษะวิญญาณที่เขาเป็นผู้สร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง …สร้างขึ้นมาเอง!
จิ่วเยี่ยสร้างความตกใจให้กับมู่เฉียนซีอีกครั้ง มู่เฉียนซีกำหมัดแน่น กล่าวว่า “จิ่วเยี่ย ข้าอยากฝึกโยวหลัวซวนหยิน เจ้ารีบฝึกให้ข้าเถอะ”
เมื่อได้เห็นกับตาถึงพลังอันแข็งแกร่งเช่นนั้นแล้ว มู่เฉียนซีก็ต้องการจะบรรลุทักษะวิญญาณนี้เป็นอย่างมาก ต้องการมาก! ต้องการอย่างมาก!
จิ่วเยี่ยพยักหน้า เขากล่าวว่า “ซี พลังของเจ้ายังไม่เพียงพอ ต้องฝึกพลังก่อน”
— ฟึ่บ! —
กล่าวจบ จิ่วเยี่ยก็จับมู่เฉียนซีโยนลงไปกลางทะเลสาบทันที
— ฟิ้ว! —
เนื้อตัวมู่เฉียนซีเปียกโชก นางจ้องจิ่วเยี่ยตาเขม็งก่อนจะกล่าวด้วยความโกรธขึ้ง “จิ่วเยี่ย เจ้าทำบ้าอะไรของเจ้า ?”
“หากเจ้าไม่อยากจะสอนข้า ข้าค่อย ๆ ฝึกเองก็ได้ เจ้าไม่เห็นต้องจับข้าโยนน้ำเช่นนี้เลย มันเย็น!”
“ใช้พลังทำให้เห็นก้นทะเลสาบ หากเจ้าใช้พลังการฝึกฝนทำภารกิจนี้ได้ก็ถือว่าสำเร็จ”
มู่เฉียนซีเบิกตากว้างอย่างตระหนกตกตื่น หมัดเมื่อครู่นี้ของเขาทำให้เกิดหลุมลึกถึงเพียงนั้น จะให้นางระเบิดหลุมจนเห็นก้นทะเลสาบอีกหลุม นางจะทำได้อย่างไร ?!
อีกประการ… หากใช้พลังตอนที่อยู่ในน้ำเช่นนี้ พลังนางจะอ่อนแอลงมาก ยากนักที่จะทำสำเร็จได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรมู่เฉียนซีก็เชื่อมั่นในวิธีการฝึกของจิ่วเยี่ย เพื่อทักษะที่ทรงพลังนั้น มู่เฉียนซีกัดฟัน ตัดสินใจที่จะต่อสู้อย่างสุดกำลังที่มี
— ปัง! —
— ปัง! —
ก้นทะเลสาบ มู่เฉียนซีลงมือระเบิดทีละครั้งอย่างต่อเนื่องด้วยความบ้าคลั่ง สำหรับนางแล้ว นี่เป็นภารกิจที่ใหญ่หลวงอย่างมาก
“ฮู่ว!” มู่เฉียนซีทนไม่ไหว นางลอยตัวขึ้นมาบนผิวน้ำเพื่อพักครู่หนึ่ง เหนื่อยเช่นนี้จำเป็นต้องกินยาวิญญาณเพื่อฟื้นฟูพลังกลับมา เมื่อดีขึ้นแล้วก็ดำลงไปในน้ำอีกครั้ง
หากนางไม่รีบคว้าโอกาสนี้เอาไว้ นางคงไม่สามารถทำตามข้อกำหนดได้ต่อให้ผ่านไปหลายปีก็ตาม
ได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะที่ทรงพลังเช่นนี้ หลาย ๆ คนยอมเสียเวลาสิบปียี่สิบปี แต่มู่เฉียนซีนั้นรู้ว่าตนเองไม่ได้มีเวลามากมายถึงเพียงนั้น
พิษของท่านอา นางต้องรีบแก้ให้ได้
ความแค้นที่มีต่อสำนักอวิ๋นเยียน นางต้องชำระให้เร็วที่สุด
จิ่วเยี่ยลอบสังเกตมู่เฉียนซีอย่างลับ ๆ มุมปากงามยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเล็ก ๆ สตรีผู้เดียวที่เขาสนใจนั้นขยันและมีความพยายามอย่างมาก
ดีมาก!
มู่เฉียนซีค่อย ๆ คุ้นเคยกับการใช้พลังใต้น้ำ จากนั้นหลุมที่นางพยายามจะระเบิดลงไปนั้นก็เริ่มลึกลงไปเรื่อย ๆ
นางอดทนเพียรพยายามฝึกฝนเพื่อแข่งกับเวลา โชคดีที่นางเป็นนักปรุงยา การใช้ยาฟื้นฟูพลังวิญญาณสามารถช่วยนางได้ไม่น้อยเลย
— ตูม! ตูม! ตูม! —
การฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งนี้ทำให้พลังของมู่เฉียนซีแข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว และท้ายที่สุดนางสามารถระเบิดหลุมถึงก้นทะเลสาบได้สำเร็จ
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างกระตือรือร้นทันทีว่า “ข้าฝึกพลังได้แล้ว ต่อไปข้าก็จะได้ลองฝึกทักษะตี้ซวน”
จิ่วเยี่ยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “อืม เจ้าลองได้”
.