บทที่ 106 แสงสว่างและเงามืด
ทั้งทั่งแดนฝันกำลังเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่
ตำราเปิดพลังไคฮวงถูกติดประกาศอยู่บนจุดที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดในโถงประกาศข้อมูล เมิ่งหลานกำลังสำแดงพลังในการเชื้อเชิญชวนให้ซื้อของนางอีกครา ทั้งยังให้การประเมินถึง 9 ดาว แต่ครั้งนี้ไม่ใช่เพราะนางตกลงอะไรกับซูเฉินไว้ แต่เป็นเพราะมันเป็นวิชาที่เหนือชั้นมากจริง ๆ เป็นวิชาที่ไม่อาจดีไปได้กว่านี้แล้ว
ใช้เพียง 100 ละอองฝันก็สามารถซื้อวิชาการทะลวงสู่ด่านกลั่นโลหิตโดยไร้สายเลือดได้
คนทั้งหลายต่างรู้สึกคล้ายถูกฟ้าผ่ากลางกระหม่อมเมื่ออ่านดูราคา
ในที่สุดก็มีวิธีที่ทำให้สามารถทะลวงสู่ด่านกลั่นโลหิตโดยไร้สายเลือดได้งั้นหรือ ?
ทั้งยังราคาเพียง 100 ละอองฝันเอง ?
ของหลอกตาหรือไร ?
คนส่วนมากมีความคิดเช่นนี้ผุดขึ้นมาเป็นอันดับแรก
หากแต่มันถูกป่าวประกาศสะดุดตานานถึง 3 วัน อีกทั้งการประเมิน 9 ดาวก็เป็นเครื่องยืนยันว่ามันเป็นวิชาของจริงแน่นอน
ทั้งยังมีราคาเพียง 100 ละอองฝัน แม้จะเป็นวิชาหลอกขายก็ไม่เสียหายอะไรมาก
เมื่อซูเฉินเข้าแดนฝันมาอีกครา ก็ถูกจำนวนมหาศาลตีเข้าแสกหน้าอย่างจัง็ต้อง
ขายไปได้ 21,000 เล่ม !
ถูกต้องแล้ว ตำราเปิดพลังไคฮวงกว่า 21,000 เล่มถูกขายออกไปในวันเดียวเท่านั้น
เกราะรบเหล็กกล้ากับตำราเปิดพลังไคฮวงนั้นแตกต่างกัน สุดท้ายแล้วเกราะรบเหล็กกล้าก็เป็นเพียงทักษะต้นกำเนิดหนึ่ง แม้จะมีพลังป้องกันสูง แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนต้องการใช้มัน อีกทั้งยังมีการแอบนำไปปล่อยต่อได้เช่นนี้จึงทำให้มูลค่ามันลดน้อยลงในที่สุด
แต่ตำราเปิดพลังไคฮวงนั้นแตกต่างออกไป เป็นเพราะมันสามารถทำให้ผู้บ่มเพาะพลังสามารถเพิ่มพื้นฐานการบ่มเพาะพลังของตนเองได้โดยตรง หากพวกเขาสามารถทะลวงผ่านด่านกลั่นโลหิตโดยไร้สายเลือดได้แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาเลือดผสมตอนที่ยังอยู่ด่านก่อเกิดลมปราณอีกต่อไป
ที่สำคัญที่สุด วิธีทะลวงผ่านขั้นพลังนี้ยังมีราคาเพียง 100 ละอองฝันเท่านั้น
สำหรับเมิ่งหลานแล้ว จำนวน 21,000 นับว่าขายได้ไม่มากนัก นางรู้สึกว่ามันน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ
“นายหญิงแห่งปราสาทกล่าวว่าคงจะมีคนอีกมากที่กำลังดูสถานการณ์ แม้จะมีราคาเพียง 100 ละอองฝัน ทำให้คนมากมายซื้อมันไป แต่ก็ยังมีคนไม่น้อยแต่เกรงว่าตำรานี้จะมีข้อผิดพลาดร้ายแรงซ่อนอยู่ ดังนั้นจึงรอให้คนอื่น ๆ กลับมาแจ้งผลลัพธ์ นายหญิงแห่งปราสาทได้เปิดให้ผู้คนที่ซื้อตำราไปปิดประกาศผลลัพธ์ของตำราแล้ว อีกไม่นานก็คงมีคนเพิ่มคำติชมเข้ามา ถึงตอนนั้นถึงจะขายได้มากจริง ๆ” ลู่ลู่กล่าวพร้อมกับบินวนรอบตัวซูเฉิน
จริง ๆ แล้วก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นแล้วเช่นกัน
บางคนได้ซื้อตำราไปลองอ่านแล้ว แม้จะยังไม่ได้ลอง แต่ก็สามารถยืนยันถึงความเป็นไปได้ของทฤษฎีและวิธีในตำรา
ส่วนคนอื่นที่อยู่ขั้นปลายใกล้ทะลวงสู่ด่านกลั่นโลหิต บางคนซื้อหาแล้วก็นำไปลองใช้ สำเร็จแล้วก็หลายคน ต่างพากันมาทิ้งคำวิจารณ์แง่ดีไว้จำนวนมาก
แน่นอนว่าก็ยังมีคนที่ทำไม่สำเร็จ แต่แม้จะทะลวงสู่ด่านกลั่นโลหิตไม่สำเร็จก็ตาม ต่างค้นพบว่าตำราเปิดพลังไคฮวงไร้ผลข้างเคียงใด ผู้คนจึงพากันมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
ตอนนี้เปิดขายมันเพียงวันเดียวเท่านั้น ยังมีคนมาแสดงความเห็นไม่มาก แต่ดูจากความเห็นแรกเริ่มแล้ว คนส่วนมากแสดงความคิดเห็นไปในด้านบวก
คนที่ทะลวงด่านสำเร็จย่อมดีใจเป็นล้นพ้น กระทั่งคนที่ทะลวงไม่สำเร็จก็ยังเอ่ยชม ต่างชื่นชมว่านี่คือวิชาที่สามารถเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์เผ่ามนุษย์ได้ ขอแสดงความขอบคุณต่อคนขาย นามว่าอวิ๋นฝูปา ที่นำวิชามาแจกจ่ายด้วยใจเมตตายิ่ง
ดังนั้นอวิ๋นฝูปาจึงเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา
แต่มีคนชมก็ย่อมมีคนวิจารณ์ในด้านลบ
บ้างบอกว่าตำราเปิดพลังไคฮวงนั้นประณีตเกินไป เพราะมันไม่อาจเข้ากันได้กับรูปแบบพลังต้นกำเนิด บีบให้คนที่ใช้ตำราและวิธีนี้จำเป็นต้องมีความเข้าใจขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับรูปแบบพลังต้นกำเนิดอยู่บ้าง ไม่เช่นนั้นความสำเร็จในการทะลวงผ่านด่านก็จะน้อยลง อีกทั้งเดิมทียังมีวิชาและวิธีที่ใช้ทะลวงสู่ด่านกลั่นโลหิตมาแล้วนมนาน หากแต่ไม่สมบูรณ์ก็เท่านั้น อวิ๋นฝูปาเพียงนำพวกมันมาทำให้สำเร็จสมบูรณ์เพียงเล็กน้อย ยังห่างไกลกับการเปลี่ยนแปลงเผ่ามนุษย์มาก ดังนั้นอวิ๋นฝูปาจึงไม่ใช่ผู้กอบกู้แห่งเผ่ามนุษย์ ยังไม่อาจควรค่าที่จะเรียกเขาเช่นนั้นได้
พวกเขาให้เหตุผลไม่ผิด แต่อาจใช้น้ำเสียงเป็นเชิงเยาะเย้ยถากถาง เห็นได้ชัดว่าพยายามดูหมิ่นความสำเร็จครั้งนี้ จึงได้แต่ออกมาแสดงความเห็นด้านลบ
ซูเฉินไม่ใส่ใจ ตอนนี้ยังเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น อีกไม่นานก็จะมีคนมายืนยันคุณค่าของตำราเปิดพลังไคฮวงเอง ถึงตอนนั้นก็จะขายได้ยอดพุ่งกระฉูดนับไม่ถ้วน
เขาเอ่ยว่า “ต้องขอขอบคุณนายหญิงแห่งปราสาทที่ช่วยเหลือ”
“ไม่จำเป็นต้องสุภาพเช่นนั้น พวกเจ้าเป็นสหายกันนี่นา” ลู่ลู่เอ่ยพลางยกมือเท้าเอว “ยิ่งขายดีเท่าไร นายหญิงแห่งปราสาทก็ยิ่งได้ประโยชน์ หากเจ้ายอมขึ้นราคาให้มากกว่านี้ก็อาจขายได้เงินมา 2 ล้านแล้วก็เป็นได้”
ซูเฉินหัวร่อ “อย่างไรก็ไม่ได้ขายตำราเปิดพลังไคฮวงเพื่อหวังเงินอยู่แล้ว แต่กลับไปบอกนายหญิงแห่งปราสาทของเจ้าทีว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นมาก ข้าเชื่อว่าอีกไม่นาน ข้าจะมีทักษะต้นกำเนิดใหม่ ๆ ออกมาขายอีก ถึงตอนนั้นข้าคงจะช่วยหาเงินเข้านายหญิงแห่งปราสาทได้บ้าง”
“โห ? เจ้าคิดจะสร้างทักษะต้นกำเนิดขึ้นมาใหม่งั้นหรือ ?” ลู่ลู่เอ่ยถามเสียงตื่นเต้น
“ยังอยู่ในขั้นวางแผน ยังไม่ทันได้เริ่มด้วยซ้ำ”
“ยังเพิ่งจะวางแผนหรือ ? การสร้างทักษะต้นกำเนิดใหม่ขึ้นมาไม่ง่ายนะ” ลู่ลู่เอ่ยแล้วเอียงคอ
“แต่ก็ไม่ได้ยากถึงเพียงนั้น” ซูเฉินหัวเราะ
ถูกต้องแล้ว สำหรับซูเฉินมันไม่ได้ยากมากมายเลยจริง ๆ
วันต่อ ๆ มาเป็นไปอย่างที่เมิ่งหลานและซูเฉินคาดการณ์ไว้ ตำราเปิดพลังไคฮวงสร้างเสียงอึกทึกครึกโครมในคนวงหนึ่งในแดนฝันกันเลยทีเดียว
หลังจากได้รับการยืนยันประโยชน์ของตำราแล้ว อัตราการขายก็เพิ่มสูงขึ้นแบบที่หาได้ยากนัก
ภายในเวลา 3 วัน ก็สามารถขายตำราเปิดพลังไคฮวงไปได้มากถึง 230,000 ชุด
230,000 ชุด !
ในเผ่ามนุษย์มีผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดอยู่กี่คนกันแน่ ?
มีไม่เกิน 20 ล้านคนเป็นแน่ ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดด่านก่อเกิดลมปราณเพียงอย่างเดียวก็ตีไปว่ามากถึง 4 ล้านคนแล้ว
หลายคนเป็นสมาชิกตระกูลสายเลือดชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้วิชาเช่นนี้ ดังนั้นจึงมีคนราว 2 ล้านคนเท่านั้นที่จำเป็นต้องใช้ตำราเปิดพลังไคฮวงอย่างแท้จริง
และในหมู่คน 2 ล้าน เป็นไปได้ว่ามีเพียงครึ่งที่สามารถเข้าถึงแดนฝันได้
1 ใน 4 ของผู้เชี่ยวชาญด่านก่อเกิดลมปราณที่ไร้สายเลือดราว 1 ล้านคนได้ซื้อวิชาไปแล้ว ดังนั้นจึงน่าจะมีการซื้อขายแบบผิดกฎหมายได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้วกระมัง
ดังนั้นทั้งเขาและนางจึงไม่คาดหวังจำนวนที่อาจขายตำราได้อีกในช่วงหลายวันต่อ ๆ มาด้วยซ้ำ
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป การจะขายได้อีกสัก 100-200 ชุดไม่นับว่ายากเย็นอะไร หรือก็คือเกือบครึ่งของผู้เชี่ยวชาญด่านก่อเกิดลมปราณที่ไร้สายเลือด อย่างไรก็ต้องซื้อตำราจากในแดนฝันโดยตรง
นับว่าเกินกว่าสิ่งที่ซูเฉินและเมิ่งหลานคาดหวังไว้นัก
ที่เป็นเช่นนี้ ว่ากันตามตรง เป็นเพราะผู้คนต่างรู้สึกซาบซึ้งต่อการกระทำของ ‘อวิ๋นฝูปา’
คนที่ซื้อตำราเปิดพลังไคฮวงไปต่างรู้ว่าเหตุใดอวิ๋นฝูปาจึงขายมันในราคาต่ำเช่นนี้
ความตั้งใจแรกของเขาไม่ใช่ขายเพื่อคิดหาเงินหากำไร แต่เพื่อเป็นประโยชน์แก่เผ่ามนุษย์
ดังนั้นคนที่ได้ประโยชน์จากตำราจึงยิ่งเต็มใจยอมจ่ายเพียงเล็กน้อยเพื่อความตั้งใจอันยิ่งใหญ่ครั้งนี้
บ้างกระทั่งเต็มใจยอมซื้อมันจากในแดนฝันโดยตรง แม้ในความเป็นจริงจะสามารถหาซื้อได้ในราคาถูกกว่านี้ ทำเช่นนี้เพียงเพราะต้องการแสดงความขอบคุณต่อซูเฉิน เพื่อขอบคุณต่ออวิ๋นฝูปา !
การกระทำเหล่านี้ล่ะคือมนุษย์
บ้างอาจไม่ได้มีอำนาจ บ้างอาจเห็นแก่ตัว แต่เมื่อได้ประสบกับความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็รู้จักให้ความเคารพนับถือ
ฉือไคฮวงเคยกล่าวไว้ว่าคนที่ได้วิชาไปจากเขาย่อมไม่ช่วยปกป้องเขาจากภยันต์อันตรายใดที่เขาอาจเผชิญ
ที่เขาว่ามาก็ไม่ผิด แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านั้นไม่รู้จักคำว่าบุญคุณ
พวกเขาไม่อาจสละตนมาปกป้องเขาจากลมฝน แต่ก็สามารถใช้วิถีทางของตนเองในการช่วยคนอื่น ๆ ได้
ราคาเพียง 100 ละอองฝัน มองอย่างไรก็ไม่นับว่าแพง ดังนั้นคนที่รู้จักบุญคุณย่อมรู้ดีว่าต้องทำสิ่งใด
ใช้ความสามารถที่ตนมีเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ ที่เคยช่วยพวกเขาไว้เสีย !
ใต้หล้านี้อาจมืดมิดนัก แต่ก็ยังไม่ขาดแสงสว่าง !