[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]
บทที่ 419: โลกของเราสองคน!
หลิงหยุนถูกเทพธิดาหลินเมิ่งหานจูบ แต่นั่นไม่ได้มีผลต่อการเดินของเขาเลยแม้แต่น้อย เขายังคงโอบกอดร่างของหลินเมิ่งหานเดินออกไปพร้อมกับดื่มด่ำในรสจูบที่เร่าร้อนของเธอไปด้วย ทั้งคู่ค่อยๆก้าวเดินออกไปจากแองเจลบาร์
“ว้าว! สุดยอดจริงๆ!” ใครบางคนร้อนตะโกนออกมา
“เฮ้อ.. เด็กสาวสมัยนี้ช่างใจกล้า.. สมัยพวกเรายังไม่กล้าทำขนาดนี้เลย..” บางคนก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจ
“น่าเสียดาย.. ฉันนั่งอยู่ที่นี่ตั้งนานกลับเพิ่งจะเจอสาวสวยคุณภาพขนาดนี้ แต่น่าเสียดายที่หมอนั่นเอาไปซะแล้ว!”
“นายอย่าฝันไปเลย.. นายไม่เห็นหรือไงว่าไอ้หนุ่มหน้าหล่อนั่นดุแค่ใหน? มันไม่รอให้นายได้เอาแม่สาวสวยนั่นไปกินหรอก มันคงจะหักขานายก่อนแล้ว!”
“คู่นั้นสุดยอดจริงๆ.. โคตรอิจฉาเลยว่ะ..”
……
หนุ่มสาวที่รักการเที่ยวกลางคืนต่างก็รู้กันดีว่า ที่แองเจลบาร์แห่งนี้เป็นที่ที่พวกเขามักมาเสาะหาคู่นอนในแบบที่เรียกว่า One-night stand คือหากถูกใจกัน ก็ควงคู่กันออกไปมีสัมพันธ์เพียงแค่คืนเดียว แล้วต่างฝ่ายต่างก็แยกย้ายกันไป
เมื่อหลินเมิ่งหานเดินเข้ามาที่แองเจลบาร์แห่งนี้เพียงคนเดียว บรรดาหนุ่มๆที่อยู่ในบาร์ต่างก็ตาเป็นประกาย ทุกคนต่างจ้องมองหลินเมิ่งหานไม่ต่างจากหมาป่าที่กำลังมองเหยื่ออย่างหิวโหย!
แต่ไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มหน้าใหน ทั้งนักรัก หนุ่มร่างสูงใหญ่ หนุ่มฐานะร่ำรวย หรือหล่อเหลาเพียงใด ใครก็ตามที่กล้าเดินเข้าไปทักทายหลินเมิ่งหาน ก็ต้องถูกเธอไล่ตะเพิดเสียงเย็นออกมากันทุกคน
“ไปให้พ้น!”
และแน่นอนว่าหนุ่มๆเหล่านั้นต่างก็ถึงกับนิ่งอึ้งและพูดไม่ออก แต่ก็ไม่มีใครยอมกลับไปที่นั่งของตัวเอง และเฝ้ารอว่าใครกันที่จะได้สาวสวยคุณภาพเช่นนี้ไปครอบครอง และคิดไม่ถึงว่ากลับเป็นหลิงหยุนชายหนุ่มที่เพิ่งเข้ามาในร้านได้ไม่นาน!
ท่ามกลางเสียงซุบซิบ เสียงเป่าปาก และเสียงปรบมือ หลิงหยุนโอบกอดร่างที่เร่าร้อนของหลินเมิ่งหานซึ่งกำลังรัดเขาแน่นราวกับงูนั้น ค่อยๆเดินออกไปจากแองเจลบาร์
เมื่อไปถึงที่รถ หลิงหยุนก็ผลักหลินเมิ่งหานเบาๆ พร้อมกับดิ้นหลุดจากการจูบของเธอ เขาจ้องมองริมฝีปากที่เผยอรอของหลินเมิ่งหาน ก่อนจะยิ้มมุมปากและถามขึ้นว่า
“คุณจูบผมพอหรือยัง?”
ใบหน้าของหลินเมิ่งหานแดงก่ำ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ หรือเป็นเพราะความอับอายกันแน่ มือสองข้างของเธอยังคงกอดคอหลิงหยุนไว้แน่น พร้อมกับจ้องมองหลิงหยุนนิ่ง จากนั้นริมฝีปากแดงก็ตำหนิหลิงหยุน
“นี่ตาทึ่ม..! คนเขาอุตส่าห์มอบจูบแรกให้ แต่นายกลับทำเหมือนไม่เห็นค่า..”
หลิงหยุนจ้องมองลึกลงไปในดวงตาของหลินเมิ่งหานนิ่งนาน แต่จู่ๆเขาก็นึกขำขึ้นมา จึงถามออกไปอย่างแปลกใจว่า
“นี่คุณเมาจริงหรือเปล่า?”
หลินเมิ่งหานเองก็จ้องมองหลิงหยุนเช่นกัน ดวงตาคู่สวยเป็นประกายนั้นมีแววตกใจเล็กน้อย นอกเหนือจากใบหน้าสวยงามที่แดงก่ำแล้ว ก็ไม่เหลือร่องรอยของความมึนเมาเลยแม้แต่น้อย?!
“ก็แค่เบียร์สิบกว่าขวด.. ปริมาณแอลกอฮอล์แค่นั้นไม่พอจะทำให้ผู้หญิงอย่างฉันเมาได้หรอก?”
ดูเหมือนหลินเมิ่งหานจะดูภูมิอกภูมิใจไม่น้อยที่ทำให้หลิงหยุนแปลกใจได้..
“แต่เมื่อครู่คุณทำเหมือนจะล้มลงไป!?” หลิงหยุนถามอย่างหงุดหงิด
“ก็ฉันลุกพรวดพราดแบบนั้น มันก็เสียการทรงตัวน่ะสิ ก็เท่านั้นเอง! แต่คิดไม่ถึงว่านายจะอ่อนโยนแบบนี้..”
หลิงหยุนฟังแล้วก็ได้แต่ขมวดคิ้ว จากนั้นจึงถอนหายใจก่อนจะถามกลับไปว่า “แล้วโทรจิกผมขนาดนั้น มีเรื่องอะไรหรือเปล่า? ไม่รู้หรือยังไงว่าผมกำลังเตรียมตัวที่จะไป..”
หลิงหยุนรีบร้อนมากจนเกือบจะหลุดปากพูดไปว่า เขากำลังเตรียมตัวจะไปเข้าหอ
หลินเมิ่งหานถึงกับอึ้งไป เธอเบียดหน้าอกของตัวเองแนบกับหน้าอกของหลิงหยุนแรงขึ้นพร้อมกับถามไปว่า
“นายเตรียมตัวจะไปทำอะไรเหรอ?”
แต่ยังไม่ทันที่หลิงหยุนจะได้ตอบ เขาก็ได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงของหลินเมิ่งหาน ในใจอดคิดไม่ได้ว่าหลินเมิ่งหานดูเหมือนจะตั้งใจยั่วยวนเขามากเหลือเกิน?
“นายจะไปนอนกับใคร.. ห๊ะ?!”
จู่ๆ เมื่อหลินเมิ่งหานนึกถึงสาวงามแห่งเมืองจิงฉูที่ชื่อฉิงเม่ยเฟิง อารมณ์ของเธอก็เดือดดาลทันที และถามออกไปด้วยความไม่พอใจ
หลิงหยุนก้มหน้าลงจ้องมองหน้าอกใหญ่โตของหลินเมิ่งหาน เขาหัวเราะเบาๆพร้อมกับตอบไปว่า “ก็นี่ได้เวลาเข้านอนของผมแล้ว..”
หลินเมิ่งหานตั้งใจไว้แล้วว่า วันนี้เธอจะมอบทุกอย่างให้กับหลิงหยุน ตอนนี้หลิงหยุนจ้องมองเรือนร่างของเธอด้วยสายตาเร่าร้อน แม้เธอจะรู้สึกอาย แต่ก็ฝืนพูดออกไปว่า
“แล้วตอนฝันล่ะ.. นายฝันถึงใคร?”
หลิงหยุนไม่ตอบ แต่ใช้มือซ้ายโอบแผ่นหลังของหลินเมิ่งหานแนบตัวเขาแทนคำตอบ หลินเมิ่งหานสัมผัสได้ถึงความรู้สึกรุนแรงผ่านการสัมผัสนั้น
ช่างเป็นความรู้สึกที่ประหลาด และหลินเมิ่งหานเองก็ไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกเช่นนั้นได้ อีกทั้งเธอก็ไม่คิดที่จะปฏิเสธ! เพียงแต่สถานที่ไม่อำนวย..
“ถ้างั้น.. ที่ใหนดี?” หลิงหยุนถามยิ้มๆ
ตอนนี้ต่อให้หลินเมิ่งหานต้องการจะหนี หลิงหยุนก็ไม่ปล่อยให้เธอหนีไปได้แน่
“ที่บ้านของฉัน..”
“ไปกันเลย!”
หลิงหยุนหยุดฝ่ามือที่กำลังลูบไล้แผ่นหลัง และรีบเปิดประตูรถให้หลินเมิ่งหานขึ้นไป
“บอกทางด้วย..”
แล้วรถแลนด์โรเวอร์ก็ทะยานออกไปทันที
…….
ภายในเบาะด้านข้างคนขับ หลินเมิ่งจัดแจงเสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นก็หันไปมองหลิงหยุนด้วยความรู้สักสับสน
คืนนี้หลิงหยุนจะเป็นผู้ชายคนแรกสำหรับเธอ ความบริสุทธิ์ของเธอจะตกเป็นของเขา และหลิงหยุนเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่เธอต้องการมอบสิ่งนี้ให้!
ต่อให้เป็นว่าที่สามีในอนาคตของเธอ หลงเทียนเจียวแห่งตระกูลหลงในปักกิ่ง ก็ไม่เหมาะสมที่จะได้ครอบครอง!
เด็กผู้ชายที่ดื้อรั้นคนนี้ ไม่เพียงแค่ช่วยชีวิตของเธอไว้ แต่เขายังเป็นผู้ที่ช่วยรักษาพรหมจรรย์ให้กับเธอ เขาได้ช่วยเธอไว้ถึงสองครั้งสองครา!
‘ผมชอบว่ายน้ำหน้าหนาว..’ หลินเมิ่งหานได้แต่หัวเราะทุกครั้งเมื่อนึกถึงคำพูดประโยคนี้ของหลิงหยุนที่เขาพูดกับเธอตอนที่ได้พบกันครั้งแรก
ครั้งที่สองที่เธอถูกยาปลุกเซ็กชนิดรุนแรงเข้าไป ไม่เพียงหลิงหยุนได้เห็นความน่าเกลียดในตัวเธอ แต่ยังได้เห็นเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของเธอด้วย
หลินเมิ่งหานยังจำได้ว่า ตอนนั้นหลิงหยุนมองเรือนร่างของเธอด้วยสายตาเปิดเผย ในระหว่างที่ยานั่นออกฤทธิ์ เธอมีความต้องการอย่างมาก และในช่วงที่ร่างกายของเธอรุ่มร้อนราวกับถูกแผดเผานั้น ไม่เพียงหลิงหยุนไม่ฉวยโอกาส แต่ยังทำการรักษาให้จนกระทั่งเธอพ้นขีดอันตราย!
‘เพราะผมคือหลิงหยุน!’ หลินเมิ่งหานยังจำคำพูดติดปากที่เขามักพูดอย่างภูมิอกภูมิใจได้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ น้ำตาแห่งความซาบซึ้งใจ และน้ำตาแห่งความสุขก็ค่อยๆไหลออกมา
และตอนนี้เธอเองก็ได้ตกหลุมรักหลิงหยุนอย่างถอนตัวไม่ขึ้น!
แต่ถึงอย่างไร ฐานะของเธอกับหลิงหยุนก็แตกต่างกันมาก อีกทั้งตอนนี้หลงเทียนเจียวแห่งตระกูลหลงซึ่งดูแลกองทัพในประเทศจีน ก็ได้มาพูดคุยกับพ่อของเธอซึ่งเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรื่องการแต่งงาน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครกล้าเอ่ยปากปฏิเสธ
เมื่อหลินเมิ่งหานรู้ข่าวว่าเธอจะต้องเข้าพิธีแต่งงานในอีกห้าเดือนข้างหน้า เธอก็หนีออกมาจากบ้านทันที!
ระหว่างนี้.. หากสามารถอยู่กับหลิงหยุนได้หนึ่งวัน เธอก็จะอยู่หนึ่งวัน! และตั้งใจที่จะเป็นของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
ตอนนี้น้ำหนักและส่วนสูงของหลิงหยุนค่อนข้างอยู่ในมาตรฐาน และหน้าตาของเขาก็หล่อเหลาขึ้นมาก เรียกได้ว่าไม่มีที่ติ!
และนั่นทำให้หลินเมิ่งหานรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก แต่เธอยังไม่รู้ว่าในอนาคตเขาจะยิ่งน่าแปลกใจกว่านี้อีก!
……….
‘เหยาลู่.. ผมขอโทษ.’ หลิงหยุนขับรถไปพร้อมกับนึกขอโทษเหยาลู่อยู่ในใจ
การแสดงออกของหลินเมิ่งหานในวันนี้นั้น แตกต่างและตรงข้ามกับอุปนิสัยที่ผ่านมาของเธอมาก เธอเป็นฝ่ายจูบหลิงหยุนอย่างดื่มด่ำ ราวกับต้องการจะระบายความรู้สึกที่คับแค้นใจบางอย่างออกมา.. และนี่ไม่ใช่เรื่องปกติ!
อีกทั้งจากนิสัยของหลินเมิ่งหาน หากเธอตัดสินใจที่จะออกจากเมืองจิงฉูไปแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่เพียงแค่สิบวันเธอก็จะกลับมาที่นี่อีก และการกลับมาครั้งนี้ดูเหมือนอารมณ์ของเธอจะกล้าและก๋ากั่นอย่างผิดปกติ
“หลิงหยุน.. นายผอมลงอีกแล้วใช่ไม๊ ทำไมน้ำหนักนายถึงลดเร็วจัง..” หลินเมิ่งหานเอาแต่จ้องหน้าหลิงหยุนก่อนจะถามเสียงเบา
“น้ำหนักลงเพราะคิดถึงคุณไง.!”
“ใครเชื่อคำพูดของนายก็โง่แล้ว! ถ้าคิดถึงฉัน ทำไมไม่โทรหาฉันล่ะ? เบอร์โทรของฉันก็เบอร์เดิม ไม่ได้เปลี่ยนสักหน่อย!” หลินเมิ่งหานประชด
“คุณดูเปลี่ยนไปมาก.. ทำอะไรผิดไปจากปกติ ผมอยากให้คุณสงบจิตสงบใจ และใคร่ครวญให้แน่ใจก่อน..”
มาถึงตอนนี้ หลิงหยุนได้แต่พูดออกไปตามตรง หลินเมิ่งหานนั้นบริสุทธิ์สะอาดราวกับคริสตัล เธอเป็นคนยึดมั่นในหลักการ และเป็นคนเถรตรงอย่างมาก แม้จะเฉลียวฉลาดแต่ก็ไม่รู้จักซิกแซ็ก ซึ่งต่างจากนิสัยของหลิงหยุนมากทีเดียว!
ในมุมมองความคิดของหลิงหยุน เขามีกฎเหล็กอยู่ว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องไม่ให้ตัวเองเป็นทุกข์กับสิ่งที่ทำ!
และความพ่ายแพ้ก็ไม่ใช่สไตล์ของหลิงหยุน!
“ไมไต้องมาทำเป็นสอนฉัน! ฉันอายุมากกว่านาย เป็นพี่นายนะ! นี่นายรู้จักเคารพคนอื่นเป็นบ้างไม๊?” หลินเมิ่งหานยกมือขึ้นทุบหลิงหยุน
“หน้าอกคุณใหญ่โตจริงๆ..” หลิงหยุนยิ้มมุมปากก่อนจะเหลือบไปมองหน้าอกใหญ่โตของหลินเมิ่งหาน
“นี่นาย!” หลินเมิ่งหานพุ่งเข้าไปทุบหลิงหยุนต่อ
“ไปทางใหน?” รถแลนด์โรเวอร์เลี้ยวมาถึงทางแยกกหลิงหยุนจึงร้องถาม
“เลี้ยวซ้าย..”
หลิงหยุนหมุนพวงมาลัยเลี้ยวไปทางซ้ายทันที
“คุณซื้อบ้านอยู่ในจิงฉูตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หลิงหยุนถามยิ้มๆ
หลินเมิ่งหานยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “ก็ตั้งแต่หลังเหตุการณ์นั่นล่ะ ฉันต้องหาที่สำหรับซ่อนตัว ก็เลยหาซื้อบ้านเล็กๆไว้ แต่ฉันไม่ได้เดือดร้อนเงิน ตอนกลับไปบ้านก็เลยไม่ได้ประกาศขาย..”
หลิงหยุนยักคิ้วพร้อมกับบอกไปว่า “ก็ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะเอาบบ้านไว้ทำไม ยกให้ผมก็ได้นะ?!”
หลินเมิ่งหานถึงกับหัวเราะคิกคัก “ฉันว่าในโลกนี้ คงจะหาผู้ชายอย่างนายไม่ได้แล้วล่ะ โลภมากจริงๆ! ฉันให้นายไปตั้งสิบล้านแล้ว เงินจำนวนนั้นก็ซื้อบ้านได้ถึงสองหลัง นายยังไม่พอใจอีกเหรอ?”
หลิงหยุนตอบกลับไปอย่างภูมิใจว่า “คุณพูดเองนะว่าผมโลภมาก ไม่รู้จักพอ!”
หลินเมิ่งหานเหลือบมองหลิงหยุนอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะถอนหายใจและพูดขึ้นว่า “หลายวันมานี้ชีวิตของนายเป็นยังไงบ้าง?”
หลิงหยุนไม่ตอบแต่ถามกลับไปว่า “แล้วคุณกลับมาจิงฉูตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เพิ่งมาถึงวันนี้เอง มีอะไรหรือเปล่า?”
สำหรับหลิงหยุน เขารู้สึกเมืองจิงฉูเงียบเหงาไปตั้งแต่เฉิงเม่ยเฟิงถูกพาตัวไป ส่วนเกาเฉินเฉินก็ไม่มีข่าวคราว อีกทั้งเสี่ยวเม่ยเม่ยก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใหน หากเขายังคงรู้สึกสบายดีก็คงจะเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมากแล้ว!
หลินเมิ่งหานเห็นสีหน้าท่าทางที่เคร่งเครียดของหลิงหยุน หัวใจของเธอก็ถึงกับเต้นแรง เพราะสีหน้าท่าทางของหลิงหยุนเช่นนี้ บ่งบอกว่าเขากำลังโกรธมาก หลินเมิ่งหานยังจำสีหน้าของหลิงหยุนเมื่อครั้งที่เธอดื้อดึงจะเอาเงินสามล้านกลับไปที่สถานีตำรวจจเพื่อใช้เป็นหลักฐานได้
“หลิงหยุน.. เกิดอะไรขึ้นกับบนาย? นายอยู่กับสาวงามของจิงฉูทุกวัน ยังไม่มีความสุขอีกเหรอ?”
หลินเมิ่งหานเข้าใจมาตลอดว่า หลิงหยุนกับเฉิงเม่ยเฟิงนั้นมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง และเธอเองก็เศร้าโศกและทุกข์ใจกับเรื่องนี้มาโดยตลอด แม้เธอตั้งใจจะมอบความบริสุทธิ์ของตนเองให้กับหลิงหยุน แต่ก็นับว่าเขาเป็นคนที่มีเจ้าของแล้วอยู่ดี
หลิงหยุนขับรถไปเงียบๆ บรรยากาศภายในรถเริ่มเงียบจนวังเวง จนกระทั่งผ่านไปนาน หลิงหยุนจึงพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบบ
“เฉิงเม่ยเฟิงถูกคนพาตัวไปแล้ว..”
“ห๊ะ.. อะไรนะ? ถูกพาตัวไป?!” หลินเมิ่งหานร้องอุทานออกมา และไม่รู้ว่าเธอควรจะดีใจหรือว่าเสียใจดี จึงรีบถามต่อว่า
“เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่? แล้วใครเป็นคนเอาตัวเธอไป?!”
ดวงตาของหลิงหยุนเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือก พร้อมกับตอบไปด้วยเสียงเย็นชา “เมื่อวันเสาร์ แม่ชีจากสำนักจิ้งซินเป็นคนเอาตัวเธอไป”
“สำนักจิ้งซินอะไรกัน? แล้วอยู่ที่ใหน?” หลินเมิ่งหานไม่เคยได้ยินชื่ออะไรแบบนี้มาก่อน จึงถามขึ้นอย่างงงๆ
“ผมก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ใหน? แต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใหนก็ตาม.. ถ้าผมรู้เมื่อไหร่ ที่นั่นจะต้องราบเป็นหน้ากอง!”
“แล้วแม่ชีนั่นเอาตัวเธอไปทำไม? อย่าบอกนะว่า..”
หลินเมิ่งหานอยากจะพูดคำว่าเฉิงเม่ยเฟิงไปบวชชี แต่เมื่อเห็นสีหน้าและสายตาที่เย็นชาของหลิงหยุน เธอก็ไม่กล้าพูดต่อ..
“ผมจะเล่าให้คุณฟังทีหลัง.. ตอนนี้ไปทางใหนต่อ?”
“เอ่อ.. เลี้ยวไปทางตะวันออก แล้วก็ขับไปตามทางเรื่อยๆ”
หลินเมิ่งหานคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนนี้ ก็ได้แต่ตัวสั่น