บทที่ 245 ทำสำเร็จแล้วใช่ไหม
กล่องยากล่องใหม่ถูกนำมาตั้งไว้บนโต๊ะหินสีขาว
ภายในกล่องนั้นจะบรรจุด้วยพืชสมุนไพรที่มีคุณภาพและเป็นชนิดเดียวกับผู้เข้าแข่งขันก่อนหน้านี้
หลินเป่ยเฉินก้าวเดินอย่างเชื่องช้าไปหยุดยืนอยู่ที่โต๊ะหินด้วยสีหน้าเยือกเย็น
โต๊ะหินตั้งอยู่ห่างจากกรงขังประมาณ 5 วา เมื่อถึงเวลาทดสอบ รอบกายจะมีม่านพลังปิดกั้นเสียงและภาพ ผู้คนที่อยู่ในม่านพลังจะมองไม่เห็นด้านนอก และผู้คนที่อยู่ด้านนอกจะมองไม่เห็นคนที่อยู่ด้านใน ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้สูตรการปรุงยาสลบของแต่ละคนไม่รั่วไหล…
“ข้าขอเลือก…เสือสายฟ้าขอรับ!” หลินเป่ยเฉินพูด
เขาจำเป็นต้องเอาชนะเฉาพั่วเถียนให้ได้โดยเร็วที่สุด
หลินเป่ยเฉินจึงเลือกสัตว์อสูรที่จะทำให้เขาได้คะแนนสูงสุด
ตัวเลือกของเขาไม่เป็นที่ประหลาดใจสำหรับทุกคน
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ที่เข้ารับการทดสอบแล้ว หรือจะเป็นกลุ่มผู้ที่รอเข้ารับการทดสอบต่อไป บัดนี้ต่างก็จ้องมองมาที่หลินเป่ยเฉินด้วยความตื่นเต้นเป็นตาเดียว
หลิงเฉินเคยพยายามวางยาสลบเสือสายฟ้ามาแล้ว แต่นางก็ล้มเหลว
เท่ากับว่าจนถึงบัดนี้ ยังไม่เคยมีใครวางยาสลบเสือสายฟ้าได้สำเร็จมาก่อน
หลินเป่ยเฉินจะทำได้หรือไม่?
ทุกคนอยากจะรู้คำตอบ
“เอาล่ะ เตรียมตัว…เริ่มได้!” เมื่อสิ้นเสียงประกาศของเหมยซือหยวน ม่านพลังก็ก่อตัวขึ้นรอบกายหลินเป่ยเฉินโดยทันที
วูบ!
เกิดเป็นม่านพลังสีขาวห่อหุ้มทั้งสี่ด้านของเด็กหนุ่มเอาไว้
หลินเป่ยเฉินรีบเปิดกล่องที่ตั้งอยู่บนโต๊ะอย่างไม่รอช้า
ในนั้นบรรจุด้วยสมุนไพร 10 ชนิด ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบในขวดแก้วขนาดเล็ก 10 ขวด
หลินเป่ยเฉินสั่งให้โทรศัพท์ค้นหาข้อมูลสมุนไพรทั้ง 10 ชนิดนี้ พริบตาต่อมา เขาก็ได้ทราบว่าพวกมันมีชื่อเรียกว่าอะไร มีสรรพคุณใช้ทำอะไรได้บ้าง แต่น่าเสียดายที่โทรศัพท์มือถือของหลินเป่ยเฉิน ไม่มีแอปที่จะช่วยคำนวณสูตรการปรุงยาสลบ
เด็กหนุ่มทำได้เพียงเปิดแอปรายละเอียดยาพิษหมื่นชนิด…
แล้วก็มีรายชื่อสมุนไพรแสดงขึ้นมาทันที
ในจำนวนสมุนไพรทั้ง 10 ชนิดที่บรรจุอยู่ในกล่องบนโต๊ะหินนั้น มีชนิดหนึ่งชื่อว่าใบเหยาโซว สามารถนำมาใช้ปรุงยาได้สองชนิด หนึ่งคือสามยิ้มจรดรุ่ง สองคือรักเดียวไม่มอดไหม้ ยาชนิดแรกจะทำให้ผู้ที่ได้รับพิษเห็นภาพหลอนและเหม่อลอย ในขณะที่ยาชนิดที่สอง จัดอยู่ในประเภทยาปลุกกำหนัด สามารถออกฤทธิ์ได้ในจอมยุทธ์ระดับสูง แต่หลินเป่ยเฉินไม่รู้เลยว่ามันจะสามารถใช้กับเสือสายฟ้าได้หรือไม่?
“ว่าแต่ว่า ยาปลุกกำหนัดจะนับเป็นยาสมุนไพรหรือเปล่าวะ?” หลินเป่ยเฉินขบคิดอยู่ในใจ หลากหลายความคิดกำลังทำให้สมองของเขาปั่นป่วน
นอกจากยาทั้งสองชนิดนี้แล้ว เขาก็ไม่มีตัวเลือกอื่นใดอีก
ไอ้จะลองผสมเองมั่วๆ ก็คงไม่ได้
หลินเป่ยเฉินไม่อยากเชื่อเลยว่าตนเองจะโชคร้ายถึงเพียงนี้
เด็กหนุ่มกดเข้าไปในแอปรายละเอียดยาพิษหมื่นชนิดอีกครั้ง แล้วเขาก็ดูวิธีการปรุงยารักเดียวไม่มอดไหม้ มันคือยาพิษปลุกกำหนัด ถ้าได้รับพิษในปริมาณมากเกินไป คนผู้นั้นก็จะสูญเสียการควบคุมสติสัมปชัญญะ และสุดท้ายอาจจะต้องหมดสติ หรือถึงแก่ความตายไปพร้อมกับฤทธิ์ดำฤษณา…
ควบคุมตนเองไม่ได้?
เสียสติ?
หมดสติ?
หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต?
นี่มันก็คุณสมบัติเดียวกับยาสลบไม่ใช่หรือไง?
เอาวะ
เป็นไงเป็นกัน
หลินเป่ยเฉินกัดฟันกรอดและหยิบขวดแก้วใส่ใบเหยาโซวขึ้นมาเริ่มการปรุงยา
การปรุงยารักเดียวไม่มอดไหม้เป็นอะไรที่ไม่ซับซ้อน
ก่อนอื่น เขาต้องบดใบพืชให้ละเอียด นำมันมาผสมกันในสัดส่วนที่ลงตัว หลังจากนั้นก็เขย่าให้เข้าที่ ก็เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนความ
ไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากนี้
หลินเป่ยเฉินจึงสามารถปรุงยาได้รวดเร็วยิ่ง
ไม่ว่าจะเป็นในขั้นตอนคิดสูตรหรือการผสมสมุนไพร หลินเป่ยเฉินใช้เวลาไปทั้งหมดเพียง 14 ลมหายใจเท่านั้น
เมื่อเขานำผงยารักเดียวไม่มอดไหม้ใส่ลงไปในท่อเหล็ก ม่านพลังสีขาวที่ห่อหุ้มอยู่รอบตัวก็สลายหายไป ทำให้ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นและคณะอาจารย์สามารถมองเห็นเขาได้อีกครั้ง
หลินเป่ยเฉินใช้เวลาแค่ 14 ลมหายใจเท่านั้น!
หลายคนถึงกับไม่อยากเชื่อ
เขาทำได้รวดเร็วมาก
แต่ก็ยังนับว่าใช้เวลามากกว่าเยว่เว่ยหยาง หลิงเฉินและยอดอัจฉริยะคนอื่นๆ อยู่เล็กน้อย
ไม่กี่อึดใจต่อมา หลินเป่ยเฉินโคจรพลังลมปราณใส่เข้าไปในท่อเหล็ก ผงสมุนไพรเปลี่ยนสภาพกลายเป็นหมอกควันสีชมพูลอยออกไปจากปลายท่อ และหมอกควันสีชมพูนั้นก็ค่อยๆ ลอยละล่องเข้าสู่กรงขังของเสือสายฟ้า
ผ่านไปเพียงลมหายใจเดียว ด้านในกรงขังตรงส่วนที่เสือสายฟ้าถูกกักบริเวณ ก็เต็มไปด้วยหมอกควันสีชมพู
ช่างรวดเร็วนัก!
นี่คือคำอุทานที่หลุดออกมาจากปากของทุกคน
นี่แสดงให้กลุ่มผู้เข้าแข่งขันเห็นว่าหลินเป่ยเฉินมีระดับพลังลมปราณสูงล้ำกว่าพวกเขาหลายเท่า
ต่อจากนี้ ก็เป็นเวลาที่ยาสลบจะออกฤทธิ์
แต่ปัญหาก็คือ ต่อให้มีพลังลมปราณแข็งแกร่งสักแค่ไหน แต่ถ้ายาสลบที่ปรุงออกมาใช้ไม่ได้ ก็จะถือว่าหลินเป่ยเฉินไม่ผ่านการทดสอบอยู่ดี
ดั่งเช่นหลิงเฉินก่อนหน้านี้นั่นเอง
ภายใต้การจ้องมองของผู้คนจำนวนมาก หลินเป่ยเฉินเห็นกับตาว่าเสือสายฟ้าสูดควันสีชมพูเข้าไปเต็มปอด ดวงตาของมันพลันหรี่ลง ใบหน้าแสดงออกถึงความเคลิบเคลิ้ม ขนแทบทุกเส้นบนร่างกายของมันลุกชัน…
แล้วมันก็ส่งเสียงคำรามแหบต่ำ
จากนั้นก็เป็นการร้องคำรามอย่างบ้าคลั่ง
ต่อด้วยการคำรามที่น่าขนลุก เพราะเสียงของมันแปลกประหลาดมาก
เสือสายฟ้าพยายามตะกุยลูกกรงสลับกับการกระโดดไปมา ทำให้ศีรษะของมันพุ่งชนกับเพดานกรงขังอยู่หลายครั้ง กรงขังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง กลุ่มผู้เข้าแข่งขันล้วนหวาดกลัว ต่างก็ผงะถอยหลังออกมาโดยไม่รู้ตัว แม้แต่หลินเป่ยเฉินก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
ดูเหมือนว่า…
ยาของเขาจะออกฤทธิ์เร็วมากกว่าที่คิด
แต่มันยังไม่ยอมสลบนี่สิ
เจ้าเสือสายฟ้ากำลังคึกเต็มที่
หลินเป่ยเฉินไม่สนใจแล้วว่าอีกฝ่ายจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร เขาใช้วิชาการโคจรพลังลมปราณมัจฉากลายร่างเป็นมังกร เป่าควันสีชมพูเข้าไปในกรงขังของเสือสายฟ้ามากยิ่งขึ้น
เด็กหนุ่มสามารถควบคุมพลังลมปราณได้อย่างชำนาญ ถึงระดับที่ว่า เขาสามารถเป่าควันสีชมพูนั้นให้ลอยเข้าไปในจมูกของเสือสายฟ้าได้เลยโดยตรง
แล้วสัตว์ร้ายที่ได้รับฉายาว่าเจ้าป่าแห่งหุบเขาชายแดนเหนือ ก็ไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือของหลินเป่ยเฉินได้อีกต่อไป
หลังสูดดมควันพิษรักเดียวไม่มอดไหม้เข้าไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านไปอีกเพียง 5 ลมหายใจเท่านั้น เจ้าเสือสายฟ้าก็ตกอยู่ในอาการติดสัดขึ้นมาทันที
มันวิ่งชนกรงขังอย่างบ้าคลั่ง
ดวงตาแดงก่ำกวาดมองรอบตัว สุดท้าย สายตาของมันก็มาหยุดยั้งอยู่ที่หมาป่าน้ำแข็ง ซึ่งถูกกักตัวอยู่ในอาณาเขตข้างเคียง
หมาป่าน้ำแข็งชะงักกึก เหมือนรู้ตัวว่าคราวซวยได้มาถึงแล้ว
เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!
วูบ!
ม่านพลังที่แบ่งแยกอาณาเขตของพวกมันออกจากกัน ถูกกรงเล็บของเสือสายฟ้าทุบทำลายสลายลงไปบางส่วน
หลังจากนั้น เจ้าเสือร้ายก็ตะเกียกตะกายผ่านช่องว่างของม่านพลังเข้าไปสู่อาณาเขตของหมาป่าน้ำแข็ง เมื่อสัตว์อสูรทั้งสองชนิดเผชิญหน้ากัน มีหรือที่หมาป่าน้ำแข็งจะสามารถต้านทานเสือสายฟ้าได้ สุดท้ายมันก็วิ่งหนีไปอยู่ที่มุมกรงขัง และโดนเจ้าเสือใหญ่กระโดดขึ้นขี่บั้นท้ายก่อนจะเริ่มต้นการสืบพันธุ์ท่ามกลางสายตาของคนจำนวนมาก…
บัดนี้ ผู้คนที่อยู่ในหอประชุมรู้สึกไม่ต่างจากถูกสายฟ้าฟาด
นี่มันอะไรกันเนี่ย?
หลินเป่ยเฉินทำอะไรกับเสือสายฟ้า?
แม้แต่เหมยซือหยวนก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ก่อนหน้านี้ที่เสือสายฟ้าบ้าคลั่ง ชายชราคิดว่าหลินเป่ยเฉินคงไม่น่าจะทำอะไรได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ที่ไหนได้ สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในการแข่งขันค้นหาผู้มีพรสวรรค์ประจำเมืองมาก่อน กลับได้เกิดขึ้นมาแล้ว
ในเวลาเดียวกันนี้ บรรดาผู้คนที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ทั่วเมือง ต่างก็ตกอยู่ภายใต้ความตกตะลึงไม่น้อยไปกว่าพวกเขา
นี่เราทำอะไรลงไปวะเนี่ย?
หลินเป่ยเฉินก็ไม่เข้าใจตนเองเหมือนกัน
ไม่เห็นเหมือนที่คิดเอาไว้เลย
จากนี้ไปจะเอาไงต่อดี?
จะรมควันต่อไปดีไหม?
เด็กหนุ่มเริ่มลังเล
เพราะปรากฏว่าควันพิษของเขานั้นออกฤทธิ์รุนแรงมากเกินไป
แต่ในจังหวะที่ทุกคนไม่รู้จะทำอย่างไรดีนั้นเอง…
“โฮก!”
เสียงคำรามปานจะขาดใจดังออกมาจากด้านหลังม่านควันสีชมพู ทุกคนมองเห็นว่าเสือสายฟ้ากระทุ้งบั้นท้ายของเจ้าหมาป่าน้ำแข็งไปอีกหลายดอก ก่อนที่ตัวมันเองจะน้ำลายฟูมปาก และหมดสติล้มโครมลงไปในที่สุด!
หืม?
ดวงตาของหลินเป่ยเฉินเป็นประกายแวววาว
สลบแล้ว?
แบบนี้ก็หมายความว่าเขาวางยาสลบมันสำเร็จ…แล้วใช่ไหม?
หลินเป่ยเฉินพลันระบายลมหายใจยาวแรงด้วยความโล่งอก