บทที่ 246 ภาพติดตา

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

บทที่ 246 ภาพติดตา

เสือสายฟ้านอนหมดสติน้ำลายฟูมปาก

หมาป่าน้ำแข็งที่ถูกร่างกายอันใหญ่โตของมันกดทับอยู่ด้านล่าง ได้แต่ส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา ไม่กล้าขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวร่างกาย

“อย่างนี้ก็ถือว่าสลบแล้วไม่ใช่หรือขอรับ” หลินเป่ยเฉินพูดออกมาเสียงดัง

เหมยซือหยวนจึงได้สติขึ้นมาอีกครั้ง

เจ้าหน้าที่ที่ยืนอยู่ด้านข้างชายชรา รีบตรวจดูเวลาทันที

แต่สีหน้าของเหมยซือหยวนแสดงออกถึงความอับอายที่สุด

เขารู้แล้วว่าภาพที่เกิดขึ้นในกรงขังเมื่อสักครู่นี้ ได้รับการถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งเมืองแล้ว

นี่ไม่ใช่ยาสลบ แต่มันคือยาปลุกกำหนัด!

ถึงขณะนี้ เหมยซือหยวนจึงเพิ่งจะคิดออกว่าเสือสายฟ้าสลบไปได้อย่างไร

เพราะมันได้รับยาปลุกกำหนัดมากเกินไป

นี่คือวิธีการของหลินเป่ยเฉิน

บอกตามตรง เหมยซือหยวนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสมุนไพรทั้ง 10 ชนิดที่อยู่ในกล่องใบนั้น สามารถนำมาปรุงยาปลุกกำหนัดได้

แล้วเขาจะให้คะแนนอย่างไรดี?

เหมยซือหยวนเริ่มคิดไม่ตกอีกครั้ง

ทันใดนั้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้เข้าแข่งขันหรือคณะอาจารย์ ต่างก็หลุดออกจากห้วงแห่งความตกตะลึงหมดสิ้น

เมื่อสักครู่นี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

ฉู่เหินนั่งยิ้มกริ่มอยู่ที่โต๊ะของคณะอาจารย์

พานเว่ยหมินพนมมือสวดภาวนาให้กับภาพที่เพิ่งเห็นและติดตาเขาไม่ยอมหาย

หลิวฉีไห่ยกมือปาดเหงื่อออกจากหน้าผาก

เฒ่าทะเลยกมือเท้าคาง มุมปากปรากฏรอยยิ้ม แววตาปราศจากความรู้สึก

เยว่หงเซียงได้แต่ยกมือขึ้นมาปิดบังใบหน้าครึ่งซีกที่อยู่นอกเหนือหน้ากากของตนเอง

มีแต่เพียงไป๋ชินหยุนคนเดียวเท่านั้นที่ร้องตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่า “ศิษย์พี่หลินเก่งกาจเหลือเกิน เขาสามารถทำให้เสือสายฟ้าสลบได้สำเร็จ เฮ้อ นับว่ายาของเขารุนแรงเกินไปจริงๆ แม้แต่เจ้าป่าอย่างเสือสายฟ้าก็ยังทนทานไม่ไหว นี่! ศิษย์พี่หลิน เดี๋ยวแข่งขันเสร็จแล้ว ท่านช่วยมอบยาชนิดนี้ให้ข้าได้บ้างหรือไม่? ข้าจะเอาไว้ใช้ป้องกันตัวเอง…”

พรึบ!

สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนหันมาจ้องมองเด็กสาวเป็นตาเดียว

พลัน ไป๋ชินหยุนรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ นางเข้าใจว่าตนเองคงพูดอะไรที่ไม่สมควรพูดออกไป ไป๋ชินหยุนจึงหันหน้ามาขอคำปรึกษาจากเยว่หงเซียง “พี่หงเซียง ข้าพูดอะไรผิดไปหรือ…”

เยว่หงเซียงได้แต่ก้มหน้าไม่ตอบคำใด

นางยกมือจับไป๋ชินหยุนนั่งก้มหน้า ไม่ให้พูดอะไรออกมาอีก

ณ บริเวณที่นั่งของผู้ที่เข้ารับการทดสอบแล้ว

มี่หรู่หยาน คังซานเสว่ โจวเค่อและเด็กสาวอีกหลายคน พวกนางไม่รู้เหมือนกันว่าจะอธิบายความรู้สึกของตนเองอย่างไร

กลุ่มเด็กสาวกำลังจ้องมองหลินเป่ยเฉินด้วยสายตาแห่งความหวาดกลัว สมแล้วที่เขาได้รับฉายาให้เป็นจอมเสเพลอันดับหนึ่งประจำเมืองหยุนเมิ่ง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะรู้วิธีปรุงยาผีสางนั่นขึ้นมา…

เยว่เว่ยหยางได้แต่ยกมือลูบเส้นผมของตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า ดวงตาแสดงออกถึงความมึนงงสับสน

ทางด้านหลิงเฉิน นางกำลังนั่งเท้าคางด้วยสีหน้าเยือกเย็น แววตาบอกชัดว่ากำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

หลินเป่ยเฉินยังคงรอคอยการประกาศผลคะแนนของตนเอง

บรรยากาศของหอประชุมขณะนี้แปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง

เหมยซือหยวนมีสีหน้าลำบากใจเหมือนเขากำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง

“หืม?”

ทันใดนั้น ชายชราก็อุทานออกมาเหมือนได้ค้นพบโลกใบใหม่

“ดูนั่นสิขอรับอาจารย์เหมย แม้แต่หมาป่าน้ำแข็งก็สลบไปแล้วเหมือนกัน…วะฮ่าฮ่าฮ่า แบบนี้ท่านต้องให้คะแนนข้าเพิ่มเป็น 2 เท่านะขอรับ อิอิอิอิ”

หลินเป่ยเฉินระเบิดเสียงหัวเราะพร้อมกับปรบไม้ปรบมือด้วยความชอบใจ

เมื่อทุกคนหันไปมองที่กรงขังอีกครั้ง พวกเขาก็ได้เห็นว่าหมาป่าน้ำแข็งที่ส่งเสียงครวญครางอยู่เมื่อสักครู่นี้ บัดนี้ ได้หมดสติลงไปแล้วเช่นกัน

และทุกคนก็เกิดคำถามเดียวขึ้นมาในจิตใจโดยไม่ได้นัดหมายว่า

หมาป่าน้ำแข็งตัวนี้มันเป็นตัวผู้หรือว่าตัวเมีย?

ในที่สุด เหมยซือหยวนก็ใช้เวลาตัดสินใจในการให้คะแนนอยู่ถึง 20 ลมหายใจ

เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นว่า “หลินเป่ยเฉิน สามารถทำให้เสือสายฟ้าสลบได้สำเร็จ ใช้เวลาไป 16 ลมหายใจ มีความชำนาญในการใช้สมุนไพรและควบคุมพลังลมปราณอยู่ในระดับสูงทั้งคู่”

นี่คือผลคะแนนของหลินเป่ยเฉิน

ยาปลุกกำหนัดก็นับว่าเป็นยาสมุนไพรเหมือนกันหรือ?

และมันก็สามารถทำให้เสือสายฟ้าสลบได้สำเร็จ

เพราะฉะนั้นจึงถือว่าหลินเป่ยเฉินปฏิบัติตามกฎทุกประการ…

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน เด็กหนุ่มก็ไม่ได้ทำผิดกฎเลยสักข้อเดียว

ต่อให้ลึกๆ ในใจแล้ว เหมยซือหยวนรู้สึกอยากจะยกเลิกบททดสอบของหลินเป่ยเฉิน แต่เขาก็ไม่มีความกล้าหาญมากพอที่จะพูดออกไป

ดูตัวอย่างจากอู๋เฟิ่งกูนั่นปะไร ทำตามใจตัวเองมากเกินไป สุดท้ายถึงกับโดนไล่ออกจากกระทรวงศึกษา

สำหรับการแข่งขันค้นหาผู้มีพรสวรรค์ประจำเมือง กรรมการที่มอบคำตัดสินค้านสายตาคนดู จะต้องพบกับผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างน่าอนาถ

เหมยซือหยวนยังไม่อยากถูกไล่ออกเพราะตัดสินตามใจตนเองมากเกินไป

“ได้ไงกันขอรับ ข้าทำให้หมาป่าน้ำแข็งสลบได้เหมือนกันนะ ท่านต้องเพิ่มคะแนนให้ข้าหน่อยสิ…” หลินเป่ยเฉินโวยวายด้วยความไม่พอใจ “ข้าต้องการคะแนนเพิ่ม!”

เหมยซือหยวนดวงตาเป็นประกายวาววับและออกคำสั่งว่า “ลากตัวเขาออกไป!”

เจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาที่ยืนคุมเชิงอยู่ด้านข้าง พร้อมใจกันปรี่เข้ามาหิ้วปีกเด็กหนุ่มออกไปจากหน้ากรงขังสัตว์อสูร

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุการณ์นี้ ได้กลายเป็นภาพจำของการแข่งขันค้นหาผู้มีพรสวรรค์ประจำเมืองไปเรียบร้อยแล้ว

ยิ่งคิดถึงความน่าอับอายที่เกิดขึ้นภายใต้การถ่ายทอดสดไปทั่วเมือง เจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาก็อยากจะจับหลินเป่ยเฉินโยนเข้าไปให้เสือสายฟ้าขย้ำกินนัก

ในเวลาเดียวกันนี้ เสือสายฟ้าตัวเก่าถูกเคลื่อนย้ายออกไปและมีเสือสายฟ้าตัวใหม่เคลื่อนย้ายเข้ามาแทนที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่ลากเสือสายฟ้าผู้สลบไสลออกมาจากกรงนั้น พวกเขาก็อดรู้สึกสงสารเจ้าป่าแห่งหุบเขาชายแดนเหนือไม่ได้

การติดสัดของมันถูกเฝ้ามองด้วยสายตาของผู้คนนับหมื่น หากมันตื่นขึ้นมารับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตนเองบ้าง เจ้าเสือสายฟ้าตัวนี้คงอับอายจนแทบอยากจะฆ่าตัวตายแล้ว

แต่มันก็ยังไม่น่าสงสารเท่าหมาป่าน้ำแข็ง

เพราะว่ามัน…

ได้สูญเสียสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตไปแล้ว

เจ้าหน้าที่จากกระทรวงศึกษาแอบสังเกตดูตรงบริเวณหว่างขาของมัน

“เฮ้อ…โชคดีหน่อย อย่างน้อยหมาป่าตัวนี้ก็เป็นตัวเมีย ไม่รู้ถ้าเกิดมันท้องและคลอดออกมา ลูกจะเป็นหมาป่าหรือว่าเป็นเสือกันแน่”

คำถามนั้นปรากฏขึ้นในจิตใจของเจ้าหน้าที่หนุ่ม

ณ พื้นที่นั่งรอสำหรับผู้เข้ารับการทดสอบเรียบร้อยแล้ว

รอบตัวหลินเป่ยเฉินมีแต่ความเงียบ

บรรดาเด็กสาวที่อยู่ใกล้เคียงต่างทำกับเขาเหมือนเป็นตัวเชื้อโรค พวกนางขยับหนีออกไปนั่งอยู่ห่างไกล และจ้องมองมาที่เด็กหนุ่มด้วยสายตาแห่งความหวาดกลัวระคนขยะแขยง

มีเพียงหลิงเฉินคนเดียวเท่านั้นที่ไม่สนใจสายตาคนรอบข้างและกล่าวว่า “เจ้าทำได้ดีเหมือนกันนะ”

หลินเป่ยเฉินรู้สึกผิดเล็กน้อยกับเสือสายฟ้าตัวนั้น พูดว่า “ชีวิตคนเราก็แบบนี้แหละนะ…”

พูดจบ เขาก็ยกมือปิดหน้าตัวเอง

ทำไมเขาถึงต้องเลือกใช้ยาปลุกกำหนัดด้วย?

จบการแข่งขันครั้งนี้ไป เกรงว่าตำแหน่งคนเสเพลจอมลามกอันดับหนึ่งของเมืองหยุนเมิ่ง คงไม่มีใครสามารถแย่งไปจากเขาได้อีกแล้ว

หลิงเฉินกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “จำนวนยารักเดียวไม่มอดไหม้ที่เจ้าใช้ สามารถทำให้เสือสายฟ้าติดสัดได้ถึง 50 ตัว แต่เจ้าใช้กับเสือสายฟ้าตัวนี้เพียงตัวเดียว ต่อให้เป็นเสือเทพเจ้า มันก็ไม่มีทางต้านอานุภาพยาของเจ้าได้ วิธีการอันฉลาดแยบยลเช่นนี้ แม้แต่ข้าเองก็คิดไม่ถึง”

นั่นไงล่ะ

ไม่แปลกใจอีกแล้วว่าทำไมเสือสายฟ้าตัวนั้นถึงได้นอนน้ำลายฟูมปาก

หลินเป่ยเฉินพยักหน้าหงึกหงัก

แต่แล้วเขาก็นึกขึ้นได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“เจ้า เจ้า…” เขาหันขวับกลับมามองหน้าหลิงเฉิน และพูดด้วยความไม่อยากเชื่อ “เจ้ารู้จักยารักเดียวไม่มอดไหม้ได้อย่างไร หรือว่าเจ้า…”

หลิงเฉินมองหน้าหลินเป่ยเฉินด้วยแววตาเย็นชา “ยาปลุกกำหนัดก็นับเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งเหมือนกัน ข้ารู้จักแล้วมันผิดปกติด้วยหรือ? ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ใช้มันได้ทั้งนั้น ไม่เห็นเป็นเรื่องที่น่าอายสักหน่อย”

หลินเป่ยเฉินกลับมามีความรู้สึกมั่นใจในตัวเองอีกครั้ง

หลิงเฉินพูดถูกต้องทุกประการ

ยาปลุกกำหนัดก็นับเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง เขาสามารถปรุงมันออกมาได้มีประสิทธิภาพขนาดนี้ ทุกคนน่าจะชื่นชมเขาด้วยซ้ำไป

ในขณะนี้ การแข่งขันยังดำเนินต่อ

และช่างบังเอิญเหลือเกิน

ที่ผู้เข้ารับการทดสอบคนต่อมาคือเฉาพั่วเถียน