บทที่ 16 เข้าใจเธอผิด

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

คำพูดของคุณท่านทำเอาใบหน้าของเทาเท่มีความประหลาดใจผาดผ่าน ที่แท้เป็นเพราะคุณท่านจงใจอยากให้พวกเขาได้เจอกัน เขาคิดว่าหลินจือจงใจเข้าทางคุณท่านเพื่อจะเข้าหาเขาซะอีก

สายตาของเทาเท่ ก็จ้องมองไปยังกล่องของขวัญที่หลินจือวางทิ้งไว้ เขาคิดว่าเธอจะซื้อของขวัญที่เฉิ่มเชยนี้ให้กับโจมอน ก็จึงหัวเราะเยาะเธอไป จริงๆแล้วสีนี้ก็เหมาะกับคุณท่านมาก…….

เข้าใจหลินจือผิดมาสองครั้งติดต่อกัน ตอนนี้เทาเท่เองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกยังไง สักพักเขาเม้มปากหันหลังแล้วเดินออกไป

หลินจือยืนอยู่หน้าบ้านพักก้มหน้าและกดโทรศัพท์เพื่อเรียกรถ สถานที่ที่คุณท่านอาศัยอยู่นั้นเป็นย่านวิลล่าท่ามกลางหุบเขา ไม่สะดวกกับการเรียกรถ

เทาเท่เดินมาข้างๆเธอแล้วพูดขึ้นว่า“ที่นี่ไม่สะดวกกับการเรียกรถ ผมไปส่งคุณ”

ระหว่างทั้งสองคนวกไปเวียนมาก็ผ่านไปสี่ปีแล้ว นี่ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกที่เทาเท่ เป็นฝ่ายทำดีกับหลินจือก่อน

เมื่อก่อนระหว่างเขาทั้งสองคนเวลาที่ขัดแย้งหรือมีปากเสียงกัน คนที่เป็นฝ่ายยอมหรือเอ่ยปากพูดกับอีกฝ่ายก่อนก็มักจะเป็นหลินจืออยู่เสมอ

หากหลินจือไม่เป็นฝ่ายทำลายความเงียบระหว่างพวกเขา เทาเท่ก็สามารถทำสงครามเย็นกับเธอแบบนั้นไปได้ตลอด

หลินจือไม่สามารถทนอยู่กับบรรยากาศที่เหมือนจะหายใจไม่ออกได้ ดังนั้นก็จึงเป็นฝ่ายประนีประนอมอยู่ทุกครั้ง

หลินจือไม่คิดว่าเทาเท่จะเป็นฝ่ายเข้ามาทำดีกับเธอแล้วยังพูดว่าจะส่งเธอกลับอีกด้วย ในใจรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ปฏิเสธเขาไป“ไม่เป็นไร ขอบคุณ”

หลังจากที่เธอพูดไปแบบนี้ก็กะจะหันหลังแล้วเดินให้ห่างออกไปอีกสักสองสามก้าว เว้นระยะกับเทาเท่ เพื่อไม่ให้เขาต้องเอาไปคิดว่าเธอมีแผนอะไรกับเขาหรือเปล่า

“หลินจือ” เทาเท่กังวลขึ้นมาเล็กน้อย ยกมือขึ้นและคว้าเธอไว้

หลินจือขมวดคิ้วและหันไปมองเขา เทาเท่จ้องมองเธอแล้วพูดขึ้นอีกครั้งว่า“เรื่องเมื่อกี้ต้องขอโทษด้วย……”

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่แผนกเสื้อผ้าผู้ชายที่เขาหัวเราะเยาะเธอ หรือเมื่อครู่ที่เข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นฝ่ายมาเอง เป็นเขาที่คิดมากไปเอง

หลินจือไม่คิดว่าเทาเท่จะพูดขอโทษกับเธอ นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงตกตะลึงอย่างคาดคิดไม่ถึงไปแล้ว แต่ตอนนี้เธอไม่ได้ต้องการมันแล้ว

ดังนั้นเธอจึงมองสบตาเขาอย่างเรียบเฉยและพูดว่า “ฉันยอมรับคำขอโทษของคุณ”

จากนั้นเธอก็มองไปที่มือของเขาที่จับแขนเธออยู่แล้วพูดว่า“ตอนนี้คุณปล่อยฉันได้หรือยัง ?”

เทาเท่มีความรู้สึกอับอายผาดผ่าน จากนั้นก็ปล่อยมือจากเธอ

หลินจือถอยหลังไปอีกก้าวก้มหน้าลงแล้วไถโทรศัพท์มือถืออีกครั้ง เทาเท่หยิบกุญแจรถของตัวเองแล้วกดปลดล็อกจากระยะไกล มองไปยังใบหน้าด้านข้างที่อ่อนโยนของเธอแล้วพูดว่า“ ขึ้นรถเถอะ ใช่ว่าคุณไม่รู้ แถวนี้ไม่ค่อยมีรถวิ่งผ่านไปมา ”

ที่นี่เป็นย่านวิลล่าหรู คนที่พักอาศัยเป็นคนร่ำรวยและสูงศักดิ์ รถเข้าๆออกๆไปมาอยู่ตลอด ให้เธอรออยู่ตรงนี้ทั้งวันไม่แน่ว่าจะมีรถผ่านมา

หลินจือเก็บโทรศัพท์มือถือของตัวเอง มองไปที่เขาและพูดอย่างหนักแน่นว่า“ไม่จำเป็นค่ะ ต่อให้ต้องเดิน ฉันก็จะเดินไปจนกว่าจะเรียกรถได้ ”

เทาเท่มองไปยังใบหน้าที่ดื้อรั้นของเธอ อึ้งไปครู่หนึ่ง

เขาไม่เคยรู้มาก่อน ว่านิสัยของเธอยังมีอีกด้านที่หัวแข็งและดื้อรั้นแบบนี้ด้วย

ตอนที่เธออยู่กับเขาเหมือนเธอจะไม่เคยมีนิสัยที่แย่ๆเลยสักครั้ง เขาพูดอะไรเธอก็จะทำตามทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องหย่า เธอไม่เคยต่อต้านเขาเลยสักครั้ง

ขณะที่ทั้งสองยืนเผชิญหน้ากันอยู่นั้น ประตูเหล็กของคฤหาสน์ก็ถูกเปิดออก มีรถคันหนึ่งขับออกมา

คนขับรถของคุณท่านเลื่อนกระจกลงแล้วพูดกับคนทั้งสองคนว่า“คุณท่านให้ผมไปส่งคุณหลินจือครับ คุณเทาเท่ คุณเข้าไปทานอาหารเป็นเพื่อนคุณท่านก่อนเถอะครับ ”

หลินจือไม่พูดพร่ำทำเพลงขึ้นรถของคุณท่านไปทันที ไม่แม้แต่จะบอกลากับเทาเท่สักคำราวกับเขาเป็นความชั่วร้ายยังไงอย่างนั้น

คนขับรถพยักหน้าให้เทาเท่จากนั้นก็ขับรถพาหลินจือออกไปเทาเท่มองดูรถที่แล่นออกไปจากนั้นกรามก็ค่อยๆขบกันแน่น