บทที่ 18 เด็กหนุ่มก็ด

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

โซเมนที่อยู่ปลายสายปากก็หวานขึ้นมาทันที“ดีสิครับดีเลย ลูกสาวบ้านไหนล่ะครับ ? สายตาของคุณปู่ต้องเฉียบขาดอยู่แล้ว คนที่คุณปู่แนะนำให้ผมต้องหาเวลาไปทำความรู้จักแน่นอนครับ ”

เทาเท่ที่อยู่ข้างๆใบหน้าก็เคร่งเครียดมากขึ้นไปอีก ในใจนึกอยากจะจับโซเมนกดให้จมดิน

คุณท่านพูดอย่างไม่มั่นใจ“คือ……เราคิดว่าหลินจือเธอเป็นยังไง?”

“ปัง——”ปลายสายมีเสียงดังขึ้น จากนั้นเสียงร้องโอดโอยของโซเมนก็ดังลอดเข้ามา“ให้ตายเถอะทำไมมันร้อนอย่างนี้ !”

หลังจากที่ความชุลมุนวุ่นวายสงบลง เสียงของโซเมนก็ถึงได้ดังขึ้นอีกครั้ง “คุณปู่ ขอโทษครับ เมื่อกี้ทำแก้วกาแฟหก ”

“เมื่อครู่คุณปู่พูดว่าอะไรนะครับ ? ผมได้ยินไม่ชัด พูดอีกรอบได้ไหม ? ”

คุณท่านไม่มีความอดทนเหมือนเมื่อครู่ พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจว่า“ ฉันบอกว่าฉันอยากจะแนะนำหลินจือให้แกได้รู้จัก”

โซเมนรีบตอบกลับทันที“โอ้คุณปู่ ช่างบังเอิญจริงๆ ผมเพิ่งจะคบหากับผู้หญิงคนหนึ่ง เหยียบเรือสองแคมมันคงไม่เหมาะเท่าไรนะครับ”

คุณท่าน“……”

เมื่อกี้ยังพูดด้วยความดีอกดีใจอยู่เลยว่าคนที่เขาแนะนำให้จะหาเวลาไปทำความรู้จัก ?

“คุณปู่ ผมยังมีงานต่อ ขอวางสายก่อนนะครับ ไว้วันไหนผมจะแวะเข้าไปหานะครับ”ทันทีที่โซเมนพูดจบก็รีบวางสายราวกับหนีตายในทันที

คุณท่านโยนโทรศัพท์ทิ้งไปด้านข้างอย่างไม่สบอารมณ์

อารมณ์ของเทาเท่ก็ดีขึ้นบ้างเล็กน้อย หลังจากที่เขาคีบอาหารเข้าปากอย่างนิ่งสงบแล้วก็จึงพูดปลอบคุณท่าน“ไม่ต้องไปเป็นกังวลมากนักหรอกครับ ไม่แน่เธออาจจะมีแฟนแล้วก็ได้”

คุณท่านประหลาดใจ “ จริงเหรอ?”

เทาเท่พูดราวกับไม่ได้ใส่ใจ“ครับ เด็กหนุ่มอายุยี่สิบ”

ที่เทาเท่บอกเรื่องนี้กับคุณท่าน เพราะคิดว่าคนที่มีแนวคิดอนุรักษนิยมอย่างคุณท่านต้องรับไม่ได้กับความรักของสาวใหญ่กับเด็กน้อยอย่างแน่นอน และจะต้องหาโอกาสห้ามปราบหลินจือไม่ให้เธอไปคบหากับเจ้าเด็กน้อยคนนั้น

ใครจะไปคิดทันทีที่คุณท่านฟังจบก็หัวเราะออกมาเสียงดัง“เด็กหนุ่มเหรอ วัยรุ่นแข็งแรง สดใสร่าเริง เหมาะแล้วกับนิสัยที่อ่อนโยนของหลินจือ”

เทาเท่“……”

คุณท่านถอนหายใจแล้วพูดขึ้นอีกครั้งว่า“ฉันว่าแล้ว หลินจือเป็นเด็กดี ต้องมีผู้ชายมาชอบเธออยู่แล้ว ผู้ชายบางคนคิดว่าเธอเป็นแค่ต้นหญ้า และก็มีผู้ชายอีกหลายคนที่มองเธอเป็นสมบัติล้ำค่า”

ประโยคสุดท้ายของคุณท่านจงใจพูดเสียดสี เทาเท่ทันทีทันใดกับข้าวที่อยู่ตรงหน้าก็ทำเอาเทาเท่ถึงกับกินมันไม่ลง

ฝืนกินอีกไม่กี่คำหลังจากนั้นเทาเท่ก็ขับรถออกจากบ้านของคุณท่าน ระหว่างที่ขับรถไปบริษัทเขาได้รับสายจากซูซี

เสียงในสายของซูซีฟังดูเศร้าสร้อยเล็กน้อย“เทาเท่คุณไม่ได้อยู่ที่บริษัทเหรอ?”

เทาเท่ตอบกลับไปสั้นๆ“อืม”

ซูซีพูดเสียงออดอ้อน“ เมื่อเช้าฉันทำซุปที่บ้าน ตั้งใจจะเอามาเซอร์ไพรส์คุณ แต่คุณกลับไม่อยู่ซะนี่ ”

ตั้งแต่ที่ซูซีไม่รับงานละครเธอก็มีความหลงใหลในเรื่องการทำอาหารและอบขนม บางครั้งก็ทำพวกขนมและอาหารว่างมาให้เทาเท่เป็นชายามบ่าย หรือไม่ก็ทำกับข้าวแล้วชวนเทาเท่ให้ไปกิน

และสิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่หลินจือเคยทำมันอยู่ทุกวัน และซูซียังได้เรียนรู้วิธีการทำกาแฟ เพราะเมื่อก่อนหลินจือจะชงกาแฟให้เทาเท่ในทุกๆเช้า

ความชอบของเทาเท่ถูกหลินจือปลูกฝังมาหลายปี แม้แต่กาแฟในร้านกาแฟเขาก็ยังรู้สึกว่ารสชาติมันสู้ที่หลินจือทำไม่ได้เลย

เมื่อเทาเท่ได้ยินว่าซูซีทำซุปมาให้ ในหัวสมองก็มีภาพช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับหลินจือผุดขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก และนั้นก็ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อยในทันที

เขาอธิบายกับซูซีอย่างไม่สบอารมณ์ว่า“ คุณปู่ตามให้ผมไปทานข้าวด้วย เลยออกไปกะทันหัน”

ซูซีราวกับฟังไม่ออกถึงเสียงที่ไม่พอใจของเขา ยังคงถามต่อว่า“ทำไมจู่ๆคุณปู่ถึงได้เรียกคุณไปทานอาหารเที่ยงด้วยล่ะ ?”

“ผมกำลังขับรถอยู่ แค่นี้ก่อนนะ” เทาเท่พูดตอบออกไปแบบนั้นจากนั้นก็กดวางสาย

เดิมทีเขากะจะเข้าบริษัทในทันที เมื่อคิดได้ว่าตอนนี้ซูซีกำลังรอเขาอยู่ที่บริษัท เขาก็จึงเลี้ยวหัวรถมุ่งตรงไปยังเส้นทางของบริษัทโซเมนในทันที