ตอนที่ 879 รายงานความผิดมีรางวัล!
“วินาทีที่แม่ฟื้นขึ้นมา ฉันก็เชื่อว่าบนโลกใบนี้มีปาฏิหาริย์ ถึงแม้ว่าจะไม่มี แต่ตราบใดที่เรายังมีความหวัง เราก็ไม่ควรยอมแพ้ ไม่มีใครรู้หรอกว่าหากเรายืนหยัดต่อไป ผลมันจะเป็นยังไง?”
เมื่อซั่งซินเห็นเขานิ่งไป เธอเม้มริมฝีปากและพูดต่อ
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะไม่เอาลูกออก ถ้าคุณร่วมมือกับการรักษาอย่างจริงจัง บางทีอาจจะมีโอกาสได้ยินเขาเรียกคุณว่า “พ่อ” ถ้าคุณยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้ นอกจากจะให้ฉันเผชิญหน้ากับโลกที่น่ากลัวเพียงลำพัง ก็ไม่มีอะไรสามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“……”
“ตอนนี้มันเป็นผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด แต่เรายังอยู่ด้วยกัน ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ก็ยังมีความหวัง…พี่เสี่ยวซือ ฉันจะไม่ไปไหนและจะไม่เอาลูกออก ไม่ว่าคุณจะพูดยังไงก็ไม่มีประโยชน์ คุณทำได้เพียงต้องเชื่อฟังฉันเท่านั้น!”
หลังจากซั่งซินพูดจนถึงตอนท้ายก็ไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรลงไป
แค่พูดจ้อไปเรื่อยๆ พยายามเกลี้ยกล่อมถังหยวนซือให้เข้ารับการรักษา
ถึงแม้ว่าผลสุดท้ายจะยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้
แต่อย่างน้อยพวกเขาก็เคยพยายาม
ช่วงเวลาสุดท้ายยังมีเธอและลูกอยู่กับเขา
ครอบครัวพวกเขาสามคนอยู่ด้วยกัน แม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่ก็เพียงพอให้เธอจดจำไปชั่วชีวิต…
“ได้ ฉันตกลง” ถังหยวนซือยื่นมือมากดปากเล็กที่พูดเจื้อยแจ้วและค่อยๆ เปิดริมฝีปาก
สบตาเธอ ท่ามกลางความสับสนแฝงไปด้วยความรักใคร่
ซินเอ๋อร์ของเขาเข้มแข็งกว่าที่เขาคิดไว้เสมอ
เป็นเขาที่ใจแคบเกินไป
คิดอยู่เสมอว่าทำอะไรก็คงไม่มีความหมายหากไม่สามารถอยู่กับเธอไปจนถึงวันสุดท้าย
แต่กลับลืมไปแล้วว่าไม่มีใครรู้ว่าวันพรุ่งนี้หรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดอันไหนจะมาก่อนกัน
ขอแค่ตอนนี้พวกเขาได้อยู่ด้วยกัน ทุกนาทีทุกวินาทีก็ควรค่าแก่การรักและทะนุถนอมแล้ว!
ซั่งซินอึ้งเหมือนกลัวว่าตัวเองได้ยินผิดไป “พี่เสี่ยวซือ เมื่อกี้ว่าอะไรนะ พูดอีกรอบได้ไหม?”
“ฉันบอกว่าได้…”
“เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งพูด ฉันไปหยิบโทรศัพท์แป๊บนึง” ถังหยวนซือกำลังจะอ้าปาก จู่ๆซั่งซินก็ก้มหน้าหยิบโทรศัพท์ตัวเองออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เข้าโหมดบันทึกเสียง
ทั้งยังเอาลำโพงโทรศัพท์มาใกล้ที่ปากเขา
“เอาล่ะ ตอนนี้คุณพูดได้แล้ว”
ถังหยวนซือ “…”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อใจคุณ ฉันแค่กลัวว่าตัวเองเกิดอาการหลอน…” ซั่งซินหลือบมองใบหน้าของเขาที่ตกใจเล็กน้อยและอธิบายอย่างอัดอั้นตันใจ
น้ำเสียงที่น่าสงสารทำให้ถังหยวนซือปวดหัวใจไปชั่วขณะ
พูดโดยไม่คิดอะไรมาก
“ฉันบอกว่าได้ ฉันสัญญากับเธอว่าจะให้ความร่วมมือเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง ตราบใดที่ยังมีความหวัง ฉันจะไม่ยอมแพ้”
ถังหยวนซือพูดจบก็หลุบตามองเธอ
“บันทึกเสร็จหรือยัง? ไหนฉันลองฟังซิ”
“บันทึกเสร็จแล้ว” ซั่งซินจัดเก็บเสียงบันทึกโดยไม่สนใจคำขอของเขา เธอคว้าเสื้อของเขามาเช็ดน้ำตาน้ำมูกบนหน้าตัวเองและกอดโทรศัพท์กระโดดลงเตียง
เธอวิ่งออกไปอย่างมีความสุขท่ามกลางสายตาตกตะลึงของถังหยวนซือ
“ฉันจะไปหาคุณหมอเพื่อปรึกษาเกี่ยวกับแผนการรักษาของคุณ ต่อไปนี้ถ้าคุณหมอให้คุณทำอะไรก็ต้องทำ ถ้าคุณหมอไม่ให้ทำอะไรก็ห้ามทำ ถ้าคุณพูดไม่เป็นคำพูด ฉันจะเอาเสียงที่บันทึกไว้ส่งให้นักข่าว ให้ทั้งโลกรู้ว่าคุณเป็นคนเลวที่ไม่รักษาคำพูด”
ถังหยวนซือ “…”
นี่เธอยังเป็นซินเอ๋อร์ของเขาอยู่ใช่ไหม?
กล้าหาญขนาดนี้เกรงว่าจะเป็นซินเอ๋อร์ตัวปลอม?
ถังหยวนซือกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ซั่งซินกลับไม่ให้เขามีโอกาสได้เสียใจ ถือโทรศัพท์ออกจากห้องผู้ป่วย
ก่อนปิดประตูยังให้ผู้ช่วยจับตาดูเขาไว้
ถ้าถังหยวนซือกล้าลงจากเตียงก็โทรมารายงานความผิด เธอจะมีรางวัลให้!
ตอนที่ 880 รหัสผ่านที่ซ่อนอยู่
ในอพาร์ตเมนต์
เหนียนเสี่ยวมู่ถือกุญแจเปิดประตูอย่างคล่องแคล่ว
ยังไม่มีข่าวของถานเปิงเปิง ตอนนี้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งนี้กลายเป็นบ้านหลังที่สองของเหนียนเสี่ยวมู่ไปเสียแล้ว
แม้อวี๋เยว่หานจะบอกตลอดว่าให้เธอย้ายกลับไปคฤหาสน์ตระกูลอวี๋ แต่เธอคิดอยู่เสมอว่าขอเพียงเธอพักอยู่ที่นี่ ถานเปิงเปิงจะกลับมาหาเธอสักวันหนึ่ง
ตอนแรกเธอยังคิดว่าตัวเองคิดถึงถานเปิงเปิงมากเกินไป
เธอถึงได้เริ่มคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย
แต่หลังจากกลับมาจากบ้านประจำตระกูลถาน ความรู้สึกนี้ยิ่งเด่นชัดขึ้น
แม้พวกเขาจะแค่เข้าไปในบ้านประจำตระกูลถาน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร พอได้เข้าไปในสถานที่แห่งนั้นกลับมีความรู้สึกคุ้นเคยอยู่ภายในใจ ทำให้เธอยากที่จะลืมไปอีกนาน
เป็นความรู้สึกที่รุนแรง
เธอต้องเคยไปบ้านประจำตระกูลถานมาก่อนแน่ๆ!
แต่ไม่ว่าเธอจะรำลึกความทรงจำอย่างไร ในหัวก็นึกไม่ออกว่าเธอเคยไปบ้านประจำตระกูลถานตั้งแต่เมื่อไหร่ และไปกับใคร…
เป็นเพียงภาพที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอันบางส่วนปรากฏเลือนลางอยู่ตรงหน้า
เป็นคำพูดที่ถานเปิงเปิงเคยพูดเอาไว้…
“ถึงเธอจะเป็นคนที่ฉันเก็บมา แต่ในเมื่อฉันเก็บเธอกลับมาแล้ว ก็จะดูแลเธอเป็นอย่างดี เธอไม่ต้องกังวล”
“เสี่ยวมู่มู่ เธอเชื่อเรื่องวัฏจักรสวรรค์ แก้แค้นอยู่ไม่เป็นสุขไหม?”
“ถ้าวันหนึ่งเธอตัดสินใจแล้วว่าต้องการใช้ชีวิตแบบไหน ให้จำคำที่ฉันพูดไว้”
“เรื่องราวในอดีตล้วนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญที่สุดคือคว้าความสุขที่อยู่ตรงหน้า…”
ถานเปิงเปิงยังเคยพูดล้อเล่นกับเธอว่า “ฉันทิ้งสินเจ้าสาวไว้ให้เธอแล้ว….”
ตอนที่เหนียนเสี่ยวมู่ผลักประตูห้องเข้าไป เธอก็ได้ยินเสียงอยู่ข้างหู
บางคำพูดก็นานมากแล้ว แต่เธอยังจำได้
และเธอจำได้ว่าถานเปิงเปิงเคยบอกใบ้เธอโดยทิ้งของบางอย่างไว้
วางไว้ตรงไหนนะ?
เหนียนเสี่ยวมู่ปิดประตู
เปิดไฟทั้งหมดในอพาร์ตเมนต์
จากนั้นก็เริ่มตั้งแต่หน้าประตู แม้แต่มุมมุมเดียวก็ไม่ให้เล็ดลอดสายตา
การสืบค้นแบบปูพรมดำเนินไปเกือบทั้งวันและไม่พบอะไรเลย
อพาร์ตเมนต์ของถานเปิงเปิงเป็นอพาร์ตเมนต์คนโสดจริงๆ
นอกจากตำราทางการแพทย์และเครื่องไม้เครื่องมือแล้วก็มีของใช้ประจำวัน
แม้ว่าข้าวของจะครบครัน แต่ก็มีไม่มาก ทุกอย่างถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
มองปราดเดียวก็เข้าใจ
ของที่เรียกได้ว่า “น่าสงสัย” มีเพียงสิ่งเดียวนั่นคือกล่องเครื่องประดับ
แต่นั่นยังไม่ถือว่าเป็นของที่มีค่าที่สุด
เป็นต่างหูและสร้อยคอทองคำที่มักจะพบเห็นได้ทั่วไป
หมอที่มีชื่อเสียงอย่างถานเปิงเปิงก็เป็นแค่เด็กสาวธรรมดาทั่วไป ใครบ้างจะไม่มีเครื่องประดับแบบนี้?
เหนียนเสี่ยวมู่ยังหาของไม่เจอ เธอล้มลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า
มือทั้งสองหนุนไว้หลังศีรษะ เงยหน้ามองอพาร์ตเมนต์ที่ถือว่าไม่ได้ใหญ่มาก
ครุ่นคิดในใจว่ายังมีตรงไหนที่ตัวเองตกหล่นไปบ้าง
หลังจากมองไปรอบๆแล้วก็ยังคิดไม่ออก เธอฝืนตัวเองให้เครียดเกินไปจนปวดท้ายทอยอยู่พักหนึ่ง แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
เธอยื่นมือมาตบหน้าตัวเองเบาๆ จากนั้นก็หยิบเอากล้องสลับลายที่วางไว้บนหัวเตียงออกมาเล่นส่งเดช
เดิมทีนึกอยากจะเล่นเกมเล็กๆน้อยๆเพื่อปลดปล่อยสมองให้โล่ง แต่ไม่คิดว่าพอหรี่ตามองเข้าไปในกล้องสลับลายเพียงไม่กี่ที เธอก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง
เนื่องจากร่างกายลุกเร็วเกินไป เธอจึงมีอาการวิงเวียนเล็กน้อย
หลังจากได้สติก็รีบเอากล้องสลับลายมาวางไว้ที่ตาอีกครั้ง…
กล้องสลับลายเป็นของเล่นวิชาที่เกี่ยวกับแสงประเภทหนึ่ง ใช้ปริซึมสามเหลี่ยมในการสร้างลวดลายหลายรูปแบบในกระบอกตามมุมของการหมุน
แต่กล้องสลับลายอันนี้ของถานเปิงเปิงน่าจะแตกต่างกับกล้องสลับลายอันอื่นเล็กน้อย
ลวดลายที่ปรากฏในกล้องสลับลายนี้เป็นลายตัวเลขที่ใช้ในการทดสอบตาบอดสีที่ใช้ตามในโรงพยาบาล!