“ท่านลู!” เรือจิตวิญญาณขนาดใหญ่ที่กำลังบินโฉบอยู่บนท้องฟ้าในนั้นเต็มไปด้วยสมาชิกของกลุ่มพันธมิตร “พันธมิตรวู่เว้ยเป็นกำลังสำคัญพวกท่านคิดว่าสามจุดนั้นเพียงพอสำหรับพวกเขามั้ย?”
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บ้านเรือจิตวิญญาณหมุนวนของเหลวในแก้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ “สามสิบปีที่ผ่านมาพันธมิตรวู่เว้ยก็ไม่ได้ทำอะไรที่มีความหมายสักเท่าไร เพียงสามจุดก็คงเพียงพอ”
เขาเอ่ย “จากความคิดฉันสามจุดก็เป็นสิ่งที่เพียงพอสำหรับพวกเขาที่สมควรจะได้รับ หากไม่ใช่เพราะการเตรียมงานที่ดีเมื่อสามสิบปีก่อนพวกเขาก็คงไม่ได้รับสามจุดนี้หรอก”
ชายชราผู้มีเคราสีขาวยืนข้างๆ เชาปฏิบัติตัวต่อชายหนุ่มด้วยความเคารพอย่างสูง
…
ในเวลาเดียวกันวังหลิวหยุนและกลุ่มโอเซียนก็ได้รับข้อความจากอาณาจักรการเพาะปลูก
ณ ห้องโถงใหญ่ของวังหลิวหยุน
“น้องซู ..เจ้าอายุน้อยที่สุดในหมู่พวกเราและความแข็งแกร่งในการฝึกฝนของเจ้านั้นสูงมาก ..” ซัวเต๋ามองดูซูเทียนจิด้วยแววตาสลด “กติการสมัครของอาณาจักรรเพาะปลูกคือผู้เข้าร่วมต้องมีอายุน้อยกว่า 200 ปี ..เจ้าเป็นผู้สมัครที่ดีและเหมาะสมที่สุด เจ้าจะ ..”
“ไม่! ท่านไปเองเถอะถ้าท่านต้องการ”
“อืม ..” ซัวเต๋าทำหน้าเศร้า “แต่ตอนนี้ข้าอายุ 201 แล้ว ..”
“การเดินทางไปเข้าสู่การประชุมต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือน” ซูเทียนจิเอ่ยแย้ง “ท่านรู้มั้ยว่ามันทำให้ฉันต้องห่างจากคาเฟ่นานแค่ไหน!?”
“นอกจากนี้การเข้าสู่อาณาจักรแห่งการเพาะปลูกยังต้องใช้เวลาถึงสองปี” ซูเทียนจิจ้องหน้าซัวเต๋า “หนึ่งถึงสองปีไม่ใช่หนึ่งถึงสองวัน! พี่อาวุโสจะได้ดูละครจนจบในขณะที่ข้ากำลังฝึกฝนเนี่ยนะ!?”
“ข้ากำลังทำงานหนักเพื่อกลุ่มของเรา ..” ซัวเต๋าก้มหน้า
“ถ้าท่านทำเพื่อเราจริงๆ ท่านควรแนะนำให้สาวกของเราเดินทางมาที่คาเฟ่สิ” ซัวเต๋าที่ไม่กล้าสบตาตอบ “ถ้าพวกเขาไปเราก็จะไม่มีที่นั่งน่ะสิ”
“…” ซูเทียนจิ
ในขณะเดียวกัน ณ กลุ่มโอเชียน
ชายชราที่มีผมสีขาวยืนอยู่ตรงโถง พร้อมสาวกที่ยืนตรงหน้าเขา จากออร่าที่พุ่งออกจากตัวเขาแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในการเพาะปลูกที่อยู่ในระดับสูง!
เยซงเต๋าที่จ้องมองพวกเขาสลับกับชายชราผมขาว “พี่อาวุโสหยุนท่านมีความเห็นอย่างไรกับเหล่าสาวก ท่านคิดว่าพวกเขาสามารถเข้าร่วมการประชุมอาณาจักรเพาะปลูกเพื่อการเพาะปลูกในนามของกลุ่มเราได้หรือไม่?”
“อืม!” หยุนไฮ่มองไปที่สาวกหนุ่มด้วยรอยยิ้ม “ตามเงื่อนไขที่แนบมาได้บอกว่า พวกเขาจะต้องเป็นผู้ฝึกฝนที่มีอายุน้อยกว่า 200 ปี, 100 ปี และ 40 ปีตามลำดับที่ลดลงมา สำหรับผู้สมัครคนแรกของเราคงไม่สามารถแข่งขันกับผู้อาวุโสซูจากวังหลิวหยุนได้ ดังนั้นข้าวางแผนว่าจะเลือกศิษย์ที่อายุต่ำกว่า 40 ปีเพื่อเติมเต็มจุดสุดท้าย ใครต้องการเข้าร่วมบ้าง?”
หยุนหลานส่ายตัว
หยุนเหลียนส่ายหัวเช่นกัน
สาวกคนอื่นๆ ส่ายหัวไปตามๆ กัน
ผู้อาวุโสหยุนไฮ่ยืนนิ่ง “เกิดอะไรขึ้น!?”
“เราไม่สามารถเข้าร่วมอาณาจักรแห่งการเพาะปลูกได้” เยเสี่ยวเย้กล่าว “พรสวรรค์ของเราไม่ดีเท่าอัจฉริยะระดับสูง ดังนั้นเราจึงต้องพึ่งพาการเล่นเกมเพื่อพัฒนาจุดแข็งด้านเพาะปลูก เราคิดว่าคาเฟ่แห่งนี้เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรรับการเพาะปลูก มันดีมากกว่าดินแดนเพาะปลูกเป็นไหนๆ และเราชอบที่นี่มาก!”
“น้องหญิงพูดได้ดี!” หยุนเหลียนแอบชมเธอเบาๆ
“มันดีใช่มั้ยละ” เยเสี่ยวเย้ตอบกลับเบาๆ “ข้าได้ยินคำพูดแบบนี้จากเจ้าของร้านน่ะ เลยเอามาเปลี่ยนคำพูดนิดหน่อย มันตรงประเด็นดีใช่มั้ยละ”
พี่หยุนเหลียนมองเธอด้วยสายตาเพลีย
เยซงจับหัวยัยลูกสาวตัวแสบ “เจ้ามานี่สิ้!”
…
ณ กลุ่มบลูเฟรม
“เฮารัน .. สิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณที่สร้างขึ้นใหม่นี่ เรียกว่าปืนใช่มั้ย?”
“ท่านอาจารย์ข้าไม่ต้องการเข้าร่วมอาณาจักรแห่งการเพาะปลูก”
ณ กลุ่มถ้ำมังกรเงินของผู้อาวุโสยิ่งล่ง
“สาวก ..”
“ไม่พวกเราไม่ต้องการไปที่นั้น”
“…”
…
หลันโมรู้สึกตัวแข็งเมื่อได้รับรายชื่อ ..
[ซูไป่ อายุ 198 ปี จากอาณาจักรแม่น้ำหยวน]
“ท่านอายุ 198 ปี ยังไม่ถึงในระดับสูงสุดใช่มั้ย? ท่านยังต้องรับการแข่งขันกับคนอื่นอีกนะ”
เขาดูถูก
[หลินยูซี อายุ 86 ปี จากอาณาจักรใบไม้ผลิ]
“เวรกรรม!”
[วังชิ อายุ 38 ปี จากอาณาจักรพลังควบแน่น]
หลันโมกระแทกกำปั้นลงบนโต๊ะ “นี่มันเกิดอะไรขึ้น!”
“ศิษย์พี่ใจเย็นก่อน” ชายชราในชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มเดินมาหาเขา “ข้าได้ยินจากเฮารันว่ามีร้านชื่อว่าต้นกำเนิดคาเฟ่อินเตอร์เน็ต ..”
จากนั้นเขากระซิบบางอย่าง ..
“เซียนกระบี่เทพพิชิตมาร? กระบีี่เทพสังหาร? เทคนิคการควบคุมดายบ?” ใบหน้าของหลันโมดูสับสน “พวกเขายอมไม่เข้าร่วมเพีียงเพราะสิ่งนี้หรอ?”
หลันโมลูบเครา “นักบวชทั้งสามที่อาศัยอยู่ในที่ห่างไกลพวกเขาไม่ฝักไฝ่ทางโลก แต่พวกเขาก็มีความสุขกับสถานที่สูงเช่นนี้และได้ชื่อเรียกว่านักบวช ใบซัวเต๋าและคนอื่นๆ ถึงได้ละทิ้งโอกาสที่หายากแบบนีี้!?”
“ใจเย็นก่อน ท่านผู้นำ!” ชายชราใชุดคลุมน้ำเงินเอ่ย “ข้าเคยเห็นสิ่งประดิษฐ์ทางจิตวิญญาณที่เรียกว่าปืน หลี่เฮารันและคนในคณะสร้างมันขึ้นมา มันมีความพิเศษมาก! มีการกล่าวเล่ากันว่าพวกเขาได้เรียนรู้เทคนิคใหม่จากที่นั้น”
“พรุ่งนี้ข้าจะลองไปที่นั่นเพื่อตรวจสอบดู แล้วค่อยทำการตัดสินใจ” ชายชราเสนอแนะ
“ตกลง” หลันโมตอบ “ข้าจะรอ พรุ่งนี้ข้าจะไปกับท่านเพื่อดูว่าที่นั่นมีลูกเล่นอะไร”
…
“อ่า!” ฟางฉีค่อนเซ็งเนื่องจากชายวัยกลางคนที่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวยืนกรานที่จะพูดคุยกับเขาเกี่ยวกับการขนส่งจนรามไปถึงเรื่องสวัสดิการต่างๆ
“ชายผู้นี้คือจักรพรรติจริงหรอ?” ชายวัยกลางคนยืนกรานจะไม่ไปจากร้าน จนกว่าฟางฉีจะปิดร้าน เขาจึงยอมจากไปอย่างไม่เต็มใจนัก
ฟางฉีเหลือบมองแทบงานของเขา พบว่าเป้าหมายการดูละครเรื่องกระบี่เทพสังหารเกือบสำเร็จแล้ว
ละครเรื่องขี่พายุทะลุฟ้ามันค่อยข้างสนุก แต่เทคนิคและทักษะในละครเรื่องนี้ค่อนข้างทรงพลังนอกจากนี้ยังรวมเทคนิคตั้งแต่ต่ำไปสูงเป็นคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมมาก
.. วันรุ่งขึ้น
ชายชราสองคนคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีน้ำเงินเข้มพร้อมอีกคนในชุดคลุมสีไพลิน เดินเข้ามาในร้าน
ชายชราในชุดคลุมสีไพลินสวมหมวกทรงสูงใบหน้าของเขาดูซีดเซียว เขามองรอบๆ ด้วยสายตาที่อ่านไม่ออกสักเท่าไร “ร้านช่างอยู่ในมุมที่ห่างไกล” เขาออกความเห็นด้วยน้ำเสียงไม่ชอบพอนัก
ก่อนที่พวกเขาจะเอ่ยอะไรไปมากกว่านี้ ชายวัยกลางคนพร้อมกลุ่มหนุ่มสาวจำนวนมากเดินเข้ามาในร้านพร้อมคำถาม “โอ้! ละครตอนใหม่เรื่องกระบี่เทพสังหารมาหรือยัง?”