เจ้าสาว ผู้แสนเลอค่า ผู้น่าสงสาร ของ ท่านเทรมอนต์ บทที่ 271 ประชุมครอบครัว
ณ บ้านของครอบครัวนาธาเนียล
คุณนาธาเนียลเรียกครอบครัวประชุมทันทีที่เขากลับไปถึงบ้าน แน่นอน เอริกไม่ได้ถูกเชิญเหมือนเดิม
เป็นธรรมดาที่ทุกคนที่ต้องการผลประโยชน์จากคุณนาธาเนียลจะต้องคอยเลียแค้งเลียขาเขาก่อนที่เขาจะเสีย
ลูกชายคนโตและคนที่สองมาถึงแล้ว สองพี่น้องต่างพาครอบครัวของตนเองมาร่วมด้วย เหลือเพียงแต่ลูกสาวของคุณนาธาเนียลที่ไม่ได้เข้าร่วมเนื่องจากว่าเธอแต่งงานและได้ย้ายออกจากบ้านแล้ว
“คุณพ่อเรียกพวกเรามากระทันหันเช่นนี้มีเรื่องอะไรหรอครับ?” ลูกชายคนที่สองของเขาแอบไม่พอใจเพราะว่าการประชุมไปขัดความสุขของเขา อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้แสดงออกให้เห็นถึงความไม่พอใจนั้น
คุณนาธาเนียลตอบอย่างเคร่งขรึมว่า “ฉันคาดไม่ถึงว่าเอริกจะร่วมงานกับมาร์ค เทรมอนต์ นอกจากนี้พวกเขายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอีก ภรรยาของมาร์คยังเป็นนักออกแบบในบริษัทอีกด้วย ฉันวางแผนผิดในครั้งนี้ ฉันไม่รู้ว่าเขาพยายามจะหลอกล่อเราหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงเราลืมเรื่องร่วมงานกับมาร์คไปได้เลย”
ลูกชายคนที่สองของคุณนาธาเนียลไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด เมื่อเรื่องมันยุ่งยาก เขาจะผลักความรับผิดชอบออกไป “เป็นความผิดของคุณพ่อที่ไม่รู้ตัวเร็วกว่านี้ ผมทะเลาะกับเอริกมามากจนเราตัดขาดความสัมพันธ์กันไปแล้ว คุณพ่อไม่สามารถตำหนิผมเรื่องนี้ได้…”
สีหน้าของคุณนาธาเนียลเปลี่ยนเป็นสีเขียวและขาวด้วยความโกรธ “แกพูดบ้าอะไรฮะ? แกไม่เหมือนเอริกเลยสักนิด! ไอ้โง่!”
ลูกชายคนที่สองของเขากลัวเกินกว่าที่จะพูดอะไร อย่างไรก็ตามลูกชายคนโตของคุณนาธาเนียลครุ่นคิดถึงคำพูดเขาก่อนที่เขาจะพูดว่า “ก่อนหน้านี้คุณพ่อขอให้ผมย้ายลิลลี่ไปที่บริษัทของเอริก เธอได้รายงานการรับหุ้นส่วนใหม่ทุกครั้งแต่ไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับหุ้นส่วนของมาร์ค เป็นไปได้ไหมที่เอริกจะสงสัยเธอและเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไม่ให้เธอรู้? หรือว่าเธอทรยศพวกเรา?”
คุณนาธาเนียลส่ายหัว “ฉันไม่รู้ หาโอกาสคุยกับลิลลี่ เราจะมีคนทรยศในหมู่ของเราไม่ได้ เอริกตกลงที่จะส่งมอบบริษัท แต่เขาได้ตัดสินใจที่จะตัดสัมพันธ์กับครอบครัวของเรา เมื่อเขาจากไปเขาจะนำกำไรทั้งหมดที่เขาทำได้ไปกับเขา ฉันไม่สนใจส่วนที่เหลือ แต่แกพยายามมานานเพื่อดึง มาร์ค เทรมอนต์ เข้ามาโดยไม่เป็นประโยชน์ ฉันคิดว่าตอนนี้คงไม่มีทางแล้ว แต่เราจะปล่อยให้มันเป็นแบบนี้ไม่ได้… แกไปคิดมาว่าเราทำอะไรได้บ้าง”
“คุณพ่อไม่ควรมอบบริษัทให้น้องชายครับ” ลูกชายคนโตของคุณนาธาเนียลแนะนำ “มันจะไม่ส่งผลดีหรือประโยชน์ต่อบริษัทแน่นอน และคุณพ่อเองก็รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร นั่นไม่ใช่ทั้งหมด คุณพ่อควรที่จะให้ข้อตกลงที่ดีกว่านั้นให้กับเอริกเพื่อที่เขาจะได้อยู่กับครอบครัวนาธาเนียล อย่างน้อยเขาก็สามารถช่วยเราคุยกับมาร์คได้”
ลูกชายคนที่สองของคุณนาธาเนียลไม่พอใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ “ว่าไงนะครับพี่ใหญ่? พี่เป็นคนเดียวที่มีความสามารถที่นี่ ทุกคนก็เลยไม่มีประโยชน์เหรอ? พี่รู้ไหมว่าผมคิดอะไร? ผมคิดว่าเอริกฉลาดกว่าพี่ พี่ยังไม่ได้คุยกับมาร์คทั้ง ๆ ที่พยายามมาเป็นเวลานานแล้ว แต่เอริกเป็นถึงเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาเลย!”
“พอ! หยุดทะเลาะกันได้แล้ว!” คุณนาธาเนียลพูดอย่างหงุดหงิด “ในฐานะพี่คนโตนายควรรู้อารมณ์ของเอริก การทะเลาะของเรามาถึงขั้นตอนนี้แล้ว ต่อให้ฉันจะยกบริษัททั้งหมดของครอบครัวให้เขา เขาก็คงไม่ยอมรับมัน! เราต้องคิดหาทางใหม่”
“คุณพ่อ ขอดิฉันให้คำแนะนำได้ไหมคะ” ภรรยาของลูกชายคนที่สองของคุณนาธาเนียลพูดอย่างกระตือรือร้น “เรารู้อารมณ์ของเอริกเป็นอย่างดี ไม่มีทางที่เราจะหาข้อตกลงกันใหม่ได้ ณ ตอนนี้ คุณบอกว่าภรรยาของมาร์คทำงานให้เอริกไม่ใช่เหรอคะ? เนื่องจากเราไม่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้เรามาลองวิธีอื่นกัน แม้ว่ามันเป็นวิธีที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ยังคุ้มสำหรับเราตราบเท่าที่เรามีโอกาสได้ร่วมงานกับมาร์ค!”