[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 425: ฮือฮาทั้งโรงเรียน!

ในเวลานั้นเป็นช่วงที่หมดคาบเรียนพอดี เสียงอึกทึกจึงดังไปทั่วบริเวณ และนักเรียนทั่วทั้งโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นพวกที่ยืนอยู่แถวระเบียง ตามขั้นบันได้ของชั้นต่างๆ หรือแม้แต่ในสนามกีฬาของโรงเรียน ทุกคนต่างก็มองภาพที่อยู่ตรงหน้าด้วยความตกอกตกใจ!

“นั่นหลิงหยุนนี่! แต่.. ทำไมเขาถึงได้เดินไปกับครูประจำชั้นล่ะ?!”

“เห้ย.. อย่าบบอกนะว่าข่าวลือนั่น.. ทั้งคู่มีอะไรกันจริงๆน่ะเหรอ?!”

“ไม่จริงนะ..! หลิงหยุนเพิ่งจะกลับมาเรียน นี่ครูประจำชั้นจะพาเขาขึ้นไปที่หอพักอีกแล้วเหรอ?! นี่แสดงว่า..”

คำพูดซุบซิบต่างๆนานาล้วนลอยไปเข้าหูของกงเสี่ยวลู่แทบทุกคำ ใบหน้าที่หยิ่งจองหองของเธอค่อยๆแดงขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มหายใจถี่ขึ้น เธอไม่รู้จะทำอย่างไรดี จึงตัดสินใจหยุดเดิน..

“ไม่ต้องสนใจ.. เดินไปที่หอพักของครูต่อไป!” เสียงที่หนักแน่นของหลิงหยุนดังเข้ามาในหูของกงเสี่ยวลู่อย่างชัดเจน ..มันคล้ายกับคำสั่งมากกว่า!

เสียงนั้นฟังดูมีเสน่ห์น่าฟังอย่างแปลกประหลาด กงเสี่ยวลู่รู้สึกคล้ายกับสมองของเธอว่างเปล่า และเท้าของเธอก็ก้าวไปข้างหน้าตามคำสั่งของหลิงหยุนอย่างช่วยไม่ได้..

‘ถึงกับกล้าออกคำสั่งกับฉัน.. เขาลืมไปแล้วหรือยังไงว่าใครเป็นครู และใครเป็นนักเรียน..?’ กงเสี่ยวลู่เดินไปข้างหน้าเหมือนหุ่นยนต์ แต่ในใจก็พร่ำบ่นด้วยความไม่พอใจ

ความอวดดีของหลิงหยุนนั้นทำให้กงเสี่ยวลู่รู้สึกแปลกใจมาก และสัญชาติญาณก็ต้องการจะต่อต้าน แต่ในใจลึกๆกลับชื่นชอบความรู้สึกเช่นนี้

หลิงหยุนก้าวเท้าเข้าไปหากงเสี่ยวลู่เร็วขึ้น และเพียงแค่เดี๋ยวเดียว ร่างของหลิงหยุนก็เดินขึ้นมาเคียงข้างกงเสี่ยวลู่ เขายิ้มมุมปากให้เธอก่อนจะเอื้อมมือขวาออกไปโอบไหล่ของกงเสี่ยวลู่ไว้อย่างอ่อนโยน

“ครูกงครับ.. ผมช่วยประคองครูเดินเอง!” หลิงหยุนโอบไหล่ครูกงไว้ และเดินต่อไปข้างหน้า

ร่างบอบบางของกงเสี่ยวลู่สั่นเล็กน้อย! หลิงหยุนช่างกล้านัก.. ที่จู่ๆก็มาโอบไหล่เธอเดินไปพร้อมกับทำสีหน้าไม่รู้ไม่ชี้!

“นี่เธอ.. เธอกล้ามากไปแล้วนะ! ปล่อยครูเดี๋ยวนี้!” กงเสี่ยวลู่หน้าแดงขึ้นทันที และพยายามที่จะดิ้นออกจากแขนของหลิงหยุน

แต่หลิงหยุนกลับออกแรงโอบให้แน่นขึ้น เพราะแม้ว่าเขาจะโอบไหล่กงเสี่ยวลู่อย่างเบามือ แต่ดูเหมือนว่าเธอกำลังคล้ายคนหมดแรง และแทบจะก้าวขาเดินต่อไปไม่ได้

“ครูกงครับ.. หนามยอกต้องเอาหนามบ่งครับ! ในเมื่อเราสองคนบริสุทธิ์ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรกับสายตาของผู้คน!”

กงเสี่ยวลู่ดิ้นรนอยู่นาน แต่ก็ไม่สามารถดิ้นหลุดจากมือของหลิงหยุนได้ จึงได้แต่พูดออกไปอย่างอับอายและไม่พอใจ..

“หลิงหยุน.. เธอพาครูขึ้นไปที่หอพักต่อหน้าทุกๆคน แล้วต่อไปครูจะพ้นข้อครหานี้ได้ยังไง?!”

หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดอย่างมั่นใจว่า “ครูกงครับ.. ทำใจให้สบาย รับรองว่าผมต้องทำให้ครูพ้นข้อครหานี้ได้อย่างแน่นอน!”

กงเสี่ยวลู่ใจสั่นอย่างรุนแรง.. เธอหันไปมองหลิงหยุนที่กล้าทำแบบนี้ต่อหน้าครูและนักเรียนทั้งโรงเรียน แต่แล้วความรู้สึกอย่างหนึ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อน ก็ปรากฏเด่นชัดขึ้นในใจของเธอทันที..

มันคือความรู้สึกปลอดภัยและได้รับการปกป้อง.. ซึ่งเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเธอมาก่อนเลย!

รูปร่างของหลิงหยุนสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาเต็มไปด้วยความมั่นใจ อีกทั้งสีหน้าและรอยยิ้มของเขาก็ทั้งสงบบและเยือกเย็น

แม้เสียงพูดของหลิงหยุนจะเบา แต่กงเสี่ยวลู่กลับได้ยินอย่างชัดเจน และอดที่จะทึ่งกับคำพูดที่มั่นอกมั่นใจของเขาไม่ได้

แต่ก็ทำให้กงเสี่ยวลู่สามารถคลายจากความเครียด และความรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาได้ในทันที ร่างที่ไหวเอนไม่มั่นคงของเธอนั้น ได้เอนพิงแขนของหลิงหยุนไว้แนบชิด ซึ่งตัวเธอเองก็ไม่รู้ว่าเกิดจากความตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจของตัวเอง

……..

“เห้ย.. หลิงหยุนกับครูประจำชั้นขึ้นไปบนหอพักด้วยกันอีกแล้ว..”

“โอ๊ย..! ฉันชอบเขามากเลย ชอบจนจะคลั่งอยู่แล้ว..”

“ดูท่าข่าวลือจะเป็นจริง.. สงสัยหลิงหยุนกับครูประจำชั้นจะมีอะไรกันจริงๆว่ะ!  นี่มัน..”

“อย่าโง่ไปหน่อยเลย! กลางวันแสกๆ แล้วก็เพิ่งจะเรียนไปได้แค่คาบเดียว คนก็เห็นกันทั้งโรงเรียน ใครจะบ้าไปทำเรื่องแบบนั้น!”

“นั่นน่ะสิ! เวลาแค่นี้ไม่พอให้ทำเรื่องแบบนั้นได้หรอก ถ้าพวกเขาจะไปทำอะไรกันจริงๆ แอบไปทำหลังเลิกเรียนไม่ดีกว่าหรือไง? หรือไม่ก็นัดออกไปเจอกันข้างนอกในวันหยุดจะไม่ดีกว่าเหรอ? ใครจะบ้ามาทำเรื่องแบบนี้ต่อหน้านักเรียนแล้วก็ครูทั้งโรงเรียนวะ?!” นักเรียนคนหนึ่งวิเคราะห์ด้วยเหตุผลเสียงดัง

“แต่ทั้งคู่เดินกอดกันไปซะขนาดนั้น..”

“แค่โอบไหล่กัน.. กลายเป็นกอดกันได้ยังไง? นายอย่าพูดบิดเบือนความจริงนัก..!”

ข่าวลือสามารถถูกหยุดได้ด้วยคนที่มีปัญญา หลิงหยุนโอบกงเสี่ยวลู่ต่อหน้าครูและนักเรียนนับพัน ทำให้คนมองกงเสี่ยวลู่เปลี่ยนไปมาก!

ที่ระเบียงหน้าห้องเรียนของนักเรียนมัธยมปลายห้องหก..

“พี่หลิงนี่โคตรอัจฉริยะแล้วก็กล้ามากเลย! ดูสิ.. แค่นี้ก็สามารถแบ่งคนออกเป็นสองข้างได้แล้ว!” กู่หยวนหลงมองตามหลังหลิงหยุนและกงเสี่ยวลู่ไป พร้อมกับพึมพำเบาๆ

“นี่แค่เริ่มต้นว่ะ..” ซากัวจิ้งเสริมต่อพร้อมกับยิ้มสะใจ

“ต่อหน้าครูแล้วก็นักเรียนมากมาย ถึงกับกล้าโอบไหล่ครูประจำชั้น! หลิงหยุนโคตรใจกล้า..”

“เดี๋ยวนายคอยดูนะ.. ข่าวลือจะค่อยๆซาไปในเวลาอันรวดเร็ว!”

ฉางหลิงยืนพิงระเบียงมองหลิงหยุนและกงเสี่ยวลู่เดินไปด้วยกันอย่างเงียบๆ ในใจทั้งชื่นชม แล้วก็อิจฉาไปพร้อมๆกัน

หลิงหยุนกล้าที่จะเดินโอบไหล่ครูประจำชั้นไปอย่างไม่สนใจใคร นี่ไม่เท่ากับว่าเขากำลังสร้างเรื่องฮือฮาใหม่ขึ้นมาในโรงเรียนอีกอย่างนั้นหรือ?!

ก่อนหน้านี้หลิงหยุนก็สร้างเรื่องฮือฮามาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขากอดเกาเฉินเฉิน จูบเสี่ยวเม่ยหนิง จัดการกับตี้เสี่ยวอู๋ และตอนนี้ก็เรื่องโอบไหล่ครูประจำชั้นของตัวเอง!

‘ฉันอยากจะเป็นคนที่อยู่ในอ้อมแขนของนายจังเลย..’ ฉางหลิงพึมพำอยู่ในใจเงียบๆคนเดียว

ส่วนที่ห้องเรียนของนักเรียนมัธยมปลายห้องหนึ่ง..

“หลิงยู่.. หลิงยู่.. มาดูอะไรเร็วเข้า! พี่ชายของเธอกำลังเดินโอบไหล่ครูประจำชั้นไปที่หอพักของครูแล้ว!” นักเรียนหญิงคนหนึ่งวิ่งหน้าตื่นไปบอกหนิงหลิงยู่ สีหน้าของเธอนั้นตกใจจนแทบช็อค..

แต่หนิงหลิงยู่เพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับชำเลืองตามองเพื่อน ก่อนจะก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือต่อย่างไม่สนใจ

“หลิงยู่.. นี่เธอไม่ตกใจเลยเหรอ..?!”

เมื่อเห็นหนิงหลิงยู่ยังคงสงบนิ่ง เพื่อนนักเรียนหญิงก็แทบไม่เชื่อสายตา และได้แต่ถามหนิงหลิงยู่ออกไปอย่างงุนงง

“อะไรที่พี่ใหญ่ทำ.. ทุกอย่างล้วนมีเหตุผล และล้วนแต่ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี..”

หนิงหลิงยู่ผ่านเหตุการณ์ที่น่าตกใจซึ่งเกิดจากการกระทำของหลิงหยุนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เรื่องแค่นี้นับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เธอจึงสามารถยอมรับได้อย่างง่ายดาย และด้วยท่าทีที่สงบ ..และเพราะเขาคือหลิงหยุน!

อย่าว่าแต่โอบไหล่ครูประจำชั้นเลย.. ต่อให้หลิงหยุนจับครูใหญ่โยนขึ้นฟ้า เธอยังไม่รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย.. อีกอย่าง หนิงหลิงยู่เองกำลังปรับตัวตามที่หลิงหยุนร้องขอ

ในห้องยังมีอีกหนึ่งคนที่ยังคงนั่งนิ่งและไม่วิ่งออกไปดู ซึ่งก็คือเฉิงเมี่ยนนั่นเอง และตอนนี้เธอก็กำลังนั่งมองหนิงหลิงยู่อยู่เงียบบๆ

ในคืนวันอาทิตย์ เฉิงเมียนได้เห็นหลิงหยุนใช้กระบี่สังหารยอดฝีมือตระกูลซันตายไปถึงสามคน ได้เห็นฉินตงเฉี่วยเหาะลงมาจากท้องฟ้า สิ่งเหล่านี้ทำให้เฉิงเมี่ยนได้เปิดหูเปิดตาโลกใบนี้อย่างมาก

คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จึงนับว่าเป็นประสบการณ์ที่น่าขมขื่นสำหรับเธอไม่น้อย เฉิงเมี่ยนรู้ดีว่าหลิงหยุนไม่ใช่มนุษย์ อย่างน้อยก็ไม่ใช่มนุษย์ที่เธอเคยพบเห็นทั่วไปบนโลกใบนี้!

หลิงหยุนสามารถฆ่าคนตายได้ภายในพริบตา และดูเหมือนว่าเฉิงเมี่ยนจะเข้าใจหลิงหยุนได้ลึกซึ้งกว่าหนิงหลิงยู่ในเวลานี้ด้วยซ้ำไป!

เสียเจิ้นเหยินไม่ได้มาโรงเรียน เฉิงเมี่ยนเองก็ไม่ได้สนใจว่าเขาจะเป็นหรือตาย จะดีหรือร้าย และทั้งคู่ก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกันอีกแม้แต่น้อย เฉิงเมี่ยนแค่รู้สึกเสียดายนิดหน่อย..

เธอรู้สึกเสียดายที่เคยปล่อยให้เสียเจิ้นเหยินเล่นกับเรือนร่างของเธอ แต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น.. และโชคดีที่เธอยังเป็นสาวบริสุทธิ์อยู่ และเธอก็ตั้งใจจะเก็บความบริสุทธิ์นี้ไว้ให้กับหลิงหยุนเท่านั้น

สิ่งที่เฉิงเมี่ยนกังวลอยู่ในตอนนนี้ก็คือ เธอจะหาวิธีคืนดีกับหนิงหลิงยู่ได้อย่างไร?

เฉิงเมี่ยนคิดว่าหากเธอขอให้หนิงหลิงยู่อภัยให้เธอได้ หลิงหยุนก็อาจจะมองเธอดีขึ้นมาบ้าง และเธอก็จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดหลิงหยุนมากขึ้น

“พี่ใหญ่.. ถึงแม้พี่จะลืมหลิงหยุนไปแล้ว แต่ฉันจะเป็นผู้หญิงของเขาแทนพี่เอง จะรักเขาแทนพี่ และดูแลเขาแทนพี่..”

เฉิงเมี่ยนรู้สึกผิดอยู่บ้าง และได้แต่พึมพำอยู่กับตัวเอง

………….

หลังจากเดินผ่านนักเรียนมากมายมาแล้ว ทั้งคู่ก็เดินเลี้ยวเข้าไปในบริเวณอาคารหอพัก และทันทีที่เลี้ยวเข้าไป ก็ราวกับหลุดไปในโลกอีกใบ เพราะที่นี่ทั้งสงบเงียบ และห่างไกลเสียงซุบซิบนินทา

หลิงหยุนยังคงโอบไหล่ครูกงเดินไปเรื่อยๆ และทุกอย่างก็ดูเหมือนจะผ่อนคลายมากขึ้น

ช่างเป็นความรู้สึกที่ดี!

“ปล่อยครูได้แล้ว!” กงเสี่ยวลู่ร้องบอกหลิงหยุนทันที

หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับยกแขนขวาออกจากไหล่ของกงเสี่ยวลู่ และทันทีที่หลิงหยุนปล่อยมือที่โอบไหล่ออก กงเสี่ยวลู่ก็รู้สึกคล้ายจิตใจโหวงเหวงว่างเปล่าขึ้นมาทันที เป็นความรู้สึกคล้ายกับคนที่กำลังสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป และจู่ๆเธอก็นึกเสียดายขึ้นมา

แต่เธอก็ยังคงยืดตัวขึ้นตรง และยกมือขึ้นจัดปกเสื้อเสื้อเชิ้ตให้เรียบร้อย ระหว่างเดินไปก็พูดขึ้นว่า

“นี่ถ้าทำต่อหน้าคนในครอบครัวครู ครูจะฆ่าเธอแน่!”

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับตอบไปว่า “จะให้ผมทำยังไงล่ะ? ผมขาดเรียนไปตั้งหนึ่งอาทิตย์ ก็อยากให้ครูช่วยติวให้ผมหน่อย..”

กงเสี่ยวลู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย “แต่ครูต้องกลับไปสอนคาบถัดไป..”

หลิงหยุนกระซิบเสียงเบา “ครูบอกเองไม่ใช่เหรอครับว่า คาบต่อไปให้ทบทวนกันเอง..”

เมื่อเดินมาถึงประตูทางเข้าอาคาร กงเสี่ยวลู่ก็เกิดอาการลังเล ก่อนจะกัดริมฝีปากแน่นและถามออกไปว่า

“นี่เธอจะขึ้นไปข้างบนจริงๆเหรอ?”

หลิงหยุนหัวเราะ “ถ้าครูซ่อนแฟนไว้บนห้อง ผมกลับก็ได้ครับ..”

กงเสี่ยวลู่หน้าแดง เมื่อเห็นหลิงหยุนทำท่าจะหันหลังกลับ “ครูนี่นะจะซ่อนแฟนไว้ในห้อง..”

“ครูเป็นผู้หญิงที่สวย.. แล้วก็สวยมากๆด้วย..” หลิงหยุนเอ่ยชมออกมาตรงๆ อย่างไม่คิดที่จะปิดบัง

“ปากดีนักนะ.. เธอหายไปอาทิตย์นึง กลับมาก็ปากเก่งเชียว ขึ้นไปได้แล้ว ไว้ครูจะจัดการกับเธอทีหลัง!”