บทที่ 334 ทรัพยากรของผม

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 334 ทรัพยากรของผม
ภายใต้สายตาที่จ้องมองของทุกคน ไป๋เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกว่าตัวเองเหมือนไม่ได้ใส่เสื้อผ้า

หล่อนทั้งอายทั้งโกรธ พูดอย่างอารมณ์เสียว่า“พวกแกสมรู้ร่วมคิดกันขึ้นมารังแกฉัน!”

“พวกแกฝากไว้ก่อนนะ!”

จากนั้นไม่มีหน้าให้อยู่ต่อไปอีกแล้วจริง ๆ หนีไปอย่างพ่ายแพ้

โม่ชงกัดฟันแล้วพูด“คนคนแซ่ฉิน ถือว่านายเก่ง!”

“พวกเราคอยดูแล้วกัน!”

จากนั้นมองหลิวหรูยู่อยู่ เขากอดความหวังสุดท้ายที่เล็กน้อยไว้อยู่ พูด“หลิวหรูยู่ ผมให้โอกาสครั้งสุดท้ายแก่คุณอีกหนึ่งครั้ง”

“คุณต้องการตามหมอนี่ที่ไม่มีชื่อเสียงคนนี้จริง ๆ เหรอ?”

“ถึงแม้เขามีความเจ้าเล่ห์ฉลาดแกมโกงเล็กน้อย แต่วงการบันเทิงเขาหยอกเล่นไม่ได้”

“ผมสามารถให้ทรัพยากรแก่คุณได้ เขาไม่มีวันให้คุณได้!”

“สรุปแล้วตามใครมีประโยชน์ต่อคุณ ทางที่ดีที่สุดคุณคิดใตร่ตรองให้ชัดเจน”

“ตอนนี้ขอร้องผมยังทัน”

หลิวหรูยู่อยากพูดอะไร จู่ ๆ ที่หน้าประตูก็ส่งเสียงที่ตื่นเต้นมา

“มิเชลมาแล้ว!”

“หลีกทางหน่อย ทุกคนรีบหลีกทางหน่อย!”

เพียงเห็นฟู่เจียงเดินติดตามสุภาพบุรุษต่างชาติคนหนึ่งเข้ามาแล้วด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น

ทุกคนต่างก็ตะลึงแล้วเล็กน้อย

ฟู่เจียงพวกเขารู้จัก แต่มิเชลคนนี้เป็นใคร? มองท่าทางแล้วมีฐานะมาก

ฟู่เจียงพูดแนะนำอย่างตื่นเต้นว่า“มิเชลคือหัวหน้าเลขาของสมาคมเงินทุนดูแลเด็กยากจนขององค์การสหประชาชาติ!”

องค์การสหประชาชาติ?ฐานะนี้ไม่สามารถดูถูกได้!

คนในเหตุการณ์รีบหลีกทางให้เส้นหนึ่ง นักข่าวสื่อเหล่านั้นก็ผุดขึ้นไปอย่างกระตือรือร้น

ฟู่เจียงพูดเสียงดังว่า“ทุกท่าน คุณมิเชลวันนี้มาที่นี่มีเรื่องที่สำคัญจะประกาศ!”

“คุณมิเชล เชิญขึ้นมาบนเวที”

“ผมแนะนำให้คุณ ท่านนี้ก็คือคุณหลิวหรูยู่”

“คุณสุภาพสตรีสวยงาม คุณเกินความคาดคิดของผมจริง ๆ ”

“คิดไม่ถึงคุณหลิวที่มีชื่อเสียงมากจะเรียบง่ายอย่างนี้”

“แต่เสื้อผ้าที่เรียบง่ายอีกก็ยากที่จะกลบเกลื่อนแสงโชติช่วงที่สวยงามของคุณได้”

มิเชลส่งการถอนใจที่ออกมาจากในใจ

เพราะหลิวหรูยู่ใส่เสื้อผ้าธรรมดา มองไปแล้วยังแพงสู้เสื้อผ้าของพนักงานเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งไม่ได้

แต่บุคลิกที่เมตตาและความงามที่ติดตัวตามธรรมชาติมาเหล่านั้น ก็แสดงออกมาตามธรรมชาติ

นี่ถึงเป็นเครื่องประดับที่สำคัญที่สุดของหล่อน

หลิวหรูยู่รีบพูด“คุณมิเชล ได้ยินชื่อเสียงและชื่นชมมานานมาก!”

“ไม่ทราบว่าคุณมีเรื่องอะไรต้องการให้ฉันรับใช้เหรอ?”

มิเชลสะบัดมือต่อเจ้าหน้าที่พนักงานที่อยู่ด้านหลังแล้ว เจ้าหน้าที่พนักงานก็ประคองกล่องที่สวยงามหนึ่งมาอย่างระวังทันที

มิเชลเปิดกล่องหยิบป้ายสีทองอันหนึ่งออกมาจากข้างใน พูด“ผ่านการสังเกต ความสวยความมีเมตตาของคุณอีกทั้งแรงผลกระทบ ทั้งหมดไม่มีอะไรสามารถเทียบได้”

“ดังนั้นตอนนี้ผมเป็นตัวแทนสมาคมเงินทุนอย่างเป็นทางการ เชิญคุณมาเป็นทูตหัวใจของเขตพื้นที่เอเชียพวกเรา”

“ภายใต้การพยายามร่วมกันของพวกเรา หวังว่าคุณจะสามารถส่งความห่วงใยและความอบอุ่นให้แก่เด็กยากจนที่มากมายทั่วโลก”

“คุณสุภาพสตรีหลิว ไม่ทราบว่าคุณยินยอมรับภารกิจอันศักดิ์สิทธิ์นี้ไหม?”

หลิวหรูยู่อ้าปากกว้างอย่างตกใจแล้ว

การเรียนเชิญนี้หล่อนได้ใฝ่ฝันมานานมากแล้ว

เพราะไม่มาก สามารถนำพาเกียรติมามากเท่าไหร่ แต่มีฐานะอันนี้แล้วหล่อนก็ยิ่งสามารถไปทำเรื่องบางอย่างได้สะดวก

เวลาเดียวกันเอาแรงผลกระทบของตัวเอง แสดงความสามารถออกมาให้สูงที่สุด

กระทั่งหล่อนเคยคิดต้องการเอาอันนี้เป็นในฐานะอาชีพตลอดชีวิต

เกิดเรื่องฉาวโฉ่ออกมาแล้ว หล่อนคิดว่าความฝันนี้ได้แตกสลายแล้วอย่างสิ้นเชิง

คิดไม่ถึงมิเชลจะมาให้ป้ายแก่หล่อนด้วยตัวเอง

หล่อนอดไม่ได้ที่จะมองไปทางฉินเทียนแล้ว ตอนนี้ปรากฏน้ำตาแล้ว

หล่อนรู้ทั้งหมดนี้ต่างก็เป็นฉินเทียนที่ประทานให้

ฉินเทียนอมยิ้มพยักหน้า ให้สายตาของกำลังใจแก่หล่อนแล้ว

หลิวหรูยู่ถอนหายใจแล้ว พูดเสียงดัง“คุณมิเชลที่เคารพ ฉันยินยอม!”

“ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจของคุณ เอาเกียรติยศอย่างนี้มอบให้แก่ฉัน”

“ฉันรับรองต่อคุณและคนที่มีใจรักตัวเองทุกคนไว้ที่นี่ จะแสดงพลังความสามารถของตัวเองออกมาให้เต็มที่แน่นอนเอางานชิ้นนี้ทำให้ดี ๆ !”

“ฉันก็จะเอาเรื่องนี้กลายเป็นอาชีพตลอดชีวิตของฉัน!”

หล่อนน้ำตาคลอรับป้ายมาแล้ว

มิเชลก็มอบหนังสือแต่งตั้งที่เซ็นโดยประธานสมาคมเงินทุนแก่หล่อนด้วยตัวเองอีก

ในเหตุการณ์เงียบกริบ ทุกคนใช้สายตาและเลนส์เป็นประจักษ์พยานในฉากที่ศักดิ์สิทธิ์นี้อยู่

ใครต่างก็รู้เกียรติยศนี้มีน้ำหนักมากเท่าไหร่

ภายใต้การเปรียบเทียบประเภทออสการ์เสียงทองอะไร ป้ายรางวัลที่สูงส่งไม่มีใครเทียบได้ในวงการบันเทิงก็มืดสนิทในพริบตา

นี่เป็นป้ายขององค์การสหประชาชาตินะ!

“หรูยู่ ยินดีกับคุณด้วย!”

“องค์การสหประชาชาติสามารถเอาเกียรติยศนี้ให้คุณได้ ก็อธิบายได้ว่าคุณคือมีความสามารถอย่างแท้จริง”

หยางหรงปรบมือนำอย่างตื่นเต้น

ในเหตุการณ์เสียงโห่ร้องสนั่น

ฉินเทียนมองโม่ชงอยู่ยิ้มอย่างเย็นชาว่า“ประธานโม่ทรัพยากรของผมเป็นยังไง?”

“คุณอาจจะสามารถช่วยคุณหลิวเอาสองสามบทบาทมามากหน่อย รับป้ายรางวัลมากหน่อยแต่มือของคุณสามารถยื่นไปถึงองค์การสหประชาชาติเหรอ?”

สีหน้าของโม่ชงเขียวคล้ำ กัดฟันยิ้มอย่างเย็นชา“คนแซ่ฉิน อย่าหยิ่งผยอง!”

“ในเมื่อตัวอยู่ในวงการบันเทิงก็ต้องทำเรื่องที่คนวงการบันเทิงควรจะทำ รับป้ายอำนาจชิ้นหนึ่งแล้วสามารถช่วยคุณแสดงละครได้เหรอ?”

“คุณคงจะไม่คิดว่าอาศัยหลิวหรูยู่คนเดียวก็สามารถค้ำบริษัทบันเทิงได้หรอกใช่ไหม?”

“ฮึ ทั้งตัวหล่อนก็คือเหล็ก สามารถตีเป็นตะปูได้กี่อัน?”

“นอกจากหลิวหรูยู่แล้ว คุณคิดว่าคุณยังสามารถได้เซ็นกับศิลปินอื่น ๆ เหรอ?”

“วันนี้ผมโม่ชงก็พูดประโยคหนึ่งไว้ที่นี่แล้ว ผมจะแจ้งให้ทุกคนตอบรับบล็อกคุณทั้งวงการบันเทิง!”

“ดูใครกล้ามาเซ็นสัญญากับคุณที่นี่!”

ได้ยินคำพูดของโม่ชงแล้ว คนมากมายต่างก็เปิดเผยสีหน้าที่เห็นใจออกมา

พวกเขารู้โม่ชงไม่ใช่พูดโอ้อวด สำหรับความสามารถและตำแหน่งของเขาในวงการบันเทิง อยากที่จะบล็อกบริษัทซิงถูของฉินเทียนเกรงว่าจะมีคนน้อยมากที่กล้าร่วมมือกับฉินเทียน

โม่ชงพูดถูก อาศัยหลิวหรูยู่คนเดียวไม่ได้แน่นอน

ฉินเทียนไม่ใส่ใจแม้แต่นิด ยิ้มอย่างเย็นชาพูด“เหรอ? ผมยังเป็นครั้งแรกที่ได้ยินมีคนต้องการบล็อกผม”

“ประธานโม่ผมจะรอดู”

โม่ชงในที่สุดดึงเกมกลับมา เขาจ้องมองฉินเทียนแวบหนึ่งอย่างนิ่ง ๆ พูด“คุณก็รอความตายไปเถอะ!”

“ไป!”

เขาเดินไปถึงหน้าประตูอย่างโมโห จู่ ๆ รู้สึกผิดปกติ

หันกลับมาถึงพบว่าข้างกายขาดคนหนึ่งไป

มู่เฟยเฟยยืนอยู่ที่เดิมก็ไม่ได้ตามเขาไป

“เฟยเฟย คุณยังตะลึงทำอะไรอยู่?รีบไปสิ!”

“คุณวางใจ ด้วยกำลังของผมแล้วใช้เวลาไม่นานผมรับรองฐณะของคุณจะสูงกว่าหลิวหรูยู่!”

พลาดโอกาสจากหลิวหรูยู่แล้ว ตอนนี้เขาทำได้เพียงเอาการเดิมพันครอบคลุมบนตัวของมู่เฟยเฟย

เขาจะเอามู่เฟยเฟยสร้างให้เป็นระดับสูงสุด ให้ฉินเทียนและหลิวหรูยู่ดูให้ดี ๆ !

เพียงแต่ได้ยินคำพูดของเขาแล้ว มู่เฟยเฟยก็ไม่ได้ขยับ

หล่อนลังเลแล้วเล็กน้อย“ประธานโม่ฉันยอมรับ ก่อนหน้านี้คุณสัญญาข้อเรียกร้องเหล่านั้นของฉันอุดมสมบูรณ์มาก”

“เพียงแต่พวกเราสุดท้ายก็ไม่ได้เซ็นสัญญา ตอนนี้ฉันยังไม่ใช่ศิลปินของบริษัทคุณใช่ไหมล่ะ”

โม่ชงไม่มีปฏิกิริยามานิดหน่อย ตะลึงเล็กน้อย“เฟยเฟย หมายความว่ายังไง?”

“ตอนนี้คุณต้องการเจรจาข้อตกลงต่อหน้าทุกคนเหรอ?”

“คุณพูด คุณอยากได้อะไร?ผมต่างก็รับปากคุณทั้งหมด!”

มู่เฟยเฟยส่ายหน้าแล้ว พูด“ประธานโม่คุณเข้าใจผิดแล้ว”

“ฉันไม่อยากได้อะไร เพราะฉันไม่อยากเซ็นสัญญากับบริษัทคุณ”

หล่อนมองฉินเทียนอยู่ รวบรวมความกล้าหาญพูด“ประธานฉินไม่ทราบว่าบริษัทของคุณยังต้องการคนไหม?”

“สามารถเซ็นสัญญากับฉันได้ไหม?”

พูดอยู่เหมือนกลัวถูกปฏิเสธ พูดอย่างหวาดกลัวอีก“ขอแค่คุณรับปากฉัน ข้อตกลงทั้งหมดต่างก็พูดง่าย”

“อีกทั้งขอให้คุณวางใจ ฉันจะพยายามพิสูจน์มูลค่าของตัวเองให้ได้!”