“เทพหลัวสุดหล่อ ปล่อยเขาไปเถอะ!”
อันหวน เกลี้ยกล่อมเสี่ยวหลัว หลังจากทั้งหมดนี่คือในชั้นเรียน และมันก็ยังอยู่ในมหาลัยเธอไม่ต้องการให้เสี่ยวหลัวถูกลงโทษ
เสี่ยวหลัว คว้าคอของ ถัง หยู่เจ๋อ เข้ามาใกล้และยิ้มอย่างขำขัน “มีหลายคนที่กำลังบอกให้ฉันปล่อยนายไป แต่ฉันอายเกินไปที่ปล่อยนายไป ดังนั้นนายขอโทษฉันมาก่อน แล้วฉันจะปล่อยนายนายไป ”
f * ck !
ถัง หยู่เจ๋อ นั้นรู้สึกขมขื่นอยู่ในใจของเขา เขาถูกทุบตีและยังจะต้องมาขอโทษอีก มันจะมีอะไรโหดร้ายไปมากกว่านี้อีกไหม? รังแกกันเกินไปแล้ว
“จะไม่ขอโทษ? งั้นฉันก็จะทุบตีต่อไป!”
เสี่ยวหลัวยิ้มและขาที่เหมือนกับแส้ของเขาก็พุ่งเข้าไปที่หัวของ ถัง หยู่เจ๋อ
“ฉันขอโทษ!”
ถัง หยู่เจ๋อ ตะโกนเสียงดัง “ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษ!”
“ฟุ๊บ ~”
เสียงของลมโหยหวนที่เกิดเท้าขวาของเสี่ยวหลัวหยุดที่ต้นคอของ ถัง หยู่เจ๋อ และกระแสลมที่ก่อเกิดโดยขาของเสี่ยวหลัวก็เป่าผมของ ถัง อยู่เจ๋อ จนปลิวไสว ผู้ชายคนนี้กลัวจนเกือบจะฉี่รดกางเกงของเขา
ทั้งห้องเรียนตกตะลึง และไม่มีใครพูดอะไรเลยในตอนนี้ ทุกคนรู้สึกได้ถึงความรุนแรงของเสี่ยวหลัวและความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างลึกซึ้ง
“เสี่ยวหลัวแกกล้าที่จะแตะต้องคนของฉัน พ่อคนนี้จะฆ่าแกเอง!”
ในช่วงเวลานั้นช่องระหว่างทางเดินในห้องเรียน ซ่ง เจียหนาน มองไปทางเสี่ยวหลัว อย่างโกรธเกรี้ยว เขาพุ่งตัวเข้าใส่เสี่ยวหลัวอย่างรุนแรง
พร้อมกับเสียงคำรามที่ราวกับฟ้าร้องและพุ่งตัวออกไปราวกับวัวคลั่ง!
เงาของฝ่ามือขนาดใหญ่มาพร้อมกับเสียงของลมหายใจที่หนักหน่วงพุ่งตรงไปที่เสี่ยวหลัว
แรงที่กระทบกันเหมือนดั่งคลื่นสึนามิพัดผ่านมาแขนของเขา เสี่ยวหลัวรู้สึกด้านชาเล็กน้อยและรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วทั้งแขนทั้งสองข้าง ร่างกายของเขาเสียสมดุลไปเล็กน้อย พลังของ ซ่ง เจียหนาน นี้เกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ มันบังคับทำให้เขาต้องถอยหลังไปสี่ถึงห้าก้าว
ซ่ง เจียหนาน ก็ก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวเช่นเดียวกัน เขามีสีหน้าที่ประหลาดใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าเสี่ยวหลัวผู้ซึ่งดูเหมือนจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรจะมีพลังแข็งแกร่งไม่ด้อยไปกว่าเขา
ซ่ง เจียหนาน เป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ มาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก นอกเหนือจากกังฟูที่ยอดเยี่ยมของเขาแล้วเขายังได้ขัดเกลาร่างกายของเขาอย่างสุดขีด และมีไขมันในร่างกายประมาณสี่เปอร์เซ็นต์เขามีมวลกล้ามเนื้อที่ไม่ธรรมดา เขาเป็นดั่งเครื่องจักรต่อสู้ในร่างมนุษย์
“นายเป็นผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ด้วยงั้นเหรอ”
ซ่ง เจียหนาน ถอนสายตาที่ดูถูกเหยียดหยามของเขาออก ผู้ที่ต่อสู้กับเขาด้วยกำลังได้ ควรค่าแก่การให้ความสนใจ
“ถึงฉันจะเป็นหรือไม่เป็น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแกหละ” เสี่ยวหลัวกล่าวอย่างเย็นชา
“ถือว่าฉันไม่ได้ถามก็แล้วกัน! ย๊ากกก!!”
ซ่ง เจียหนาน ระเบิดเสียงคำราม แรงผลักดันของเขาเพิ่มขึ้นเลือดที่ราวกับสัตว์ป่าของเขากำลังเดือดพล่านและพุ่งตรงไปยังเสี่ยวหลัว
“ช่างเป็นเสียงที่หนวกหูจริงๆ”
เสี่ยวหลัวสบประมาทและดูถูก เขาปล่อยกำปั้นขวาที่รวดเร็วราวกับเสือชีต้าพุ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับหมัดขวาของ ซ่ง เจียหนาน ที่กำลังพุ่งตรงเข้ามาพร้อมกับเสียงคำราม
“ตู้มมม~”
หมัดของชายทั้งสองปะทะกันในอากาศตามมาด้วยเสียงอึกทึกราวกับเสียงของระเบิด
การปะทะกันระหว่างความแข็งแกร่งและพละกำลัง มันทำให้ผู้คนรู้สึกสับสนมึนงง ราวกับพวกเขากำลังดูการต่อสู้ที่สามารถเห็นได้ทางโทรทัศน์เท่านั้น แต่ตอนนี้พวกเขาได้เห็นมันกับตาตัวเอง มันทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจ
อาจารย์เริ่มฟื้นสติของเธอกลับมา เธอหยิบหนังสือขึ้นมาและโยนมันอย่างแรงลงที่แท่น ตามมาด้วยเสียงดัง “ปัง” มันทำให้ทั้งห้องเรียนเต็มไปด้วยเสียงดังระเบิดเหมือนเสียงฟ้าร้อง ซึ่งมันทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นสะท้าน
“อยากจะทำอะไรก็ทำ! พวกเธอคิดว่าตัวเองกำลังถ่ายทำหนังศิลปะการต่อสู้หรือไง คิดว่าตัวเองกำลังเล่นเป็นอัศวินหรือไง เชื่อหรือไม่ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนพาพวกเธอออกไปจากมหาลัยนี้ เพื่อให้พวกเธอกลับไปเล่นต่อที่บ้านได้!” อาจารย์ รู้สึกโกรธมากใบหน้าของเธอเป็นสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธ พวกนักศึกษาพวกนี้ไม่ได้จริงจังกับคำพูดของเธอเลย ในระหว่างที่พวกเขากำลังต่อสู้กันอยู่ มันมากเกินไปจริงๆ
ซ่ง เจียหนาน กลัวที่จะต้องออกจากมหาลัย เขาหยุดมือและยิ้ม: “อาจารย์เข้าใจผมผิดแล้ว ผมรู้สึกคันไม้คันมือและไม่สามารถต้านทานการซ้อมด้วยกันได้ ทุกคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มีข้อบกพร่องเช่นนี้ ผมหวังว่าอาจารย์จะเข้าใจและจะยกโทษให้ผม”
“เก็บรอยยิ้มของเธอไป แล้วออกไปข้างนอกซะ เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้มาที่นี่เพื่อเรียนรู้ ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! ก่อนที่ฉันจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยของมหาลัยมา!”
“ไม่ไม่. ในเมื่ออาจารย์ไม่ชอบ พวกเราก็จะไป”
ซ่ง เจียหนาน โค้งคำนับเล็กน้อยให้กับอาจารย์ด้วยรอยยิ้มที่แสนจอมปลอมบนใบหน้าของเขาจากนั้นโบกมือและพูดกับ ถัง หยู่เจ๋อ และ เฉินเจีย “ไปกันเถอะ!”
เมื่อพูดเสร็จแล้วเขาก็หันไปทางซ้าย
ก่อนที่จะเดินออกไปเขาไม่ลืมที่จะหันไปจ้องมองที่เสี่ยวหลัว พร้อมกับหันไปทำท่าทาง“ฉันรักคุณ” ให้กับอันหวน ซึ่งตอนนี้กำลังนั่งอยู่ในแถวแรก
“รีบออกไปเร็วๆ!”
อาจารย์ภาษาอังกฤษชี้ไปที่ประตู พร้อมกับหันหัวของเธอมามองที่เสี่ยวหลัว“เสี่ยวหลัวเธอต้องการแบบไหน? เธอต้องการที่จะออกไปหรือจะอยู่ต่อในคลาสเรียน”
“ผมเลือกที่จะอยู่ต่อ” เสี่ยวหลัว กล่าวพร้อมกับหัวเราะ
อารมณ์ของเขาตอนนี้ มันตรงกันข้ามกับอารมณ์ของการต่อสู้กับ ซ่ง เจียหนาน เมื่อไม่นานมานี้ เป็นคนละขั้วโดยสิ้นเชิง ตอนนี้เขาเป็นใคร? เสี่ยวหลัวอันอ่อนโยนในตอนนี้หรือเสี่ยวหลัวอันโหดร้ายเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา?
“แล้วทำไมเธอยังยืนอยู่ตรงนั้น ทำไมไม่กลับไปนั่งที่!” อาจารย์ภาษาอังกฤษ กล่าวด้วยใบหน้าที่บึ้งตึงของเธอ
เสี่ยวหลัวไม่ได้พูดอะไรและนั่งลงยังที่นั่งใหม่
“รั่วหราน อย่าลืมให้เขารายงานโต๊ะที่เสียหายหลังเลิกเรียน นี่ถือว่าเป็นการทำลายทรัพย์สินของทางมหาลัย” อาจารย์ภาษาอังกฤษกล่าว
“ได้ค่ะ”
ฮวาง รั่วหราน ยืนขึ้นพร้อมตอบรับคำจากนั้นเธอก็จ้องมองไปที่ เสี่ยวหลัว ด้วยความรังเกียจ ก่อนที่จะนั่งลง
“มาเรียนต่อกันเถอะ!” อาจารย์ภาษาอังกฤษพูดต่อพร้อมกับยกเรื่องทะเลาะวิวาททิ้งไปข้างหลัง
ตอนนี้ในหัวใจของพวกผู้หญิง ไม่สามารถสงบลงได้ เสี่ยวหลัวนั้นดีพอที่จะรอดจากการต่อสู้กับ ซ่ง เจียหนาน ประธานชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้า ด้วยพละกำลัง?
“เสี่ยวหลัว เขาทำอะไรมาก่อนที่จะมามหาลัยกันนะ?”
“ใช่ความแตกต่างของขนาดร่างกายของเขานั้นมันใหญ่มาก แต่เขาก็เสียเปรียบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อเขาต่อสู้กับ ซ่ง เจียหนาน ตอนเด็กเขากินอะไรถึงได้โตขึ้นมาเป็นเช่นนี้?”
“ฉันคิดว่าเขา ต้องเป็นพวกคนเหล่านั้นแน่ๆ”
ทุกคนเริ่มพูดคุยกระซิบกันเบาๆ
“เขาเป็นทหารและได้รับการฝึกฝนในกองทัพมาเป็นเวลากว่าสองปี มันมีอะไรแปลกเกี่ยวกับเขากัน ที่เขามีทักษะการต่อสู้เล็กน้อยเช่นนี้” คำพูดของ ชูเยว่ นั้นแก้ไขข้อสงสัยของทุกคน
ใช่แล้ว เทพหลัว เข้าร่วมกับกองทัพมาเป็นเวลากว่าสองปี แล้วจึงกลับมาเรียนต่อที่มหาลัย ทักษะการต่อสู้ของเขาต้องได้รับการฝึกฝนมาจากที่กองทัพแน่ๆ
อันหวน ส่งกระดาษโน้ตเล็กๆให้กับเสี่ยวหลัว :เทพหลัว เมื่อครู่นี้คุณเท่ห์มาก! ไปที่ภูเขาด้านหลังมหาลัยหลังเลิกเรียน ฉันอยากที่จะวาดรูปเหมือนของคุณ!
เสี่ยวหลัวอยากหัวเราะเมื่อเขาเห็นมัน จากนั้นเขาตอบกลับโดยใช้ปากกาเขียนส่งกลับไแ: อย่ามาวาดฉันเลย คุณควรจะวาดท้องฟ้าและก้อนเมฆสีขาวดีกว่านะ!
ตอนนี้เขากำลังเซื่องซึมเกี่ยวกับการต้องจ่ายค่าโต๊ะที่เสียหายหลังเลิกเรียนอยู่
จูเสี่ยวเฟยและเติ้งไค พวกเขากลายเป็นพวกโง่งม พวกเขาเกาะติดกับกับเสี่ยวหลัวเหมือนหนอนสองตัวที่ไม่มีกระดูกมาตลอด พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่า เสี่ยวหลัวจะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อจนถึงจุดที่เขาสามารถต่อกรกับ ซ่ง เจียหนาน ได้ นี่เป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายของพวกเขามาก
พวกคุณรู้ไหมว่าน้ำหนักของ ซ่ง เจียหนาน คือ 250 ปอนด์ และร่างกายของเขาเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงเช่นเดียวกับโฮเวิร์ดสัตว์ร้ายของNBA ซึ่งมันดูน่ากลัวมากเมื่อมองจากในระยะไกล นอกจากนี้เสี่ยวหลัวยังมีน้ำหนักเพียง 130 ปอนด์เท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับ ซ่ง เจียหนาน แล้วนั้นความแตกต่างมันราวกับแขนอันบอบบางและต้นขาที่หนา มันนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย
ในเวลาเดียวกัน ซ่ง เจียหนาน และพักพวกอีกสองคนที่เดินออกมาจากอาคารเรียนก็พูดคุยกัน
“บอสพวกเราจะปล่อยเขาไปแบบนั้นเหรอ?” เฉินเจีย สอบถาม
“แน่นอนว่าไม่! ฉันกับเสี่ยวหลัวไม่สามารถที่จะอยู่ร่วมโลกด้วยกันได้ !!!”
ซ่ง เจียหนาน พูดอย่างดุเดือดในขณะที่เขามองไปที่มือขวาของเขาที่สั่นเล็กน้อย ขณะที่หมัดของพวกเขาทั้งสองปะทะกันในตอนนั้น มือของเขาก็ถูกกระแทกอย่างรุนแรงมันเจ็บปวดมาก ถ้าเขาไม่ขบฟันอดกลั้นมันเอาไว้ เพราะกลัวว่าตัวเองจะต้องขายหน้า เขาคงร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดไปแล้ว