กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 482
ชายหญิงคู่หนึ่งเดินเคียงกันมาบนถนนที่พลุกพล่าน ต่างคนต่างสวมหน้ากากจึงมองไม่เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริง ทว่าทั้งคู่ต่างมีบุคลิกที่โดดเด่น รูปร่างสูงเพรียว ทั้งยังมีรัศมีแห่งความสูงส่งแผ่ซ่านออกมารอบตัว

ผู้คนที่เดินผ่านไปมาอดมองพวกเขาไม่ได้

ทันใดนั้นบนถนนที่พลุกพล่านก็มีเสียงกระซิบกระซาบด้วยความประหลาดใจดังเข้าหูของชายหญิงคู่นั้นอย่างชัดเจน

“ได้ยินหรือไม่ว่าวันนี้ที่หอประมูลเฟิงเซียงจะมีการประมูลครั้งใหญ่ เห็นว่าจะเริ่มในอีกหนึ่งชั่วยามนี้แล้ว”

“จริงหรือ ก่อนหน้านี้หอประมูลเฟิงเซียงบอกว่าจะจัดงานประมูล แต่สุดท้ายก็เลื่อนไปเป็นสิบวัน แค่ล่าช้าก็ว่าแย่แล้ว หลังจากนั้นดันยกเลิกการประมูลเสียเฉยๆ ตอนนั้นบอกไปว่ากำหนดเวลาตอนไหน พอหลายคนได้ยินข่าวก็รีบมุ่งมาจากทุกสารทิศ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้เข้าประมูล แล้วคราวนี้งานประมูลจะเลื่อนอีกหรือไม่”

“ข้าว่าคงไม่หรอกน่ะ การประมูลของหอประมูลเฟิงเซียงมีผู้คนมาร่วมประมูลล้นหลาม ผู้คนมารวมตัวกันมากมาย ทั้งยังมีสาวใช้คอยต้อนรับตั้งเยอะ”

“จะว่าไปก็แปลก เมื่อก่อนหลังจากประกาศเวลาประมูลไปแล้ว การประมูลไม่เคยถูกยกเลิก แต่คราวนี้กลับเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีปัญหาภายในเกิดขึ้นกับการประมูลของหอเฟิงเซียง”

“พวกเราจะไปรู้ได้อย่างไร อย่างไรก็เถอะ ของจากหอประมูลเฟิงเซียงล้วนเป็นสินค้าคุณภาพดี ต่อให้มีเงินก็ไม่อาจหาซื้อได้ เราไปที่นั่นกันด้วยดีกว่า ไปเปิดหูเปิดตาเสียหน่อย”

“เถอะน่า ฐานะอย่างเจ้าน่ะ ข้ากลัวว่าแม้แต่จะผ่านเข้าประตูหอประมูลเฟิงเซียงก็ยังทำไม่ได้”

กู้ชูหน่วนลูบคางและเกิดความสงสัยขึ้นมาในใจ

ครั้งก่อนตอนที่นางออกมาจากหอประมูลเฟิงเซียง เสี่ยวลู่ต้อนรับนางอย่างกระตือรือร้น ทั้งยังกำชับให้นางมาร่วมงานประมูลครั้งต่อไป ตอนนั้นดูเหมือนเสี่ยวลู่มีอะไรจะพูด แต่นางคิดไม่ออกว่าเสี่ยวลู่ต้องการจะสื่ออะไรกันแน่

หลังจากนั้นก็มีเรื่องต่างๆ ประเดประดังเข้ามาจนนางไม่มีเวลามาที่งานประมูลของหอประมูลเฟิงเซียง

และก็ลากยาวมาจนถึงตอนนี้

แต่อะไรจะประจวบเหมาะขนาดนี้

การประมูลไม่ได้จัดขึ้นช้าไปหรือเร็วไป แต่จัดตรงกับวันที่นางต้องการจะไปพอดี ราวกับงานนี้เตรียมไว้เพื่อนางอย่างไรอย่างนั้น

ไม่ใช่แค่กู้ชูหน่วนที่สงสัย

เยี่ยจิ่งหานก็สงสัยเช่นกัน

เกี่ยวกับภรรยาของเขา เขามีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับตัวตนของนาง เพียงแต่ยังหาหลักฐานมาพิสูจน์ให้กระจ่างไม่ได้

หอประมูลเฟิงเซียงเองก็เป็นเมืองหลวง ทั้งยังเป็นหอประมูลที่ใหญ่ที่สุดในใต้หล้า แท้จริงแล้วพวกนั้นกับกู้ชูหน่วนมีอะไรเกี่ยวข้องกัน?

หลังจากเดินมาเรื่อยๆ ก็มาถึงทางเข้าหอประมูลโดยไม่รู้ตัว

ภายในของที่นี่มีทั้งหมดสามชั้น ด้านนอกของสามชั้นถูกล้อมไว้ด้วยชั้นนับไม่ถ้วน มีเพียงทางเดินเล็กๆ ให้เข้าไปได้

และที่เส้นทางเล็กๆ นั้น ในเวลานี้มีคุณชายหลายคนกำลังทุบตีกันด้วยความขัดแย้ง พยายามแย่งกันเข้าไป

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว แล้วจะเข้าไปได้อย่างไร?

ทันใดนั้นเอง คนรับใช้คนหนึ่งก็เข้ามาทักทายอย่างสุภาพและถามว่า “ทั้งสองท่านคงเป็นหานอ๋องและพระชายาหาน”

“มีอะไรหรือ”

“ท่านพี่เสี่ยวลู่บอกว่าถ้าท่านทั้งสองคนมาถึง ให้เชิญพวกท่านไปที่ห้องส่วนตัวได้เลย”

คนรับใช้ทำท่าทางเชิญชวนและพาพวกเขาเข้าไปในประตูสำหรับแขกพิเศษ

ผู้คนที่อยู่รอบๆ พากันอ้าปากค้างอย่างประหลาดใจ

คนที่ทำให้หอประมูลเฟิงเซียงเชิญมาได้เช่นนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ สองคนนี้เป็นใครกัน

เป็นที่รู้กันว่าต่อให้เป็นองค์ชายแห่งราชสำนัก ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับคำเชิญพิเศษจากหอประมูลเฟิงเซียง นอกจากนี้ที่เพิ่งเข้าไปยังเป็นคนที่เสี่ยวลู่มาต้อนรับเองอีกด้วย

“แม่นางกู้ ท่านทำให้ข้าต้องรอเป็นนาน ก่อนหน้านี้บอกว่าจะมา แต่กลับให้ข้ารอมาจนถึงตอนนี้”

คำพูดประโยคแรกของเสี่ยวลู่คือการเอ่ยอย่างงอนๆ

เยี่ยจิ่งหานยื่นมือออกมาขวางร่างที่อ่อนช้อยของเสี่ยวลู่เอาไว้ กันให้นางรักษาระยะห่างจากกู้ชูหน่วน

เสี่ยวลู่เอ่ยอย่างอิจฉา “แม่นางกู้ดูสิ สามีของท่านปฏิบัติต่อท่านดีจริงๆ เสี่ยวลู่อิจฉาเหลือเกิน เมื่อไรท่านจะแนะนำสามีดีๆ แบบนี้ให้กับเสี่ยวลู่สักคน”

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว

แนะนำสามีให้?

นี่มันเป็นคำพูดของคนสมัยใหม่ไม่ใช่รึ เหตุใดเสี่ยวลู่จึงพูดคำพูดเช่นนี้

แค่เรื่องบังเอิญ หรือว่า…?

กู้ชูหน่วนมองข้ามเยี่ยจิ่งหานไปและขยิบตาให้เสี่ยวลู่ เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านพี่เสี่ยวลู่ ถ้าอย่างนั้นข้ามอบสามีของข้าให้ท่านดีหรือไม่”

“ไม่ๆๆ เสี่ยวลู่ยังอยากจะมีชีวิตต่ออีกนานๆ รูปงามเช่นนี้ ข้าไม่มีโชควาสนาหรอก”

ผู้ที่อยู่ใกล้ๆ พากันประหลาดใจ สองคนที่สวมหน้ากากอยู่นั้นเป็นใครกันแน่ นึกไม่ถึงว่าจะทำให้เจ้าภาพของหอประมูลเฟิงเซียงอย่างเสี่ยวลู่ปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยท่าทีที่แตกต่างจากปกติเช่นนี้ ทั้งยังมาต้อนรับพวกเขาด้วยตนเองอีก

เจ๋ออ๋องก็มางานนี้ด้วย เขาอยู่ในห้องส่วนตัวและมองเห็นทุกอย่างที่ด้านล่าง

เพียงแค่มองแวบแรกเขาก็จำกู้ชูหน่วนได้ทันที บุคลิกและรูปร่างที่โดดเด่นเช่นนั้นไม่มีใครอีกแล้วนอกจากกู้ชูหน่วน

ทว่าผู้ชายสวมหน้ากากที่อยู่ข้างๆ คือหานอ๋องงั้นหรือ

หานอ๋องมักจะสวมหน้ากากผีเสมอมิใช่รึ เหตุใดวันนี้เขาจึงเปลี่ยน

เมื่อเห็นขาทั้งสองข้างที่เป็นปกติของเขารวมไปถึงท่าทีที่สูงศักดิ์และทะนงตนนั้น ความรู้สึกต่างๆ ก็ประดังเข้ามาในใจของเจ๋ออ๋อง

กู้ชูหน่วนหายหน้าหายตาไปนาน ไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนมา ทว่าวันนี้อยู่ๆ ก็มาปรากฏตัวที่นี่

เป็นไปได้หรือไม่ว่านางรู้ข่าวเรื่องที่จะมีการประมูลครั้งใหญ่ที่หอประมูลเฟิงเซียง ดังนั้นจึงมาร่วมด้วย

ไม่ได้เจอหน้าหลายวัน สีหน้าของนางดูเหมือนจะสุขุมขึ้น แม้แต่รอยยิ้มก็ยังเปลี่ยนไปมาก

หรือว่านางมีช่วงเวลาที่เลวรายที่จวนหานอ๋อง

เจ๋ออ๋องอยากจะเข้าไปทักทายนาง แต่เท้าของเขาเหมือนถูกรั้งด้วยตะกั่วจนขยับไม่ได้

กู้ชูอวิ๋นออกมา แววตาของนางดูซับซ้อนและลึกซึ้ง ไม่รู้ว่าจำกู้ชูหน่วนได้หรือไม่

สิ่งที่เห็นได้ก็คือแววตาของนางดูแหลมคมขึ้นมาก

“ท่านทั้งสอง ที่นี่มีคนมากมาย ทำไมจึงไม่ตามข้าขึ้นไปที่ชั้นสามล่ะ” เสี่ยวลู่เอ่ยยิ้มๆ

“เอาสิ” กู้ชูหน่วนตอบตกลงทันที

นางไม่ได้สังเกตว่าปกติที่ชั้นสามไม่ค่อยเชิญบุคคลภายนอกเข้ามา

มีเพียงเจ้าภาพของหอประมูลเฟิงเซียงเท่านั้นที่เข้าไปได้ ทว่าตอนนี้ทั้งคู่กลับได้รับเชิญให้เข้าไปในนั้น

ผู้คนในหอประมูลพากันตกตะลึงอีกครั้ง

“หรือว่าสองคนนี้จะรวยยิ่งกว่าท่านอ๋องเทพแห่งสงคราม เสี่ยวลู่จึงได้พาพวกเขาไปที่ชั้นสามด้วยตัวเองแบบนี้”

“ข้าว่าก็เป็นไปได้ ตอนนั้นท่านอ๋องเทพแห่งสงครามกับพระชายายังไม่มีสิทธิ์จะขึ้นไปที่ชั้นสามเลย”

“หรือว่าจะเป็นเถ้าแก่ใหญ่ของหอประมูล”

“เป็นไปไม่ได้หรอกน่า เถ้าแก่ของหอประมูลเฟิงเซียงเป็นใครก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำมิใช่รึ”

เยี่ยจิ่งหานไม่พูดอะไรและเดินตามพวกนางขึ้นไปที่ชั้นสาม

ในใจเอาแต่ครุ่นคิดถึงนัยแฝงที่คนของหอประมูลเฟิงเซียงเชิญพวกเขาขึ้นมาที่ชั้นนี้

แววตาของกู้ชูอวิ๋นมีประกายของความอิจฉาริษยา อิจฉาริษยาอย่างรุนแรง

ในห้องส่วนตัวบนชั้นสาม

กู้ชูหน่วนจิบชาพลางยิ้มอย่างชั่วร้าย “ท่านพี่เสี่ยวลู่ คราวนี้พวกท่านมีของดีๆ อะไรมาประมูลอีกหรือ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าต้องเป็นของดี ถ้าไม่ดี คราวหน้าข้าจะไม่มาอีกแล้ว”

“ดูท่านพูดสิ พวกเราหอประมูลเฟิงเซียง ของไม่ดีไม่ประมูล ประมูลแต่ของมีคุณภาพ รับรองว่าท่านต้องชอบ”

“จริงสิ ข้ามีของบางอย่าง พวกท่านช่วยนำไปออกประมูลให้หน่อยได้หรือไม่”

“โอ๊ะ… ของสิ่งใดหรือ”

ไม่เพียงแต่เสี่ยวลู่เท่านั้น แม้แต่เยี่ยจิ่งหานก็ยังหันไปมอง อยากรู้ว่าในมือของนางมีของดีอะไร

เยี่ยจิ่งหานยังไม่ลืมว่าไข่มุกมังกรลูกที่ห้าหายไปในมือนาง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไข่มุกมังกรนั้นจะตกไปอยู่ในมือของเผ่าหยกแล้ว

กู้ชูหน่วนเหลือบมองเยี่ยจิ่งหานราวกับพะว้าพะวัง ไม่รู้ว่ากำลังคิดถึงการยกโทษและการที่เยี่ยจิ่งหานปฏิบัติต่อนางอย่างดีหรือเปล่า

กู้ชูหน่วนแกว่งมือและหยิบขวดยาทั้งขวดออกมาจากวงแหวนอวกาศ

ยังไม่ทันจะเปิดขวดยา พลังวิญญาณอันเข้มขึ้นก็แผ่กระจายออกมาทั่วห้อง