เมื่อเสี่ยวหลัวมีข้อสงสัยเขาถามในใจว่า: “ระบบร่างกายของราชาทหารรับจ้างส่งผลกระทบต่อจิตใจและอารมณ์ของฉันหรือเปล่า?”

“ติ้ง! ร่างกายของราชาทหารรับจ้าง คือการทำให้โฮสต์สามารถครอบครองความสามารถของราชาทหารรับจ้างได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงความแข็งแกร่งทางร่างกายประสบการณ์การต่อสู้ปฏิกิริยาตอบสนองและความเข้าใจในสรรพอาวุธ โดยธรรมชาติแล้วอารมณ์และความรู้สึกของโฮตส์ก็รวมอยู่ด้วย เมื่อแลกเปลี่ยนแล้วโฮสต์จะเป็นทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วพวกทหารรับจ้างก็มีด้านที่เลือดเย็น”

“มันกลับกลายเป็นเช่นนี้!”

เสี่ยวหลัว ถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาก็นึกว่าเขากำลังประสบกับบุคลิกที่แปลกแยกไปซะแล้ว

ในเวลานั้น อันหวน ผู้ที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นก็วิ่งเข้ามาหาเสี่ยวหลัว เธอถือกระดานวาดภาพแล้วรีบวิ่งเข้ามาหาเขาทันที“เทพหลัว คุณจัดการกับคนร้ายแล้วหรือยัง?”

“อืม … .”

เสี่ยวหลัวพยักหน้า หลังจากที่เขาคิดว่าอันหวนแสดงออกมาอย่างสงบนิ่งเกินไป ตอนนี้เธอกลับกล้าที่จะวิ่งเข้ามาหาเขาอีก เธอไม่เหมือนกับพวกผู้หญิงธรรมดาที่หวาดกลัวและโง่เขลาพวกนั้นเลย? เขาถามว่า“ตอนที่มันกำลังกำคอของคุณ คุณไม่กลัวเลยเหรอ?”

“ฉันกลัวมาก แต่เมื่อฉันเห็นคุณ ฉันก็ไม่กลัวแล้ว เมื่อคุณกอดฉัน ขณะที่ฉันกำลังถลาลงพื้น ฉันรู้สึกว่าเราเป็นเหมือนกับพวกตัวละครเอกและตัวละครหญิงในพวกหนังกังฟูอะไรเทือกนั้น” อันหวน ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เส้นสีดำปรากฏขึ้นที่หน้าผากของเสี่ยวหลัว เขาหละเชื่อจริงๆ ในช่วงเวลาที่อันตรายเช่นนี้ แต่ อันหวน เธอก็ยังนึกถึงฉากในภาพยนตร์อีก แต่เมื่อเขาคิดถึงฉากนั้นอย่างละเอียดอีกที ในช่วงเวลานั้นที่เขาโอบกอด อันหวน ในเวลานั้นเขาก็คิดว่ามันช่างเหมือนกับฉากที่ปรากฏขึ้นในละครจริงๆ

“เทพหลัว ฉันเห็นราชินีชู กับ ไป่หลิง และก็เจ้าสารเลวนั่น มันเป็นคนที่มาทำร้ายราชินีชู ใช่ไหม?” อันหวน พูดถามขึ้นมาทันที

ขณะที่ เสี่ยวหลัว กำลังจะปฏิเสธมัน อันหวน ก็กล่าวต่อว่า“คุณมาที่นี่เพราะราชินีชู ใช่ไหม คุณมาที่นี่เพื่อปกป้องเธอ ใช่ไหม?”

“อันหวน คุณมีจินตนาการที่บันเจิดจริงๆ” เสี่ยวหลัว กล่าวพร้อมขมวดคิ้ว

“เทพหลัว คุณอย่าปฏิเสธเลย ฉันได้ยินการสนทนาของคุณกับคนร้ายคนนั้นหมดแล้ว ตอนที่คุณเหยียบและหักนิ้วของเขา คุณเป็นผู้คุ้มกันของราชินีชู ใช่ไหม” อันหวน ชี้ไปยังทิศทางที่ เสี่ยวหลัว จากมา

เดิมทีเขาต้องการที่จะพูดอะไรกลบเกลื่อน แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะทำไม่ได้แล้ว

เสี่ยวหลัวถอนหายใจและพูดอย่างจริงจังว่า “เก็บเป็นความลับสำหรับเราสองคนได้ไหม”

“ได้ แต่คุณต้องสัญญากับฉันสองสิ่ง”

อันหวน เอนกายเข้ามาใกล้เขาและพูดออกมาอย่างมีเสน่ห์ขณะที่เธอมองเขาอย่างคาดหวังด้วยดวงตาที่เปร่งประกายของเธอ

เสี่ยวหลัวรู้ว่านี่คือผลที่ตามมา “สองสิ่งมันคืออะไร?”

“สิ่งแรกก็คือคุณต้องสอนกังฟูให้ฉัน ฉันอยากที่จะเก่งขึ้นให้มากเท่าที่จะทำได้”

“เรียนกังฟู?”

เสี่ยวหลัวตกตะลึง แล้วจากนนั้นเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่า เขาสามารถใช้เวลาสอนกังฟูจงใจทำให้อันหวนทนทุกข์ทรมานจนมันทำให้เธอหมดหวังต่อเขาได้ แล้วจากนั้นเขาก็เห็นด้วยอย่างร่าเริงกับความคิดนี้ในทันที“คำขอนี้ไม่มากเกินไปฉันเห็นด้วย”

“อย่าที่สองคือการออกเดทกับฉัน” อันหวน กระพริบปริบๆ

ออกเดท?

เสี่ยวหลัวรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วทั้งตัวแล้วปฏิเสธอย่างเด็ดขาด“ไม่!”

ไม่มีทางที่เขาจะออกเดทกับนักศึกษามหาลัย ซึ่ง อันหวน ก็เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย แม้ว่าเขาต้องการที่จะเดท เขาก็จะเดทกับผู้หญิงที่เริ่มทำงานในสังคมแล้วเท่านั้น

“ทำไม ไม่ได้หละ?”

อันหวน ขบริบฝีปากอย่างกระวนกระวาย

“คุณกำลังจะตกหลุมรักผิดคนแล้ว อย่าเลือกทางผิดเลย ฉันไม่เหมาะกับคุณจริงๆ และตอนนี้คุณก็รู้แล้ว ว่าฉันเป็นผู้คุ้มกันของชูเยว่ ฉันไม่ใช่นักศึกษาอย่างคุณ เราทั้งสองมาจากโลกที่แตกต่างกัน”

“แต่ฉันชอบคุณ”

อันหวน จับแขนเสี่ยวหลัวแน่น“เทพหลัว ฉันไม่เคยจริงจังแบบนี้กับใครมาก่อน ตอนที่ฉันเห็นคุณครั้งแรก ฉันรู้สึกว่าคุณมีกลิ่นอายที่พิเศษแตกต่างออกไป คุณดึงดูดฉัน และหลังจากนั้นในการอภิปรายที่ดุเดือดของคุณกับ รั่วหราน มันก็ทำให้ฉันตกหลุมรักคุณเข้าอย่างจัง ในสายตาของฉันคุณคือคนที่สมบูรณ์แบบที่สุดของฉันแล้ว”

เสี่ยวหลัวผลักเธอออกไปเบาๆ แล้วพูดอย่างเคร่งขรึมว่า“เชื่อฉันเถอะ หลังจากที่คุณจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยไป คุณจะพบว่าการกระทำในปัจจุบันของคุณนั้นมันเหมือนเด็กมากแค่ไหน”

“ฉันไม่สน ถ้าคุณไม่เห็นด้วย ฉันจะบอกทุกคน ว่าคุณเป็นผู้คุ้มกันของราชินีชู” อันหวน เริ่มทำตัวไม่มีเหตุผล

เสี่ยวหลัวไม่ใช่คนที่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับผู้หญิง การแสดงออกของเขาเปลี่ยนไปในทันที เขาพูดอย่างเย็นชาว่า“ฉันเกลียด คนที่มาข่มขู่ฉัน!”

เขาไม่ต้องการจะพูดอะไรอีกแล้ว เขาเดินออกไปอย่างรวดเร็วในทันที

อันหวน ตื่นตระหนกในทันทีที่เสี่ยวหลัวโกรธ เธอวิ่งไล่ตามเขาและหยุดเขาไว้“โอเค โอเค ฉันจะไม่ขู่คุณอีกแล้ว เทพหลัว อย่าโกรธไปเลยนะ”

เสี่ยวหลัวถอนหายใจออกมา แล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้“อันหวน คุณวางหัวใจให้กับผู้ชายที่คุณไม่รู้จักดีได้อย่างไร คุณไม่กลัวถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไง”

“เอาเปรียบ? ฉันจะถูกเอาเปรียบยังไง” อันหวน กระพริบตาปริบๆอย่างไม่เข้าใจ

เสี่ยวหลัวพูดไม่ออก เขาพูดออกไปตรงๆว่า“สิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับพวกผู้หญิง ไม่ใช่ร่างกายของพวกเธอเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ที่บนใบหน้าของ อันหวน ก็แดงราวกับลูกพีช“โอ้ เทพหลัว ที่แท้คุณก็…. คุณก็เป็นคนเช่นนี้…. เอง….”

“ฉัน ทำไม?”

เสี่ยวหลัวรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เขาคงไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ดีออกไปหรอกนะ

ในเวลานั้น อันหวน ก็ก้มศีรษะของเธอต่ำลงแล้วพูดออกมาด้วยความประหม่าว่า: “เทพหลัว ถ้าคุณต้องการ … เมื่อความสัมพันธ์ของเรามั่นคงฉัน … ฉันก็เต็มใจที่จะ … ” ขณะที่พูด เธอก็หันหน้าหนีเสี่ยวหลัวอย่างรวดเร็ว เธอรู้สึกเขินอายจนหน้าแดง

เต็มใจที่จะ?

ดวงตาของเสี่ยวหลัว เบิกกว้างตอนนี้เขาตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

เขาไม่ต้องการพูดอะไรอีกแล้ว เขารีบเดินออกไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว

อันหวนตะโกนไล่ตามหลังเขา ยิ่งเธอตะโกนดังขึ้นมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเดินเร็วมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เขารู้สึกว่าจำเป็นจะต้องหลีกหนีให้ห่างจากอันหวน ให้ได้

******

วันหยุดสุดสัปดาห์กำลังใกล้เข้ามาถึง จาง ซูซาน โทรมาและบอกว่าเขาต้องที่จะการทานอาหารกับเสี่ยวหลัวในคืนวันเสาร์

เมื่อเขารู้ว่าเสี่ยวหลัวมาเรียนที่มหาวิทยาลัยหัวเย่ ไมโครโฟนโทรศัพท์มือถือของเสี่ยวหลัวก็เกือบที่จะแตกด้วยเสียงอันดังของเขา

“อะไรนะ? แกอยู่ที่มหาลัยหัวเย่ งั้นเหรอ! ฉันบอกว่าให้แกไปหางานทำ แล้วไหงแกไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหัวเย่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่เนี้ย!” น้ำเสียงของ จาง ชูซาน เต็มไปด้วยความโมโห

“เมื่อเราพบกันในวันเสาร์ ฉันจะบอกอย่างละเอียดเอง เราไม่สามารถพูดเรื่องให้จบได้ภายในหนึ่งหรือสองประโยคจากทางโทรศัพท์” เสี่ยวหลัว กล่าว

“งั้น ฉันจะรีบไปที่หัวเย่ ประมาณ 19.00 น. ในคืนวันเสาร์ ”

หลังจากพูดประโยคนี้จบ คำพูดของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและกลายเป็นหื่นกาม“มีหญิงสาวสวยๆอยู่บ้างไหม? พาพวกเธอมาด้วยสักสองสามคนหน่อยสิ เราสามารถหาโอกาสที่จะทำให้พวกเธอเมาแล้วพาพวกเธอไปที่โรงแรมและมีค่ำคืนที่บ้าคลั่งได้นะ ฮิฮิ… ..”

“นายกำลังพยายามที่จะหาเรื่องติดคุกตลอดชีวิตงั้นหรือไง?” เสี่ยวหลัว กล่าว

“ไร้สาระหน่า ฉันมีความมั่นใจ 200% ที่จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นตกหลุมรักฉันหลังจากที่ฉันได้นอนกับเธอ”

“มั่นใจมากขนาดนั้นเลย?”

“ไม่กังวลไป ไอจ้อนของฉันขนาด 18 เซนติเมตร ว่าแต่ฉันเคยแสดงให้แกเห็นมาก่อนไหม”

“ไปพูดให้ไกลๆ ตีนเลยไป๊”

เสี่ยวหลัวตอบโต้เพียงสองคำเท่านั้นและวางหูโทรศัพท์ไป แล้วจากนั้นเขาก็เดินลงจากดาดฟ้าเพื่อกลับไปที่หอพัก

“พี่หลัว, ซ่ง เจียหนาน ได้โพสต์ข้อความความท้าทายพี่ลงในฟอรั่มมหาลัย เขาบอกว่าเขาจะตั้งเวทีที่ชมรมศิลปะการต่อสู้ซานต้าและรอพี่ในคืนวันเสาร์” เติ้งไค ยื่นโทรศัพท์มือถือไปให้ เสี่ยวหลัว ดู

เสี่ยวหลัว ไม่แม้แต่จะมองไปที่มัน เขานอนลงบนเตียง“อยากทำอะไรก็ทำไปเถอะ ฉันไม่มีเวลาไปเล่นกับมันหรอก”

“นอกจากข้อความท้ารบของ ซ่ง เจียหนาน แล้ว พี่หลัว สุดหล่อ พี่ก็เตะ จ้าง ชิงเหอ และลูกน้องของเขาในโรงอาหารเมื่อสองสามวันก่อน ข่าวมันแพร่กระจายออกไปราวกับไฟป่า ในตอนนี้พี่มีชื่อเสียงในหัวเย่แล้ว ชมรมเทควันโด ชมรมคาราเต้ ชมรมศิลปะการต่อสู้ และชมรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการต่อสู้ ต่างก็พูดไว้ว่าลูกเตะที่พี่ส่งไปยัง จ้าว ชิงเหอ นั้นเป็นของปลอม พวกเขากำลังรอดูพี่ถูก ซ่ง เจียหนาน อัดในคืนวันเสาร์!” จูเสี่ยวเฟย กล่าวเสริมขณะที่เขามองดูผ่านฟอรัมของมหาลัย

เสี่ยวหลัวอดไม่ได้ ที่จะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันตลกอยู่นิดหน่อย สิ่งที่เกิดขึ้นกับนักศึกษามหาวิทยาลัยทุกวันนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ขยันเกี่ยวกับการศึกษา แต่พวกเขากลับขยันอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องเล็กน้อยประเภทนี้!