บทที่ 32 มีไอ้หน้าละอ่อนอีกคน ได้คืบเอาศอก

รักหวานอมเปรี้ยว

มายมิ้นท์เห็นหน้าบวมช้ำของเจ้าเด็กแสบ ก็ถอนหายใจยาวๆ ไม่พูดไร้สาระกับเขาอีก เปิดประตูรถแล้วขึ้นไป

ปีโป้ไม่เห็นตัวเองเป็นคนนอกอย่างแท้จริง ลงมือพลิกตรงนี้ที ตรงนั้นที

รถมายมิ้นท์เป็นรถมาตรฐาน แต่ปีโป้ตัวสูง ขายาวหดใต้เบาะนั่งอย่างลำบาก เขาคิดว่าเป็นปัญหาของรถมากกว่า “รถบ้าอะไร ขาฉันวางไม่ได้! เฮ้ ตอนหย่าทำไมคุณไม่รู้จักขอรถสักคันจากพี่ฉัน?”

“อยากนั่งก็นั่ง ไม่นั่งก็ไสหัวลงไป” มายมิ้นท์พูดอย่างไม่เกรงใจ ไม่อยากชินกับเจ้านี่เลยสักนิด “ไปนั่งรถหรูของพี่ชายนายสิ!”

ปีโป้ “……”

ไม่นานรถก็มาถึงโรงรถใต้ดินคอนโดพราวฟ้า

หลังจากปีโป้เห็นมายมิ้นท์ลงจากรถ ก็รีบผลักประตูลงมา เดินตามหลังเธอด้วยจังหวะเดียวกัน “ได้ยินว่าราคาบ้านที่นี่ไม่ถูก คุณเอาดวงใจสีครามอันนั้นไปขายมาใช่ไหม เพื่อซื้อบ้านหลังนี้?”

“ตอนหย่า พี่ชายฉันไม่ให้เงินคุณแม้แต่แดงเดียวจริงๆ เหรอ?”

“เฮ้ คุณป่วยหรือเปล่า คุณเอาเงินจากพี่ชายฉัน ก็ไม่มีใครว่าคุณนะ!”

มายมิ้นท์เพิกเฉยคำพูดเขา ถึงขนาดเห็นเขาเป็นโปร่งแสงด้วยซ้ำ หลังจากมาถึงชั้น ก็กดลายนิ้วมือเข้าบ้าน

โชคดีที่ปีโป้เคลื่อนไหวรวดเร็ว ไม่อย่างนั้นจะถูกเธอขังไว้ด้านนอก

ปีโป้โกรธจนหน้าเขียวไปหมด อยากจะด่ามายมิ้นท์ แต่พอคิดว่าตอนกลางคืนมีที่นอนหลับ เขาก็ทำเสียงฮึดฮัด ไม่โต้เถียงกับมายมิ้นท์

เห็นมายมิ้นท์เดินไปที่คอนโซลตรงกลาง ปีโป้ก็ตะโกนใส่เธอ “ฉันอยากกินบะหมี่เนื้อ สองชาม!”

ถึงเขาจะไม่ชินกับมายมิ้นท์ แต่ฝีมือการทำอาหารของมายมิ้นท์นั้นดีมาก อย่างน้อยก็เหมาะกับกระเพาะของเขา

ก่อนหน้านี้ตอนที่มายมิ้นท์อยู่ตระกูลนวบดินทร์ ตอนไปโรงเรียนอาหารกลางวันของเขาก็มายมิ้นท์เป็นคนเตรียม หลังจากมายมิ้นท์ออกไปจากตระกูลนวบดินทร์แล้ว พิศมัยก็เชิญเชฟ เชฟนั้นเรียกตัวเองว่ามาจากโรงแรมห้าดาว ผลสุดท้ายอาหารที่ทำออกมาไม่อร่อยสักนิด เทียบมายมิ้นท์ไม่ได้

“บะหมี่น้ำใส จะกินไหม!” มายมิ้นท์ไม่หันศีรษะกลับมา พูดขึ้นอย่างเย็นชา “กล่องยาอยู่ที่ช่องสองของล็อกเกอร์ ไปเอาเอง”

“……”

แปลกจริงๆ ผู้หญิงคนนี้แค่หย่ากับพี่ชายเขาเท่านั้น ทำไมรู้สึกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน?

ปีโป้ในใจก็แขวะมายมิ้นท์ไปหนึ่งรอบ ไม่เต็มใจไปเอากล่องยาในล็อกเกอร์ เจอสเปรย์ยาพ่น ก็ฉีดที่แผลบนหน้า

เห็นว่ามายมิ้นท์กำลังทำอาหารเย็นอยู่ ปีโป้จึงเดินเล่นไปทั่ว พบห้องนอนเล็กห้องหนึ่งว่างอยู่ ภายในห้องนอนหลักอีกห้องมีแค่เสื้อผ้า เครื่องสำอางของมายมิ้นท์เท่านั้น ไม่เห็นร่องรอยชายอื่นเลย

หรือว่าไอ้หน้าละอ่อนที่ชื่อว่าราเม็งไม่ได้อยู่ที่นี่?

ปีโป้เดินไปที่หน้าโต๊ะทำงานริมบานประตูกระจก เห็นโน้ตบุ๊ก ปากกา และกล่องเหล็กเก่าๆ ที่เปิดไว้ครึ่งหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ เขามองไปที่ประตูทางเข้า จากนั้นก็เปิดกล่องเหล็กเก่าๆ นั้นเงียบๆ

ภายในกล่องเหล็กเก่าๆ เต็มไปด้วยซองจดหมายสีเหลือง

ปีโป้ไม่ได้อดทนกับความอยากรู้อยากเห็น หยิบซองจดหมายหนึ่งขึ้นมาแกะ หลังจากอ่านจบ ก็พบว่าเป็นการสื่อสารกับเพื่อนทางจดหมายของมายมิ้นท์กับคนหนึ่งที่ชื่อว่า “ข้าวก้อง” แบ่งปันสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการใช้ชีวิตกับเขา และถามเขาถึงสุภาพร่างกายคุณย่าว่าเป็นอย่างไรบ้าง

ดูเวลาที่จารึกไว้ด้านล่างสุดของจดหมาย ปีโป้ก็ดูถูกอย่างมาก “เฮอะ ยัยบ้านี่ไม่ยอมตั้งใจเรียน แถมยังเดทบนโลกออนไลน์ ทำไมไม่ถูกหลอกนะ!”

เขาบอกว่าหลังจากหย่ากับพี่ชายเขาแล้วทำไมนิสัยเปลี่ยนไปมาก ที่แท้มายมิ้นท์ก็เป็นคนประพฤติไม่ดีแบบนี้!

“ปีโป้” นอกห้องนอนมีเสียงมายมิ้นท์ดังผ่านเข้ามาด้วยความหงุดหงิดอย่างมาก “สิบนาที ถ้านายไม่มากินบะหมี่ ฉันจะคว่ำมันแล้ว!”

เชี่ย ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะขู่เขา!

ปีโป้โกรธมาก ยัดจดหมายนั้นใส่กระเป๋าชุดนักเรียนตัวเองแบบลวกๆ ในใจก็แอบพูด: เขาจะต้องเอามันกลับไปให้พี่ชายเขาดู บอกพี่ชายเขา แต่ก่อนตอนที่มายมิ้นท์เรียนหนังสือ ได้เดทกับคนอื่นบนโลกออนไลน์!

ปีโป้ไปที่ห้องครัว เห็นโต๊ะอาหารวางบะหมี่เนื้อไว้หนึ่งชาม รู้สึกว่ามายมิ้นท์ยังรู้ว่าอะไรควรไม่ควร จึงนั่งลงกินบะหมี่

มายมิ้นท์นั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา “ทำไมไปต่อยตีกับคนอื่น?”

“ต้องให้คุณยุ่งด้วยหรือไง!”

“ฉันยุ่งนายไม่ได้สินะ” นิ้วมายมิ้นท์เคาะบนโต๊ะ ยิ้มบางๆ “งั้นฉันเรียกพี่ชายมาดีกว่าเนอะ”

ปีโป้เมื่อได้ยินเธอพูดคำนี้ คิ้วที่ยกขึ้นก็คว่ำลง นานสักพักถึงเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ “ในห้องเรียนฉันมีเด็กนักเรียนหญิงโดนพวกมันรังแกอยู่บ่อยๆ พวกมันตัดผมเธอด้วย ฉันเห็นแล้วไม่ชอบ ก็เลยต่อยกับพวกมัน……”

ใครจะไปรู้ว่าตอนต่อยกับพวกมัน มีตำรวจนอกเวรผ่านมาพอดี จากนั้นพวกเขาก็เลยถูกพาเข้าสถานีตำรวจ

“ดูไม่ออกเลยว่านายก็ยืนหยัดความถูกต้อง” มายมิ้นท์พูด

เพราะปีโป้มีนิสัยชั่วร้าย ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ตระกูลนวบดินทร์ ชอบมุ่งเป้ามาที่เธอ ดังนั้นเรื่องของเขา มายมิ้นท์ไม่สนใจ ให้เปปเปอร์จัดการทั้งหมด

ปีโป้เบ้ปาก “ฉันแค่ไม่ชอบที่พวกผู้ชายอย่างพวกมัน รังแกเด็กผู้หญิงคนเดียวก็เท่านั้น”

เขากินบะหมี่พลางถามมายมิ้นท์ “จริงสิ เมื่อกี้ฉันอยากจะถามว่าไอ้หน้าละอ่อนคนนั้นล่ะ ไม่อยู่กับคุณเหรอ?”

“คนไหน?”

“ไอ้คนที่ชื่อราเม็งน่ะ!” ปีโป้กลอกตา แล้วพูดอย่างคลุมเครือ “เมื่อกี้ฉันไปที่ห้องคุณดูแล้ว ไม่มีเสื้อผ้าผู้ชายเลย”

มายมิ้นท์ไม่พอใจอย่างมากกับวิธีการของเขาที่เป็นแขกบ้านคนอื่น แต่ไปสอดแนมของใช้ส่วนตัวคนอื่น

เธอเอามือเท้าคางมองเจ้าเด็กแสบ ปากแดงกระตุก “ไม่มีราเม็ง แต่ยังมีไอ้หน้าละอ่อนอีกคน ได้คืบเอาศอก”

ได้คืบเอาศอก?

ปีโป้ตกตะลึง เห็นมายมิ้นท์จ้องตนตลอดเวลา ไม่นานก็เข้าใจความหมายในคำพูดเธอ ก็สำลักบะหมี่อีกครั้ง

“คุณมันไร้ยางอายจริงๆ!” ปีโป้ด่าเธอ โกรธจนหน้าแดงไปหมด “ฉันอายุแค่สิบหก เป็นน้องชายแท้ๆ ของอดีตสามีคุณนะ ค-คุณกล้าคิดไปไกลเหรอ!”

มายมิ้นท์ถามเขาอย่างเกียจคร้าน “ฉันยังมีภาพลักษณ์ในใจนายอยู่ไหม ไม่ใช่ว่าเห็นผู้ชายแล้วคิดจะยั่วยวน?”

“……” ปีโป้สะอึกจนพูดไม่ออก

กินข้าวเสร็จแล้ว ปีโป้จะเป็นจะตายก็ไม่ยอมออกไป ต้องการนอนบนโซฟา

เห็นว่าผลักเขาไม่ขยับ มายมิ้นท์จึงไปหาโทรศัพท์

ปีโป้เห็นเธอกดเบอร์พี่ชายตัวเอง ก็รีบพุ่งเข้าไปเพื่อแย่งโทรศัพท์กับเธอ “ไม่อนุญาตให้โทร คุณรีบวางเลย”

“ถ้านายไม่ไป ฉันจะเรียกให้พี่ชายนายมา” มายมิ้นท์หลบซ้ายหลบขวา ไม่ให้เขาแย่งไป

“พี่! สะใภ้!”

“นายเรียกฉันว่าพี่สะใภ้ร้อยรอบก็ไม่มีประโยชน์ จะไปหรือจะให้ฉันให้พี่ชายนายมา”

ปีโป้เห็นโทรศัพท์เชื่อมต่อได้แล้ว ก็รีบพุ่งเข้าไป แย่งโทรศัพท์จากมือมายมิ้นท์มาแล้วกดวาง

และมายมิ้นท์ไม่ทันระวัง ทั้งร่างล้มไปบนโซฟา ถึงแม้ด้านหลังโซฟาจะนุ่ม แต่ศีรษะกระแทกอย่างแรง มันก็เจ็บมาก

หลังจากวางโทรศัพท์ไป ปีโป้ก็โล่งอก จากนั้นก็สังเกตเห็นมายมิ้นท์ที่โดนเหวี่ยงไปที่โซฟาน่าจะล้มลง เธอขมวดคิ้วเรียว ชายเสื้อม้วนขึ้นมาเผยให้เห็นเอวคอดขาวเนียน และ……

“PEPPER?” ปีโป้สายตาดีมาก เห็นข้างเอวขวาของมายมิ้นท์สักตัวอักษรไม่กี่ตัว

เขานึกถึงความหมายของตัวอักษรไม่กี่ตัวนี้ได้อย่างรวดเร็ว มองมายมิ้นท์อย่างตกตะลึง “คุณ……สักชื่อพี่ชายฉันไว้บนตัวเหรอ?”

ในเวลานี้ ออดประตูก็ดังขึ้น