ตอนที่ 208 ไม่ลงรอย

หยางโปนั่งข้างๆ และในที่สุดเขาก็เข้าใจในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดมาก่อน หยางหล่างน่าจะเอาบ้านไปขาย!

นี่คือสิ่งที่หยางโปไม่เคยคิดถึง เพราะในความคิดของเขาบ้านหลังนี้เป็นที่อยู่ที่สำคัญสำหรับหยางหลาง แต่ว่าเขาไม่ได้พิจารณาว่าสำหรับนักพนันแล้วไม่มีอะไรที่ไม่สามารถขายได้

หลังจากที่ซื้อบ้าน หยางโปก็ไม่ได้ถามอะไร เขาคิดไม่ถึงเลยว่าพ่อจะโอนบ้านให้กับหยางหลาง แบบนี้มันก็สะดวกสำหรับการกระทำของหยางหล่างอย่างไม่ต้องสงสัย!

พ่อหยางนึกถึงเรื่องนี้แล้วในไม่ช้า ก็จ้องไปที่หยางหลาง กล่าวด้วยเสียงโกรธเคือง “บอกมา! แกเอาบ้านไปขายแล้วใช่ไหม?”

 

หยางหลางตกใจกลัวจนตัวสั่น ไม่ ไม่ใช่!

พ่อหยางจ้องอย่างโกรธเคือง ถ้าขายจริงๆ แกคิดว่าแกจะสามารถปกปิดได้สักกี่วัน? ฉันเดาว่าถ้าไม่ใช่เพราะฉันเข้าโรงพยาบาลและไม่มีใครอยู่บ้าน ตอนนี้คงมีคนกำลังไปที่บ้านเพื่อดูบ้านแล้วใช่ไหม!”

หยางหลางมองพ่อ แล้วพูดด้วยเสียงอ่อน “นี่มันคือบ้านของผม ทำไมผมจะขายมันไม่ได้?”

“บ้านของแกเหรอ? ก็แค่ใส่ชื่อแกไปเท่านั้น แกพูดแบบนี้ได้ยังไง?” พ่อหยางจ้องหน้าแล้วกล่าว

หลานเย่วยืนยิ้มอยู่ข้างๆ เหมือนเดิม “บ้านก็ขายไปแล้ว มาคุยตอนนี้จะมีประโยชน์อะไร?”

พ่อหยางเงยหน้าขึ้นมองบังเอิญเห็นรอยยิ้มของหลานเยว่ “เป็นเพราะเธอ เพราะเธอคนเดียว คืนลูกชายของฉันมา! ลูกชายของฉันเป็นคนฉลาดรู้ว่าอะไรควรไม่ควรมาตลอด ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ เขาจะขายบ้านไปได้ยังไง?”

 

หลานเยว่ชำเลืองมอง แค่นเสียงคำหนึ่ง แล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่าง “ลุงจะมาโทษหนูได้ยังไง? ลุงป้าเลี้ยงดูลูกชายมายี่สิบกว่าปี หนูอยู่กับเขาแค่ไม่กี่วัน? จะมาโทษหนูแบบนี้ได้ยังไง?

“เธอ!” พ่อหยางโกรธมาก เขาชี้ไปที่หลานเยว่อยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไรเลย

หยางโปเงยหน้าขึ้นและเห็นมือขวาของพ่อหยางยื่นออกไป แข็งอยู่ในท่านั้นไปชั่วขณะหนึ่ง เขาก็เห็นพ่อหยางตาค้าง แล้วล้มไปข้างหลัง

“ตาแก่!” แม่หยางนั่งอยู่ข้างเตียงร้องไห้ออกมาแล้วก็กรีดร้องเมื่อเธอเห็นพ่อหยางล้มลงไป

หยางโป กดกริ่งที่หน้าเตียงแล้ววิ่งออกไปอีกครั้งตะโกนที่ทางเดิน: “หมอ! หมอ!”

 

ในไม่ช้าหมอก็มาถึงและพ่อหยางก็ถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน แม่หยางร้องไห้ออกมา หยางหลางก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน นี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ เขาหวังว่าพ่อของเขาจะมีอายุยืนยาว สามารถเป็นที่พึ่งของเขาได้ ทำให้เขาอยู่กินได้ตลอดชีวิต

หยางหลางกังวลใจแล้วเขาก็ตวาดใส่หลานเยว่ “คุณจะไปยั่วให้เขาโกรธทำไม? นี่คุณพยายามจะทำให้เขาโกรธมากใช่ไหม?”

หลานเยว่กรอกตา “จริงเหรอ? คุณก็คิดว่าฉันทำให้พ่อของคุณโกรธเหรอ? ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เป็นเพราะคุณเหรอ?”

หยางโปมองดูอยู่แล้วหันหน้าไปมองทางอื่น เขาดูๆ ไปแล้ว หลานเยว่ไม่ใช่คนที่น่าคบค้าสมาคมด้วยเลย ถ้าได้อยู่ด้วยกันจริงๆ ต่อไปหยางหล่างจะต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแน่นอน!

 

ตั้งแต่ห้าโมงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม หยางโปก็จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปแล้วสองหมื่นหยวน แล้วก็กลับมานั่งรอจนกว่าการผ่าตัดจะเสร็จสิ้น เมื่อหมอออกมาแจ้งว่าปลอดภัยแล้ว ทุกคนก็โล่งใจ

หยางโปเข้าไปดูในห้องจึงรู้ว่าพ่อหยางนั้นพ้นขีดอันตรายแล้ว

ตลอดทั้งคืนทุกคนอยู่ห้อมล้อมพ่อหยางกันหมด ทุกคนล้วนมีความคิดเป็นของตนเอง

ในที่สุดก็ถึงยามฟ้าสาง หลานเยว่เริ่มกล่าวกับแม่หยาง “ป้า หนูทนไม่ไหวแล้ว หนูกลับไปพักผ่อนก่อน เดี๋ยวกลับมาจะต้มซุปมาให้”

แม่หยางพยักหน้า “อืม งั้นเธอก็กลับไปก่อนเถอะ!”

 

เวลานั้นหยางโปเดินกลับมาพอดี ในมือถือถุงอาหารเช้าเขาเอาซาลาเปาซุป และโจ๊กส่งให้แม่กับน้าชาย ที่เหลือวางไว้บนโต๊ะชาแล้วเขาก็หันไปพูดกับแม่หยาง “วันนี้ผมจะออกไปทำธุระ เดี๋ยวจะกลับมาเย็นๆ นะ”

แม่หยางโบกมือ “งั้นก็รีบไปเถอะ!”

หยางโปพยักหน้า แล้วก็หันหลังออกไป

หยางหลางเมื่อเห็นร่างของหยางโปเดินออกไป “แม่ ผมก็มีธุระ ผมกลับไปนอนก่อน เดี๋ยวจะกลับมาในตอนเย็นนะ”

แม่หยางจ้องมอง “แกคิดได้ไหมนี่? พ่อแกนอนอยู่ที่นี่ แต่แกจะกลับไปนอนเอาตอนนี้เหรอ?”

 

หยางหลางตะลึงอยู่ เขาชี้ไปทางที่หยางโปออกไป “ทำไมเขาถึงออกไปได้?

“เพราะเขาออกไปทำงาน เขาจะได้จ่ายค่ารักษาพยาบาล แกหาเงินจากการนอนได้ไหม?” แม่หยางตำหนิ

หยางหล่างเงียบลงแล้วเขาก็ส่ายหัว

“เอาล่ะ ให้แฟนแกไปพักผ่อนก่อนเถอะ อยู่ที่นี่มาทั้งคืนแล้ว สาวๆ อยู่ได้ไม่นานนัก แม่หยางสั่ง

หลานเยว่เดินยิ้มออกไปจากห้องผู้ป่วย เดินไปถึงประตูทางเข้าหน้าโรงพยาบาล เธอก็ได้พบกับหยางโปที่กำลังเดินอยู่ข้างสวน เธอจึงเดินเข้าไปหา

“เฮ่! น้องชาย รอใครอยู่น่ะ?” หลานเยว่ยิ้มแล้วถาม

 

หยางโปหันมาหา “ผมรอคุณอยู่”

หลานเยว่ปิดปากแล้วหัวเราะ “รอฉัน? ฉันขอเดานะ คุณซาบซึ้งใจฉันมากใช่ไหม?”

หยางโปส่ายหัว “ผมคิดว่าคุณควรจะออกไปจากชีวิตของหยางหลาง สติปัญญาของเขาตามไม่ทันคุณหรอก!”

หลานเยว่หัวเราะฮิฮะ “ตามไม่ทันฉัน? บางทีฉันอาจจะรู้สึกดีกับเขาจริงๆ ก็ได้นะ! “

หยางโปขมวดคิ้วมองดูหลานเยว่เดินเข้ามาใกล้ๆ “คุณไม่มีความขุ่นเคืองกับเขาทำไมถึงทำเรื่องน่ากลุ้มใจแบบนั้น? ผมคิดว่าเขาขายบ้านไปแล้วและต้องให้เงินคุณอย่างแน่นอน ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ บางทีเงินนั้นอาจจะใช้จ่ายไปหมดแล้ว จะหาเรื่องกลุ้มใจเพิ่มมาอีกไปทำไม?”

 

หลานเยว่หัวเราะขึ้น “คุณว่า ถ้าพี่ชายอยู่บนตึกเห็นน้องชายกำลังหยอกล้อกับแฟนสาวของเขา แล้วเขาจะรู้สึกยังไง?”

พูดจบ หลานเยว่ขยับเข้ามาใกล้กับหยางโปมากขึ้นจนจมูกของเขาทั้งสองแตะกัน หยางโปรีบถอยห่างและตวาดไป “ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ยอมปล่อย หวังว่าคุณจะไม่ใช้ตะกร้าหวายตักน้ำนะ!”

พูดจบ หยางโปก็เดินไปขึ้นรถ และจากไปด้วยท่าทางไม่เกรงกลัวสิ่งใด

หลานเยว่เหลือบมองขึ้นไปชั้นบนและยิ้มอย่างมีเลศนัย เธอเข้าใจแล้วเรื่องหนึ่ง ถ้ามีเรื่องใหญ่โตไปอีก หยางโปจะสามารถส่งครอบครัวของพวกเขากลับไปที่ลี่ซุ่ยได้แน่นอน แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจ สุดท้ายสถานการณ์จะเริ่มซับซ้อนขึ้น มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้!

 

ในไม่ช้า หยางหลางก็วิ่งลงบันไดอย่างไม่หยุดหายใจและหลังจากลงมาเขาก็มุ่งหน้าไปยังหลานเยว่แล้วตวาด “ไอ้เด็กเวรนั่นพึ่งทำอะไรคุณลงไป? มันก็รู้ดีว่าคุณเป็นพี่สะใภ้ของเขานี่! “

“ที่รัก!” ความโศกเศร้าปรากฏบนใบหน้าของหลานเยว่ แล้วเข้าไปกอดหยางหลางจากนั้นก็ร้องไห้ออกมาเบาๆ

หลานเยว่ร้องไห้ หยางหลางเหมือนวิญญาณหลุดลอย เขารีบถาม “เยว่เอ๋อร์ คุณเป็นอะไร? ไอ้เด็กเวรนั่นมันรังแกคุณเหรอ บอกผมมา ผมจะเอามีดไปแทงมัน!”

หลานเยว่ส่ายหน้า แล้วยังคงร้องไห้ไม่หยุดอยู่พักหนึ่ง เธอจึงกระซิบ “หลางเอ๋อร์ฉันไม่ต้องการที่จะยั่วยุน้องชายของคุณ แต่รูปร่างหน้าตาของน้องชายของคุณดุร้ายจริงๆ เขาเพิ่งบอกว่าจะทำให้ฉันห่างจากคุณ ฉันไม่รับปากเขา แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เขาจะเอาเปรียบฉัน…”

“ฮือ ฮือ…”