บทที่ 36 การซุบซิบนินทาที่วอนหาเรื่อง

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

หลินจือเองก็รู้สึกพอใจกับตอนจบนี้อย่างมาก ดังนั้นเธอก็จึงถามเจเทาวน์ด้วยความกังวลเล็กน้อยว่า“แล้วคุณคิดว่า เทาเท่จะให้แก้บทละครเพราะซูซีหรือเปล่า?”

หลินจือใช้เกียรติตัวเองเป็นประกัน ตอนที่เธอเขียนบทละครเรื่องนี้ไม่เคยคิดอ้างอิงเรื่องราวในชีวิตจริงของตัวเองเขียนลงไปในตัวละครของเรื่อง

เธอดูจากความหลากหลายของโครงเรื่อง และมุมมองของผู้ชมที่อยากจะเห็นรวมถึงอีกหลายแง่มุมวางโครงเรื่องอย่างมีเหตุมีผลและคำนึงถึงภาพรวมของเรื่องราว เธอไม่คิดว่าซูซีจะคิดไปไกลถึงขนาดนี้

เจเทาวน์ตอบเธอเสียงเรียบ “นี่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าซูซีมีความสำคัญกับเทาเท่มากน้อยแค่ไหนแล้วล่ะ”

หลินจือหลุบตาลงแล้วพึมพำว่า “ฉันทราบแล้วค่ะ”

หลินจือรู้สึกว่า บทละครเรื่องนี้ดูท่าแล้วมีความเป็นไปได้เกินกว่าครึ่งว่าจะต้องได้แก้ไขมันอย่างแน่นอน

เทาเท่กับซูซีกำลังจะมีข่าวดีกันในอนาคตอันใกล้เขาจะไม่ฟังซูซีได้อย่างไร

อีกทั้งวันนี้เทาเท่ก็ยังพาซูซีไปประชุมด้วย นั้นก็บ่งชี้ว่าซูซีสามารถเข้ามาแทรกแซงกับบทละครของเรื่องนี้ได้

หลังจากที่ซูซีแต่งเข้าตระกูลฟอเรนา หากเพราะกังวลเรื่องภาพลักษณ์ของตระกูลฟอเรนาไม่สะดวกที่จะรับงานแสดงต่อ ความเป็นไปได้ของเธอก็คงจะมาเป็นผู้อำนวยการสร้างทำงานเบื้องหลังแทน ไม่แน่ว่าครั้งนี้เทาเท่อาจจะอยากกรุยทางวางพื้นฐานให้ซูซีก็ได้

เจเทาวน์ปลอบเธอที่เหมือนจะซึมเศร้าไปเล็กน้อย“คุณกลับไปพักผ่อนก่อน หากมีข่าวอะไรผมจะติดต่อไปหาคุณเอง”

หลินจือพยักหน้ารับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอรับงานเขียนบท เธออยู่ในวงการนี้มานานกว่าสี่ปีแล้ว เธอเข้าใจดีว่านักเขียนบทสู้อะไรไม่ได้กับเงินทุน

แม้แต่นักเขียนชื่อดังอย่างครูส บางครั้งก็ต้องยอมแพ้ให้กับเงินทุน แล้วนับประสาอะไรกับคนโนเนมอย่างเธอ

หลังจากที่หลินจือกลับถึงบ้านก็อาบน้ำแล้วเข้านอน อารมณ์ตลอดทั้งวันนี้ของเธอไม่ค่อยจะดีเท่าไร

เดิมทีครบรอบวันเสียชีวิตของแม่มันก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอยู่แล้ว แล้วยังมาเจอกับอุบัติเหตุอันสุดระทึกนี่อีก ในส่วนของงานก็มีแนวโน้มว่าอาจจะได้แก้บททุกเวลา เธอรู้สึกเหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ เมื่อยล้าอ่อนแรง

*

ตอนค่ำเทาเท่ไปทานอาหารจีนกับซูซี ระหว่างนั้นทั้งสองคนก็แทบไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย

ตลอดทั้งวันนี้อารมณ์ของเทาเท่ก็ไม่สู้ดีเท่าไร ราวกับตั้งแต่ที่หลินจือกลับมาเขาก็ไม่เคยอารมณ์ดีเลยสักวัน

ซูซีตักโจ๊กถ้วยหนึ่งแล้วยื่นให้เขา“ คุณบอกว่ากระเพาะของคุณไม่ค่อยดี กินโจ๊กสักหน่อยนะ”

เทาเท่ยื่นมือรับโจ๊กมาและพูดขอบคุณ ซูซีมองดูเขาและพูดอย่างขัดเขินเล็กน้อยว่า“เทาเท่คืนนี้ฉัน——”

เดิมทีซูซีต้องการจะบอกเขาว่าเธอขอไปค้างด้วยในคืนนี้ แต่แล้วโทรศัพท์มือถือของเทาเท่ก็ดังขึ้นในจังหวะนี้ คำพูดที่เธอตระเตรียมมาก็ถูกเก็บคืนกลับไป

เทาเท่วางโจ๊กในมือลงหยิบโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นออกไปรับซูซีโกรธจัดกำหมัดแน่นที่ใต้โต๊ะ

ตั้งแต่ที่รู้ว่าหลินจือกลับมา เธอก็รู้สึกวิตกกังวลไปเสียหมด ด้วยเหตุนี้ก็จึงพยายามอยากจะเสนอตัวให้กับเทาเท่อย่างไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้น

ในเมื่อหลินจือมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับเทาเท่ได้ จากข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกแล้วบังคับให้เทาเท่แต่งงานกับเธอ งั้นเธอก็ต้องทำมันได้

สายจากโซเมนโทรหาเทาเท่ โซเมนกำลังนินทาอย่างสนุกปาก“ นายดูข่าวหรือยัง?”

เทาเท่ตอบไปตามความจริง“ไม่ มีอะไร?”

โซเมนพูดด้วยใบหน้าที่มีความสุขว่า“ข่าวในทวิตเตอร์ ตอนนี้ขึ้นเทรนด์อันดับหนึ่งแล้ว ไอดอลชื่อดังปรากฏตัวขึ้นในคอนโดเก่า และจากที่ฉันรู้มา หลินจือเธอเช่าอยู่ที่คอนโดนั้น ”

ไม่รอให้เทาเท่ได้พูดอะไร โซเมนก็พูดตามจังหวะจะโคนต่อว่า“นักข่าวรู้ข่าวก็รีบตามกันไป และแฟนคลับก็ไปล้อมตึกที่เขาเข้าไปนั้นไว้แล้ว คืนนี้ดูท่าคงออกมาไม่ได้แน่ ”

“ดึกดื่นค่ำคืน นายว่าถ้าเขาอยู่กับหลินจือในห้องสองต่อสอง จิ๊จิ๊……”

เทาเท่ขบกรามแน่น รู้สึกเพียงว่าการซุบซิบนินทาของโซเมนนั้นวอนหาเรื่องจริงๆ