บทที่ 471 ประชุมบนตึกระฟ้า
บทที่ 471 ประชุมบนตึกระฟ้า
อวี้ฮ่าวหรานไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร เขาก็รีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที
“อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกเลยครับ พ่อคุณไปดูงานต่างมณฑลเป็นยังไงบ้างครับ?”
เฉิงชิวอวี้พยักหน้าทันทีที่ได้ยินคำถาม
“อืม สาขาที่มณฑลอื่นเกิดปัญหานิดหน่อยน่ะค่ะ พ่อคงจะเรียกประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาหลังจากกลับมา”
“ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกผมได้เสมอนะครับ”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าพร้อมกำชับอีกฝ่าย
บริษัทของเขาสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดแบบนี้ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากตระกูลเฉิง ซึ่งปกติแล้วเขาไม่ได้เป็นคนใจดำหรือไม่สำนึกบุญคุณ
ไม่นานอาหารก็ถูกยกมาเสิร์ฟ
“หือ? คุณรู้ได้ยังไงว่าผมชอบอะไร?”
อวี้ฮ่าวหรานเลิกคิ้วขณะมองอาหารบนโต๊ะด้วยความประหลาดใจ ถึงจะไม่ได้ลงมือทำเอง ทว่าเธอก็สั่งแต่อาหารที่เขาชอบทั้งนั้น
เฉิงชิวอวี้มีท่าทางลังเลที่จะพูดออกมา
“หืม…เพราะเป็นฉันยังไงล่ะ ถ้างั้นคราวหน้าขอเชิญประธานอวี้ไปกินข้าวที่บ้านฉันอีกนะคะ ฉันจะทำให้สุดฝีมือเลย”
อาหารเที่ยงเพิ่งยกมาเสิร์ฟ แต่เธอกลับเชิญชวนอีกฝ่ายไปรับประทานอาหารมื้อต่อไปแล้ว
“ดีเลย ถ้ายังไงก็คุณโทรมานัดผมก่อนนะครับ ครั้งนี้คุณช่วยผมไว้เยอะมากเลย”
อวี้ฮ่าวหรานตอบตกลงอย่างรวดเร็ว ไม่เหมือนที่ผ่านมา หลังจากคุ้นเคยกับหญิงสาวแล้ว ทั้งสองก็พูดคุยกันอย่างสบาย ๆ จนถึงเวลาเที่ยงครึ่ง
นอกร้านอาหาร
“ขอบคุณสำหรับมื้ออาหารครับ คุณกลับไปก่อนเถอะ วันนี้ผมมีประชุมใหญ่ที่บริษัทน่ะ”
“ฮ่า ๆ โอเค! ขอบคุณนะคะฮ่าวหราน วันนี้ฉันมีความสุขมาก”
เฉิงชิวอวี้ฉีกยิ้มกว้าง ใบหน้างดงามราวกับนางฟ้าของเธอดึงดูดความสนใจจากคนรอบข้างให้หันมองเป็นตาเดียวกัน
ผู้คนมากมายไม่สามารถละสายตาจากเธอได้
เป็นไปไม่ได้ที่จะมีหญิงสาวหน้าตางดงามขนาดนี้อยู่บนโลกมนุษย์
ไม่นาน รถเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำหลายคันก็แล่นเข้ามาใกล้คนทั้งสอง คนที่อยู่รอบ ๆ จึงตระหนักได้ทันทีว่าสาวงามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาที่พวกเขาจะแตะต้องได้
“คุณหนู ขึ้นรถเถอะครับ”
เป็นคนขับรถของเฉิงชิวอวี้ที่มารับเธอ
“คุณกลับก่อนเถอะครับ ผมต้องกลับไปที่บริษัท”
อวี้ฮ่าวหรานบอกลาอย่างไม่เป็นทางการ
“ฉันไม่รีบค่ะ ฉันจะรอคุณออกไปก่อน”
เฉิงชิวอวี้ยืนนิ่งไม่ยอมขึ้นไปบนรถ ขณะมองอวี้ฮ่าวหรานด้วยสายตาดื้อรั้น
ดูเหมือนว่าการได้มองดูชายตรงหน้าเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดในชีวิตสำหรับเธอ
“ครับ…งั้นผมขอตัวก่อน”
อวี้ฮ่าวหรานเป็นฝ่ายยอมแพ้ หลังจากบอกลา เขาก็หันหลังกลับแล้วจากไปทันที
เฉิงชิวอวี้จ้องมองรถสปอร์ตสีเหลืองสดใสเคลื่อนตัวออกไปจนลับตา
“เฮ้อ… ถ้าฉันได้มองเขาแบบนี้ทุกวันก็ดีน่ะสิ ฉันจะมองเขายี่สิบสี่ชั่วโมงแน่นอน”
“คุณหนู ขึ้นรถเถอะครับ…”
บอดี้การ์ดถึงกับพูดไม่ออก
คุณหนูตระกูลเฉิง ลูกสาวของประธานห้างสรรพสินค้าชื่อดังผู้งดงามกลายเป็นหญิงสาวคลั่งรักได้ยังไง?
ผู้ชายแบบไหนที่ทำให้เธอหลงรักหัวปักหัวปำอย่างนี้
“ไปกันเถอะ”
เฉิงชิวอวี้สั่งคนขับรถด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ
แต่เธอและบอดี้การ์ดไม่ทันสังเกตว่าด้านหลังรถสีดำมีค้างคาวตัวเล็กคลานอยู่!
ดวงตาสีเลือดของมันจ้องมองคนในรถผ่านกระจกหลังรถอย่างไม่วางตา!
…
“ประธานอวี้! กลับมาเร็วจังครับ”
หวังจุนทักทายเขาทันทีที่มาถึงชั้นบนสุดของอาคารเครือฮ่าวหราน
“ฉันเพิ่งไปเจอใครบางคนมาน่ะ”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า
“ทุกคนรออยู่ในห้องประชุมแล้วเหรอ?”
“ครับ ตอนนี้พวกตระกูลหลี่และทุกคนรอประธานอวี้อยู่ในห้องประชุมแล้วครับ”
“โอเค ไปกันเถอะ”
หลังจากได้ยินว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว อวี้ฮ่าวหรานจึงเดินตรงไปที่ห้องประชุมโดยไม่ลังเล
“ฮ่า ๆ คราวนี้เราจะได้อวดความยิ่งใหญ่แล้วสินะ”
ก่อนเข้าห้องประชุม เสียงของหลี่อิงไห่ก็ดังขึ้น
“เครือฮ่าวหรานมีรายได้มากมายขนาดนั้น ผมคิดว่าในอนาคตบริษัทอสังหาริมทรพย์ชิงปังต้องรุ่งเรืองมากแน่ ๆ”
“หวังว่าครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีสำหรับเราทุกคนนะ”
“…”
เมื่อได้ยินบทสนทนาที่ดังออกมาจากห้องประชุม อวี้ฮ่าวหรานก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจทันที
สุดท้ายแล้วคนพวกนี้ก็ไม่ได้มีเจตนาเหมือนผู้บริหารชุดเก่าของบริษัทจื่อจินและไม่มีใครตั้งตัวเป็นศัตรูกับเขา
ดูเหมือนว่าทุกคนจะรออยู่ในห้องประชุมนานแล้ว เมื่อประตูเปิดออกหนึ่งในพวกเขาก็เดินเข้ามา
“สวัสดีครับประธานอวี้!”
เมื่อเห็นว่าคนคนนั้นคือเจ้านายในอนาคต พวกเขาจึงลุกยืนขึ้นทักทายอย่างรวดเร็ว
“อืม พวกคุณดูกระตือรือร้นดีนะครับ”
มุมปากอวี้ฮ่าวหรานกระตุกยิ้มด้วยความพึงพอใจ
ขณะนี้ในห้องประชุมเต็มไปด้วยคนมากหน้าหลายตา ซึ่งทุกคนล้วนมีโอกาสเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเขา
ตอนนั้นเองหลี่อิงไห่ได้เริ่มพูดขึ้นเป็นคนแรก
“ประธานอวี้ ถ้าคุณให้โอกาส ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนครับ!”
“เอาล่ะ นั่งลงก่อนเถอะ ตอนนี้เราต้องแต่งตั้งผู้จัดการทั่วไปและรองผู้จัดการทั่วไปของบริษัทอสังหาฯ ชิงปัง”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้า ชายวัยกลางคนที่เคยเจอในวันเกิดผู้อาวุโสตระกูลหลี่ที่อยู่ข้างหน้าเขามีสีหน้าพึงพอใจอย่างมาก
“คุณไม่ต้องลงมติให้ยุ่งยากหรอกครับ ถ้าเป็นตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ผมคิดว่าหลี่อิงไห่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดครับ”
เจ้าของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ตระกูลหลี่เป็นคนพูด ซึ่งตอนนี้เขาได้รวมบริษัทตัวเองเข้ากับบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชิงปังและได้รับหุ้นแปดเปอร์เซ็นต์เป็นสิ่งตอบแทน
“แล้วพวกคุณล่ะ? คิดยังไงกันบ้าง?”
อวี้ฮ่าวหรานพยักหน้าก่อนมองไปรอบ ๆ พร้อมถามอย่างไม่เป็นทางการ
ไม่แปลกใจเลยที่ไม่มีใครคัดค้าน
ดูเหมือนว่าทักษะการสื่อสารของหลี่อิงไห่จะยังคงดีเยี่ยมเหมือนเดิม เพราะเขาสามารถโน้มน้าวใจคนเหล่านี้ได้ แม้เพิ่งเจอกันเพียงครึ่งวันเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชิงปังเป็นของคุณแล้ว”
หลังจากพิจารณาประสบการณ์และความสามารถของอีกฝ่าย อวี้ฮ่าวหรานจึงตอบตกลงทันที
และตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปก็ตกเป็นของคนตระกูลหลี่ที่ถือหุ้นแปดเปอร์เซ็นต์
ถึงอวี้ฮ่าวหรานจะไม่ได้สนใจตระกูลหลี่มากเท่าไหร่ แต่หลังจากลงมติแล้ว เขากลับเลือกคนตระกูลหลี่เป็นผู้บริหารระดับสูงอาวุโสอย่างไม่รู้ตัว
เขาไม่ได้ไว้วางใจคนตระกูลหลี่สักเท่าไหร่ แต่เมื่อคิดทบทวนดูดี ๆ ยังไงซะญาติของหลี่เม่ยก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าคนนอก
“เฮ้อ…รักลูกเขาแล้วต้องรักตระกูลเขาด้วยสินะ”
หลังออกจากห้องประชุม เขาคิดได้ว่าตัวเองเลือกพนักงานด้วยความลำเอียงแล้วถอนหายใจ แต่ถึงอย่างไรมันก็แก้ไขไม่ได้แล้ว
เวลาบ่ายสองโมง
รถเมอร์เซเดสเบนซ์ยี่สิบคันขับมาจอดบริเวณชั้นล่างของอาคารบริษัทเครือฮ่าวหราน
คาราวานรถมาถึงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชิงปังในเวลาบ่ายสองโมงตรง
อวี้ฮ่าวหรานมองคาราวานรถแล้วอดถอนหายใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่เขามีอิทธิพลบนโลกมนุษย์ขนาดนี้
หลังจากกลับมาที่โลกมนุษย์ คนกว่าสองล้านยอมให้เขาปกป้อง
และตอนนี้แม้แต่เงินสองร้อยล้านหยวนก็ไม่สามารถซื้อตัวเขาได้
บางทีสิ่งต่าง ๆ ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจนตามไม่ทัน