ตอนที่ 378 เขาเองก็ติดกับ
“ซื่อจื่อ ทำเช่นนี้มิเหมาะนะขอรับ…” เมื่อเห็นมู่จวินฮานกำลังดึงบังเหียนแล้วควบม้าออกไปคนเดียว นายทหารจึงรีบเข้ามาขวางทันที
แม้ตอนนี้พวกเขาจักรบชนะ แต่หากเข้าสู่เมืองหลวงก่อนกองทัพไปถึงก็เกรงว่าจักทำให้ฝ่าบาทหวาดระแวงได้
“ข้ารู้ดีว่าสิ่งใดควรสิ่งใดมิควร ! ”
มู่จวินฮานเบี่ยงตัวหลบนายทหารที่ขวางเอาไว้ จากนั้นก็รีบควบม้านำไปเพียงผู้เดียว
เหล่าทหารที่อยู่ด้านหลังต่างก็มองหน้ากัน หากเป็นเรื่องของคุณหนูใหญ่อัน ซื่อจื่อมิรู้ว่าอันใดควรมิควรทั้งสิ้น !
ระยะทางที่เหลือ จากเดิมกองทัพต้องใช้เวลาอีก 15 ชั่วยามจักถึงเมืองหลวง แต่มู่จวินฮานใช้เวลาเพียงครึ่งเดียวก็มาถึงนอกประตูจวนโหวแล้ว
“นางได้เป่านกหวีดหรือไม่ ? ”
ชายชุดดำคนหนึ่งกระโดดออกจากกำแพงมาหยุดอยู่ข้างกายมู่จวินฮาน เมื่อได้ยินคำถามก็ตอบอย่างนอบน้อม “มิเคยเลยขอรับ”
“ตอนนี้นางถูกขังอยู่ที่ใด ? มีคนเฝ้าหรือไม่ ? ” ความกังวลในใจของมู่จวินฮานได้พรั่งพรูออกมา เดิมทีเขาก็คิดถึงนางมากอยู่แล้ว ยิ่งมารู้เรื่องเช่นนี้อีกจักมิให้ร้อนใจได้อย่างไร
“อยู่ใต้ดินของห้องทางกำแพงฝั่งนี้ แต่มิมีผู้ใดคอยเฝ้าขอรับ”
ใต้ดิน…
ท่านโหวอันขังนางไว้ในคุกจริงอย่างนั้นหรือ !
สีหน้าของมู่จวินฮานเย็นชาทันที องครักษ์เงายังมิทันรู้ตัว อีกฝ่ายก็กระโดดข้ามกำแพงเข้าไปด้านในเสียแล้ว
“ซื่อจื่อ…” เสียงขององครักษ์เงาถูกสายลมยามค่ำคืนพัดพาไป ส่วนมู่จวินฮานได้บุกเข้าไปในจวนโหวเรียบร้อย
เขาเดินไปยังคุกใต้ดินตามทางที่องครักษ์เงาบอก
เพราะมิได้คุมขังคนนอกมาหลายปี อีกทั้งครั้งนี้คนที่ถูกคุมขังคืออันหลิงเกอ ท่านโหวจึงมิได้สั่งให้คนมาคอยเฝ้าเอาไว้
“ผู้ใด ! ” อันหลิงเกอได้ยินเสียง เดิมทีนางคิดว่าเป็นคนที่หลี่อี๋เหนียงส่งมา นางจึงยกนกหวีดขึ้นมากุมเอาไว้ ทว่าเห็นมู่จวินฮานที่สวมเสื้อเกราะเข้าพอดี
“ท่าน…” อันหลิงเกอเบิกตาโพลง เหตุใดจึงเป็นเขาได้ !
“ข้าจักพาเจ้าออกไป ! ” กล่าวจบมู่จวินฮานก็เงื้อกระบี่ขึ้นและกำลังจักฟาดลงไปที่กุญแจห้องขัง การคิดสังหารบิดาถือเป็นความผิดใหญ่หลวง หากนางถูกใส่ร้ายจริงเขาต้องพานางออกไปเสียก่อน
“อย่าเจ้าค่ะ” อันหลิงเกอส่งเสียงกระซิบพร้อมขยับไปยืนพิงประตูและกุมแม่กุญแจเอาไว้ เกรงว่ามู่จวินฮานจักฟันมันจริง ๆ
นางถอนหายใจก่อนค่อย ๆ เล่าเรื่องราวทั้งหมดออกมา
“เฮ้อ เจ้านี่นะ แม้แต่ข้ายังติดกับที่เจ้าวางไว้เสียได้” มู่จวินฮานฟังจบก็มิรู้ว่าคิดอันใดอยู่ถึงได้หัวเราะออกมา
นางมิเป็นอันใดก็ดีแล้ว แต่นางยอมอยู่ในคุกที่ทั้งมืดมิดและหนาวเย็นเช่นนี้
“ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ข้าจักพาเจ้าออกไปหาของทานก่อน”
ยังเช้าอยู่หรือ?
ตอนนี้มิรู้กี่ยามเข้าไปแล้ว ดึกถึงเพียงนี้เขายังบอกว่าเช้าอยู่ได้อย่างไร
อันหลิงเกอยังมิทันได้กล่าวอันใด มู่จวินฮานก็ใช้กระบี่ฟันกุญแจจนมันแตกออก
นางรู้สึกว่าสีหน้าของตนตอนนี้คงประหลาดน่าดู ความมุทะลุของมู่จวินฮานทำให้ตกตะลึงได้ตลอดเวลาจริง ๆ
จากนั้นมู่จวินฮานก็พานางขึ้นหลังม้าแล้วไปที่หอบุปผา
“ไอหยา รีบยกสุรากับอาหารรสเลิศมาให้นายท่านเร็วเข้า” เมื่อเห็นมู่จวินฮานพา ‘สหาย’ มาด้วย เถ้าแก่เนี้ยจึงมิได้เรียกสาว ๆ ออกมา
เพื่อเลี่ยงความสงสัยวันนี้ มู่จวินฮานจึงพานางมายังร้านอาหารเล็กที่สุดในทิศเหนือของเมืองจิง เพราะสุราอาหารมีรสชาติมิเลวและปกติก็มิค่อยมีพวกขุนนางมาที่นี่ ฉะนั้นจึงปลอดภัย
แม้ว่านางถูกขังมากว่าหนึ่งวันและอันหลิงเกอก็มิได้ถูกปฏิบัติมิดีในตอนอยู่ในคุก แต่อาหารในจวนก็สู้อาหารจานโตหลากหลายชนิดและสุราเลิศรสมิได้อยู่แล้ว
“วันนี้ต้องขอบคุณมู่ซื่อจื่อที่เลี้ยงอาหารเลิศรส แต่เรื่องนี้เป็นคนละเรื่องกับกุญแจภายในจวน มิทราบว่ามู่ซื่อจื่อจักชดใช้อย่างไรเจ้าคะ ? ” รอจนมู่จวินฮานพามาส่งที่จวนแล้ว อันหลิงเกอจึงยื่นมือไปหาเขา
สตรีคนนี้ มิว่าเวลาไหนก็ทะเล้นได้เสียจริง
“กุญแจของเหล่าขุนนางก็เหมือนกันหมด เอาไปสิ”
กล่าวจบมู่จวินฮานก็นำกุญแจที่ซ่อนไว้ในแขนเสื้อออกมาวางไว้บนมือของนาง
เขาไปเอามาตอนไหน ?
อันหลิงเกออดสงสัยมิได้ ความคิดของมู่จวินฮานดูลึกล้ำยิ่งกว่านางเสียอีก หรือก่อนมาที่จวนเขาคิดเอาไว้แล้ว ?
“แล้วพบกันเจ้าค่ะ” อันหลิงเกอทำท่าทางราวกับเป็นจอมยุทธหญิงด้วยการคารวะส่ง
ที่จริงแล้วตอนนี้ภายในใจนางรู้สึกอบอุ่นยิ่งนัก มิรู้ว่าเพราะดื่มสุราเข้าไปหรืออย่างไร นางจึงรู้สึกว่าใบหน้าร้อนขึ้นมาอย่างห้ามมิได้
มิมีเวลามาคิดเรื่องไร้สาระแล้ว ฟ้าใกล้สว่างและอันหลิงอีต้องทนมิไหวแน่นอน นางต้องอาศัยตอนที่ยังมีเวลารีบพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อเป็นการเพิ่มพลังให้ตนเองถึงจะถูก
…
“ว่าอย่างไรนะ ? เขาเข้าเมืองหลวงมาก่อนกองทัพอย่างนั้นหรือ ? ” ฮ่องเต้ที่ประทับอยู่บนเก้าอี้มีสีพระพักตร์ที่ดูมิดีเท่าไร
ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะมู่จวินฮาน แต่มู่จวินฮานยังมิทันมาถึง ภายในเมืองหลวงก็ส่งเสียงเรียกชื่อเขาเสียแล้ว เช่นนี้จักมิให้ฮ่องเต้รู้สึกหวั่นเกรงได้อย่างไร ?
มิหนำซ้ำวันนี้สายลับยังมารายงานอีกว่ามู่จวินฮานเข้าเมืองก่อนกองทัพมาถึงเกือบครึ่งวัน ยิ่งทำให้พระองค์เกิดความหวาดระแวงเข้าไปอีก
“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่มู่ซื่อจื่อมิได้ไปที่ใด เขาแค่ตรงกลับจวนทันที คาดว่าเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางเท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ”
สายลับมิมีทางตามรอยของมู่จวินฮานทัน หลังจากเข้าเมืองหลวงก็คลาดกันทันทีจึงทำได้เพียงรายงานไปเช่นนี้
“ช่างเถิด เจ้าออกไปก่อน”
อีกสามวันก็จักถึงงานเลี้ยงต้อนรับมู่จวินฮานซึ่งเปรียบเสมือนงานฉลองชัยชนะ แต่ราตรีนี้ฮ่องเต้ยากที่จักข่มดวงเนตรลงได้
ฝั่งอันหลิงเกอก็ได้พบคนที่นางเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อเยี่ยงอันหลิงอีจนได้
ที่ผ่านมาอันหลิงอีมิเคยทำให้นางผิดหวังเลยจริง ๆ เนื่องจากมักจะข่มอารมณ์มิไหว
“เหตุใดความโอหังของพี่หญิงจึงหายไปรวดเร็วเช่นนี้ ? ”
ทันทีที่อันหลิงอีเดินเข้ามา อันหลิงเกอก็ดึงเชือกที่ข้างกำแพงคุกออกทันที
นี่เป็นเรื่องที่นางและท่านพ่อปรึกษากันเอาไว้แล้ว อันหลิงอีมิมีทางออกมาทำอันใดในจวนยามวิกาลอย่างแน่นอน เพราะหากออกจากห้องในยามราตรีแล้วถูกพบเข้าก็จักทำให้เกิดความเข้าใจผิด อันหลิงอีจึงเลือกมาตอนเช้าเยี่ยงนี้
หากเชือกเส้นนี้ขาด กำแพงด้านนอกคุกจักมีผ้าไหมสีแดงห้อยลงมา คนที่รับผิดชอบดูแลคุกใต้ดินก็จักไปรายงานให้ท่านโหวทราบทันที
“แผนโยนความผิดให้ผู้อื่นเช่นนี้ เจ้ากับหลี่อี๋เหนียงช่างวางแผนเก่งเสียจริง ! ” คนยังมามิถึง อันหลิงเกอจึงพูดชักจูงไปเรื่อย ๆ
“พี่หญิงใหญ่กล่าวอันใด ข้าฟังมิเข้าใจเลย”
อันหลิงอีในตอนนี้รู้สึกภูมิใจยิ่งนัก หากอันหลิงเกอถูกลงโทษเพราะลอบสังหารบิดา ต่อไปนางก็จักได้ขึ้นเป็นบุตรีภรรยาเอกของจวนแทนอันหลิงเกอและถ้าเป็นเช่นนั้นนางก็จักกลายเป็นบุตรสาวที่มีเกียรติที่สุดของจวนโหว
ต่อให้กลับไปจวนอ๋องอี้ นางก็คงมิพบกับความลำบากอีก
“มิเป็นไร เจ้ามิเข้าใจแต่ข้าเข้าใจคนเดียวก็พอ” อันหลิงเกอแสร้งทำท่าทางอ่อนแอ มองแล้วช่างน่าหดหู่
นี่ถือเป็นตัวกระตุ้นความอวดดีของอันหลิงอีได้ดี ทำให้นางยิ่งมีความสุขและสนุกมากขึ้น
“ครั้งนี้พี่หญิงใหญ่แพ้แล้ว” อันหลิงอีขยับเข้าใกล้ประตูคุก สีหน้าสะใจของนางช่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก
“ใช่แล้ว ผู้ใดจักคิดว่าอี๋เหนียงยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อปูทางให้เจ้า”
บางทีอาจเพราะคำที่กล่าวออกมาของอันหลิงเกอมิได้เหมือนกำลังโจมตีนางจึงทำให้อันหลิงอีมิได้ระวังตัวอีก
“ความคิดท่านแม่มิใช่สิ่งที่เจ้าจักมาเทียบได้” ท่าทางอวดดีของอันหลิงอีแสดงว่านางติดกับเข้าแล้ว
เสียงฝีเท้าบางเบานั้น อันหลิงอีย่อมมิมีทางได้ยินอยู่แล้ว ทว่าอันหลิงเกอได้ยินอย่างชัดเจน ละครฉากสนุกกำลังเริ่มขึ้นแล้ว !